หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 253 ทำได้แค่ยอมรับ! / ตอนที่ 254 คนน้อยทำงานง่าย
ตอนที่ 253 ทำได้แค่ยอมรับ!
เที่ยวบินรอบสิบโมงเช้า
ตอนนี้สิบโมงครึ่งแล้ว อย่าว่าแต่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีเป็นคนรักษาเวลาเลย ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เดินทางมาเจรจาไกลถึงจนาดนี้ ยังถูกทิ้งให้รออยู่ที่สนามบินตั้งครึ่งชั่วโมง ก็ต้องโมโหกันทั้งนั้นแหละ!
“คุณว่าอะไรนะคะ เที่ยวบินรอบสิบโมง” เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินเธอพูดแล้ว นัยน์ตาพลันหดตัว สายตาก็แหลมคมขึ้น
ตอนที่หวางเมี่ยวเมี่ยวบอกเธอก่อนหน้านี้ ก็บอกไว้ว่าสิบเอ็ดโมงเช้าอย่างชัดเจน!
เธอพาลูกทีมมาตามเวลาที่หวางเมี่ยวเมี่ยวบอกไว้ แต่ตอนนี้กลับพบว่า เที่ยวบินของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีและทีมมาถึงเร็วกว่าเวลาที่เธอได้ยินถึงหนึ่งชั่วโมง
พวกเธอเพิ่งจะมาถึงตอนนี้ แล้วจะต้อนรับใครล่ะ!
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งอยากพูดอะไรบางอย่าง ก็มีเพื่อนร่วมงานในทีมต้อนรับรับสายโทรศัพท์
อีกฝ่ายไม่ได้เปิดลำโพง แต่เสียงโกธเป็นฟืนเป็นไฟจากปลายสาย ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ได้ยินทั้งหมด แม้ไม่ต้องเปิดลำโพง
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เรื่องง่ายๆ อย่างรับคน พวกเธอก็ทำเสียเรื่องเหรอ”
“เที่ยวบินสิบโมง แต่พวกเธอเพิ่งไปถึงตอนสิบโมงครึ่ง หรือต้องให้ฉันให้พวกเธอหยุดงานยาวๆ ให้พวกเธอกลับไปนอนหลับสบายสักตื่นค่อยมารับคนเหรอ เหนียนเสี่ยวมู่ทำงานยังไงเนี่ย งานเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำไม่ได้!”
“ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ทีมของพวกเขาปฏิเสธที่จะร่วมงานกับพวกเราแล้ว และจับกลับอิตาลีพรุ่งนี้เลย ถ้างานนี้พังเพราะน้ำมือของพวกเธอ พวกเธอก็เตรียมใบลาออกให้ดีก่อนค่อยกลับมา!”
เหวินหย่าไต้อยู่ในสาย เธอโมโหตะตะคอกรวดเดียวจบ และวางสายไปในทันที
ไม่ให้โอกาสพวกเธออธิบายเลยด้วยซ้ำ
เพื่อนร่วมงานกลุ่มย่อยที่มารับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีต่างมองหน้ากัน และมองไปยังเหนียนเสี่ยวมู่
ตอนนี้คนที่รับผิดชอบงานของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ก็คือเธอ
เธอจำเวลาต้อนรับผิดไป ทำให้ทุกคนต้องมารับผิดไปกับเธอด้วย
“…”
เหนียนเสี่ยวมู่รู้ว่าตอนนี้ตนเองพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
ตอนที่หวางเมี่ยวเมี่ยวมาบอก เธอไม่ได้เตรียมตัวอะไรโดยสิ้นเชิง ยิ่งไม่มีทางคิดถึงเรื่องอัดเสียง
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะบอกเพื่อนร่วมงานคนอื่น ว่าตอนนั้นหวางเมี่ยวเมี่ยวบอกเวลาไว้ว่าสิบเอ็ดโมง ก็คงไม่มีใครเชื่อ
กลับจะถูกทุกคนคิดว่าเธออยากจะผลักความรับผิดชอบ ไปให้ล่ามคนหนึ่ง
ที่เธอทำได้ในตอนนี้ ก็คือกอบกู้งานร่วมมือนี้กลับมา
ขอเพียงมิสเตอร์ลอมบาร์ดียอมร่วมงานกับพวกเขาต่อไป เธอก็จะมีโอกาสอธิบายให้ชัดเจน!
“โรงแรมที่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีกับทีมพักอยู่ที่ไหนคะ” เหนียนเสี่ยวมู่หันหน้าไปมองล่ามหวางเมี่ยวเมี่ยว และถามออกไปตรงๆ
หวางเมี่ยวเมี่ยวคิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่แก้ตัว ไม่สงสัยตนเอง และคิดจะกอบกู้งานกลับมาในทันที
ล่ามสาวตะลึงลานไปหลายวินาที ถึงจะยกมือขึ้นมาทัดปอยผมไว้ที่ปรกข้างแก้มไว้หลังหู
ขณะที่เงยหน้าขึ้น มุมปากของเธอยกยิ้มเยาะเย้ยอยู่
ก่อนจะเอ่ยปากอย่างไม่รีบร้อน
“ถึงแม้คุณรู้ที่อยู่โรงแรมก็ไม่มีปะโยชน์หรอกค่ะ ตอนที่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีไป เขาโกรธมาก และบอกยกเลิกการร่วมมือแล้ว ไม่อยากเห็นพวกเราอีกค่ะ”
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ค่ะ ต้องพยายามก่อนถึงจะรู้ผลลัพธ์” เหนียนเสี่ยวมู่ขัดจังหวะคำพูดของเธอ ก่อนจะเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง
ท่าทางมีอำนาจทำให้ออร่ารอบตัวเธอเปลี่ยนไปแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วกวาดสายตาเฉียบคมมองหวางเมี่ยวเมี่ยว พลางพูดชัดถ้อยชัดคำ
“คุณเป็นล่ามที่บริษัทให้ฉันมา งานของคุณก็คือฟังคำสั่งของฉัน ทำงานในส่วนของตัวเองให้ดี ส่วนการตัดสินใจของฉัน ไม่ต้องให้คุณอนุญาต!”
ตอนที่ 254 คนน้อยทำงานง่าย
“…” หวางเมี่ยวเมี่ยวถูกออร่าของความมีอำนาจทำให้หวาดหวั่นจนพูดไม่ออก
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมจะไปขับรถ พวกเราจะไปเลยดีกว่าครับ” มีเพื่อนร่วมงานทีมต้อนรับพูดอย่างรวดเร็ว
หลังจากพูดจบ เขาก็หมุนตัวไปขับรถทันที
ทุกคนออกจากสนามบิน มุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีพักอยู่
เมื่อมาถึงโรงแรม เพื่อนร่วมงานบนรถกำลังจะลงจากรถ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยื่นมือมาขวางไว้
“คนเยอะขนาดนี้ มันดูจะเกินไปหน่อย ยังไม่ทันได้เจอมิสเตอร์ลอมบาร์ดี ก็คงจะถูกพนักงานโรงแรมขวางไว้ก่อน”
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนหมายความว่ายังไงคะ” มีคนถามขึ้นมา
เหนียนเสี่ยวมู่คิดดูแล้ว ถึงจะยื่นมือไปเปิดประตูรถ และลงไปก่อน
ครั้นหันกลับมา เธอมองไปยังเหล่าเพื่อนร่วมงานที่มีสีหน้าคร่ำเคร่ง และมองไปยังหวางเมี่ยวเมี่ยวเป็นคนสุดท้าย
“ล่ามหวางเข้าไปกับฉันก็พอค่ะ พวกคุณรออยู่บนรถนี่แหละ ถ้ามีข่าวอะไร ฉันจะติดต่อพวกคุณทันที”
“แค่พวกคุณสองคน จะพอเหรอคะ” เพื่อนร่วมงานหลายคนถามขึ้นด้วยความไม่สบายใจ
เหนียนเสี่ยวมู่ดึงเสื้อนอกของตัวเองออก แล้วมองไปยังโถงโรงแรมที่มีทองอร่ามครั้งหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างมีเลศนัย “สำหรับบางเรื่อง คนน้อยทำงานง่ายกว่าค่ะ!”
ทุกคน “…”
ไม่มีใครรู้ว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะทำอะไร
แม้แต่หวางเมี่ยวเมี่ยวที่ไปกับเธอ ก็เดาไม่ออกเช่นกัน
หลังจากถูกตำหนิไปยกหนึ่งเมื่อครู่ หวางเมี่ยวเมี่ยวก็รู้ว่าเธอไม่ใช่อย่างที่เห็นภายนอก และไม่กล้าสงสัยการตัดสินใจของเธอง่ายๆ
ล่ามสาวทำได้แค่เพียงตามหลังเธอ มองอีกฝ่ายเดินอาดๆ เข้าไปในโถงโรงแรม
ก่อนจะหยุดลงเมื่อถึงเคาท์เตอร์
ขณะที่หวางเมี่ยวเมี่ยวคิดว่าเธอต้องสอบถามห้องพักของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีแน่ๆ แต่กลับเห็นเหนียนเสี่ยวมู่หยิบบัตรประชาชนออกมาจากในกระเป๋า วางลงบนเคาท์เตอร์
“เปิดห้องค่ะ” หญิงสาวเอ่ยปากโดยไม่เงยหน้า
หวางเมี่ยวเมี่ยว “…” !!
พวกเธอจะมาหามิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ใช่เหรอ
ทำไมถึงเปิดห้องล่ะ
คงจะไม่บอกว่าเพิ่งมาถึง เหนื่อยจนขยับตัวไม่ได้ เลยอยากพักผ่อนสักหน่อยมั้ง
นี่มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
พวกเธอไม่มีกระเป๋าเดินทาง จึงจัดการขั้นตอนเข้าพักได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ได้คีย์การ์ดและเดินเข้าไปในลิฟต์ หวางเมี่ยวเมี่ยวก็งงงันพูดไม่ออกไปแล้ว
พอดึงสติกลับมาได้ ล่ามสาวก็รีบตามเธอเข้ามาในลิฟต์ และเอ่ยปากถามอย่างอดไม่อยู่
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน พวกเราไม่สอบถามห้องของมิสเตอร์ลอมบาร์ดี แต่มาเปิดห้องของตัวเองนี่มันยังไงกันคะ”
เมื่อได้ยินแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยกยิ้มที่มุมปาก แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้ยิ้ม “คุณไปลองสอบถามดูสิ ถ้าคุณสอบถามข้อมูลของลูกค้าห้องเพรสซิเดนท์สูทมาได้ โรงแรมนี้คงถูกปิดไปแล้ว”
“…งั้นตอนนี้คุณกำลังทำอะไรคะ”
เหนียนเสี่ยวมู่ชำเลืองมองเธอครั้งหนึ่ง “ยังเช้าอยู่ รอเฉยๆ คงไม่ได้ ก็เลยเปิดห้องนอนซะเลย คุณไม่ง่วงเหรอ”
หวางเมี่ยวเมี่ยว “…” !!
เวลาแบบนี้ เธอยังมีกะใจนอนอีกเหรอ!
เดิมทีหวางเมี่ยวเมี่ยวคิดว่าเหนียนเสี่ยวมู่แสร้งทำเป็นใจเย็น
แต่คิดไม่ถึงว่าออกจากลิฟต์แล้ว เหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาในห้อง วางกระเป๋าไว้ตรงตู้หัวเตียง แล้วหมุนตัวล้มลงนอนจริงๆ
จากนั้นก็ยื่นมือไปดึงผ้าห่มมาห่มจนมิดหัว แล้วหลับไป!
ท่าทางแบบนี้ เหมือนเมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน
เธอหลับสบายมาก เหลือเพียงหวางเมี่ยวเมี่ยวยืนอึ้งอยู่ที่หน้าประตู ผ่านไปนานแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
จะให้นอนกับเหนียนเสี่ยวมู่เหรอ
เหนียนเสี่ยวมู่หลับได้ แต่เธอหลับไม่ลงหรอก!
หวางเมี่ยวเมี่ยวเดินไปข้างหน้าสองก้าว เมื่อแน่ใจว่าคนบนเตียงหลับไปแล้วจรัง เธอถึงจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พลางเดินไปที่ระเบียง และส่งข่าวให้เหวินหย่าไต้