หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 7
ปวดหัวเลยจริงๆ ได้มาแต่งงานกับไอ้สมองทึ่มที่มีอะไรกับสามีตัวเองแล้วยังต้องเสียเงินห้าหมื่นหยวนอีก หลังจากถูกเขาหลับนอนแล้ว แถมยังถูกรังแกอีกด้วย นอกจากนี้ยังต้องดีมาก็ดีไปกับเขา และสนับสนุนซึ่งกันและกันอีก?
กู้สวงส่วงเดินออกจากห้อง807อย่างมีความสุข ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทันทีที่เธอรับสาย ก็มีเสียงตะคอกดังขึ้นจากอีกด้านของโทรศัพท์: “ ‘โลกแห่งความสนุกสนาน’ของพวกคุณทำงานยังไงเนี่ย? ถุงยางอนามัยที่ผมสั่งแต่ตีสี่จนตอนนี้ยังไม่ได้รับการจัดส่งอีก!”
เธอตกตะลึง: “คุณคะ ไม่ทราบว่าคุณคือ……”
“กูสั่งถุงยางอนามัยบางเฉียบนำเข้าสองกล่องและยังเจลหล่อลื่นสองหลอด! โรงแรมนานาชาติคลาวด์ห้อง817!”
ห้อง817……แม่งเอ่ยส่งผิดห้อง!
ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อกี้ชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้นวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก และแถมคุณลุงตัวท็อปก็มีใบหน้ามืดมน……แต่ปรากฎว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนสั่ง!
กู้สวงส่วงมองย้อนกลับไปที่ห้อง807ที่ปิดสนิท แล้วแอบขอโทษในใจ และเธอก็สะพายกระเป๋าวิ่งพุ่งไปที่ห้อง817 ชายคู่นั้นดุด่าเธออย่างเกรี้ยวกราด แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังรับซื้อไว้
“เทียบเท่ากับมีการสั่งซื้อไปแล้วสองออเดอร์!” อารมณ์ดีจัง เธอขึ้นลิฟต์ไปยังล็อบบี้ของโรงแรม ทันทีที่เดินออกมาจากประตูหมุนก็เห็นชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านข้าง
กู้สวงส่วงเดินเข้าไปและพูดอย่างจริงใจ: “ฉันขอโทษด้วยนะคะคุณลุงตัวท็อป มันเป็นความผิดพลาดของฉัน ถ้าหากคุณไม่ต้องการถุงยางอนามัยนี่สามารถคืนสินค้าได้นะ”
ชายคนนั้นไม่สนใจแม้แต่จะเหลือบมองเธอ ซึ่งเขาจ้องไปที่ด้านหน้าอย่างเย็นชา
โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ถือซะว่าคุณซื้อแล้วละกัน อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องใช้มันในครั้งต่อไปที่คุณรับแขกอยู่ดี
เมื่อนึกถึงเรื่องรับแขก กู้สวงส่วงก็เงยหน้าขึ้นทันที ด้วยความสนใจในตัวของชายคนนั้นก็เลยเอาหน้าไปถูกับแขนเสื้ออันสะอาดสะอ้านของเขา: “คุณลุงคะ ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องเมื่อกี้นี่เป็นแขกของคุณหรือเปล่า?”
ไม่มีการตอบรับใดๆ
“หรือว่าคนรัก?”
บรรยากาศเงียบสงบ
“ไม่ใช่ทั้งสองเหรอ? หรือว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้! เป็นเพราะคุณลุงตัวท็อปคุณมีรูปร่างหน้าตาที่ดีก็เลยถูกเถ้าแก่ดำคุมตัวไว้ จึงจำใจต้องบริการให้กับหญิงชราและเศรษฐีนีต่างๆและในระหว่างนั้นก็ทำกำไรได้มหาศาล พอผ่านไปนานวันเข้า หัวใจอันบริสุทธิ์ของคุณได้รับการแปดเปื้อน มันก็เลยทำให้รสนิยมทางเพศของคุณเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้คุณตกหลุมรักผู้ชาย! หลังจากปรนนิบัติเศรษฐีนีด้วยความเย็นชาแล้ว คุณต้องการปลดปล่อยความอ้างว่างและความเปลี่ยวใจอย่างเร่งรีบ ฉะนั้นคุณก็เลยล่อลวงวัยรุ่นชายมาที่โรงแรมเพื่อที่จะมีอะไรด้วย……”
ในที่สุดชายคนนั้นก็หันกลับมาในเวลานี้: “เชื่อไหม ถ้าหากคุณพูดอีกคำหนึ่งผมจับคุณมีอะไรด้วยตรงบันไดนี้แน่?”
“……”
หน้าแดงด้วยความตระหนกตกใจ แต่อย่างไรก็ตามเธอก็เงียบกริบลงในทันที
ในขณะนี้ ก็มีรถขับมาจอดอยู่ตรงหน้าคันหนึ่ง ชายคนนั้นเดินลงจากบันไดด้วยใบหน้ามืดมน
สายตาของกู้สวงส่วงก็มองตาม และเห็นโลโก้ของรถคันนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นรถเบนท์ลีย์ รุ่นใหม่ล่าสุด!
คนขับลงมาเปิดประตูหลังให้เขาอย่างเคารพ
เสิ่นมั่วเฉิงโน้มตัวเล็กน้อยเพื่อจะขึ้นรถ แต่เธอยังคงยืนอยู่ที่นั้นอย่างโง่เขลา ซึ่งมันก็ดึกแล้ว
“มานี่”
กู้สวงส่วงเดินไป และจ้องมองไปรถที่สวยหรู ซึ่งเธอไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่แต่ก็ยังถามอีกว่า: “รถคันนี้……เป็นของคุณเหรอ?”
เขาพูดด้วยสีหน้าเย็นชา: “ถ้าไม่ใช่ของผมจะให้เช่ามาหรือไง?”
“ต้องเช่ามาแน่ๆ! คำนวณให้คุณคืนละแสน คุณก็ต้องทำงานอย่างน้อยครึ่งปีแบบไม่หยุดพักถึงจะมีปัญญาซื้อได้ และถึงแม้ว่าจะซื้อรถได้แล้ว แต่เกรงว่าคุณคงตายเพราะอะไรนั้นไปก่อนแล้วแหละ”
“……”
เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าเขาเป็นบาร์โฮสอย่างงั้นเหรอ? ได้! จะรอดูสีหน้าในวันที่คุณเรียกว่าผมสามีมันเป็นยังไง!
บางคนแล้วเต็มไปด้วยแค้นเคือง แต่สำหรับกู้สวงส่วงนั้นไม่รู้อะไรเลย เธอมัวแต่เพลิดเพลินกับรถหรูหราคันนี้ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายทุกซอกทุกมุมอย่างบ้าคลั่ง!
หลังจากถ่ายเสร็จ เธอก็เดินจากท้ายรถและวนกลับมาที่ด้านข้างรถ ทันใดนั้นหน้าต่างรถก็ลดลง ก็ปรากฏให้เห็นถึงความหงุดหงิดบนใบหน้าอันหล่อเหลา: “ยังจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?”
จากนั้นเธอรีบนั่งเข้าไป: “ขอบคุณนะคะคุณลุงที่ให้ติดรถไปด้วย!”
ตลอดทางมันเงียบผิดปกติ ซึ่งคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่พูดจ้อกแจ้ก
เสิ่นมั่วเฉิงขมวดคิ้วและหันไปมอง เห็นว่ายัยโง่นี้ยังไม่ได้ถอดกระเป๋าลง อีกทั้งแผ่นหลังยังยืดตรงและแข็งทื่อพอๆกับแผ่นเหล็ก และมือทั้งสองข้างวางบนหัวเข่าเล็กๆของเธออย่างเรียบร้อย ซึ่งเป็นท่านั่งมาตรฐานในชั้นเรียน ใบหน้าที่เปล่งปลั่งของเธอ เต็มไปด้วยยับยั้งชั่งใจ
ริมฝีปากบางของชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นเล็กน้อย: “อะไรนั้นทั้งกระเป๋า ไม่หนักหลังเหรอ?”
“……ก็ดี” ใบหน้าของกู้สวงส่วงร้อนรุ่ม ในเมื่อเขาก็ได้พูดเช่นนั้นแล้ว เธอถึงจะกล้าถอดกระเป๋าและวางลงไว้ข้างๆเท้า
จู่ๆเธอก็แสดงท่าทางน่าเอ็นดู ซึ่งราวกับกลัวคนแปลกหน้า……
เขาขวมดคิ้ว: “ไม่เคยนั่งรถแบบนี้เหรอ?”
กู้สวงส่วงส่ายหัว
ถึงแม้ว่ากู้ไห่ก็มีรถหรูไม่ใช่น้อย แต่เธอก็ไม่มีความโชคดีพอที่จะได้นั่งมันสักครั้งเลย เมื่อพูดถึงพ่อของเธอคนนี้ เขาไม่ควรถูกเรียกว่าพ่อ เรียกว่าแมงดาเหมาะสมกว่า
ความโศกเศร้าที่ถูกเธอสลัดทิ้งไป ซึ่งถูกชายคนนั้นมองไว้ในสายตา และน้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย: “ทำตัวตามสบายเลย มันเป็นแค่รถเช่า นั่งไม่พังหรอก”
“คุณพูดเองนะ!” เธอยิ้มและถอนหายใจยาวๆ จากนั้นก็ขดตัวเหมือนลูกแมว: “ค่าเช่ารถคันนี้แพงไหมอ่ะ?”
“ก็โอเคอยู่ แค่วันละพัน”
แบบนี้เรียกว่าก็โอเคเหรอ!: “ค่าเช่าครึ่งปี คุณสามารถซื้อรถรุ่นประมาณนี้ได้คันหนึ่งแล้ว”
“รุ่นประมาณนี้จะขับยังไง?” เขามองดูไปที่เธอด้วยรอยยิ้มจางๆ: “ผมเป็นตัวท็อปเลยนะ!”
มันก็จริง ไม่แปลกใจเลยที่เขาเรียกเก็บเงินจากเธอหนึ่งแสน ราคาไม่เบาเลยจริงๆ อายุปูนนี้แล้วยังทำงานเป็นบาร์โฮส ซึ่งก็ถือว่าเป็นคนที่น่าสงสาร!
กู้สวงส่ววกวาดสายตาไปยังนาฬิกาหรูอันมีค่าของเขา รวมทั้งชุดที่ราคาแพงและไม่ธรรมดาของเขา ทั้งหมดนี้ก็คงจะเช่ามาแหละ
ยิ่งมองเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่สามารถระงับความเห็นอกเห็นใจและความสงสารได้ และเธอก็บอกว่า: “คุณลุงคะ อีกสี่หมื่นแปดพันห้าร้อยหยวนฉันจะหามาคืนให้คุณโดยเร็วที่สุดนะคะ วันนี้ทำงานเพิ่งหาได้ร้อยยี่สิบหยวน”
เมื่อมองดูใบหน้ากลมๆที่พึงพอใจของเธอ เขาก็ยิ้มเล็กน้อย แต่เขาก็จริงจังขึ้นมาในทันที: “เพื่อที่จะหารายได้ ก็สามารถหนีเรียนได้งั้นเหรอ?”
“ทำยังไงได้ล่ะ” กู้สวงส่วงทำปากมุ่ย : “นอกจากนี้พวกครูโง่เขลามากเลย! วิชาเลือกในเช้านี้ ได้ยินมาว่าอาจารย์ถูกเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มกระจอก ฉะนั้นฉันก็เลยยิ่งไม่กลัว!”
“……”ชาย——กระจอก?
ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ดูไม่ดีของบางคนก็ได้ข่มความโกรธเคืองเอาไว้ แล้วถาม: “เช็คชื่อก็ไม่กลัวเหรอ?”
เธอเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม: “ถ้าหากเช็คชื่อ ฉันก็จะบอกว่าปวดท้องประจำเดือน ปวดหัว เป็นหวัด และในระหว่างทางก็ชนเข้าอะไรจนทำให้เจ็บขา และถ้าหากถูกลมพัดโดนกระดูกข้อต่อก็จะเจ็บ ~”
เสิ่นมั่วเฉิงส่งเสียงฮึ: “ตามอาการความเจ็บปวดของคุณแล้ว อาจารย์ไม่สามารถทำอะไรคุณได้เลยว่างั้น?”
“จะโทษก็ต้องโทษที่อาจารย์มันโง่และง่ายเกินไปที่จะรับมือ ถ้าหากว่าฉันเป็นอาจารย์นะ มีกลเล่ห์เหลี่ยมมากมาย ใครกล้าหนีเรียนฉันจะทำให้มันจดจำฉันได้ตลอดชีวิตเลย~”
ดูเหมือนเขาจะพูดคุยอย่างเป็นกันเอง: “โอ๊ะ? กลเล่ห์เหลี่ยมอะไรเหรอ?”
“ตัวอย่างเช่น คนอย่างฉันซึ่งยากมากที่จะจัดการ แต่รูปถ่ายติดบัตรเป็นจุดอ่อนของฉัน เพียงแค่รูปถ่ายที่น่าเกลียดนั้นถูกเผยออกมา แม่สาวอกใหญ่แห่งคณะศิลปศาสตร์อย่างฉันก็คงเอ้อระเหยลอยชายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว!”
ริมฝีปากบางอันเซ็กซี่ของชายคนนั้นยกขึ้น พร้อมกับขวมดคิ้ว: “แม่สาวอะไรนะ?”
ขณะที่ถูกถาม นัยน์ตาที่มืดมิดคู่นั้นของเขาก็เหลือบไปมองที่เธอ
“เปล่า ไม่มีอะไร!” กู้สวงส่วงหน้าแดงจนถือกระเป๋าสะพายขึ้นมาบังไว้ตรงหน้าอก
-
จู่ๆใจก็เต้นแรงขึ้นมา และกู้สวงส่วงก็ไม่ยอมพูดอีกต่อไป พอผ่านไปสักพัก เขาก็ถามที่อยู่ของเธอ
กู้สวงส่วงบอกที่อยู่ของมหาวิทยาลัยให้เขา
ขณะที่ลงจากรถ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นซึ่งเป็นเบอร์แปลก กู้สวงส่วงคิดว่าเป็นลูกค้า แต่พอรับสายก็ได้ยินเสียงผู้ชายที่เย็นชายที่คุ้นเคยอย่างมาก
โดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ กู้สวงส่วงก็กดวางสายด้วยนิ้วมือที่สั่นเทา
เสิ่นมั่วเฉิงจ้องมองไปที่เธอ โทรศัพท์พังๆของเธอได้ยินไม่ค่อยชัด และเพียงแค่ได้ยินชายอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เรียกเธอว่า: “สวงส่วง”
กู้สวงส่วงหยิบกระเป๋าสะพายแล้วลงจากรถ และอยากจะบอกลาอย่างมีมารยาท แต่ชายคนนั้นกลับหักพวงมาลัยสุด เหลือเพียงความหยิ่งยโสก้นรถให้เธอ
“……” นี่มันอะไรกัน ไม่ต้องการที่จะเห็นเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?
ยังไม่ทันไร ก็มีชายขายาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ
ลู่เฮ่าเซวียนเหลือบไปมองรถเบนท์ลีย์ที่กำลังขับออกไปด้วยความห่อเหี่ยวใจ จากนั้นมืออันใหญ่ของเขาก็กำไปที่ข้อมือของเธอ : “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”
กู้สวงส่วงหลบหนีด้วยสีหน้าเย็นชา และเธอหันหลังกลับจะวิ่งหนีในทันที
แต่กลับถูกเขาดึงไว้ และแผ่นหลังของเธอปะทะกับอ้อมอกของเขา ลู่เฮ่าเซวียนก้มหน้าลงแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่: “ทำไมนิสัยที่ทะเลาะกันทีไรก็หลบหน้าหลบตาผมตลอด ยังแก้ไม่ได้สักที?”
“คุณอย่ามาแตะต้องฉันนะ” กู้สวงส่วงหลับตาที่แดงก่ำลง แล้วพูดทีละคำทีละประโยค
แววตาของเขามีความร้ายกาจปรากฎขึ้น จากนั้นก็ปล่อยเธอ: “วันนี้วันเกิดของพ่อคุณ ท่านสั่งให้คุณกลับบ้าน”