หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 16
เมื่อเห็นเช่นนั้น ป้าโจวจึงรีบตรงเข้าไปหากู้สวงส่วง แล้วพูดโน้มน้าวเธอว่า “เวลาไม่เคยคอยใคร และโปรโมชั่นดี ๆ แบบนี้ก็มีแค่วันนี้วันเดียวด้วยนะคะ”
กู้สวงส่วงจึงกอดรัดชุดชั้นใน 3 ตัวนั้นไว้ในอ้อมอกอย่างหวงแหน “ฝีมือตัดเย็บดีขนาดนี้ ทางร้านจะให้ฟรีจริง ๆ เหรอคะ ดูแล้วมันเหมือนชุดชั้นในแบรนด์ดังเลยนะคะป้า แล้วไหนจะจี้เพชรที่ให้มากับชุดชั้นในอีก! ถ้าบอกว่าให้ฟรีเนี่ย มันจะต้องเป็นเพชรปลอมแหง ๆ !”
“……..” เพชรปลอมเหรอ……ถ้านายท่านมาได้ยินเข้า เขาจะรู้สึกยังไงนะ…….
ป้าโจวจึงก้มหน้าก้มตาเก็บกวาดห้องต่อไปเงียบ ๆ จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แล้วพบว่าจี้ที่ห้อยอยู่บนชุดชั้นในเมื่อครู่นี้ได้หายไปแล้ว!
“คุณผู้หญิง จี้นั่นหายไปไหนแล้วละคะ!”
“ฉันจะเอาเพชรปลอมนั่นไปทำอะไรได้ละคะป้า? แล้วฉันก็ไม่ชอบห้อยเครื่องประดับพะรุงพะรังแบบนั้นด้วย ฉันก็เลยเอามันออกน่ะค่ะ”
“คุณผู้หญิงเอามันไปไว้ที่ไหนแล้วคะเนี่ย?!”
“โยนออกนอกหน้าต่างไปแล้วค่ะ ทำไมเหรอ?”
“…….”
นั่นมันเพชรจริงเชียวนะ! มันคือเพชรจริงนะคะคุณผู้หญิง!!!
ป้าโจวจึงรีบวิ่งลงไปดูที่สวนหลังบ้านด้วยความแตกตื่น ในใจก็คิดไปด้วยว่า การที่เธอต้องเจอกับนายหญิงที่ทั้งน่ารักและเซ่อซ่าแบบนี้ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ……
ป้าโจวพยายามตามหาจี้เพชรเส้นนั้นอยู่นานตลอดช่วงเช้า แต่ก็ไม่พบวี่แววของมันเลย ป้าโจวจึงตัดสินใจต่อสายหานายท่าน ทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองนั้นหวาดกลัวจนตัวสั่น
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในระหว่างที่เสิ่นมั่วเฉิงกำลังอยู่ในที่ประชุม แต่พอเขาเหลือบไปเห็นชื่อของบุคคลปลายสาย เขาก็รีบลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปกดรับสายสายนั้นทันที
ป้าโจวกล่าวขอโทษเจ้านายด้วยความรู้สึกผิดจากใจจริง แต่เธอกลับได้รับเพียงเสียงหายใจเข้าออกที่เรียบนิ่งของเขาตอบกลับมา เสิ่นมั่วเฉิงนิ่งเงียบอยู่นาน จนสุดท้ายเขายอมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบว่า “ผมอยากได้ภาพถ่ายตอนที่เธอสวมชุดทั้งสามชุดนั้น ขอแบบคมชัดเลยนะ”
คำตอบนั้นทำให้ป้าโจวถึงกับหน้าแดงขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว “คุณผู้หญิงเธอยังเด็ก ถ้าให้เธอถ่ายรูปแบบนั้น ป้าเกรงว่าเธอจะรู้สึกแปลก ๆ เอานะคะ”
“แต่ดูเหมือนว่าเมื่อกี้ป้าจะทำเพชรเม็ดงามนั่นหายไปนะครับ ใช่มั้ย? หรือป้าอยากจะคุยเรื่องค่าเสียหายเกี่ยวกับเรื่องนั้นแทน…..”
“ป้าจะรีบไปถ่ายรูปคุณผู้หญิงให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”
หลังจากที่เสิ่นมั่วเฉิงวางสายจากป้าโจวไปปุ๊บ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็หรี่ลงทันที แล้วมือข้างหนึ่งของเขาก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด
ถ้าเขาส่งชุดชั้นในไปให้แบบโต้ง ๆ เธอก็ไม่กล้าใส่อยู่ดี แต่พอเขาส่งจี้เพชรไปให้ เธอกลับนึกว่ามันเป็นเพชรปลอม แล้วก็โยนมันทิ้งไปง่าย ๆ อย่างนี้เลยเนี่ยนะยัยบื้อ? แต่ก็เอาเถอะ แค่นี้ขนหน้าแข้งสามีเธอคงไม่ร่วงหรอก
พอเสิ่นมั่วเฉิงกลับเข้าที่ประชุม หัวหน้าแผนกที่นั่งเรียงรายกันอยู่ในห้องต่างก็สังเกตเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีของผู้บริหารหนุ่มหล่อได้ในทันที!
จนกระทั่งการประชุมสิ้นสุดลง จังชิงจึงอดถามไม่ได้ว่า “มีเรื่องไม่สบายใจเหรอครับประธานเสิ่น? นี่ก็เลิกงานแล้วด้วย ทำไมยังนั่งอยู่ตรงนี้ละครับ?”
นิ้วเรียวยาวของเสิ่นมั่วเฉิงเลื่อนล็อคหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะตอบกลับเลขาคนสนิทด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ยังอะ ฉันรอให้เมียส่งจุ้บมาก่อน ฉันถึงจะกลับได้”
“……….”
เสิ่นมั่วเฉิงแสดงออกถึงความร้ายกาจผ่านใบหน้าอันหล่อเหลา……ในใจก็คิดอยู่แค่ว่า เขาจะกลั่นแกล้งภรรยาของเขาต่อไปยังไงดี!
ตัดภาพมาที่กู้สวงส่วง
“ป้าโจวบอกเองไม่ใช่เหรอคะ ว่าให้ฟรี?” กู้สวงส่วงยังคงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ป้าโจวมองหน้ากระต่ายน้อยของเธอด้วยความจนปัญญา แถมยังมีภารกิจหนักจากนายท่านอีก จะทำยังไงดีนะ?
“ใช่ค่ะ แต่ทางร้านยังต้องการรูปตัวอย่างชุดทั้ง 3 ชุดนี้อีก มันเป็นธรรมเนียมปกติค่ะ คุณผู้หญิงแค่ใส่ชุดที่เตรียมไว้ให้นี้ แล้วก็ถ่ายภาพตัวอย่างให้เขาสัก 2-3 ภาพ ถ้าทางร้านโอเค เขาก็อาจจะส่งมาให้อีกก็ได้นะคะ!”
“นี่พวกเขายังส่งมาให้ฟรี ๆ อีกเหรอคะเนี่ย?!” ดวงตาคู่สวยของเธอเปล่งประกายขึ้นมาในทันตา
เจ้าของฟรี! แกไม่รู้หรอก ว่าแกมีอิทธิพลกับฉันมากแค่ไหน! ถ้าหากว่าฉันถ่ายรูปตัวอย่างให้กับทางร้าน แล้วเผลอ ๆ เขาเกิดถูกใจจนต้องส่งชุดชั้นในมาให้ฉันเพิ่มอีก 3 ตัวละก็ รวม ๆ แล้วฉันก็จะได้ชุดชั้นในฟรีถึง 6 ตัวเลยนะเนี่ย เพราะฉะนั้น 2 ปีนี้ฉันก็ประหยัดค่าชุดชั้นในไปได้เยอะเลยน่ะสิ!
“…….ก็ได้ค่ะ ถือว่าฉันเป็นแบบให้กับทางร้านไปเลยก็แล้วกัน”
ป้าโจวก้มมองคำสั่งท่าทางที่ต้องใช้บรีฟให้กู้สวงส่วงใช้โพสต์ท่า พลางตอบกลับกู้สวงส่วงมาด้วยว่า “ต้องออกมาดีแน่นอนค่ะ ทรวดทรงของคุณผู้หญิงออกจะเป๊ะปังซะขนาดนี้”
“แต่ห้ามถ่ายติดหน้าฉันเด็ดขาดเลยนะป้าโจว!”
“ได้สิคะ” ป้าโจวรับปากไปแบบส่ง ๆ ทั้งที่เธอต้องถ่ายให้ติดหน้าของกู้สวงส่วงให้ได้ทุกรูปตามคำสั่งของนายท่านอยู่ดี ป้าต้องขอโทษจริง ๆ นะคะคุณผู้หญิง!
–
ณ คฤหาสน์หมายเลข 1
ชายในชุดลำลองสบาย ๆ นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆในมือ 1 ใบ โดยมีเจ้าเหมียวเสี่ยวซานนั่งอยู่บนตักและยกแขนขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตา สลับกับเลียอุ้งเท้าอยู่นานสองนาน
เสิ่นมั่วเฉิงขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะใช้มืออีกข้างขยี้หัวแมวน้อยเบา ๆ “ทำไมหมู่นี้เจ้าถึงได้รักสวยรักงามจังนะ? มีแฟนรึไง? พี่หวังบอกพ่อว่าช่วงนี้เจ้าชอบแวะไปหาเจ้าอ้วนที่ข้างบ้านน่ะ จริงรึเปล่าห้ะ?”
เสี่ยวซานขานรับ “เมี๊ยวว!” ในใจก็คิดไปด้วยว่า แม้แต่ตัวพ่อเองยังจีบหญิงไม่ติด แล้วหนูจะไปมีปัญญาอะไร?!
แล้วจู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเสิ่นมั่วเฉิงก็มีเสียงแจ้งเตือนอีเมลใหม่ดังแทรกขึ้น ปลายนิ้วเรียวเลื่อนปลดล็อคหน้าจอ ก่อนจะเลื่อนนิ้วเปิดดูไฟล์แนบที่เพิ่งส่งเข้ามาใหม่ต่อทันที แล้วริมฝีปากบางของเขาก็ยกยิ้มขึ้นเองอัตโนมัติ
เสี่ยวซานทำหน้างงใส่เสิ่นมั่วเฉิง ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันทีอย่างไม่แยแส
“ภาพนี้ไม่เหมาะกับเด็ก ๆ นะเสี่ยวซาน” ฝ่ามือหนาใหญ่ของเสิ่นมั่วเฉิงบดบังการมองเห็นของแมวน้อย ก่อนจะหันกลับมาจ้องมองภาพถ่ายเหล่านั้นอย่างตั้งใจ
ภาพถ่ายดังกล่าว มีทั้งท่านอนตะแคง ท่าคุกเข่าและท่าแอบอิงอยู่ในมุมม่านหน้าต่าง โดยที่บุคคลในภาพนั้นสวมใส่ชุดชั้นในที่เขาตั้งใจจัดเตรียมไว้ให้ เสิ่นมั่วเฉิงสัมผัสได้ถึงความไร้เดียงสาที่แผ่ซ่านผ่านดวงตาคู่สวย และท่าทางกัดริมฝีปากล่างนั้นก็แสดงออกถึงความขวยเขินปนเซ็กซี่ได้อย่างชัดเจน เขาใช้ปลายนิ้วเลื่อนดูภาพถ่ายไปทีละภาพอย่างตั้งใจ จนมาถึงภาพสุดท้าย ซึ่งเป็นภาพที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ยิ่งกว่าภาพภ่ายก่อนหน้า……
นัยน์ตาของเสิ่นมั่วเฉิงมืดครึ้มลงทันที แล้วจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นพรวด จนเสี่ยวซานที่กำลังจิบนมในแก้วนั้นสะดุ้งโหยงไปเลยทีเดียว
“เดี๋ยวค่อยกินต่อนะ พ่อขอตัวเข้าไปงีบในห้องสักครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวพอมา ซียูนะ”
เมี๊ยววว รอหนูกินให้เสร็จก่อนไม่ได้รึไง! หนูอุตส่าห์ล้างหน้าล้างตาจนสะอาดแล้วนะพ่อ เมี๊ยวว……..
–
กู้สวงส่วงกลับมาถึงหอพักในคืนวันอาทิตย์ด้วยสภาพอิดโรย
แล้วพรุ่งนี้เธอก็ยังต้องไปเข้าเรียนในวิชาของตาบ้านั่นอีกด้วย…..
การต้องพบเจอกับเขาในเช้าวันพรุ่งนี้ ทำให้กู้สวงส่วงถึงกับหลับไม่ลงไปเลยทีเดียว
และต่อให้เวลาในค่ำคืนนี้หยุดหมุน แต่พรุ่งนี้เช้าเธอก็ยังต้องเจอหน้าเขาอยู่ดีี
จ้าวเสี่ยวเอ๋อร์กับเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างพากันตะโกนเรียกอาจารย์หนุ่มด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่กู้สวงส่วงนั้นเดินตามหลังพวกเพื่อน ๆ ไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเสียงระฆังดังขึ้น เธอก็ยังคงเอ้อระเหยไม่ถึงห้องเรียนสักที
กู้สวงส่วงเดินผ่านหน้าต่างบานใหญ่ของห้องเรียน แต่เธอก็ไม่กล้าจะเหลือบมองเข้าไปในห้องแม้แต่หางตา เพราะในหัวของเธอมันยังฉายภาพเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นขึ้นมาอยู่ซ้ำ ๆ จนเธอไม่สามารถควบคุมมันได้ ร่องรอยการถูกสัมผัสและถูกจุมพิต โดยเฉพาะจุดจุดนั้น…….ภาพบาดตาในเช้าวันนั้นถาโถมเข้ามาจนทำให้เธอรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก
และแล้วเสียงระฆังก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่กู้สวงส่วงก็ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้าห้อง เพราะเธอไม่อยากจะเข้าไปเจอหน้าเขาคนนั้นจริง ๆ แต่ถ้าหากว่าเธอไม่ยอมเข้าเรียน เธอก็จะโดนเช็คขาดไปอีกน่ะสิ
แล้วทันใดนั้น เงาของใครคนหนึ่งก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามายังหน้าประตูห้องอย่างช้า ๆ
กู้สวงส่วงหลับตาปี๋ด้วยความตกใจกลัว และเธอก็ไม่กล้าจะเปิดตาดูเลยสักนิด เพราะเธอไม่อยากจะเจอหน้าเขาคนนั้นจริง ๆ !
แต่คนที่ผลักประตูออกมากลับไม่ใช่เขา เธอคือเหมิงเซี่ยวหลิน ดอกไม้งามแห่งคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่กู้สวงส่วงเกลียดขี้หน้ามากที่สุด
เพราะครั้งหนึ่งกู้สวงส่วงเคยโดนแฟนหนุ่มของเหมิงเซี่ยวหลินตามรังควาน โดยที่เหมิงเซี่ยวหลินเข้าใจผิดมาตลอดว่า กู้สวงส่วงเองนี่แหละ ที่เป็นฝ่ายไล่ตามแฟนหนุ่มของเธอ! ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเธอทั้งสองมีความโกรธเกลียดและความแค้นต่อกัน แถมพวกเธอยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันอีกต่างหาก และตลอดเวลาที่ผ่านมา เหมิงเซี่ยวหลินก็มักจะรอโอกาสเล่นงานกู้สวงส่วงอยู่บ่อย ๆ โดยที่กู้สวงส่วงเองนั้นไม่เคยคิดที่จะแยแสผู้หญิงคนนี้เลยสักนิด และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ เหมิงเซี่ยวหลินก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกตอแยกับกู้สวงส่วงเลยจริง ๆ มันจึงเป็นเหตุให้ความแค้นระหว่างเธอทั้งคู่นั้นเพิ่มทวีคูณขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“หมาน้อย อย่าขวางทางสิจ้ะ” กู้สวงส่วงเอ่ยด้วยความเอือมระอา
แต่เหมิงเซี่ยวหลินยังคงยืนขวางต่อไปอย่างได้ใจ “อาจารย์สุดหล่อให้ฉันมาบอกเธอว่า เธอโดนย้ายไปอยู่ห้อง 2 แล้ว เพราะฉะนั้นต่อจากนี้เธอไม่มีสิทธิเข้ามาเรียนที่ห้อง 1 ของเราได้อีก! ฮึ่ม คิดว่าการที่เธอเคยทำตัวเป็นเด็กดีต่อหน้าอาจารย์เนี่ย มันจะทำให้เธอได้ใจเขาไปง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ? แต่ไหน ๆ เธอก็โดนเด้งไปอยู่ห้องอื่นแบบนี้แล้ว ฉันหวังว่าเธอจะฉลาดขึ้นมาบ้างนะ!”
“อะไรนะ?” กู้สวงส่วงตกตะลึงกับสิ่งที่เหมิงเซี่ยวหลินกล่าว
และเนื่องด้วยวิชาเลือกตัวนี้มีนักศึกษาลงเรียนเป็นจำนวนมาก ทางมหาวิทยาลัยจึงต้องขยายห้องเรียนเพิ่มขึ้นอีกห้อง ซึ่งอาจารย์ที่จะเข้ามารับผิดชอบวิชานี้ก็ต้องเพิ่มกำลังเข้ามาด้วยอีกเหมือนกัน
สีหน้าของกู้สวงส่วงเริ่มแปรเปลี่ยนไปทันทีด้วยความโมโหจัด และเธอก็ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมจู่ ๆ อาจารย์ถึงจับเธอโยกย้ายไปห้องอื่นแบบนี้โดยพละการได้?
เธอมองผ่านกระจกหน้าต่างห้องเรียนไปยังอาจารย์หนุ่มในชุดสูทสีดำเข้ารูป ที่ตอนนี้กำลังยืนอกผายไหล่ผึ่งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะหน้าชั้นเรียน แถมยังหันไปส่งยิ้มให้กับเหมิงเซี่ยวหลินที่กำลังตั้งใจลบกระดานหน้าชั้นเรียนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนอีกด้วย
แล้วเสียงโห่เสียงเชียร์ของเพื่อน ๆ ในห้องก็ดังสนั่นจนเหมิงเซี่ยวหลินหน้าแดงด้วยความเขินอาย
กู้สวงส่วงยืนจ้องมองอาจารย์หนุ่มตาเขม็ง! จนกระทั่งเขาเริ่มบรรยายเนื้อหาในชั้นเรียนด้วยท่าทางที่สง่างามราวกับเทพบุตรมาจุติ แถมยังแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นกู้สวงส่วงที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าต่างห้องเรียน ราวกับว่าเธอเป็นอากาศธาตุสำหรับเขายังไงอย่างงั้น!
กู้สวงส่วงจึงยืนจ้องเสิ่นมั่วเฉิงต่อไปอย่างนั้น จนดวงตาทั้งสองข้างของเธอเริ่มแดงก่ำ