หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 5
เฮ้อ! คิดไปก็คงถูกแล้วล่ะ ตัวเองติดเงินค่าตัวบาร์โฮสยังไม่พอ แถมยังกล้าดีจะจ้างเขามาแกล้งเป็นแฟนอีก เขาคงจะเบื่อที่จะต้องสลัดเธอแน่!
ตั้งแต่มีอะไรกับบาร์โฮส จนหลังจากกลับมาที่มหาลัย เธอก็เลิ่กลั่กไม่เป็นอันทำอะไรทั้งวัน แถมยังใช้เงินก้อนสุดท้ายเข้าโรงพยาบาลนรีเวช เพราะเกรงว่าตัวเองกับบาร์โฮสนั่นมีอะไรกันแล้วจะ……ติดโรคมาเพียงชั่วข้ามคืน
ก็ยังดีที่ผลออกมาว่าทรวงอกของเธอมี "บาดแผล" อย่างแปลกประหลาด กู้สวงส่วงไม่รู้ที่มาที่ไปของมันชัดเจนนัก ทั้งสองข้างนี้เป็นปมของเธอตั้งแต่เล็กๆ ก็เพราะว่ามันอวบอิ่มเกินไปจึงทำให้ถูกเพื่อนนักเรียนอิจฉาไม่น้อย แล้วก็ถูกเพื่อนผู้ชายจ้องมอง ดังนั้น เธอจึงมีฉายาในมหาลัยX ว่า‘แม่สาวอกใหญ่’
ตึ๊งตึ่ง….
บนทางไปเรียนในตอนบ่าย ข้อความวีแชทในโทรศัพท์ก็เด้งเตือนขึ้นมา กู้สวงส่วงรีบหยิบขึ้น ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเธอได้ขอให้หันเสี่ยวซวงเพื่อนสนิทของเธอหางานพาร์ทไทม์ให้!
เพราะว่าตอนนี้ความจนของเธอมันเรียกหา อีกทั้งได้ฟังเสี่ยวซวงพูดว่า เงินค่าตัวของพวกบาร์โฮสค้างไว้จะไม่ดี! หลังบ้านของพวกเขาจะมีกลุ่มบุคคลน่ากลัวที่จะช่วยทวงหนี้ลูกค้าให้ เธอไม่อยากถูกตัดแขนตัดขาหรือว่าเอาอวัยวะไปขาย ดังนั้นการรีบหาเงินก็เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก!
"ดูหน่อยสิ ว่าเสี่ยวซวงจะแนะนำงานดีๆอะไรให้…"เธอพึมพำ ทว่าท่วงท่าของกู้สวงส่วงก็ชะงักลงทันใด
วีแชทไม่ใช่ใครที่ไหนส่งมา แต่เป็นลู่เฮ่าเซวียน "สวงส่วง อย่าหนีอีกเลย ตอนนี้ผมอยู่ที่ตึกเรียนของคุณ มาเจอผมหน่อย พวกเรามาคุยกันหน่อยเถอะ"
กู้สวงส่วงสีหน้าซีดลง เงยหน้าขึ้นมองใต้ตึกศิลปกรรมก็พบร่างกายที่สง่ายืนรออยู่จริงๆ เขายืนอยู่ข้างรถ ใส่เสื้อเชิ้ตลายฟ้าสลับขาวที่เธอชอบที่สุด สูงยาวเข่าดี ดูวัยรุ่นเป็นที่สุด
เธอรู้สึกว่ามีลมหนาวแปลกๆขึ้นมาจากปลายเท้าทั้งๆที่เป็นกลางฤดูร้อน ไม่ได้คิดอะไรมาก หันตัวแล้วก็วิ่งหนีไปทันที และในขณะที่วิ่งไปนั้นเบ้าตาก็ค่อยๆแดง รู้จักกันมาสิบกว่าปี เป็นรักแรกของกันและกันกว่าหกปี เธอแหงนมองลู่เฮ่าเซวียนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เคยคิดว่ารอเข้ากลับมาจากเรียนเมืองนอก พวกเขาจะแต่งงานกัน แต่เรื่องจริงมันได้เปลี่ยนแปลงไปนานแล้ว….
กู้สวงส่วงไม่รู้ว่าหรอกว่าท่าทางการวิ่งหนีของตัวเองมันน่าเขินอายแค่ไหน และมันได้อยู่ในหน้าต่างของที่นั่งด้านหลังรถเบนท์ลี่ย์สุดแพงคันนึงเป็นที่เรียบร้อย
เสิ่นมั่วเฉิงนั่งอย่างดูดีมีสกุลและเยือกเย็นอยู่ภายในรถ จังชิงพูดขึ้นจากด้านข้าง "คุณผู้หญิงเป็นลูกสาวนอกสมรส ไม่ทราบแม่ผู้ให้กำเนิดเป็นใคร เข้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่หกขวบ อยู่ไปจนถึงอายุสิบสี่ปี พ่อของเธอคุณกู้ไห่ก็รับไป ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวเจิ้งเชียนจินกดขี่ลู่ทางการใช้ชีวิต เธอเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง ต่างก็มีบาดแผล เคยใช้ยาเซอร์ทราลีนอยู่สักพักด้วยครับ"
ดวงตาสีเข้มของผู้ชายหม่นหมองลง นั่นมันเป็นยารักษาอาการซึมเศร้า เด็กสาวนี่ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากแน่ๆ
นัยน์ตาเย็นยะเยือกกลับไปบรรจบอยู่กับชายหนุ่มที่เด็กสาววิ่งหนี ถามขึ้นทันใด "เธอมีแฟนแล้วหรอ?"
จังชิงตกใจ "ทำไมประธานเสิ่นถึงรู้? จริงๆแล้วก็เป็นแฟนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็กชื่อว่าลู่เฮ่าเซวียน คุณผู้หญิงอายุได้สิบสี่ปีตอนนั้นก็……พบรักแรกกับเด็กหนุ่มนั้น"
สายตาของเขายังไม่ได้หนีออกจากกู้สวงส่วงที่อยู่ไกลตา พลางสูบบุหรี่แล้วก็พูดออกมาอย่างไม่แยแส "ฮึ ยังมาพูดอยู่อีก? ลงรถ! ไปเรียกผู้อำนวยการมาคุยที่ตึกเรียนศิลปกรรม"
แม้ว่าจังชิงจะยังประหลาดใจอยู่ แต่ก็ต่อสายไปในทันที
กู้สวงส่วงแอบอยู่ด้านหลังตึกเรียน สีหน้าเย็นชามองรอดูให้ลู่เฮ่าเซวียนจากไป จนถึงกริ่งตอนบ่ายดังขึ้น ในที่สุดลู่เฮ่าเซวียนก็จากไปได้เสียที!
เธอเพียงแค่ไม่อยากจะมีปากเสียง เบื่อที่จะต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายเลวๆ
เธอหายใจออกช้าๆ หันตัวเดินออกไป เพียงพึ่งจะเดินมาถึงแปลงดอกไม้ ร่างกายของเธอก็ต้องหยุดลงในทันที เดี๋ยว….เดี๋ยวก่อน!
ตอนนี้เธอเห็นอะไร! ให้ตายเถอะ….
หน้าประตูตึกศิลปกรรม ผู้ชายรูปร่างสูงยาวยืนหลังตรงเด่นสง่า เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงสแล็คทรงสลิมฟิต ค่อยๆสวมมือที่ใส่นาฬิกาเข้ากระเป๋ากางเกงช้าๆ ดูสง่างามน่าค้นหา ภายใต้แสงอาทิตย์ อวัยวะรับสัมผัสทั้งห้าของเขาช่างหล่อเหลาและล้ำลึกดูไม่เสมือนจริงเอาเสียเลย
กู้สวงส่วงไม่อยากจะเชื่อสายตาทั้งคู่ของตัวเอง จึงกะพริบตาและมองดูอีกรอบ
มองแล้วมองเล่า แต่ก็ยังคงเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังจับมือกับผู้อำนวยการ
คะ คะ คะ คุณลุงตัวท็อป….เขาปรากฏตัวในมหาวิทยาลัยของเธอ และกำลังพูดอะไรสักอย่างที่เป็นการเป็นงานกับผู้อำนวยการของเธอ….
ซวยแล้ว!!
เธอรู้แล้วเธอรู้แล้ว! ไอคนหน้าเนื้อใจเสือนี่จะไม่ปล่อยเธอไปแน่! กับไอแค่ค่าตัวไม่กี่หมื่น เธอติดค้างยังไม่ได้ให้อยู่แค่ไม่กี่วัน ถึงกับมาฟ้องผู้อำนวยการเลยนะพ่อทูนหัว!!
ในเวลานี้ กู้สวงส่วงท่าไม่ดีแล้วสิ…..
เธอหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง ราวกับจินตนาการไปถึงการขึ้นประกาศไล่ออกที่มีภาพของเธออยู่บนหน้าจอใหญ่ของมหาวิทยาลัย เหตุผลที่ไล่ออก : ฝ่าฝืนกฎหมาย ขัดต่อประเพณีและศีลธรรม มีอะไรกับบาร์โฮส ผิดนัดเรื่องเงินและทำลายชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยX อย่างร้ายแรง!
หลับตาลงพลันตัดสินใจได้! เธอรีบสับเท้าด้วยความโกรธหวังจะเข้าไปหาผู้อำนวยการ แต่ก็มีคนคว้าแขนของเธอเอาไว้
"สวงส่วง! ออดดังแล้วทำไมแกมาอยู่ที่นี่อยู่อีกเนี่ย?" เป็นจ้าวเสี่ยวเอ๋อร์เพื่อนรูมเมทมาเรียกเธอ
"รีบไปเถอะ สายจะโดนหักคะแนนจิตพิสัยนะ!"
"เอ่อ เสี่ยวเอ๋อร์ คือว่า…." ยังไม่ทันได้พูดจบ เธอก็ถูกลากไปอย่างรุนแรง
ยังไม่ทันได้หายใจหายคอดีก็มาถึงห้องเรียน กู้สวงส่วงใจเย็นลงมาหน่อย แต่พอได้คิดก็สติสตังก็แตกกระเจิงไปหมด! ถ้าหากเสี่ยวเอ๋อร์ไม่มาดึงเธอไว้ได้ทันเวลา ตอนนี้เธอก็คงลงไปกอดแข้งของผู้อำนวยการแล้วถามว่า "ผู้อำนวยการคะ บาร์โฮสคนนี้ฟ้องอาจารย์ว่าหนูจ้างเขาหรอคะ?" คำถามโง่ๆที่มันสารภาพมาโดยไม่ต้องบังคับอะไรแบบนั้นแหละ….
หน้าตึกกิจการ
เสิ่นมั่วเฉิงหันสายตาออกมาช้าๆ และดวงตาของเขาก็ค่อยๆโค้งเล็กน้อย ไอ้เด็กโง่ ไม่นานพวกเราก็จะเจอกันอีกครั้งแล้วนะ
ผู้อำนวยการหลินพยักหน้าโค้งคำนับ "ประธานเสิ่น ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ที่คุณสละเวลาอันมีค่ามาเข้าสอนที่มหาวิทยาลัย คุณอยากที่จะสอนคลาสเรียนของวิชาเอกการออกแบบไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน! ทางเราขอขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนของคุณ อย่างนั้นแล้วสัปดาห์หน้าเชิญคุณมาเริ่มสอนได้เลยครับ….."
……..
ยาวมาจนช่วงบ่ายกลับมาถึงที่หอพัก ใจที่วิตกกังวลของกู้สวงส่วงถึงได้ค่อยๆผ่อนคลายลง แต่มันก็ยังน่าแปลกมาก หรือว่าชายแก่ตัวท็อปคนนั้นไม่ได้ฟ้องผู้อำนวยการ?
ในตอนนี้โทรศัพท์พลันสั่นขึ้น
กู้สวงส่วงกลัว คิดไปเสียว่าผู้อำนวยการจะโทรมา แต่พอเห็นคนที่โทรเข้ามา เธอก็มองบนทันที "เสี่ยวซวงแกทำฉันตกใจ! ฉันคิดว่าเป็นผู้อำนวยการ"
"อะไรกัน ผู้อำนวยการไม่ยอมปล่อยแม่สาวสวยคณะศิลปกรรมอย่างแก แล้วชวนแกไปเปิดห้องหรือไง?"
"…."
"หาฉันมีเรื่องหรอ?"
หันเสี่ยวซวงกลับเข้าประเด็น "แกไม่ได้รีบหางานพาร์ทไทม์หรือไงล่ะ? ฉันมีอยู่ที่นึง ไม่ค่อยเป็นระบบสักเท่าไหร่ แต่รายได้สูงนะ! แกต้องยอมทำงานวันศุกร์"
"จริงหรอ?" กู้สวงส่วงไปดูตารางเรียนด้วยความตื่นเต้น "คาบเรียนวันจันทร์ตอนเช้าโดดได้ เย้เย้เย้"
วางสายลงด้วยความดีใจ จับใบหน้ากลมๆเล็กๆของเธอด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นล้มลงบนเตียงอย่างมีความสุข ฮึฮึ มีเงินจ่ายค่าจ้างแล้ว! ชีวิตนี้ช่างสวยงามขึ้นมาทันใด!
และแล้วก็เข้าสู่วันจันทร์ในพริบตา
เช้าตรู่เจ็ดโมง เสี่ยวซวงโทรมาบอกว่างานพาร์ทไทม์ตอนบ่ายถึงจะเริ่มทำงานกัน
วางสายลง กู้สวงส่วงก็ปีนกลับขึ้นไปบนเตียงเป็นปกติ แปดโมงเป็นวิชาเลือกของอาจารย์จัง กู้สวงส่วงเคยได้ยินจากรุ่นพี่ปีสาม ใจดีไม่เคยเช็คชื่อ เธอก็เลยเลือกคลาสนี้โดยไม่ต้องคิด!
หลับใหลอย่างสบายไร้คนมากวนใจ! สิบโมงครึ่ง เธอตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟัน และประตูหอพักก็ถูกถีบออกดัง ปัง!
"สวงส่วง! คลาสนี้แกไม่ไปเข้าถือเป็นความพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตเลยล่ะ!"
จ้าวเสี่ยวเอ๋อร์ร้องกรี๊ด "แกรู้ไรไหม? อาจารย์จังถูกเปลี่ยนตัวไปเฉยเลย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกนะ! เรื่องสำคัญก็คือ คนที่มาใหม่เป็นผู้ชายสูงยาวเข่าดี! ให้ตายเถอะ เพียงแรกพบที่เจอเขาฉันก็คิดออกมาได้แค่คำเดียวว่า ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ~"
โจวเป้ยก็มาด้วยสีหน้าหลงใหล "หล่อจนไม่มียาต้าน!"
"หล่อมาดเข้มมากจริงๆ ดูเป็นผู้ใหญ่แต่งตัวเป็น แบบว่าสะอาดมาดขรึมน่ะ" เวินหลิงผู้ไม่สนใจอะไรก็ยังหน้าแดงเคลิ้มไปตามกัน
กู้สวงส่วงรำคาญสายตาคลั่งรักของทั้งสาม ถามคำถามที่น่าเป็นกังวลที่สุด "อาจารย์คนใหม่เช็คชื่อไหม?"