หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 60
หากเป็นเมื่อก่อน กู้สวงส่วงคงเอากุญแจรถและเสื้อโค้ตปาใส่หน้าเขาไปแล้ว!
แต่ตอนนี้ เขาคือท่านประธานสูงสุด ที่ทุกคนต่างให้ความเคารพนับถือ นึกไม่ออกเลยว่าต้องเป็นคนใหญ่คนโตขนาดไหนถึงจะกล้าปาใส่เขาได้นะ?
เธอกระฟัดกระเฟียดเบาๆ แล้วเดินเข้าลิฟต์ไปเงียบๆ
เมื่อประตูปิดลง ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นสูงด้วยความเร็วคงที่
กู้สวงส่วงยกชายกระโปรงขึ้นให้ไกลจากเขาอย่างระมัดระวัง แต่ไม่รู้ว่าลิฟต์ตัวนี้เป็นลิฟต์แก้ว เมื่อเธอพิงเข้ากับกระจกทรงกลมแล้วหันหน้าไปมอง เห็นความสูงราวกับเหวลึก “อ๊ะ ——”
เธอตกใจและสั่นไปทั้งตัว เสื้อโค้ตในมือก็ตกลงบนพื้น เธออยากก้าวขาแต่อาจรีบร้อนเกินไป จนทำให้เท้าที่สวมส้นสูงอยู่สะดุดและล้มลงทันที
แต่อยู่ๆ กลับรู้สึกว่าตัวเบาหวิว
เธอถูกสองแขนแกร่งคู่หนึ่งโอบอุ้มไว้กลางอากาศ
เสิ่นมั่วเฉิงอุ้มเธอไว้แน่น จากนั้นวางหญิงสาวลง คิ้วของชายหนุ่มขมวดแน่นและอดไม่ได้จึงพูดกับเธออย่างหัวเสีย “เลือดก็กลัว ยังจะมากลัวความสูงอีก ทำไมมันถึงยุ่งยากขนาดนี้นะ!”
เดิมทีที่เขาเข้ามาในลิฟต์กู้สวงส่วงก็รู้สึกแย่พอแล้ว ตอนนี้ยังมาถูกเขาตะคอกใส่อีก ความโกรธที่มีอยู่เต็มอกแต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา เธออดกลั้นความน้อยใจเอาไว้น้ำตาก็พาลไหล
“ฉันผมว่าอะไรเธอหรือยัง ร้องไห้ทำไม?”
ก่อนหน้าไม่เห็นว่าเขาจะดุขนาดนี้ พอเป็นท่านประธานแล้วเก่งจังเลยนะ
เธอยิ่งร้องหนักเข้าไปอีก!
“…….เอาล่ะ” ฮือ ฮือ ฮือ อย่าจุดไฟในตัวเขาออกมา
ยังจะร้องอีก
“พอได้แล้ว ฉันผมตีเธอหรือไง?”
กู้สวงส่วงไม่ยอมมองหน้าเขา เธอมุ่ยปากเล็กๆ ก้มลงไปใส่รองเท้าส้นสูงที่หลุดออกมา พลางฉวยโอกาสเหยียบเสื้อคลุมของเขาด้วยเท้าทั้งสองข้าง!
แต่กระโปรงใหญ่เทอะทะเกินไป เธอจึงจับมันมัดขึ้นเป็นปมไว้
แต่กลับไม่รู้เลยว่าตัวเองมัดสูงเกินไปหน่อย ทำให้ชายกระโปรงเลิกมาถึงต้นขาขาวดุจหิมะ
เธอกำลังสวมรองเท้า รองเท้าส้นสูงมีสายรัดทำให้ใส่ยากมาก
สายตาของเสิ่นมั่วเฉิงจ้องมองอย่างนิ่งๆ ไฟในอกกลายเป็นไฟที่สุ่มอยู่ในกายแทน
ท้ายที่สุดกู้สวงส่วงก็สวมรองเท้าคู่นี้ไม่เสร็จ ลำตัวถูกมือทั้งสองข้างช้อนขึ้นมาอย่างง่ายดาย เบาราวกับเต้าหู้ แล้วกดเธอติดกับกำแพงอย่างดุดัน
ร่างของเขากดทับลงมา และตามมาด้วยเสียงแหบพร่าข้างใบหู “ฉันอยากจูบเธอ ฉันอดกลั้นมันมาทั้งคืนแล้ว”
กู้สวงส่วงหน้าแดง
เธอยังไม่ทันได้ดึงกระโปรงขึ้น เขาก็โน้มตัวลงมาทันที……
กู้สวงส่วงตกใจ พยายามดิ้นหนีสุดชีวิตและร้องไห้สะอื้นออกมา
เสิ่นมั่วเฉิงตกใจ กลัวเธอจะร้องไห้มากไปกว่านี้ จึงควบคุมไฟที่กำลังพลุ่งพล่านในกายไว้ เงยหน้าขึ้นพร้อมถอยออกไป
“sorry” เขาเอ่ยเสียงแหบพร่า จ้องมองบุคคลที่หดตัวลงจนกลายเป็นก้อนเล็กๆ ในอ้อมแขน
กู้สวงส่วงตัวสั่นเทา สองมือโอบกอดตัวเองไว้
เสิ่นมั่วเฉิงทั้งเจ็บปวดทั้งเสียใจกับการกระทำของตัวเอง จึงประคองเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขน
เขาอยากกอดเธอ แต่เธอกลับตีเขาอย่างรุนแรงและบ้าบิ่น! แถมยังเอารองเท้าส้นเข็มยังเตะเขาด้วย แต่กลับเจ็บที่ปลายเท้าของตัวเองแทน ร่างกายของชายหนุ่มแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
เสิ่นมั่วเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้รับมา
แต่เมื่อได้สวมกอดเธอ ไฟก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครา
รอจนเธอร้องไห้เบาลง เขาปล่อยมือข้างหนึ่งออกแล้วบีบคางของหญิงสาว
กู้สวงส่วงเอามือดันตัวออกจากอ้อมแขนเขาด้วยความยากลำบาก ริมฝีปากเล็กถูกเขาครอบครองไปแล้ว!
ตอนนี้เธอกำลังจูบอยู่กับใคร?
และไม่ใช่คุณลุงตัวท็อปของเธออีกต่อไป…
เธอหันหน้าหนี แต่เสิ่นมั่วเฉิงยังตามไปประกบปากเล็กๆ ของเธอเอาไว้ กู้สวงส่วงยังคงหลบเลี่ยง ส่ายหน้าหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย
หันไปมาอยู่หลายครั้ง เมื่อจูบไม่ได้สีหน้าของเขาเริ่มไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
มือใหญ่เข้าบีบกรามของเธอให้หันกลับมา! ไม่ได้นอนกับเธอ แล้วยังจูบไม่ได้อีกเหรอ?
กู้สวงส่วงรับมือเขาไม่ไหว จึงไม่ดิ้นอีกต่อไป น้ำตาร่วงหล่นลงมา ดวงตาสีแดงราวกับกระต่ายจ้องมองเขาด้วยความหวาดกลัวและโกรธเคือง
คำพูดของเธอสร้างความเจ็บปวดให้เขาเป็นที่สุด “คุณเสิ่น พฤติกรรมของคุณมันไม่เหมาะกับความเป็นพ่อคนที่น่าเกรงขามเลยนะ!”
เสิ่นมั่วเฉิงขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากัน แท้จริงแล้วเธอยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่
นัยน์ตาดำขลับของชายหนุ่ม เป็นอารมณ์ที่กู้สวงส่วงไม่เข้าใจ เหมือนกับว่ารอยแผลเป็นที่คอยตำหนิตัวเองได้สะท้อนกลับเข้ามา
เขาจ้องเธอไม่วางตา “ฉันมีลูก ในสายตาของเธอฉันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
กู้สวงส่วงชะงักงัน หวนนึกถึงสายตาเจ็บปวดเมื่อครู่ ราวกับว่าหัวใจถูกขีดข่วนเบาๆ พูดไม่ได้ว่าเจ็บมากแค่ไหน แต่กลับรู้สึกเศร้าภายในใจ
“ฉันมีลูก แล้วไม่มีสิทธิ์จูบผู้หญิงที่ฉันชอบงั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของเขาลดต่ำลง ขนตางอนเป็นแพรสั่นไหวเบาๆ แผ่กระจายไปตามเบ้าตาลึกของเขา ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
กู้สวงส่วงมองออกไปทางอื่น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาบอกว่าชอบเธอ แต่เวลานี้กลับยากที่จะเชื่อได้
เขาไม่เคยบอกว่าเขามีลูก หากเธอไม่รู้ กู้สวงส่วงคิดว่าเขาคงไม่พูดมันออกมา
มหาเศรษฐีผู้มีอำนาจและเงินทอง ชายหนุ่มวัยสามสิบปี บุคคลอันตรายของโลกใบนี้ ความสามารถที่ซื้อห้างสรรพสินค้าต่างๆ ได้เพียงแค่เหล่ตามอง
หากจะกล่าวบอกว่าเธอต่ำต้อย ไล่ตามเขาไม่ทัน และยังขี้ขลาดตาขาว ทั้งหมดนั่นเพราะเธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา
มีหญิงสาวมากมายที่รักในเงินทอง อำนาจ และความหวือหวาในตัวเขา แต่สำหรับเธอไม่ง่ายอย่างที่ต้องการ
ยกโทษให้ด้วยที่เธออายุเพียงยี่สิบปี ยังอ่อนหัด โลกทัศน์ยังแคบ เธอไม่กล้าคบผู้ชายที่มีลูกแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นเธอคิดว่าการแสดงออกทั้งหมดที่เขามีต่อเธอ เป็นเพียงการแสดงออกมาตามแรงกระตุ้นของร่างกายเท่านั้น ‘ความชอบ’ ของเขาจะลึกซึ้งมากแค่ไหนกันเชียว?
การปฏิเสธของเธอ เขียนไว้บนใบหน้า
เสิ่นมั่วเฉิงมองออกได้อย่างชัดเจน
รู้มาเสมอว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ตัวตนของเขาในฐานะท่านประธาน ที่มีทั้งความมั่นคงมั่งคั่งนับไม่ถ้วน แต่กลับล้มเหลวในการดึงดูดใจเธอ ตรงกันข้าม ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัว
เสิ่นมั่วเฉิงกระตุกมุมปากเบาๆ ก้าวถอยหลังไปช้าๆ ปล่อยเธอเป็นอิสระ
กู้สวงส่วงที่ถูกเขากดลงบนผนัง แม้หายใจเสียงดังเธอยังไม่กล้า
เธอยังคงหวาดกลัวเขาอยู่ ชายหนุ่มผู้ลึกลับและคาดเดาไม่ได้คนนี้ หากเกิดโมโหร้ายขึ้นมา และพรากความบริสุทธิ์ของเธอภายในลิฟต์นี่ พูดไปแล้วเขาก็สามารถทำมันได้
ไม่รู้เนิ่นนานแค่ไหน ลิฟต์หยุดลงที่ชั้นห้าสิบ
เสิ่นมั่วเฉิงไม่มองเธออีกเลย ให้เขาเดินออกไปจากลิฟต์ก่อน จากนั้นเธอจึงกดปุ่มชั้นต่อไป
กู้สวงส่วงกำมือแน่น เงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของร่างสูงที่กำลังเดินจากไป แผ่นหลังเหยียดตรงดูเย่อหยิ่งโดยธรรมชาติ แต่กลับเปล่าเปลี่ยว
ประตูลิฟต์ค่อยๆ เลื่อนปิดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ แบ่งกั้นร่างสูงที่ยืนอยู่นอกประตูให้ห่างออกไปทีละนิด
เขาไม่มองย้อนกลับมาอีกเลย
จนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดสนิท
กู้สวงส่วงหลุบตาลง จ้องมองที่นิ้วเท้าของตัวเอง น้ำตาพลันร่วงหล่นลงบนรองเท้าส้นสูง
หัวใจแทบขาดอากาศหายใจ ราวกับว่ามีมือมากุมมันเอาไว้ ค่อยๆ บีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ให้ความเจ็บปวดก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ผู้ชายเพียบพร้อมแบบนั้น คนธรรมดาๆ อย่างเธอคงไม่กล้า และคงไม่มีปัญญา
……
ห้องทำงานใหญ่โตสว่างโร่ราวกับตอนกลางวัน ยิ่งมีแสงสว่างมากเท่าไหร่ ความโดดเดี่ยวยิ่งเป็นเงาตามตัวมากเท่านั้น