หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 26
ถนนด้านนอกตึกหอพัก เวลากลางคืนมักมีคนเมาตะโกนเอะอะโวยวายอยู่บ่อยๆ คืนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะมีเช่นกัน? นั้นจึงทำให้เธอนอนไม่หลับ
เพื่อนร่วมห้องทยอยตื่นกันทีละคน กลิ่นบะหมี่จากหม้อต้มไฟฟ้าที่ได้มาจากการแอบช้อปปิ้งออนไลน์อบอวลอยู่ภายในหอพัก คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกำลังออกอากาศข่าวเช้า กู้สวงส่วงตักบะหมี่ใส่ชาม ทันใดนั้นก็ได้ยินข่าวออกอากาศ: เมื่อไม่กี่วันมานี้เกิดเหตุคดีร้ายแรงขึ้นในเมือง หนุ่มบาร์โฮสคนหนึ่งถูกฆาตกรรม ทางด้านตำรวจปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูล ผู้ตายเป็นชายวัยสามสิบ รูปร่างหน้าตาดี เป็นตัวท็อปของไนต์คลับ…
ตะเกียบของกู้สวงส่วงล่วงลงพื้น!
หนุ่มบาร์โฮสวัยสามสิบปี รูปร่างหน้าตาดี เป็นตัวท็อปของไนต์คลับ…
คุณลุงตัวท็อป!!
กู้สวงส่วงวิ่งไปด้วยใบหน้าซีดเผือด แต่ข่าวในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยังคงเล่นต่อไป
เปิด Baidu News เพื่อค้นหาข้อมูลสำคัญ แต่ข่าวเช้าเป็นการถ่ายทอดสด การอัปเดตข้อมูลในอินเตอร์ไปพร้อมกันจึงไม่ค่อยเร็วนัก
เธอจ้องหน้าเว็บไซต์ที่ยุ่งเหยิง สายตาจ้องมองอย่างตกตะลึง
ตายแล้ว? คุณลุงตัวท็อป… ถูกฆ่า? กลุ่มคำพูดเหล่านี้ดูน่ากลัวในสายตาเธอ
ไม่น่าล่ะ จู่ๆ ก็ไม่มาสอน ไม่แปลกที่เขาหายหน้าหายตาไปเลย…
กู้สวงส่วงคิดโยงไปถึงระยะเวลาก่อนหน้าและหลังจากนั้น ยิ่งเพิ่มความแน่ใจว่าคนที่ถูกฆาตกรรมคือเขาแน่นอน!
ตลอดทั้งวัน เธอเอาแต่นั่งกอดคอมพิวเตอร์นิ่งๆ รีเฟรชหน้าเว็บไซต์อยู่อย่างนั้น
จนกระทั่งค่ำมืด ในที่สุดก็มีข่าวเกี่ยวกับคดีหนุ่มบาร์โฮสถูกฆ่าลงบนหน้าเว็บไซต์!
เธอเจอสำนักสันติบาลที่รับผิดชอบคดี ค้นหาที่อยู่ของสถานี คัดลอกลง เมื่อเงยหน้าขึ้นเพิ่งรู้ว่าเวลาล่วงเลยไปเป็นวันขนาดนี้
รีบอาบน้ำแล้วเข้านอน แต่กลับต้องฝันร้าย ในความฝันเธอฝันว่าคุณตัวท็อปถูกฆ่าด้วยวิธีการต่างๆ เหนือธรรมชาติ…
วันรุ่งขึ้นเธอออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ ตามที่อยู่นั้นต้องนั่งรถสาธารณะยาวไปจนถึงสำนักสันติบาล
เธอห่อตัวลงเล็กน้อยเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ในเวลาตอนเที่ยงวันแบบนี้ส่วนใหญ่คนขี้อายจะไม่ค่อยกล้าเข้าไป
เพราะจะมีคนจำนวนไม่ถ้วนหันมามอง แต่เมื่อนึกถึงคุณลุงตัวท็อปที่ถูกฆ่าแล้ว หัวใจก็พลันเศร้าขึ้นมา
เขาน่าสงสารมาก ไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงญาติพี่น้องเลยสักครั้ง คนที่อยู่ในแวดวงนี้คงถูกครอบครัวทอดทิ้งสินะ? ตอนนี้ยังมาตายอย่างโหดเหี้ยม อาจไม่มีแม้แต่คนในครอบครัวมาดูยืนยันศพและรับตัวไป
พูดอย่างไรเขาก็คือผู้ชายคนแรกของเธอ เคยเป็นอาจารย์สอนเธอเมื่อสองสามวันมานี้ ทั้งจูบทั้งกอดก็เคยมาแล้ว ครั้งสุดท้ายแบบนี้ก็ต้องมาให้เจอกันสิ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จึงทุ่มสุดตัวเข้าไปยังสถานีตำรวจ!
แต่เรื่องกลับไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เธอคิด เมื่อเข้ามาที่ล็อบบี้ในสำนักงานตำรวจ หลังจากอธิบายเหตุผลแล้ว เธอถูกตำรวจที่สืบสวนคดีนำตัวมาที่ห้องตามลำพัง!
กู้สวงส่วงตกใจกลัว ใบหน้าซีดเผือดไม่กล้าหายแม้หายใจ
“เอาบัตรประชาชนออกมา"
กู้สวงส่วงปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย
คุณตำรวจลงบันทึกไว้ เงยหน้าขึ้นแล้วถามเธอจริงจัง “คุณเกี่ยวข้องกับผู้ตายยังไง?”
“ฉันเคยชำเลืองมอง…” กู้สวงส่วงตกใจรีบเอามือปิดปากทันที! จนกัดลิ้นตัวเอง
“ฉัน ฉันเป็นเพื่อนของเขา”
“เพื่อนฝั่งไหน? ”
“ก็แค่เพื่อนทั่วๆ ไป ฉันแค่อยากเจอเขา อยู่ตามลำพังกับเขาได้ไหม?”
“คุณไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวของผู้ตาย จะมาดูศพตามใจชอบไม่ได้!”
ใจของกู้สวงส่วงต้องการมาที่นี่ เมื่อใจคิดปากก็เปลี่ยนตาม “อันที่จริงฉันเป็นคู่หมั้นของเขา แบบนี้ฉันพบเขาได้ใช่ไหม?”
คุณตำรวจมองเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่ง เขาจับเธอลุกขึ้น แล้วเอ่ยว่า “ได้สิ สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายยังไม่ทราบแน่ชัด คุณเป็นคนใกล้ชิดผู้ตาย ต้องอยู่ให้ความร่วมมือกับเราในการสืบสวนคดีอย่างไม่มีเงื่อนไข ไปที่ห้องสอบสวนกันเถอะ”
“สอบสวน?” กู้สวงส่วงหวาดกลัวจนน้ำตาไหล “ฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไปที่ห้องสอบสวนทำไม? อย่าลากสิ…”
-
ตึกรวมชั้นห้าสิบ เสียงฝีเท้าที่ดูร้อนรนดังขึ้นหน้าห้องทำงานท่านประธาน
จากนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเข้ามาจากด้านนอก
ชายหนุ่มที่เอนกายอยู่บนโซฟา ใบหน้าซีดเซียวไอออกมาขณะมองดูแฟ้มของเขา เงยหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจ พูดเสียงขึ้นจมูก “ที่นี่เป็นห้องน้ำที่เข้ามาได้ตามใจชอบงั้นเหรอ?”
“ขออภัยครับท่านประธานเสิ่น” จังชิงเป็นกังวล “เรื่องด่วนครับ ท่านประธาน คุณผู้หญิงเกิดเรื่องแล้วครับ!”
นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มบีบเอกสารแล้วโยนมันไปข้างๆ เขาดึงเนกไทออกอย่างไม่สบอารมณ์ น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นอย่างจนปัญญา “เกิดอะไรขึ้นกับเธออีก?”
“คุณผู้หญิงถูกตำรวจจับครับ”
ใบหน้าเย็นชาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม มือที่มีเหงื่อเพราะอาการป่วยเริ่มเย็นลงและขาวซีด ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง
สถานีตำรวจอีกแล้ว? เข้าไปวันเว้นวันจนติดเป็นนิสัยแล้วหรือไง?
ยัยเด็กบ้า สามีของเธอทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตอนนี้กำลังเป็นหวัด ยังมาสร้างเรื่องวุ่นวายให้ปวดหัวอีก?
เสิ่นมั่วเฉิงประคองหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้น เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดของชายหนุ่มเปียกโชกด้วยเหงื่อเพราะไข้ขึ้นสูง
มือใหญ่ของชายหนุ่มหิ้วเสื้อสูทขึ้นมาแล้วพาดไว้ตรงข้อพับ ร่างสูงโปร่งสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
กว่าลิฟต์จะเลื่อนลงมาถึงใช้เวลาไปหลายสิบนาที จังชิงอธิบายสถานการณ์ส่วนใหญ่ให้ฟัง ชายหนุ่มรับฟังอย่างเงียบๆ เห็นเพียงใบหน้าบูดบึ้งถูกความมืดมนเข้าปกคลุมเพิ่มขึ้นทีละชั้น จนสีเทาชาร์โคลก็เทียบไม่ติด!
มองเขาเป็นหนุ่มบาร์โฮส เขาก็อดทนไว้
แล้วตอนนี้คือยังไงอีก? มองว่าเขาเป็นคนตายไปแล้ว?
ทำไมถึงแต่งงานกับคนโง่ขนาดนี้นะ…
สร้างปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ให้เขาได้ทั้งวัน! ใช้เงินสองร้อยล้านหยวนแต่งงานเอาคนปัญญาอ่อนมาทำให้เขาหงุดหงิดได้ตลอด…
เมื่อคิดได้ว่าตอนนี้ตนเองกลายเป็นศพนอนอยู่ในห้องเก็บศพ ช่างโชคร้ายอะไรอย่างนี้! ใบหน้าของชายหนุ่มเขียวปั้ด เขาโกรธจนแทบยืนไม่อยู่
จังชิงยื่นมือออกไปช่วยพยุง “ท่านประธานเสิ่น…”
“เรียกวิญญาณเหรอ? ยังไม่ตายโว้ย!”
“…”
-
ทางเข้าสถานีตำรวจ
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก้าวลงมาจากรถเบนท์ลีย์คันหรู แต่งกายด้วยชุดสูทมาตรฐานและรองเท้าหนังมันขลับ คิ้วขมวดแน่น ผนวกกับความเย็นชาที่แผ่ออกมา
จังซิงและจั่วเฮ่าตามลงมา ทั้งสามเดินเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว
ตรงทางเข้าล็อบบี้ของสำนักงานตำรวจ ชายหนุ่มสาวเท้ายาวๆ เข้าไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึมโดยไม่ลืมกำชับลูกน้อง “ถ้าฉันเกิดเส้นเลือดในสมองแตก ให้โทรหาหนึ่งสองศูนย์ทันที”
จังชิง จั่วเฮ่า: คุณผู้หญิงช่างแข็งแกร่ง!
หลังจากเข้าไป เสิ่นมั่วเฉิงพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค
“ภรรยาของผมถูกคุมตัวมา นี่คือทะเบียนสมรส”
“นี่ทนายของภรรยาผม เจรจากับเขาได้ทุกเรื่อง ตอนนี้ขอถามหน่อยภรรยาผมอยู่ที่ไหน?”
คนจากทีมสืบสวนคดีอาชญากรรมร้ายแรงเข้ามาทันที รับคำสั่งให้พาคุณชายผู้ถือตนจากตระกูลเสิ่นของเมือง A คนนี้ไปยังตึกชันสูตรทางนิติเวช
ประตูทางเข้าห้องเก็บศพชั่วคราวบนชั้นสอง ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วผลักประตูเข้าไป ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังออกมา
กู้สวงส่วงยื่นตัวสั่นเทา มีตำรวจยืนอยู่ข้างๆ เธอ อีกด้านคือศพคนตายที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่อศพสีขาว
ไม่มีคำพูดแต่น้ำตาไหลก่อนแล้ว เดิมทีคิดว่าไม่ใช่ญาติพี่น้องอะไรกับเขา อารมณ์คงไม่อ่อนไหวง่ายดายขนาดนั้น แต่ดูเหมือนว่าตนเองยังคงอาลัยอาวรณ์ชายชราคนนี้อยู่
เธอเช็ดน้ำตา น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น “ลุงตัวท็อป ฮือ ฮือ ฮือ…คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะอายุสั้นแบบนี้”
ชายหนุ่มที่ประตู “…”
“เมื่อยี่สิบกว่าวันก่อนคุณยังมีชีวิตอยู่เลย วางมาดชี้หน้าฉันจับฉันโยนออกจากคลาสเรียน เอาแต่ใจตัวเองทั้งวัน ไม่มีอะไรทำก็รู้ว่าต้องคอยมาแกล้งฉันทำร้ายฉัน แล้วทำไมตอนนี้ถึงมานอนอยู่ตรงนี่ล่ะ? ใครกันที่ไร้ความเป็นคนฆ่าคุณได้ลง? หรือเป็นชายแก่หัวล้านที่บังคับให้คุณขายตัวให้คุณเลยยอมตายดีกว่ายอมทำตามเขาใช่ไหม?
ชายหนุ่มที่ประตูเส้นเลือดในสมองกำลังจะแตก “…”
“(ละเว้นคำพูดนับพันข้ามไปไว้อาลัย) …พูดง่ายๆ เลยก็คือ ฉันยังยอมรับไม่ได้ว่าคุณตายแล้ว เอาล่ะ บอกลากันตรงนี้ เมื่อไปอยู่ทางนั้นคุณจะได้ไม่โดดเดี่ยว ฉันจะนึกถึงคุณเสมอ สุดท้ายนี้ฉันอยากจะบอกว่า.. คือเรื่องนั้น ลุงตัวท็อปฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม? คุณก็เห็นว่าคุณไม่อยู่แล้ว งั้นที่ฉันเป็นหนี้คุณอยู่สี่หมื่นแปดพันหกร้อยห้าสิบหยวน ก็คงไม่จำเป็น…”
ชายหนุ่มที่ประตูอยู่ในภาวะเส้นเลือดในสมองแตก “…”
พูดอ้อมไปอ้อมมาในที่สุดก็เข้าประเด็น! เป็นหนี้แต่อยากชิ่ง รังแกแม้กระทั่งคนตายคนที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีคงทำไม่ลง บีบบังคับให้จำใจพูดเรื่องนี้ ยัยเด็กเปรต!
หญิงสาวก้มศีรษะลงเดินวนไปมาอยู่อย่างนั้น “หลักๆ แล้วคือฉันจนมาก ลุงตัวท็อปคงไม่อยากให้ฉันเผาเงินห้าหมื่นไปให้คุณหรอกใช่ไหม แบบนี้เมื่อคุณลงไปเป็นเจ้าถิ่นที่ยมโลก ก็ไม่ต้องขายตัวเพราะขาดแคลนเงินอีกแล้ว!”
“ที่ยมโลกคงขาดผู้หญิงไว้นอนไว้ด้วย เธอจะเผาไปให้ฉันไหมล่ะ?”