หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 29
เดิมที เธอมีเงินแปดพันหยวนอยู่ในมือเป็นทุนน้อยๆ แต่นั่นเป็นเงินของคนอื่น เป็นปัญหาระหว่างความถูกต้องและไม่ถูกต้องจึงไม่กล้าใช้
เดินแกว่งแขนมาจนถึงโซนอาหารกระป๋อง แล้วหยุดลง
ผลไม้กระป๋องแสนอร่อยเหล่านั้นชวนให้กู้สวงส่วงนึกถึงความทรงจำมากมาย
ตอนเด็กเวลาเธอไม่สบาย ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามีเด็กเยอะและยากจนมาก เวลาอ่อนแอที่สุดจะชอบมองตาปริบๆ เพราะอยากกินลูกพีชกระป๋อง ความหอมหวานติดอยู่ในปาก ตราตรึงในใจ ราวกับว่าความเจ็บปวดในร่างกายได้บรรเทาลง เด็กๆ ที่ได้กินผลไม้กระป๋อง ทุกคนต่างมีความสุข
ทุกครั้งที่ป่วยลู่เฮ่าเซวียนจะเก็บสะสมเงินและซื้อให้เธอ ต่อมาเมื่อถึงหน้าร้อนราคาลูกพีชจะถูกที่สุด คุณแม่ลู่จะซื้อมาไว้เยอะๆ เพื่อนำมาทำผลไม้กระป๋อง เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงและหนาวฤดูหนาว เพียงแค่ไปหยิบเอาจากที่บ้านเธอก็ได้กินแล้ว
กู้สวงส่วงสัมผัสขวดแก้วเย็นๆ ที่อยู่ภายในมือ พลางน้ำตาคลอเบ้า
เมื่อเปรียบเทียบดูยี่ห้อต่างๆ เธอหยิบเอาลูกพีชกระป๋องที่ขนาดใหญ่และแพงที่สุดมาสามกระป๋อง ทั้งหมดเป็นเงินห้าสิบหยวน
-
ณ คฤหาสน์
ชายร่างสูงยืนหน้าบูดบึ้งอยู่หน้าบันได
“พี่หวัง เวลานัดบอดไม่รอใครนะ คราวนี้อีกฝ่ายกลับมาจากต่างประเทศ เมียเก่าและลูกคงอยู่ที่ต่างประเทศ อย่าพลาดโอกาสล่ะ”
พี่หวังบ่นขณะกำลังทาโลชั่นไปด้วย “เรื่องตัวเองไม่เป็นทุกข์เลยสักนิด มาสนใจแต่กับคนแก่ๆ อย่างฉัน! คนอายุจะห้าสิบแล้วให้ไปนัดบอด กลัวว่าจะถูกคนหัวเราะเยาะเอาน่ะสิ อีกอย่าง คุณชายก็กำลังป่วย ฉันไม่สบายใจเลยที่ต้องออกไป”
ชายหนุ่มที่ร้อนใจคิดข้ามไปถึงโลกที่มีเพียงเธอกับเขา “เสี่ยวซานดูแลฉันได้”
"…" มันเป็นแมว!
ในที่สุด ประตูหน้าบ้านก็เปิดและปิดลง เมื่อส่งพี่หวังออกไปเรียบร้อยแล้ว
ริมฝีปากของชายหนุ่มยกยิ้ม หันไปสบเข้ากับสายตาของลูกกลมๆ ขนปุยสีขาวราวกับหิมะบนโซฟาที่กำลังจ้องมองเขา
เขาขมวดคิ้วเดินผ่านไป “ลืมไปแกก็เป็นก้างขวางคอขวางหูขวางตาอีกตัว เอางี้ ปะป๋าให้แกนัดเดตเอาไหม?”
“…” ตอนไม่มีผู้หญิงไม่รู้ว่าเป็นตาเฒ่าผู้เหงาง่อยคนนั้นหรือเปล่าที่เอาแต่อุ้มฉันแล้วเรียกว่าคุณชายน้อย แต่ตอนนี้ฉันกลายเป็นก้างขวางคอขวางหูขวางตาไปแล้วงั้นเหรอ?
ในขณะที่คนและแมวกำลังส่งสายตาพิฆาตใส่กัน เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
ชายหนุ่มจับลูกบอลขนปุยตัวเล็กๆ โยนเข้าไปในกระท้อนสีชมพูน่ารักของมันแล้วปิดประตูไว้!
ขายาวก้าวออกมาจากห้องนั่งเล่น หยุดตรงที่ผนังกระจก ฉีกเสื้อคลุมนอนให้เปิดออกด้วยอารมณ์ยั่วยวน เผยให้เห็นเส้นเลือดที่ปรากฏขึ้นตรงกล้ามเนื้อหน้าอก จากนั้นค่อยๆ ไปเปิดประตูอย่างเอื่อยเฉื่อย
ที่บันไดของคฤหาสน์ กู้สวงส่วงหิ้วผลไม้กระป๋องมาสามกระป๋อง จนมือเล็กๆ กลายเป็นสีแดง รอแล้วรอเล่า ในที่สุดประตูบ้านก็เปิดออก
เงยหน้าขึ้นปะทะเข้ากับสายตาเย็นชาลึกล้ำคู่หนึ่งข้างบน
ใบหน้าของชายหนุ่มเคร่งขรึม ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงชำเลืองมองเธอ “มีอะไร? ”
กู้สวงส่วงควบคุมใบหน้าไม่สบอารมณ์และหงุดหงิดจากแรงกระตุ้นไม่ดีนี้ไว้ นึกถึงใบหน้าของพี่หวัง แล้วฉีกยิ้ม “ลุงตัวท็อปไม่สบาย ฉันเลยมาดูแล”
“หายากเลยนะเนี่ย” เขาหันกลับไปด้วยท่าทีเย็นชา แต่ไม่ปิดประตู
กู้สวงส่วงกำหมัดแน่น อดทนไว้! ไม่ใช่วันแรกที่รู้ว่าเขาเป็นคนเป็นหน้าตัวเมีย!
เดินตามเข้าไปในห้องนั่งเล่น สายตายังไม่ทันได้ชื่นชมคฤหาสน์หรูหราใหญ่โตหลังนี้ ขายาวๆ ของชายหนุ่มก็เดินขึ้นไปชั้นบนเสียแล้ว แผ่นหลังสั่นเทา มือจับราวบันไดแกะสลักพยุงตัวเองไว้
กู้สวงส่วงเห็นท่าทางเช่นนั้นจึงรีบไปพยุงเขาทันที มือเล็กสัมผัสที่แขนชายหนุ่ม รู้สึกร้อนผิดปกติทั้งที่เป็นชุดใส่อยู่บ้าน
ไข้ยังไม่ลด?
คนบางคนเอาแขนโอบไหล่เล็กๆ ของภรรยาไว้อย่างเพลิดเพลิน ก้มลงมอง สูดกลิ่นกายและกลิ่นผมหอมๆ ของเธอ
และยังมี ความนุ่มนิ่มที่เฉลียงออกมาข้างตัวเธอแนบแน่นกับหน้าอกแกร่งของเขา มันใหญ่เกินไป เวลาเคลื่อนไหวยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้แกว่งไปมาขณะเดิน เลือดในกายเขาพลุ่งพล่านร้อนรุ่มขึ้นมาทันที
กู้สวงส่วงพยายามช่วยพยุงเขาไปยังห้องนอน ขายาวๆ ของชายหนุ่มเตะประตูห้องนอนเปิดออก
กู้สวงส่วงเลิกผ้าห่มสีขาวขึ้นมุมหนึ่ง “คุณลุงจะนอนไหม?”
เขาไม่พูดอะไร ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้เธอ ผ้าม่านยาวตั้งแต่เพดานจรดพื้นเปิดอยู่ นัยน์ตาลึกล้ำคู่นี้ของชายหนุ่มเป็นประกายข้างใน สงบเยือกเย็นแล้วมืดลง
เมื่อถูกเขาจับจ้องกู้สวงส่วงก็อดตัวสั่นเสียไม่ได้ หางตามองเห็นประตูห้องนอนปิดไปแล้ว
เป็นครั้งแรกที่ได้ขึ้นมาชั้นบนบ้าน…กู้สวงส่วงกลัวที่ต้องอยู่ตามลำพังสองต่อสองกับเขา
ปกปิดความตื่นตระหนกด้วยรอยยิ้ม “ลุงตัวท็อปนอนเถอะค่ะ ฉันซื้อผลไม้กระป๋องมาด้วย เดี๋ยวลงเอาไปใส่ถ้วยให้นะคะ”
แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ออกจากวงล้อมของชายหนุ่มผู้กดขี่ข่มเองคนอื่นเกินกว่าใครคนนี้ไม่ได้
เขาใช้แรงจากแขนอันทรงพลัง ขวางเธอไว้แล้วจับเธอโยนลงบนเตียงนุ่มด้านหลัง
“อ๊ะ ——”
“คุณจะทำอะไร!” กู้สวงส่วงตื่นตกใจ เขานอนทับลงมา
แขนเขากั้นตรงหัวไหล่เธอเอาไว้ กดค้างไว้แล้วลดระยะห่างจากเธอลงเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากบางๆ สัมผัสกับริมฝีปากอันอ่อนหวานของเธอ นิ้วมือเรียวใหญ่ลูบที่พวงแก้มของหญิงสาว สัมผัสแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน
กู้สวงส่วงหวาดกลัวดิ้นรนไม่หยุด!
เสิ่นมั่วเฉิงจ้องมองท่าทางเธอที่ราวกับกระต่ายน้อยผู้หวาดกลัว ริมฝีปากประทับลงมุมปากของหญิงสาว “กังวลอะไร?”
กู้สวงส่วง “…”
เขาถอดรองเท้าเธอ ขณะนั้นกู้สวงส่วงได้สติกลับมา ทั้งสองอยู่บนห่มผ้า เธอดึงผ้าห่มขึ้นมากั้นไว้ครึ่งใบหน้า กลิ่นอบอวลไปด้วยกลิ่นของเขา โดยเฉพาะกลิ่นอายของความสะอาดสะอ้านแบบเฉพาะของชายหนุ่ม
เขาสั่งเธอ “นอนเฉยๆ”
นอนเฉยๆ จะทำอะไร?
ใบหน้าของกู้สวงส่วงขึ้นสีแดงระเรื่อ กลัวว่าเขาจะพลิกตัวกลับมา!
ในขณะเดียวกัน เขาก็พลิกตัวกลับมาจริงๆ แต่เพียงแค่หนุนลงตรงท้องของเธอ
“ลุงตัวท็อป…”
“หุบปากไม่ต้องขยับ ตอนนี้เธอเป็นแค่หมอน” ชายหนุ่มหลับตา มีคำว่าอารมณ์ดีเขียนไว้บนใบหน้า
กู้สวงส่วงหัวใจเต้นแรงมาก เวลาหายใจก็ถูกศีรษะของเขากดลงมายิ่งยากลำบาก เธอรู้สึกว่าเช่นนี้ทำให้พวกเขาสองคนสนิทสนมกันเกินไป เธอกำลังหันตัวกลับ ให้ศีรษะของเขาตกลง
แต่กลับถูกเขาตีเข้าที่สะโพก!
เธอเจ็บ จึงเป็นเด็กดี ไม่กล้าส่งเสียงอีก
ภายในห้องนอนเงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคน
กู้สวงส่วงแอบเงยหน้าขึ้นมอง เขาหลับตา ขนตาช่างงอนยาวเสียจริง ใบหน้างดงามไร้ที่ติ สง่างามจนน่าประหลาดใจ
ไม่รู้ว่าเขาหลับแล้วหรือยัง
กู้สวงส่วงหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ พูดเบาๆ “ลุงตัวท็อป แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะคะ อันที่จริง… ฉันแต่งงานแล้ว แบบนี้ก็เท่ากับว่าฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อสามี”
เธอพูดต่อไปอย่างไม่สบายใจ “วันนั้นที่ไปดื่มกันที่บาร์ ชายที่ฉันชอบทรยศฉัน ฉันจึงปล่อยตัวมากไป ที่ทำลงไปกับคุณฉันไม่มีอะไรให้เสียใจ สิ่งเดียวที่ฉันรู้สึกผิดคือสามีคนนั้นที่ไม่เคยเจอหน้ากัน แต่ว่ากันว่าสามีฉันแต่งงานครั้งที่สองแล้ว และอีกอย่างเขาก็เป็นชายแก่อ้วนลงพุง หัวล้าน อัปลักษณ์”
“สามีของเธอเป็นคนอ้วนลงพุง หัวล้าน อัปลักษณ์งั้นเหรอ?” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองทันที ใบหน้าหล่อเหลาไร้สีสัน
กู้สวงส่วงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพยักหน้า “เขาไปสู่ขอฉันที่บริษัทพ่อ พี่สาวฉันอยู่พอดีก็เลยเจอ”
นั้นคือจังชิง…
ถึงจังชิงจะแก่ไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้น ในบรรดาชายวัยกลางคนรูปร่างของจังชิงถือว่าได้รับการดูแลอย่างดีทีเดียว หัวล้าน? ยิ่งไร้สาระไปกันใหญ่!
สีหน้าของเสิ่นมั่วเฉิงหมองลง ภาพลักษณ์สามีของเขาในสายตาเธอถูกทำลายลงไปแล้ว
เขาพลิกตัวไปคร่อมเธอไว้ ความโกรธทำให้คิดอยากบอกความจริงกับเธอ แต่โทรศัพท์มือถือของกู้สวงส่วงสั่นเสียก่อน
เธอรับสาย “เสี่ยวซวง?”
น้ำเสียงของเสี่ยวซวงผิดปกติ “กู้กู้ ฉันอยู่ที่บ้านเธอ”
“ที่ฮวาซีเหรอ?”
“…คฤหาสน์ตระกูลกู้ ตอนเลิกงานฉันเจอพ่อเธอ เลยถูกเขาเชิญมาบ้าน…ให้นั่งรอ”
สีหน้าของกู้สวงส่วงเปลี่ยนฉับพลัน ออกมาจากใต้ร่างของเขา แล้วรีบไปลงชั้นล่าง
เสิ่นมั่วเฉิงตามลงไป เอ่ยถามเสียงเข้ม “มีเรื่องอะไร?”
“ที่บ้านเกิดเรื่อง ฉันอธิบายไม่ได้ คุณลุง ฉันต้องรีบไปแล้ว”
เขาไม่ยอมปล่อย
กู้สวงส่วงทำได้เพียงอธิบายอย่างเข้าใจง่ายๆ “คนที่ตีฉันหน้ามหาวิทยาลัยครั้งก่อนคือแม่เลี้ยงและพี่สาวฉัน เพราะฉันดูเหมือนว่าพี่จะอยู่ที่สถานีตำรวจออกมาไม่ได้ ไอ้พ่อสาระเลวนั่นโทรมาตั้งหลายสายแต่ฉันไม่รับ ฉันซ่อนตัวอยู่ที่หอเขาจึงไม่เจอฉัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะจับเพื่อนฉันไว้แล้วบังคับให้ฉันกลับบ้าน คุณไม่รู้หรอกว่าพวกเขาเคยทำอะไรกับฉันไว้บ้าง ฉันกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวซวง”
เธอร้องไห้ออกมา
ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกาย เขาสวมกอดเธอไว้ “ไม่ต้องกังวล มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น"