หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1045 ตะครุบเอาเพื่อให้ได้มา / ตอนที่ 1046 สุดยอด! ฝีมือสุดยอดไปเลย!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1045 ตะครุบเอาเพื่อให้ได้มา / ตอนที่ 1046 สุดยอด! ฝีมือสุดยอดไปเลย!
ตอนที่ 1045 ตะครุบเอาเพื่อให้ได้มา
เหนียนเสี่ยวมู่เป็นไข้มาทั้งคืน แม้วันต่อมาไข้จะลดลงแล้ว แต่เธอก็ยังดูเพลียๆ
เธอนอนเป็นอัมพาตที่โซฟาตั้งแต่ลุกจากเตียง กอดหมอนไว้พลางมองเหม่อไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
อวี๋เยว่หานไม่ได้เข้าบริษัท เขานั่งอยู่ตรงหน้าเธอและยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมาป้อนเธอเหมือนป้อนข้าวเด็ก
“เหนียนเสี่ยวมู่ ยังไม่สบายอยู่อีกเหรอ?” อวี๋เยว่หานถามเธอด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นท่าทางเธอดูแปลกไป
เหนียนเสี่ยวมู่กะพริบตา “ร่างกายน่ะไม่เป็นไร ก็แค่กลายมาเป็นชนชั้นกรรมาชีพภายในชั่วข้ามคืน ปวดใจนิดๆ รู้สึกว่าชีวิตตัวเองไม่มีความหมายอีกต่อไป”
อวี๋เยว่หาน “…”
อวี๋เยว่หาน “มีผมก็พอแล้ว ผมมีเงิน”
เหนียนเสี่ยวมู่ “แต่เงินคุณไม่ได้มีไว้ให้ฉันเลี้ยงดูหนุ่มหล่อเสียหน่อย…อื้อ”
ก่อนที่เหนียนเสี่ยวมู่จะพูดจบ ใครบางคนก็ยัดข้าวต้มใส่ปากเธอ
แรงเยอะจนฟันเธอเกือบจะหัก
เหนียนเสี่ยวมู่ค่อยๆ กลืนข้าวต้มลงไป เธอเลือกที่จะเลี่ยงประเด็นเลี้ยงดูหนุ่มหล่อเพื่อให้ตัวเองรอดชีวิต
ถือเสียว่าเป็นการลงโทษ ตีให้ตายยังไงเธอก็ไม่ยอมบอกเขาเด็ดขาดว่าหนุ่มหล่อที่เธอเก็บเงินไว้เลี้ยงดูคือเขานั่นเอง!
เอาเงินคนอื่นมาก็เท่ากับเป็นการจ่ายด้วยชีวิต
ตอนนี้เขาเป็นคนที่แย่ที่สุดในใจเธอ ไม่มีใครอีกแล้ว!
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เข้าใจว่าทำไมอวี๋เยว่หานถึงไม่ให้เธอคิดเรื่องมั่วเฉียนต่อ
ความหวังเดียวในตอนนี้มีแค่มั่วหย่งเหิง
ฟ่านอวี่เดินทางไปเมือง N เมื่อวานนี้
วันนี้ตอนเช้าก็โทรมาบอกพวกเขาว่าเขาให้คนไปนัดเจอมั่วหย่งเหิงแล้ว แต่กลับโดนมั่วหย่งเหิงปฏิเสธ
สถานการณ์ตระกูลมั่วดูสลับซับซ้อนไปในชั่วพริบตา
เจิ้งเหยียนที่เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ในตอนเช้าจึงมาที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋
“เรื่องเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมอยู่ดีดีงานแต่งถึงยกเลิกไปซะล่ะ เสี่ยวมู่มู่ก็หายตัวไป…” ทันทีที่เข้าประตูมา รูปร่างเย้ายวนก็เดินมานั่งที่โซฟาและถามออกไปตรงๆ
เมื่อวานตอนที่เธอตามซั่งซินไปแอบดูเฉินจื่อซินและยังไม่ทันได้อ่อยเขา เธอก็ได้ยินว่าเจ้าสาวหนีไป
เธอตกใจมากจึงรีบกลับไปที่ห้องพักรับรองเจ้าสาว พลางคิดว่าอย่าให้ปากพล่อยๆ ของเธอพูดแม่นอย่างที่เคยพูดไว้ว่า
เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญของพิธีแต่งงาน เหนียนเสี่ยวมู่กลับพบว่าตัวเองเสียใจที่แต่งงาน จึงลากเธอหนีออกจากงานแต่ง
แต่พอเธอไปถึงห้องพักรับรอง คนก็ไม่อยู่แล้ว
“เฉินจื่นซินนั่นไม่เลวเลยทีเดียว ซั่งซินเพิ่งจะแนะนำให้ฉันรู้จัก ฉันกำลังจะทำความรู้จักกันให้ลึกซึ้งขึ้น แต่จู่ๆเธอกลับเล่นละครหนีไปจากงานแต่งให้ฉันดู เธอรู้ไหมว่าเมื่อวานเธอได้ทำลายบุพเพสันนิวาสที่เกือบจะสำเร็จไปแล้ว?”
เจิ้งเหยียนคว้าแขนเหนียนเสี่ยวมู่พลางทำหน้าเสียดายเพื่อให้เธอเล่า
เหนียนเสี่ยวมู่จึงเล่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้ให้เธอฟังพร้อมกับพูดปลอบใจ
“ไม่เป็นไร พลาดเฉินจื่อซินไปแล้วยังมีฟ่านอวี่ เมื่อวานอวี๋เยว่หานเอานามบัตรเธอให้ฟ่านอวี่ไปแล้ว ถ้าเขาติดต่อเธอ เธอก็รุกหน่อย ทั้งหล่อทั้งดูดีมีเงินและยังนิสัยดี ไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยายแล้วจริงๆ น่าจะประมาณว่าคุณชายหน้าหยก ต้องตะครุบเอาเพื่อให้ได้มา ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่บอกเธอหรอก!”
เหนียนเสี่ยวมู่ชื่นชมฟ่านอวี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกับบิดลิ้น
เจิ้งเหยียนที่ได้ยินยังคงมึนๆ
แต่อวี๋เยว่หานกลับหน้าบึ้งขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งหล่อทั้งดูดี มีเงินและยังนิสัยดี...
คุณชายหน้าหยก
ที่แท้ก็ยังเพ้อถึงฟ่านอวี่ เพ้อแบบลึกซึ้งมากด้วย
ถึงขนาดพูดว่า “ตะครุบเอาเพื่อให้ได้มา” ออกมาจากปาก
นี่เธอกำลังแนะนำให้เจิ้งเหยียนรู้จักหรือระบายความในใจตัวเองกันแน่ ? !
ตอนที่ 1046 สุดยอด! ฝีมือสุดยอดไปเลย!
เหนียนเสี่ยวมู่สังเกตได้ถึงความผิดปกติ เธอแค่รู้สึกว่าเจิ้งเหยียนเป็นคนดี ถ้าเธอกับฟ่านอวี่มีวาสนาต่อกัน นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีดี
ดังนั้นเธอจึงสรรเสริญเยินยอฟ่านอวี่ไปเต็มที่
จนฟ่านอวี่แทบจะลอยขึ้นฟ้า
เธอไม่รู้ตัวเลยว่าภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างๆเธอเกือบจะกลายเป็นภูเขาไฟไปแล้ว…
“เรื่องฟ่านอวี่ วันหลังเราค่อยคุยกันเป็นการส่วนตัวดีกว่า” แม้เจิ้งเหยียนจะฟังเรื่องฟ่านอวี่จนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่พอเหลือบไปเห็นสีหน้าอวี๋เยว่หาน เธอก็รีบกระตุกชายเสื้อเหนียนเสี่ยวมู่ทันที
เพื่อบอกเธอไม่ต้องพูดแล้ว
ถ้าพูดต่อไป เธอกลัวว่าอีกเดี๋ยวอวี๋เยว่หานจะทำถังน้ำส้มคว่ำโดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหนียนเสี่ยวมู่ได้
เหนียนเสี่ยวมู่กับเจิ้งเหยียนรู้ใจกัน
ทันทีที่เจิ้งเหยียนพูดว่า “คุยกันเป็นการส่วนตัว” เหนียนเสี่ยวมู่ก็รู้ตัวทันที
กระแอมเสียงพร้อมกับเพิ่มระดับเสียง
“วันหลังก็วันหลัง ที่จริงที่ฉันเพิ่งบอกเธอไป ก็แค่จะหว่านล้อมเธอเท่านั้น ฟ่านอวี่ก็ดี แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ฉันพูดไปหรอก อย่างน้อยๆในใจฉันก็ไม่มีใครดีไปกว่าสามีของฉัน…อือ สามีฉัน?”
เหนียนเสี่ยวมู่แสร้งทำเป็นได้สติพลางหันไปมองอวี๋เยว่หานอย่างร้อนตัว
เมื่อเห็นใครบางคนกำลังหน้าบึ้ง เธอจึงรีบเข้าไปซบอกเขาทันทีโดยไม่พูดอะไร
เงยหน้าจูบสันกรามอันเพอร์เฟคของเขาและพูดออดอ้อนออเซาะ
“เกือบจะคิดว่าคุณไปแล้วเสียอีก ตกใจจะแย่อยู่แล้ว”
เจิ้งเหยียนที่ชมการแสดงของเธออยู่อีกด้านแทบจะสำรอกอาหารเช้าที่กินในตอนเช้าไปแล้วสี่ถึงห้าชั่วโมงออกมาทั้งหมด
เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานถูกง้อจนดีขึ้นแล้ว เธอก็แอบชื่นชมเหนียนเสี่ยวมู่ในใจ
สุดยอด!
ฝีมือสุดยอดไปเลย!
ถ้าทักษะการแสดงของสามีภรรยาคู่นี้ถูกเผยแพร่ออกไป พวกเขาจะต้องได้รับตำแหน่งราชาและราชินีภาพยนตร์มาหมดแน่ๆ
“ที่เธอบอกว่าคนที่ล่อเธอออกไปเมื่อวานคือมั่วเฉียน งั้นก็แสดงว่าคนที่คิดจะฆ่าเธอก่อนหน้านี้คือมั่วเฉียนงั้นเหรอ?”
เจิ้งเหยียนกลับมาที่ประเด็นหลักพร้อมกับเอ่ยถาม
ทันทีที่พูดจบเธอก็ส่ายหน้าไม่อยากจะยอมรับ
“เป็นไปไม่ได้! อย่างแรกอย่าว่าแต่เสี่ยวมู่มู่ไปล่วงเกินมั่วเฉียนตรงไหนเลย ถึงเธอจะล่วงเกินมั่วเฉียนจริง มั่วเฉียนก็ไม่มีทางฆ่าคนเป็นอันขาด!”
เจิ้งเหยียนพูดด้วยความมั่นใจ
เธอกลัวว่าอวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่จะไม่เชื่อ จึงเล่าเรื่องนึงให้พวกเขาสองคนฟัง
“พวกเธอก็รู้นี่ว่าตระกูลมั่วเป็นตระกูลเก่าแก่กว่าร้อยปี อย่างที่ทราบกันดีว่าโดยทั่วไปองค์กรและบริษัทใหญ่ๆจะทำพวกการกุศล หนึ่งเพื่อตอบแทนสังคม สองคือสามารถยกระดับชื่อเสียงธุรกิจของพวกเขาได้ นั่นเท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว…”
การกุศลเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องยืนหยัดทำต่อไปให้ได้นานๆ มีหลายบริษัทที่พอเริ่มมีชื่อเสียงก็ได้แต่พูดว่าจะทำการกุศล แต่สุดท้ายก็ทำกันแบบขายผ้าเอาหน้ารอด
พูดตรงๆ คือทำแค่เปลือกนอก
ไม่เหมือนตระกูลมั่ว
การกุศลที่ตระกูลมั่วทำ สืบทอดกันมากว่าร้อยปี เช่นเดียวกับการขยับขยายตระกูล
ส่วนตัวมั่วเฉียนก็ลงทุนลงแรงทำการกุศลเองกับมือ!
“ตอนที่มั่วเฉียนเข้ามาทำงานในบริษัทตระกูลมั่วได้ไม่นาน ได้เกิดแผ่นดินไหวในประเทศอยู่ครั้งนึง คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ตอนนั้นคนที่มีจิตอาสาหลายคนต่างก็เข้าร่วมให้การช่วยเหลือ มั่วเฉียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“เขาเป็นถึงลูกชายคนโตของตระกูลมั่ว สถานะสูงส่ง แต่กลับเป็นคนแรกที่เข้าไปในพื้นที่กู้ภัยหลังภัยพิบัติเพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติแผ่นดินไหวร่วมกับทุกคน พวกเธอก็รู้นี่ว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหวก็เป็นช่วงเวลาสำคัญในการกู้ภัย มั่วเฉียนถึงกับไม่ยอมหลับยอมนอนไปหลายวัน จนสุดท้ายก็เกือบจะล้มในแนวหน้าเพราะร่างกายอ่อนล้า”
“ท่ามกลางความยากลำบากในภัยพิบัติครั้งนั้น เขาได้ช่วยผู้คนออกมาเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่มีใครรู้…จนกระทั่งหลายปีต่อมา เด็กคนที่มั่วเฉียนเคยช่วยขุดออกจากใต้ซากปรักหักพังมากับมือได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนถึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วประธานมั่วผู้สูงส่งแอบทำสิ่งดีดีมากมายอยู่เบื้องหลังโดยที่ไม่มีใครรู้”