หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 14
ก่อนจะตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้ความรู้ของเธอที่มีต่อเขามันช่างตื้นเขินยิ่งนัก !
เขาบรรยายในชั้นเรียนอย่างสุขุม คนมีความรู้ มักจะเป็นคนหน้าตาเย็นชา นัยน์ตาลึกลับซับซ้อนที่เด็กสาวในวัยเดียวกันไม่เข้าใจ ซ่อนอดีตและเผยความผันผวนของประสบการณ์เป็นครั้งคราว ออร่าของเขาดูสูงส่งและน่าสนใจ ดูไม่ออกเลยว่าเขาเป็นบาร์โฮส แต่ในวันนี้เขาเปลี่ยนเป็นสิงโตที่บ้าคลั่ง เป็นสัตว์ประหลาดที่อันตรายและน่ากลัว!
ไม่รู้ว่าแช่ไปนานไหร่ กู้สวงส่วงถึงปิดน้ำลงอย่างมึนงง
โทรศัพท์ที่อยู่ข้างนอกดังขึ้นหลายครั้ง เธอรู้ว่าเป็นเสี่ยวซวงโทรมา วันนี้วันเสาร์ เธอตกลงว่าจะทำงานด้วยกัน
ได้รับความหวาดกลัวอย่างแรงเพียงใด ชีวิตโหดร้ายก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เธอไม่มีเงิน จะต้องทำงานหาเงิน
-
กู้สวงส่วงมาถึงช้าไปหน่อย เลยถูกผู้จัดการร้านด่าไปชุดหนึ่ง
เสี่ยวซวงเดินมาพร้อมกับถาด เมื่อเห็นรอบดวงตาของเธอแดง ลูกค้าเยอะ เสี่ยวซวงจึงไม่ถาม แต่ให้เธอไปทำงานเบาๆในห้องครัวแทน
ยุ่งจนถึงสี่โมงเย็น เมื่อกู้สวงส่วงจัดจานและโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวซวงก็เข้ามาจับมือเธอแล้วถอนหายใจ “โดนกู้จื่ออี้ทำร้ายมาอีกแล้วเหรอ”
กู้สวงส่วงส่ายศีรษะ ใบหน้าของเธอซีดเซียว
เสี่ยวซวงลากเธอไปที่ห้องน้ำ ก่อนจะถามซ้ำๆ เธอถึงลังเลที่จะพูด
“ผู้ชายในสังคมนี้ล้วนเป็นแต่พวกวิปริตใช่ไหม ฉันไม่เข้าใจเลย เขาเป็นผู้ชายขายตัว ไม่เบื่อเรื่องพวกนั้นบ้างหรอ ถึงจะไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ แต่เขาก็จูบฉันไปทั้งตัว รวมถึง….ตรงนั้น แล้วเขาก็อยู่บนตัวฉันด้วย….”
เธอพูดไม่ออกแล้วจริงๆ……
“บาร์โฮสก็มีชีวิตส่วนตัวนะ ”เสี่ยวซวงก็ไม่ค่อยเข้าใจ จึงวิเคราะห์แบบนี้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เสี่ยวซวงก็หน้าแดงและพูดกระซิบว่า “สวงส่วงเธออย่าตกใจไปนะ อันที่จริง…….เจียงโจวก็เคยทำแบบนี้กับฉันด้วย ไม่แปลกที่คู่รักจะเป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่ฉันแปลกใจก็คือ เธอกับผู้ชายคนนี้ถือว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน เขาไม่จำเป็นต้องหวงแหนเธอ ในเมื่อไม่เขาไม่แสดงอะไรจริงๆออกมา มันก็เป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ”
ตอนกู้สวงส่วงได้ยินประโยคเริ่มแรกของเธอ ในใจของเธอก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย มันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียว สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ เจียงโจวและเสี่ยวซวงก็ทำเรื่องแปลกนี้เช่นเดียวกับเธอ
ส่วนประโยคครึ่งหลังนั้น เธอไม่ได้คิดลึก ใครจะรู้ว่าไอ้บ้านั่นกำลังหาความตื่นเต้นหรือเปลี่ยนกลอุบายอะไรทำนองนั้น
สรุปก็คือ เธอไม่อยากเจอเขาอีกต่อไปแล้ว!
แต่อย่างไรก็ตาม วันจันทร์หน้าก็คือคาบเรียนของเขา……….
ห้าโมงครึ่ง ทั้งสองคนก็รับค่าจ้างแล้วเลิกงาน
ร้านกาแฟตั้งอยู่ใจกลางเมือง ล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า เมื่อผ่านร้านชุดชั้นใน เสี่ยวซวงก็เรียกเธอ “ฉันมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทำงานอยู่ที่นี่ บอกว่ามีไซส์ E อยากจะเข้าไปดูไหม”
กู้สวงส่วงใจเต้น ไซส์ E หาซื้อได้ยากมาก ร้านปกติไม่มีขาย เธอไม่สามารถเปลี่ยนของแพงๆได้บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงซื้อมาทั้งหมดสามตัว
ตัวนี้ในวันนี้ กู้สวงส่วงเห็นเขาสัมผัสมัน อีกทั้งยังดมอีก วิปริตเกินไปแล้ว!ถึงแม้จะเสียดาย แต่ยังไงเธอก็จะโยนมันทิ้ง!
การตกแต่งร้านนี้ดูแพง เงินติดตัวบวกกับที่ทำงานมาในวันนี้รวมเป็นสามร้อยหยวน จะพอซื้อได้ไหมนะ
ขณะที่ลังเล เธอก็ถูกเสี่ยวซวงดันเข้าไป กู้สวงส่วงถามไซส์ไป พนักงานเคาน์เตอร์บอกว่ามี แล้วหยิบออกมาให้ดู กู้สวงส่วงดูป้ายราคา แม่เจ้า 750!
ในขณะที่กำลังจะต่อราคา ที่หน้าประตูก็มีเสียงส้นสูงและเสียงที่เย็นชาของผู้หญิงพูดขึ้นว่า “ร้านของพวกคุณนี่มันเป็นยังไงทำไมถึงลดต่ำลงเรื่อยๆ จนใครๆก็สามารถเข้ามาได้”
เมื่อผู้จัดการร้านเห็นคนมา เขาก็รีบก้าวไปข้างหน้า “คุณหนูกู้ คุณไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว!”
กู้สวงส่วงหลับตา วันนี้ออกบ้านไม่ได้ดูดวง
หญิงสาวที่มีใบหน้าคมกริบและผมลอนยาวสวยเดินเข้ามา และหยุดอยู่ที่หน้าของกู้สวงส่วง แล้วเหลือบมองชุดชั้นในในมือเธอ และหัวเราะออกมาว่า “750 หยวนก็ซื้อไม่ไหว โอ้ ลืมไป สามีคนที่สองของเธอไม่เคยมาปรากฏตัวและให้เงินเธอเลยแม้แต่หยวนเดียว เป็นม่ายมาสองปี น่าเสียดายจริงๆ”
เมื่อเสี่ยวซวงขยับ สายตาของกู้สวงส่วงก็เลือนลางและจับเธอไว้ พร้อมวางชุดชั้นในลง “ไปกันเถอะ”
กู้จื่ออี้ขวางทางไว้ ริมฝีปากแดงที่มีเสน่ห์พูด “รู้ไหมว่าเฮ่าเซวียนชอบให้ฉันใส่ชุดชั้นในราคาเท่าไหร่ สองสามหมื่นหยวน เขาบอกว่ามันให้ความรู้สึกสบายเหมือนกับผิวของฉัน”
ร้านมีขนาดใหญ่มาก กู้สวงส่วงดึงเสี่ยวซวงอย่างแรง และเดินอ้อมออกไปอีกทาง
หลังจากก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็มีของมากระแทกที่ข้างหลัง กู้สวงส่วงก้มศีรษะลงมองชุดชั้นในใหม่ที่กระจัดกระจายบนพื้น
ผู้คนที่เดินไปเดินมารีบเดินล้อมเข้ามาดูอย่างตื่นเต้น
กู้จื่ออี้เดินเข้ามา และใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบไปที่ตัวสีขาว จนมันเป็นรอยเท้า และค่อยๆโยนลงบนศีรษะของเธอ “ก็แค่รอยรองเท้าแค่นั้น เมื่อก่อนตอนเด็กเธอยังกินข้าวที่ฉันถ่มน้ำลายใส่ได้เลย ตัวนี้ 2600 หยวนเลยนะ สวมใส่ดีๆล่ะ อย่าให้แม่จิ้งจอกที่อยู่บนสวรรค์ของเธอมาพูดได้ว่าตระกูลกู้ของพวกเราดูแลเธอไม่ดี!”
ก่อนที่เสี่ยวซวงจะพับแขนเสื้อขึ้น กู้สวงส่วงก็ก้าวไปข้างหน้าและตบเธอแล้ว! วันนี้เธออารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และการพูดถึงแม่เธอก็เป็นตัวกระตุ้นอย่างดี
กู้จื่ออี้ตกตะลึง แต่ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอตบกลับไปอย่างแรงสองครั้ง กู้สวงส่วงไม่หลบและพร้อมที่จะสู้
ทันใดนั้นทั้งสามคนก็ตบตีกัน
-
ในตอนเย็น อาคารบริษัทเซิ่งซื่อยังคงสว่างไสว ภายในห้องประชุม พวกผู้บริหารระดับสูงไม่มีใครกล้ามองสีหน้าที่เคร่งขรึมของประธานใหญ่ที่เป็นแบบนี้มาหนึ่งวันแล้ว
มีรอยขีดข่วนลางๆอยู่บนคอของประธานใหญ่ ราวกับเพิ่งมีชีวิตรักที่สดชื่นมา แต่สีหน้าของประธานใหญ่กลับเย็นชา ทำให้บรรยากาศราวกับถูกแช่แข็ง
ประตูห้องประชุมเปิดออก จังชิงรีบเดินไปยังที่นั่งหลักอย่างรวดเร็ว “ประธานเสิ่น คุณผู้หญิงเธอ……….”
หลังจากนั้นทุกคนก็ไม่ได้ยินอะไร เห็นแต่เพียงประธานใหญ่ของพวกเขามีสีหน้าเย็นชาทั้งวัน และในที่สุดสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ชายหนุ่มลุกขึ้น มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วก้าวขายาวออกจากห้องประชุมไป
จังชิงเดินตามและพูดอธิบายว่า “ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายอยู่ที่สถานีตำรวจ เป็นคุณหนูใหญ่กู้โยนชุดชั้นในยั่วยุคุณผู้หญิงก่อน”
ชายหนุ่มยังคงเดินต่อไป ริมฝีปากของเขาขยับ “คุณหนูใหญ่กู้ นังโสเภณีคนนั้น”
จังชิงหยุดชะงักเป็นเวลาห้าวินาที และพึมพำ “ประธานเสิ่นก็รู้จักโสเภณีนี้ด้วย !”
“ฉันยังรู้เกี่ยวกับการเลิกจ้างด้วย ”
“………”
“ยังอยู่ที่นี่อีก ไปขับรถ คุณผู้หญิงอยู่ที่สถานีตำรวจนานเธอจะรู้สึกกลัวได้ !และติดต่ออธิบดีจางด้วย บอกว่าอีกยี่สิบนาทีฉันจะไปถึง”
ห้องสอบปากคำตำรวจ
กู้จื่ออี้เดินเข้ามารายงานชื่อของกู้ไห่ ผ่านไปครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยกชาร้อนมาให้ “คุณหนูกู้ ใจเย็นลงก่อนนะ”
“คุณตำรวจ เพื่อนของฉันเลือดออกแล้ว และถามไปสามครั้งแล้วนะว่ามีกระดาษทิชชูไหม ” เสี่ยวซวงโกรธจัด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจ้องเขม็ง “พูดอะไรไร้สาระเยอะแยะ กล้าตบตีแล้วยังจะกลัวเลือดออกอีก จดบันทึกไป!”
กู้สวงส่วงดึงแขนเสื้อขึ้นเพื่อเปิดบาดแผลที่คอที่โดนรองเท้าส้นสูงของกู้จื่ออี้ “ไม่ร้ายแรง เสี่ยวซวงเธอนั่งลง”
มีหลายที่ที่กู้จื่ออี้ทำร้ายเธอ ในเวลานั้นมันเปรียบเหมือนกับแม่ไก่ที่ต่อสู้แย่งชิงชัยชนะ “เขียนดีๆนะ ทนายของฉันจะมาถึงแล้ว ทั้งสองคนตบตีฉันเรื่องนี้มันไม่จบแน่ !”
“เธอมันสารเลว พูดจาไร้สาระ!คุณตำรวจ เธอดูถูกเพื่อนของฉันก่อน……….”
“อย่าส่งเสียงดัง” ตำรวจตะโกน และหันศีรษะไปอีกทางด้วยท่าทางอีกแบบ “คุณหนูกู้ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราจะจัดการให้”
เสี่ยวซวงโกรธจนตาแดงก่ำ
กู้สวงส่วงดึงเธอลงมานั่งด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว เธอกลัวจนหัวใจด้านชา เธอคือคุณหนูรองกู้ แต่สถานะของเธอก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัข มีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่ไม่มีพ่อผู้ห่วงใย เจียงหรงรังแก จนสามารถเขียนประวัติศาสตร์แม่เลี้ยงออกมาได้เลย ตอนนี้เธอทำร้ายกู้จื่ออี้ ถึงจะเป็นการทะเลาะกันเอง แต่กู้สวงส่วงก็รู้สึกว่าคุกนี้เธอต้องได้เข้าไปแน่เก้าสิบเปอร์เซ็น