หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 18
“ได้ค่ะ” กู้สวงส่วงตอบกลับเสียงหวาน
และของที่พี่หวังซื้อกลับมาก็มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น ทั้งพี่หวังและกู้สวงส่วงจึงต้องเดินเข้า ๆ ออก ๆ อยู่ 3-4 รอบ กว่ารถเข็นช้อปปิ้งของพี่หวังจะว่างเปล่าจนเหลือแมวน้อยน่ารักอยู่แค่ตัวเดียว แล้วพี่หวังก็อุ้มเสี่ยวซานขึ้นจากรถเข็น ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างช้า ๆ กู้สวงส่วงยืนมองตามหมวกใบกลมที่ปกอยู่บนหัวของเสี่ยวซาน พร้อมทั้งส่งเสียงหัวเราะอย่างขบขัน แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “แมวบ้านนี้กลัวแดดด้วยเหรอคะเนี่ย?”
“แน่นอนสิจ้ะ แถมเสี่ยวซานยังช่างเลือกด้วยนะ เพราะถ้าเป็นหมวกตามร้านอาหารสัตว์เนี่ย เสี่ยวซานไม่ชอบใจเลยสักใบ! มีแค่หมวกที่นายท่านออกแบบให้นี่แหละจ้ะ ที่เธอยอมใส่อยู่”
“ว้าว หนูอยากเป็นแมวบ้านนี้จัง” กู้สวงส่วงกล่าวด้วยรอยยิ้ม พลางยกกระเป๋าพาดขึ้นบนบ่าแล้วพูดว่า “แต่ป้าหวังคะ หนูคงต้องไปแล้วละค่ะ พอดีว่าหนูมีเรียนภาคบ่ายอีก”
“นี่ป้ากำลังจะโทรบอกนายท่านอยู่เลยเนี่ย ว่าคุณมาหา”
“อย่านะคะ!” กู้สวงส่วงรีบโพล่งขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดต่อด้วยสีหน้าแตกตื่นว่า “อย่าบอกเขานะคะ ว่าหนูมาที่นี่”
และพอกู้สวงส่วงรีบเดินออกมาจนถึงหน้าประตูใหญ่ พี่หวังก็รีบเดินเข้ามาคว้าแขนเธอไว้ทันที แถมสีหน้าของพี่หวังในตอนนี้ยังดูลึกลับซับซ้อนมากอีกด้วย “สาวน้อย ป้าขอเวลาคุณสัก 2-3 นาทีเถอะนะ ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ”
กู้สวงส่วงจึงต้องยอมหยุดฟังพี่หวังพูด
แต่พอพี่หวังพูดจบ ใบหน้าที่ขาวซีดของกู้สวงส่วงก็แดงก่ำขึ้นมาในทันที
“ไม่ต้องคิดมากหรอกจ้ะ ถ้าไม่เข้าใจอะไรกันก็คุยกันให้รู้เรื่องซะ แค่นั้นเอง”
แล้วพี่หวังก็เริ่มสาธยายด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “ป้าดูแลนายท่านมานานหลายปี เพราะฉะนั้นเวลาที่เขาปฏิบัติตัวกับใครยังไงเนี่ย ป้าดูออกนะ ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วคนอย่างนายท่านน่ะ มีหญิงสาวที่พร้อมจะถอดชุดชั้นในใส่พานถวายให้เขานับไม่ถ้วน! คุณลองนึกดูดี ๆ ก่อนดีกว่า ว่าก่อนนอนคืนนั้นคุณได้ล็อคประตูห้องดีรึยัง?”
กู้สวงส่วงกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ พลางคิดในใจว่า เธอไม่จำเป็นต้องนึกอะไรหรอก เพราะถ้าเธอต้องนอนค้างบ้านผู้ชายแบบนั้น เธอไม่มีวันลืมล็อคประตูแน่ ๆ เธอมั่นใจ!
“งั้นคุณพอจะบอกได้มั้ย ว่าถ้าหากคุณล็อคประตูห้องไว้ดีแล้วเนี่ย นายท่านจะยังสามารถเข้าไปในห้องนอนของคุณได้ยังไง ?”
กู้สวงส่วงนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออก
“ป้าว่าต้องเป็นเจ้าเสี่ยวซานแน่ ๆ! เพราะเธอชอบกระโดดขึ้นไปคาบของบนเตียงลงมาเล่น นายท่านสอนยังไงเธอก็ไม่จำ! แล้วซานเอ๋อก็ชอบสีชมพูอ่อนมาก คุณดูกระท่อมของเธอสิคะ แล้วไหนจะกระบะทราย ชามอาหาร แล้วก็หมวกใบกลมของเธออีก ทุก ๆ อย่างต้องเป็นสีชมพูหมด ไม่อย่างนั้นเธอไม่ยอมหรอกค่ะ แล้วป้าก็ไม่แปลกใจเลยถ้าเธอจะคาบชุดชั้นในของคุณมาด้วย เพราะห้องของคุณอยู่ติดกับห้องของนายท่าน แถมระเบียงหลังห้องยังเชื่อมเข้าหากันอีก” พอพูดจบ พี่หวังก็ยกมือขึ้นตีเบา ๆ ที่แขนเล็กจ้อยของเจ้าแมวหง่าว
ในเมื่อความจริงปรากฏออกมาแบบนี้แล้ว
กู้สวงส่วงจึงทำได้เพียงแค่ยกมือขึ้นลูบหน้าม้าของตัวเองเบา ๆ แก้เขิน ในใจก็ปลอบโยนตัวเองไปด้วยว่า ถ้าผู้หญิงคนไหนได้มานอนค้างที่บ้านชายแปลกหน้า แล้วพอตื่นมาก็พบว่าชุดชั้นในของตัวเองหายไปเนี่ย ปฏิกิริยาแรกของพวกเธอก็ต้องตกใจเหมือนกันกับฉันนั่นแหละ จริงมั้ยล่ะ?
ดังนั้นเมื่อกู้สวงส่วงเปิดประตูออกมาและพบว่าชุดชั้นในของเธอตกอยู่ในมือของเขา เธอจึงรีบตรงเข้าไปตบหน้าเขาทันทีอย่างไม่ลังเล
แต่ถึงเธอจะเข้าใจเขาผิดยังไง เขาก็ไม่มีสิทธิมาทำกับเธอแบบนี้นะ!
–
ตกดึกคืนนั้น
ทันทีที่เสิ่นมั่วเฉิงกลับถึงบ้าน พี่หวังก็รีบตรงเข้ามารับเสื้อสูทและสัมภาระอื่น ๆ จากมือของเขาทันทีอย่างรู้งาน ก่อนจะถามไถ่ด้วยความห่วงใยว่า “วันนี้นายท่านยุ่งทั้งวันเลยเหรอคะ?”
“อื้ม” เสิ่นมั่วเฉิงตอบกลับ พลางยกนิ้วขึ้นบีบตรงกลางหว่างคิ้ว และพูดต่อว่า “วันนี้ผมแวะไปเมืองB มาด้วย พอดีโครงการใหม่มีปัญหานิดหน่อยน่ะ”
พี่หวังได้ยินดังนั้นจึงแอบถอนใจ เพราะเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าการที่นายท่านทำงานหนักแบบนี้ มันจะไปมีความหมายอะไรถ้าหากไม่มีใครคอยช่วยใช้เงินมากมายมหาศาลเหล่านั้น?
แต่พอพี่หวังนึกอะไรขึ้นได้ เธอก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นทันทีว่า “นายท่าน เมื่อตอนบ่ายนี้เนี่ย แม่สาวน้อยคนนั้นมาหานายท่านที่นี่ด้วยนะ”
เสิ่นมั่วเฉิงดึงเนคไทให้หลวมขึ้นเล็กน้อย แล้วจากนั้นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็เผยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา “เร็วกว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย”
พูดจบเขาก็เดินตรงไปยังโซฟา เพื่อหยิบกองเอกสารปึกหนึ่งขึ้นมาจัดการต่อทันที เห้อ
ชีวิตของหนุ่มโสดเนี่ย มันทำให้เขาแยกไม่ออกจริง ๆ หรือ ว่าที่ทำงานกับบ้านมันไม่ใช่สถานที่เดียวกันน่ะ
เมื่อพี่หวังเห็นว่านายท่านของเธอดูผ่อนคลายลงแล้ว เธอจึงเดินตามเขาไปถึงโซฟาด้วยสีหน้าที่ดูลังเลอยู่หน่อย ๆ
“มีอะไรก็พูดมาเถอะครับ” เสิ่นมั่วเฉิงกล่าว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่หวังอย่างรู้ทัน
มือทั้งสองข้างของพี่หวังประกบกันจนแน่น แต่แล้วพี่หวังก็ยอมเปิดปากพูดออกมาจนได้ว่า “นายท่านคะ คือว่าบ่ายนี้…..เธอคนนั้นก็มาที่นี่ด้วยเหมือนกันค่ะ เธอถามดิฉันว่า เสี่ยวเหวยอยู่ที่ไหน เธอขอให้ดิฉันบอกที่อยู่ของเสี่ยวเหวย แถมยังขอรูปถ่ายของเสี่ยวเหวยอีกด้วย เธอร้องห่มร้องไห้ และบอกกับดิฉันว่าเธอคิดถึงเสี่ยวเหวย เธออ้างว่าเธอมีสิทธิที่จะได้ดูรูปของเสี่ยวเหวยค่ะ”
แต่พอพี่หวังเริ่มสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกภายในห้อง เธอจึงไม่กล้าปริปากพูดอะไรต่อ และเธอก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับนายท่านของเธออีกด้วย
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นตกอยู่ในห้วงแห่งความเงียบสงัดไปชั่วขณะ ด้วยอากัปกิริยาของเสิ่นมั่วเฉิงที่ดูแปลกไปจากเดิม
หัวใจของพี่หวังนั้นแทบจะหยุดเต้น แม้แต่เจ้าซานเอ๋อเองก็ยังหวาดกลัวจนต้องมุดหัวลงใต้พรม
แล้วทันใดนั้น เสิ่นมั่วเฉิงก็ประกบแฟ้มเอกสารลงด้วยปลายนิ้ว ก่อนจะเลื่อนแฟ้มเอกสารดังกล่าวไปไว้ข้างโต๊ะ ตามด้วยเสียงไฟแช็คที่ดังชัดแจ๋วกว่าทุกครั้งจนน่ากลัว
แต่กลุ่มควันจาง ๆ จากก้นบุหรี่ก็ไม่อาจบดบังความเย็นชา รวมถึงกลิ่นอายแห่งความเศร้าหมองจากนัยน์ตาของเสิ่นมั่วเฉิงได้อยู่ดี “เหอะ มีสิทธิงั้นเหรอ? เธอคิดว่าผมจะสนใจเรื่องสิทธิบ้าบอนั่นรึไง?”
พอได้ยินดังนั้น พี่หวังจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นขี้เถ้าจากก้นบุหรี่สีแดงฉานที่กำลังตกลงบนที่เขี่ยบุหรี่ทีละเล็ก ทีละน้อย
ค่ำคืนที่ไร้ซึ่งแสงจันทร์
มีเพียงไฟสลัวจากห้องนอนของเขา ที่ยังคงเปล่งแสงสว่างให้กับทุกสรรพสิ่งรอบ ๆ คฤหาสน์หลังใหญ่นี้
เสิ่นมั่วเฉิงยืนใจลอยอยู่ริมหน้าต่างห้องนอน ภายใต้แสงไฟสลัวที่ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาต้องจมดิ่งอยู่ในความมัวหมอง
กระจกหน้าต่างสะท้อนเงาของชายคนหนึ่งที่กำลังยืนสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนเสิ่นมั่วเฉิงสามารถเห็นใบหน้าที่เย็นชาของตัวเขาเองได้อย่างชัดเจน แต่พอเขานึกถึงผู้หญิงคนนั้น นัยน์ตาของเขากลับเผยกลิ่นอายแห่งความเคียดแค้นและชิงชังออกมา จนเขาเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด
ดังนั้นเขาจึงต้องพาตัวเองดื่มด่ำไปกับกลิ่นมิ้นท์จากควันบุหรี่พวกนี้ พร้อมกับปล่อยให้สายลมยามค่ำคืนพัดพาความเคียดแค้นเหล่านั้นออกไปจากใจของเขาให้ได้
–
7 นาฬิกา
พี่หวังเดินสับเท้าขึ้นมายังชั้นบน ก่อนจะผลักประตูห้องของนายท่านเข้ามาและพบว่าภายในห้องของนายท่านนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นควันบุหรี่จนเหม็นฉุน
ส่วนตัวนายท่านเองก็ดูเหมือนจะกำลังอาบน้ำอยู่
แต่แล้วสายตาของพี่หวังก็ดันไปสะดุดเข้ากับก้นบุหรี่จำนวนมากที่กองอยู่บนที่เขี่ยบุหรี่ตรงขอบหน้าต่าง นี่นายท่านนั่งอยู่ตรงนั้นทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย?
เห้อ~
และไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกโดยชายร่างสูงในชุดคลุมอาบน้ำ แถมผมสั้นซอยของเขายังเปียกโชกจนมีน้ำหยดติ๋ง ๆ ลงมาตลอดทางอีกด้วย แต่ขอบตาของเขานี่สิ มันดูแดงก่ำจนพี่หวังมองออกเลยว่า เขาต้องถูกหมอกควันและไอเย็นบุกโจมตีมาทั้งคืนแน่ ๆ
พี่หวังจึงเลิกจับจ้องที่เขาและหันกลับมาเปิดตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาลเข้ม เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตบุรุษที่ถูกแขวนเรียงรายไปตามเฉดสี แถมเสื้อเชิ้ตทุกตัวของเสิ่นมั่วเฉิงยังถูกออกแบบและตัดเย็บมาอย่างดีอีกด้วย
“นายท่านจะใส่ตัวไหนดีคะวันนี้?”
เสิ่นมั่วเฉิงหันมาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “สีน้ำเงินลายขวางแล้วกันครับ”
เพราะจิตใจของเขาในตอนนี้นั้นค่อนข้างที่จะย่ำแย่อยู่พอควร ดังนั้นเจ้าเสื้อสีทึบนี่แหละ ที่จะช่วยปกปิดความย่ำแย่ในจิตใจของเขาได้
และนอกจากเขาจะต้องเข้าไปบรรยายในชั้นเรียนด้วยแล้ว เขาก็ยังต้องเจอกับยัยตัวแสบอีกด้วยนะ
-
10 นาฬิกา
กู้สวงส่วงกับจ้าวเสี่ยวเอ๋อร์เดินเข้ามาในตัวอาคารด้วยกันตามปกติ
แต่แล้วจู่ ๆ จ้าวเสี่ยวเอ๋อกลับโพล่งขึ้นมาว่า “เอางี้ดีมั้ยส่วงเอ๋อ แกไปยอมรับผิดกับอาจารย์หน้าหล่อซะ ฉันว่ามันอาจจะเป็นผลดีกับการสอบปลายภาคของแกด้วยก็ได้ เพราะอาจารย์โจวน่ะ โรคจิตจะตาย ฉันเคยได้ยินมาด้วยว่า เขาจะให้คนที่สอบตกทำอะไรก็ได้ตามที่ใจเขาต้องการ เพื่อแลกกับการได้เข้าสอบแก้”
พอได้ยินดังนั้น กู้สวงส่วงก็ถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความจนปัญญา
“แกนี่ดื้อจริง ๆ เลย!” จ้าวเสี่ยวเอ๋อร์ตะคอกด่าด้วยสีหน้าจริงจัง แต่จู่ ๆ แววตาของเธอกลับดูอ่อนโยนลงอย่างกะทันหัน แถมใบหน้าของเธอยังเบ่งบานราวกับดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิอีกต่างหาก “อรุณสวัสดิ์ค่ะอาจารย์เสิ่น!”
กู้สวงส่วงตัวแข็งทื่อ เพราะเสียงฝีเท้าของเขาเองก็เริ่มดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จากทางด้านหลัง แถมเธอยังสัมผัสได้ถึงออร่าแห่งความแข็งแกร่งจากเขา โดยที่เธอไม่ต้องเหลียวหลังกลับไปมองเลยด้วยซ้ำ
“อรุณสวัสดิ์” เสียงทุ้มต่ำอันทรงเสน่ห์ของเขาฟังดูแหบแห้งและอ่อนล้าอยู่หน่อย ๆ
และในขณะที่กู้สวงส่วงกำลังจะวิ่งหนีไปให้ไกลนั้น เธอกลับถูกจ้าวเสี่ยวเอ๋อร์จับหมุนตัวหันกลับหลังไปทางเสิ่นมั่วเฉิงเข้าเสียก่อน
เธอจึงต้องเงยหน้าขึ้นสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้
ชายร่างสูงหุ่นเฟิร์มกำลังเดินตรงเข้ามา โดยที่มือข้างหนึ่งของเขากำลังล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเท่ห์เหมือนทุกที และอีกมือหนึ่งของเขาในวันนี้ก็โอบอุ้มตำราเรียนเล่มหนามาด้วย เพียงแต่วันนี้เขาไม่ได้สวมเนคไทมาเหมือนในทุกวัน และเสื้อเชิ้ตสีทึบนี่ก็ทำให้ผิวพรรณของเขาดูขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมกระดุมคอสองเม็ดที่ถูกปลดออกนั้น ยังเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและลูกกระเดือกที่เกลือกกลิ้งอยู่บนลำคอของเขาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย เห้อ~ เซ็กซี่สุด ๆ ไปเลย
กู้สวงส่วงพยายามกดสายตาลงต่ำ ก่อนจะแสร้งทำเป็นใบ้ตาบอดเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของเขา จนกระทั่งเธอถูกจ้าวเสี่ยวเอ๋อร์ตบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง เธอถึงจะยอมเอ่ยปากทักทายเขาไปแบบส่ง ๆ ว่า “หวัดดีค่ะจารย์”
แต่เสิ่นมั่วเฉิงกลับเบือนหน้าหนี และทำท่าทีเมินเฉยใส่เธอจนคนแถวนั้นสัมผัสได้
เขาทิ้งให้กู้สวงส่วงโกรธจัดจนหน้าแดงแจ๋ ท่ามกลางสายตาของผู้คนระแวกนั้น รวมถึงเหมิงเซี่ยวหลินที่ยืนหัวเราะคิกคักจนรองพื้นบนหน้านั้นแทบจะร่วงลงมากองอยู่บนพื้น