หลงคิดว่าเขาจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปจนไม่กล้าสู้หน้า แต่นี่มันอะไรกันวะ?! ฉันยังไม่ทันจะได้เอาเรื่องเขาเลย เขาดันมาชิงเตะฉันออกไปอยู่ห้องอื่นเสียได้? แล้วนี่เขาเห็นฉันเป็นก้อนหินดินทรายรึยังไง? ยังมีหน้ามาเล่นหูเล่นตากับยัยเหมิงเซี่ยวหลินอีก!
กู้สวงส่วงทำได้เพียงแค่กัดฟันทน และพาตัวเองหันหลังเดินเข้าห้องเรียนห้องที่ 2 ด้วยความจำใจ
บรรยายสด 2 ชั่วโมงนี้ ไม่มีเนื้อหาใดใดสามารถทะลุเข้าหัวกู้สวงส่วงได้เลยสักประโยค เพราะเธอเอาแต่นึกถึงสิ่งที่อาจารย์หนุ่มคนนั้นกระทำกับเธออยู่ตลอด ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจ! เขาคิดว่าตัวเองมีสิทธิอะไร ถึงได้จับนักเรียนโยกย้ายไปโดยพละการแบบนี้ได้?
ฉันเหมาะจะได้อยู่ห้อง 1 ที่สุดแล้วย่ะ! ถ้าต้องมีคนถูกเขี่ยออกไป ก็ควรจะเป็นเขามากกว่า!
พอเสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้ง กู้สวงส่วงก็รีบวิ่งแจ้นกลับไปยังห้อง 1 ทันที เพื่อหวังจะเคลียร์กับอาจารย์จอมลามกให้รู้เรื่อง!
แต่เธอกลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่า กู้สวงส่วงจึงหันมองไปทางบันได ก่อนจะพบว่าเขากำลังเดินลงบันไดไปอย่างช้า ๆ โดยที่มือข้างหนึ่งของเขากำลังล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเท่ห์ ท่ามกลางนักศึกษาสาวที่ยืนออกันอยู่ตรงปากบันได
กู้สวงส่วงจึงรีบวิ่งตามเขาไปให้ทัน
–
ตัดภาพมาที่ถนนเส้นหลักในมหาวิทยาลัย ที่มีการปลูกต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยไว้ตลอดแนวสองข้างทาง
จังชิงเดินสับเท้าตามหลังเสิ่นมั่วเฉิงมาติด ๆ สลับกับหันไปมองคนข้างหลังอยู่เป็นระยะด้วย “ประธานเสิ่นครับ คุณผู้หญิงกำลังไล่ตามคุณมาแหนะ”
“ให้เธอตามมา เพราะตอนนี้ฉันกำลังแสร้งทำเป็นเมินเฉยใส่เธออยู่”
“…….” แต่ปกติคุณก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วหนิครับ……
“เล่นย้ายเธอไปอยู่ห้องอื่นแบบนั้น ท่านประธานไม่กลัวว่าเธอจะโกรธจนเมินเฉยใส่บ้างเหรอครับ?”
นัยน์ตาของเสิ่นมั่วเฉิงมืดครึ้มราวกับน้ำหมึก แล้วมุมปากของเขาก็ค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นด้วยความสะใจ “หึ ไล่ตามมาเองแบบนี้แล้วเนี่ย ยังดูเมินเฉยอยู่อีกรึเปล่าล่ะ?”
เสิ่นมั่วเฉิงรู้ดีว่าเธอตกใจกับเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นแค่ไหน และถ้าหากว่าเขาไม่รีบโยกย้ายเธอไปไว้ห้องอื่นเสียก่อน เขาก็กลัวว่าเธอจะเป็นฝ่ายหลบหน้าเขาเสียเอง
ดังนั้น คุณผู้อ่านคิดว่าเขายังมีวิธีไหนอีกบ้างล่ะ ที่จะทำให้เธอคนนี้ไม่หลบหน้า แถมยังวิ่งตามเขามาแบบนี้ได้อีก?
คำตอบก็คือ กลั่นแกล้งเธอต่อไป
จิตใจของกู้สวงส่วงเดือดดาลด้วยความโมโห!
แต่ด้วยความที่มีนักศึกษามากมายกำลังเดินขวักไขว่อยู่บนถนนเส้นนี้ด้วย กู้สวงส่วงจึงไม่อาจตามติดเสิ่นมั่วเฉิงจนออกนอกหน้าได้ เธอทำได้เพียงแค่เดินสับเท้าไว ๆ ต่อไป แต่ตานั่นกลับจงใจแกล้งเธออีกแล้ว! เพราะหลังจากที่เขาหันมาเห็นว่าเธอกำลังเดินตามเขามาอยู่นั้น ขาเรียวยาวของเขาก็เร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนระยะห่างระหว่างเธอกับเขานั้นเริ่มทิ้งห่างกันไกลหลายวา!
ชายร่างสูงสับเท้าเดินมาถึงรถเบนท์ลีย์ที่จอดรออยู่หน้าประตูมหาวิทยาลัย แล้วร่างผอมสูงของเขาก็ก้าวขึ้นบนรถทันที โดยไม่มีการเหลียวหลังกลับมามองกู้สวงส่วงเลยแม้แต่น้อย
กู้สวงส่วงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะเตะเข้าไปที่โคนต้นไม้แถว ๆ นั้นอย่างเต็มแรงด้วยความโมโห! ฮึ่ม น่าโมโหนัก!
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกกระทำมิดีมิร้ายจนผล็อยหลับ แถมเขาคนนั้นยังทำท่าทางเมินเฉยใส่เธออีก!
ตัดภาพมาที่เสิ่นมั่วเฉิง
นิ้วเรียวยาวของเขาปลดกระดุมเสื้อสองเม็ดแรกออกอย่างใจเย็น ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด แล้วดื่มด่ำกับกลิ่นมิ้นท์ที่ทลวงเข้าปอดด้วยท่าทางเกียจคร้าน แต่ยังคงเสน่ห์อันเย้ายวนชวนหลงใหลไว้อย่างเคย
จั่วเฮ่าเหยียบคันเร่งเบา ๆ เพื่อให้รถแล่นไปอย่างช้า ๆ เนิบ ๆ พลางเหลือบมองคนข้างหลังที่ตอนนี้ดูช่างสงบนิ่งไม่ไหวติงยังไงชอบกล
“จุ๊จุ๊จุ๊ คุณบอกจะเมินเฉยก็เมินเฉยใส่เธอจริง ๆ ประธานเสิ่นนี่ร้ายเหมือนกันนะครับเนี่ย! แต่ถ้ายั่วโมโหเธอไปแบบนั้น ชีวิตหลังจากนี้ของท่านประธานก็ต้องตกอยู่ในอันตรายด้วยน่ะสิครับ”
“ใครบอก?” เสิ่นมั่วเฉิงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหันกลับมาปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ราวกับว่าเขากำลังอ่านข่าวเศรษฐกิจโลกยังไงอย่างงั้น
–
กู้สวงส่วงโมโหจัดจนกินข้าวเที่ยงไม่ลง และพอเธอกลับมาถึงหอพัก เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันทีด้วยความอ่อนล้า
แต่ไม่นานนัก จ้าวเสี่ยวเอ๋อร์กับเพื่อนคนอื่น ๆ ก็กลับเข้ามาในหอพักด้วยเช่นกัน และพอพวกเธอเปิดประตูห้องเข้ามาปุ๊บ พวกเธอก็พากันมายืนล้อมรอบกู้สวงส่วงทันทีเป็นอันดับแรก “ส่วงเอ๋อ ยัยเหมิงเซี่ยวหลินมันบอกพวกเราว่า เธอถูกอาจารย์ไล่ออกจากห้อง 1 ไปแล้ว?” จ้าวเสี่ยวเอ๋อร์เอ่ยถามด้วยสีหน้าแตกตื่น
และใบหน้าของกู้สวงส่วงก็มืดครึ้มลงทันที เมื่อเธอนึกถึงคำพูดที่เกินจริงของเหมิงเซี่ยวหลิน
โจวเป้ยจึงตบไหล่เธอเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลยนะส่วงเอ๋อ ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่รึไง ว่าอย่าไปแหยมกับอาจารย์เขาน่ะ ดูท่าครั้งนี้เขาจะทนไม่ไหวแล้วละมั้ง”
“…….” คนที่ต้องทนไม่ไหวเนี่ย มันควรจะเป็นฉันมากกว่า!
ใครใครต่างก็หน้ามืดตามัวเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนของเขา! ตาบ้านั่นก็เหมือนกัน พอต่อหน้าคนอื่นแล้วทำตัวเป็นเทพบุตรรูปงาม แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เขาก็เป็นได้แค่โจรขโมยชุดชั้นในกระจอก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นแหละ!
“อาจารย์โจวที่รับผิดชอบวิชานี้ให้กับห้อง 2 จะมาสู้อาจารย์เสิ่นของเราได้ยังไง บรรยายการสอนทีนึงเนี่ย อย่างกับท่องหนังสือให้นักเรียนฟัง น่าเบื่อจะตาย! แล้ววิชาเลือกตัวนี้ก็สำคัญต่อการแข่งขันออกแบบในภาคเรียนหน้าด้วย เธอต้องระวังให้ดีเลยนะสวงส่วง” โจวเป้ยกล่าว
จ้าวเสี่ยวเอ๋อร์พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดเสริมอีกว่า “อ้อ อาจารย์เสิ่นบอกพวกเราด้วยนะ ว่าคะแนนสอบปลายภาคของเทอมนี้น่ะ เขาปล่อยฟรีเลย ขอแค่พวกเราส่งแบบร่างของงานออกแบบให้เขาก็พอ”
“อะไรนะ?!” กู้สวงส่วงดีดตัวขึ้นจากเตียงด้วยความโมโห
เขี่ยเธอออกจากห้อง 1ไม่พอ ยังจะปล่อยฟรีคะแนนสอบปลายภาคด้วยเหรอ! ถ้าไม่ได้จงใจแกล้งกัน แล้วมันจะเรียกว่าอะไรได้อีก?
แม่งเอ้ย อาจารย์โจวยิ่งชอบออกข้อสอบปลายภาคโหด ๆ เองด้วยอีก!
แค้นนัก! ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง แล้วยังมีหน้าถีบหัวส่งฉันไปอยู่ห้องอื่นแบบนี้อีก เตรียมรับมือกับหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้เลย!
–
หลังจากวันนั้น กู้สวงส่วงก็จะพุ่งไปหาเสิ่นมั่วเฉิงทุกครั้งหลังเลิกเรียนช่วงเที่ยง พร้อมกับคำด่าที่อัดอั้นอยู่เต็มปาก
แต่ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพุธ ห้องพักครูของเสิ่นมั่วเฉิงก็ปิดตายอยู่ตลอด นี่เขาสามารถเข้างานหรือเลิกงานได้ตามอำเภอใจขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
วันต่อมา กู้สวงส่วงจึงใช้เวลาช่วงพักเที่ยง 2 ชั่วโมงนั้นนั่งรถเมล์ไปหาเขาถึงบ้านทันทีด้วยความสุดทน!
ความโกรธแค้นที่ครุกรุ่นอยู่ในใจของเธอ ปะทุออกมาเป็นลมหายใจที่ร้อนรุ่มและยากจะอดกลั้น! "คิดว่าทำแบบนี้กับฉันแล้วจะสามารถหนีรอดไปได้ง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ? ฉันจะไปส่งคุณเข้านอนเดี๋ยวแหละ เด็กน้อย!"
ระหว่างที่กู้สวงส่วงนั่งอยู่บนรถเมล์นั้น ในใจของเธอก็คิดแผนการล่วงหน้าเอาไว้ด้วยว่า พอเธอได้เจอหน้าเขาปุ๊บ เธอจะดึงเข็มขัดของเขาออก และรีบใช้เข็มขัดเส้นนั้นมัดมือของเขาให้ติดอยู่กับเตียง จากนั้นเธอก็จะทำการเปลื้องผ้าของเขาออกให้หมด ก่อนจะขึ้นนั่งบนตัวเขา! และเขาจะได้ลิ้มรสของความทุกข์ทรมานอย่างที่เธอได้เจอในเช้าวันนั้น!
แต่พอรถเมล์แล่นมาถึงจุดหมาย ขาทั้งสองข้างของเธอกลับอ่อนแรงลงไปเสียดื้อ ๆ
เธอจึงพยายามก้าวเท้าเดินมาอย่างช้า ๆ จนถึงหน้าคฤหาสน์หมายเลข 1 แต่พอเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงขั้นบันไดหน้าคฤหาสน์เป็นอย่างแรก
และถ้าให้พูดตามความจริง กู้สวงส่วงเองก็ไม่ค่อยจะได้พบเจอกับผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยขนาดนี้บ่อยนัก
ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่กำลังสาดแสงจ้าลงมายังพื้นโลก ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ กายของเธอคนนั้นดูสงบเงียบจนน่าอัศจรรย์ ผมตรงยาวดำขลิบนั้นเข้ากับรูปหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี และชุดสูทสีขาวนวลดุจหิมะ ที่มาพร้อมกับกระโปรงสั้นรัดรูปสีเดียวกันนั้น ทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่พิถีพิถันในเรื่องการแต่งกายจนกู้สวงส่วงสัมผัสได้ตั้งแต่แรกเห็น แถมรองเท้าส้นเตี้ยที่เธอกำลังสวมใส่อยู่นั้น ยังดูเหมือนกับว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะอีกด้วย
ในขณะที่กู้สวงส่วงกำลังจ้องมองพี่สาวคนสวยอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่นั้น เธอคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองกู้สวงส่วงด้วยเช่นกัน เมื่อเธอเห็นว่ากู้สวงส่วงเดินเข้ามาในเขตของคฤหาสน์ เธอก็รีบพยักหน้าทักทายกู้สวงส่วงอย่างสุภาพทันที
“สวัสดีค่ะ” กู้สวงส่วงรีบเอ่ยทักทายเสียงหวาน
พลางคิดในใจว่า หรือเธอคนนี้จะเป็นแขกของเขา? พระเจ้า วัน ๆ ได้เจอแต่คนสวย ๆ งาม ๆ ชาติก่อนเขาทำบุญด้วยอะไรกันเนี่ย
แต่พอได้สติกลับมา กู้สวงส่วงก็รีบกระโดดไปทางหน้าต่างทันทีเพื่อตรวจเช็ค ก่อนจะพบว่าภายในห้องนั่งเล่นนั้นเงียบฉี่ไร้ผู้คน
ป้าหวังกับเสี่ยวซานก็ไม่อยู่เหรอเนี่ย?
แต่อย่างน้อยก็ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 1 ชั่วโมง เพราะงั้นรออีกหน่อยดีกว่า
และในระหว่างที่เธอทั้งคู่กำลังยืนรอเสิ่นมั่วเฉิงอยู่หน้าประตูคฤหาสน์นั้น กู้สวงส่วงเองก็แอบเหล่ตามองพี่สาวคนสวยด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยู่เป็นระยะ แต่พอโดนจับได้ว่ากำลังแอบมองอยู่ พี่สาวคนสวยก็ยังคงส่งยิ้มหวานกลับมาให้โดยไม่ติติงอะไรเธอสักคำ
จนกระทั่งพี่หวังกลับมาพร้อมกับรถเข็นช็อปปิ้งและเสี่ยวซานในช่วงบ่ายแก่ ๆ
และพอพี่หวังเห็นหน้ากู้สวงส่วง เธอก็ยิ้มทักทายทันทีด้วยสีหน้าที่ดูจะประหลาดใจอยู่เล็กน้อย “อ้าวสาวน้อย มาหานายท่านเหรอ?”
แต่ไม่ทันที่กู้สวงส่วงจะได้ขานรับ เสียงทักทายของพี่สาวคนสวยกลับดังแทรกจังหวะขึ้นมาเสียก่อน “พี่หวัง”
พอพี่หวังเห็นหน้าพี่สาวคนสวย แววตาของพี่หวังก็ดูแปลกไปในทันที แถมพี่หวังยังเพิกเฉยต่อคำทักทายของพี่สาวคนสวยอีกด้วย
ในขณะที่พี่หวังกับพี่สาวคนสวยกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่นั้น กู้สวงส่วงเองก็ยืนห่างจากพวกเธออยู่ไกลพอสมควร และกู้สวงส่วงก็สังเกตเห็นพี่หวังส่ายหน้าให้กับพี่สาวคนสวยอยู่หลายครั้ง ประหนึ่งว่าเธอกำลังปฏิเสธอะไรบางอย่าง จนพี่สาวคนสวยต้องยอมสงบลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วจากนั้นเธอก็หันกลับมาจ้องมองกู้สวงส่วงอยู่นานนับ 10 วินาทีด้วยสายตาที่ซับซ้อน ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
กู้สวงส่วงถูกจ้องมองด้วยสายตาแปลก ๆ ทั้งที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรกับเขาด้วย
ทางด้านพี่หวัง เธอถอนหายใจออกมาทันทีด้วยความโล่งอก ก่อนจะผลักรถเข็นเข้ามาหากู้สวงส่วงอย่างช้า ๆ แล้วพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “อยากช่วยป้าขนของเข้าบ้านมั้ยเอ่ย?”
MANGA DISCUSSION