หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1029 มองโลกในแง่ดีไม่ได้เลย / ตอนที่ 1030 พูดต่อหน้าเขา
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1029 มองโลกในแง่ดีไม่ได้เลย / ตอนที่ 1030 พูดต่อหน้าเขา
ตอนที่ 1029 มองโลกในแง่ดีไม่ได้เลย
เหนียนเสี่ยวมู่เดินออกมาจากด้านหลังฟ่านอวี่ เธอเหลือบมองกลุ่มคนชุดดำที่มีท่าทางดุดันทั้งสองข้างทาง
เลียริมฝีปาก
“เอ่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน ไม่เกี่ยวกับฟ่านอวี่ แกปล่อยเขาไปเถอะ จากนั้นจะต้มยำทำแกงก็แล้วแต่แก!”
เหนียนเสี่ยวมู่ผลักฟ่านอวี่ออกไปแล้วบอกว่า
“นายไม่ต้องช่วยฉัน ไปเถอะ!”
“ลิ่วลิ่ว…”
“ฉันบอกให้ไปไง! นายอยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แค่ตายเพิ่มขึ้นมาอีกศพเอง รีบไปสิ!” เหนียนเสี่ยวมู่ตะคอกพร้อมกับขยิบตาให้ฟ่านอวี่
ให้เขารีบไปเร็วๆ
ตราบใดที่เขาหนีออกไปจากที่นี่ได้ เขาก็จะได้โทรแจ้งตำรวจ!
หรือไม่อย่างงั้นก็อาจจะเรียกกำลังคนมาเสริม
ดีกว่ารอความตายอยู่ที่นี่!
“ฉันไปไม่ได้!” ฟ่านอวี่ขมวดคิ้ว
เขาเข้าใจที่เธอให้สัญญาณ แต่ยังไงก็ไม่ยอมไป
แม้จะต้องตาย เขาก็จะเฝ้าเธอไว้
จะทิ้งเธอไว้แล้วหนีไปคนเดียวได้อย่างไร?
สายตาฟ่านอวี่บ่งบอกว่าไม่เห็นด้วย
“ทำไมนายถึงได้โง่แบบนี้? ถ้านายหนีไปฉันก็ยังพอจะมีความหวังว่าจะมีคนมาช่วย การที่นายอยู่ที่นี่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากตายไปพร้อมกับฉัน!”
เหนียนเสี่ยวมู่คว้าแขนพลางลดเสียงบ่น
ฟ่านอวี่เชิดหน้าขึ้น “เธอเห็นคนพวกนี้ไหม? ฉันแอบเห็นในมือพวกมันแต่ละคนถือมีดมาด้วย ถ้าฉันหนีไปคนเดียว เธอโดนสับจนเละเป็นโจ๊กแน่ เธอยังหวังจะรอให้ฉันกลับมาช่วยเธออีกเหรอ?”
ถ้ายังมีเวลาให้เขากลับมาช่วยเธอ มั่วเฉียนจะใจดีปล่อยเขาไปได้อย่างไร?
ฟ่านอวี่ยื่นมือตบหัวเหนียนเสี่ยวมู่เบาๆ แล้วพูดติดตลก
“ดูเหมือนฉันจะโชคดีกว่าที่คิดแฮะ ติดต่ออวี๋เยว่หานไม่ได้ คนเดียวที่สามารถตายไปพร้อมกับเธอได้ในตอนนี้ก็มีแค่ฉันคนเดียว ถือว่าไม่เลว”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เธอไม่ได้แต่งงานก็เศร้าพออยู่แล้ว
ตอนนี้ชีวิตน้อยๆ ยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาไม่ปลอบใจเธอยังไม่พอ ยังจะมาบอกเธอว่าตัวเองโชคดีอีก
นี่เขาอยากให้เธอโมโหตายหรือไง?
“มองโลกในแง่ดีหน่อย ไม่แน่เราอาจจะรอดตายก็ได้” ฟ่านอวี่พูดปลอบใจเธอหลังจากที่เห็นเธอทำหน้าเศร้าๆ
เหนียนเสี่ยวมู่มองโลกในแง่ดีไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะมองยังไง สถานการณ์ในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นทางตัน
“ถึงฉันจะอยู่รอนายกลับมาช่วยไม่ทันจริงๆ นายก็ไม่จำเป็นต้องมาตายเป็นเพื่อนฉัน การออกไปสู้ตัวต่อตัวกับคนพวกนั้น มันดูจะโง่ไปหน่อย”
เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ามองไปทางฟ่านอวี่ด้วยสายตาระยิบระยับ
ยิ้มมุมปาก
“การได้เห็นเพื่อนดีๆ ก่อนตาย ถึงจะตายก็ไม่เสียใจ นายไปเถอะ ไม่ต้องมาตายกับฉัน ถ้านายเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนนายจริงๆ ก็จงใช้ชีวิตให้ดี ดูแลอวี๋เยว่หานแทนฉันด้วย เขาจะได้ไม่หาแม่เลี้ยงใจร้ายมารังแกลูกสาวฉัน…เอ๊ะ พอพูดถึงตรงนี้ฉันก็นึกโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ วันนี้ฉันยังไม่ได้เข้าร่วมพิธีแต่งงานเลย ไม่อย่างงั้นถึงฉันจะตายไปก็ยังได้ครองตำแหน่งภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา และถ้าเขาแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนอื่นอีกรอบก็จะเป็นได้แค่พ่อม่ายเปื้อนราคี…”
ฟ่านอวี่ “…”
จะตายอยู่แล้ว สมองเธอยังคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่เนี่ยนะ?
ถึงจะตายไปแล้วก็ไม่ยอมให้อวี๋เยว่หานได้มีความสุข?
เกิดอะไรขึ้น…ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้รู้สึกเห็นใจอวี๋เยว่หานขึ้นมาล่ะ…
เห็นๆอยู่ว่าวินาทีก่อนเขายังอิจฉาแทบตาย
ฟ่านอวี่กระแอม “ลิ่วลิ่ว ใจเย็นๆก่อน บางทีเราอาจจะไม่ตายก็ได้”
“พวกเธอสองคนปรึกษากันเสร็จหรือยัง? จะไปหรือไม่ไปกันแน่!” มั่วเฉียนมองพวกเขากระซิบกระซาบอยู่ตั้งนาน แต่ก็ไม่พูดข้อสรุปออกมาสักที หน้าจึงเริ่มบึ้งตึง
ทันทีที่คิดได้ว่านี่อาจจะเป็นข้ออ้างเพื่อถ่วงเวลา นัยน์ตาก็เป็นประกายเย็นเฉียบ
ตอนที่ 1030 พูดต่อหน้าเขา
มั่วเฉียนจึงสั่งลูกน้องเขา
“ไปสิ ไป! ฟ่านอวี่รีบไปเร็วๆเข้า!” เหนียนเสี่ยวมู่แย่งมาอยู่ข้างหน้าเขา
แล้วยื่นมือไปผลักฟ่านอวี่
“นายรีบไปสิ อย่ามัวชักช้าอยู่เลย! ถ้านายตายอยู่กับฉันจริงๆ ฉันจะโกรธนาย ดีร้ายยังไงถ้านายรอดออกไปได้นายยังช่วยฉันไปบอกอวี๋เยว่หานได้ว่าใครเป็นคนฆ่าฉัน แบบนี้จะได้ช่วยฉันแก้แค้นด้วย”
“ลิ่วลิ่ว…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปเร็วเข้า!” เหนียนเสี่ยวมู่เร่ง
ฟ่านอวี่ยังคงนิ่งไม่ขยับ
ร่างกายเขา ถ้าเขาไม่ยอมไป เหนียนเสี่ยวมู่ผลักยังไงก็ไม่ขยับ
ทั้งสองฉุดกระชากลากถูอยู่นาน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เหมือนแสดงละครเพลง
ดูเหมือนสายตาเฉียบคมของมั่วเฉียนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง สีหน้าเริ่มระแวง
ฮัมเสียงเย็นชา
“หยุดได้แล้ว! ในเมื่อไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป!”
เขายกมือขึ้น ทำสัญญาณให้คนของตัวเองลงมือโดยเร็วที่สุด
พอเหนียนเสี่ยวมู่เห็นคนเข้ามารายล้อมพวกเขาอย่างรวดเร็ว เธอก็ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างแรง “จบเห่ แบบนี้นายอยากไปก็ไปไม่ได้แล้ว…”
ฟ่านอวี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินที่เธอพูด
ราวกับว่าเหตุการณ์ที่ทั้งสองกำลังเผชิญเป็นเรื่องดี ไม่ได้เลวร้ายถึงแก่ชีวิต
“ถ้าจะต้องตายจริงๆ ฉันขอสั่งเสียอะไรหน่อยได้ไหม?” เหนียนเสี่ยวมู่พิงฟ่านอวี่พลางมองคนที่เข้ามารายล้อมพวกเขา
ฟ่านอวี่เหลือบมองเธอ
“อันที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรอยากจะพูดนักหรอก แค่คิดถึงอวี๋เยว่หานไปหน่อย ฉันหนีออกมาจากโบสถ์นานขนาดนี้ เขายังไม่รู้อีกเหรอว่าฉันหายตัวไป ยังมีหน้ามาบอกว่ารักฉันอย่างงั้นอย่างงี้ ตอนนี้ฉันชักจะสงสัยแล้วสิว่าเขารักฉันจริงๆหรือเปล่า”
“……”
“ถึงจะไม่แน่ใจว่าเขารักฉันหรือไม่กันแน่ แต่ตอนนี้ฉันก็ยังคิดถึงเขาอยู่ดี ถ้าฉันได้เห็นเขาก่อนตาย ใจฉันคงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ตายโดยไม่เสียใจ…”
เหนียนเสี่ยวมู่พูดเป็นต่อยหอยไม่ยอมหยุด
พูดจนฟ่านอวี่หูชา
จู่ๆเขาก็ยื่นมือไปอุดปากเธอไว้
เหนียนเสี่ยวมู่ดึงมือเขาออกแล้วทำหน้าเศร้า “ฉันจะตายอยู่แล้ว นายจะไม่ให้ฉันได้สั่งเสียเลยหรือไง ทำไมนายถึงใจดำอำมหิตขนาดนี้?”
ฟ่านอวี่ “…”
ขนาดมั่วเฉียนที่จะฆ่าพวกเขายังไม่โดนเธอด่าว่าใจดำอำมหิตเลย แต่เธอดันมาด่าเขาคนที่วิ่งมาตายกับเธอว่าเป็นคนใจดำอำมหิตก่อนเนี่ยนะ
เธออยากให้เขาโมโหตายหรือไง?
ฟ่านอวี่ “ฉันแค่อยากจะเตือนเธอ คนที่เธออยากเจอมาแล้ว เธอมีอะไรจะสั่งเสียก็พูดต่อหน้าเขาได้”
เหนียนเสี่ยวมู่ “???”
ฟ่านอวี่เห็นเธอทำหน้าตกตะลึง เขาจึงเชิดคางไปทางประตูทางเข้า
นอกวงล้อมมีรถหรูสีดำหลายคันปรากฏอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าท่าเรืออย่างเป็นระเบียบ
รถจอดนิ่ง
รถคันที่นำหน้าเปิดประตูออก
รูปร่างอันสูงส่งของอวี๋เยว่หานค่อยๆ เดินลงมาจากรถ
เขายังคงสวมชุดแต่งงาน
ชุดสูททำมือสีดำเผยให้ใบหน้าอันทรงเสน่ห์ หล่อล่มเมือง
เขาตัดผมสั้นเพื่องานแต่งงานโดยเฉพาะ
ดวงตาที่มีเสน่ห์เย้ายวนกวาดมองฉากตรงหน้าทันทีที่ลงจากรถ
สายตาหยุดอยู่ที่เหนียนเสี่ยวมู่ที่หายตัวไปจากงานแต่งงาน ทว่าตอนนี้เธอกลับอยู่กับฟ่านอวี่ รูม่านตาหดแน่น
ดวงตาเป็นประกายเยือกเย็น
มั่วเฉียนไม่คิดเลยว่าตัวเองอุตส่าห์วางแผนไว้อย่างดีแล้ว แต่กลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ตอนแรกคือฟ่านอวี่ ตอนนี้ยังมีอวี๋เยว่หาน
และอวี๋เยว่หานยังเตรียมการมาพร้อม
ที่นี่คือเมือง H ซึ่งเป็นถิ่นของอวี๋เยว่หาน
ในที่แห่งนี้ ถึงจะมีกำลังคนมากกว่าอวี๋เยว่หานก็ไม่แน่ว่าจะมีโอกาสชนะ