หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - ตอนที่ 332 เอาเขามาไว้ในกำมือ
บทที่ 332 เอาเขามาไว้ในกำมือ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดที่กะทันหันเกินไปของหลานเยาเยา
หรือว่าเพราะหลังจากที่หลานเยาเยารู้ความจริงจึงโกรธจนบ้าไปแล้ว ดังนั้นจึงได้ปล่อยเลยตามเลย
โดยรวมแล้ว!
หลานเยาเยาที่เป็นเช่นนี้ทำให้เขาค่อนข้าง……กลัว
หลังจากเห็นเย่แจ๋หยิ่งนิ่งเงียบ ยังคงไม่กระทำใดๆ หลานเยาเยาจึงได้ผละออกจากการจองจำของเขาทันที แล้วก็ผลักเขาลงไปบนเตียงหยกอีกฝั่งหนึ่งอีกครั้ง
วินาทีถัดมา ก็รีบผุดตัวขึ้น นั่งบนตัวของเย่แจ๋หยิ่ง
เห็นเย่แจ๋หยิ่งดิ้นรน นางก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“วันนี้ข้าจะบังคับขืนใจ ท่านต้องการก็ต้องเอา ไม่ต้องการก็ต้องเอา”
เย่แจ๋หยิ่งตะลึงงันไปอีกครั้ง
“เยาเยา……”
“ทำไม? ท่านขอร้องข้าก็ไม่ปล่อยท่าน”
“……”
ใครใช้ให้เขาหน้าตาดั่งเทพเซียนมาจุติ ร่ำรวยจนแข่งกับประเทศได้ ฝีมือทำอาหารล้ำเลิศ ทั้งยังใจดำและมีจิตใจที่มีความรักอันลึกซึ้งต่อนางอีกล่ะ!
คนเช่นนี้ ยอมฆ่าผิดก็จะไม่ยอมปล่อย
น่าแปลก?
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเขาก็ต้องการนางมากหรือไง?
พอนางริเริ่มเข้ามากอดเองทำไมกลับมีการตอบสนองเช่นนี้?
ไม่ควรนี่!
ไม่สนแล้ว ยังไงก็ทำก่อนค่อยว่ากัน ไม่เช่นนั้นพลาดโอกาสนี้ก็ไม่มีโอกาสหน้าแล้ว
มองดูริมฝีปากบางๆของเย่แจ๋หยิ่งที่เพิ่งโดนนางย่ำยีเมื่อครู่ มุมปากนางยกขึ้น กัดขอบปากตัวเองเบาๆ จากนั้นก็บรรจงจูบลงไปอีกครั้ง
ใครจะรู้……
เย่แจ๋หยิ่งหยุดยั้งนางไว้อีกครั้ง
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ยังไม่รอให้นางไม่พอใจ ก็ได้ยินน้ำเสียงอันดึงดูดของเย่แจ๋หยิ่ง
“เจ้าจะไม่เสียใจ?”
เสียใจ?
ในเมื่อนางตัดสินใจจะเอาเขามาครอบครองเป็นของตัวเองแล้ว จะพูดว่าเสียใจภายหลังได้เช่นไร นางไม่เพียงแค่ไม่เสียใจ หลังจากตอนนี้ นางยังจะใช้กลยุทธ์ที่สามสิบหกทำให้เขามาอยู่ในกำมือ
“พวกเรามาดูกันว่าใครจะเสียใจภายหลัง? อ้า อู้ว……”
หลานเยาเยารู้สึกหน้ามืดมึนหัวไปครู่หนึ่ง นางถูกเย่แจ๋หยิ่งทับไว้ใต้ร่างกายอีกครั้ง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็จับริมฝีปากของนางไว้
แรกเริ่มการกระทำของเขารีบร้อนมาก ราวกับกลัวว่านางจะขัดขืน หลังจากที่จูบได้ครู่หนึ่ง ปากและฟันของพวกเขาก็แยกจากกัน
เขามองดูนางนิ่งๆ ใบหูและใบหน้าแดงฉานไปหมดแล้ว ในแววตาที่ดูรักและเอ็นดูเต็มไปด้วยความปรารถนา
เห็นดังนั้น!
หลานเยาเยากลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้
“เย่แจ๋หยิ่ง ข้ารู้สึกว่าข้าเสียใจแล้ว”
มองดูพละกำลังดุเดือดของเขา หลานเยาเยารู้สึกว่าครั้งแรกของนางต้องมีจุดจบที่น่าอนาถจนทนดูไม่ได้เป็นแน่
“สายไปแล้ว!”
ใครให้นางไปยั่วเย้าเขาอย่างดุเดือดก่อน เดิมทีคิดว่านางโกรธเป็นอย่างมาก และรู้ความคิดของเขาอีก ดังนั้นจึงคิดอยากจะแกล้งเขา ใช้จุดนี้เพื่อบรรลุจุดประสงค์
ตอนนี้ดูแล้วน่าจะไม่ใช่
สำหรับหลานเยาเยา เขาไม่สามารถต้านทานได้
หลังจากที่เห็นชัดว่านางยินยอม และเขาก็ได้อดทนมานานขนาดนี้แล้ว ยังจะสามารถอดทนได้อีกเช่นไร?
ยังคงก้มลงจูบริมฝีบางของนาง นางก็ไม่ได้ต่อต้าน แต่กลับตอบสนองอย่างเร่าร้อน
นี่ทำให้เขามีความสุขอย่างที่สุด
ความกังวลที่เหลือเพียงเล็กน้อยก็ได้สูญสลายไปแล้ว
สัมผัสถึงจูบอันนุ่มนวลของเย่แจ๋หยิ่ง จากนั้นจากผิวเผินถึงลึกซึ้ง เปิดริมฝีปากและฟัน จูบลึกซึ้งขึ้นอีกขั้น
ค่อยๆ
ความรู้สึกนึกคิดของนางเริ่มสับสน การหายใจก็ยิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ความรู้สึกนึกคิดที่เหลืออยู่เพียงนิด ขณะที่ฝ่ามือเรียวยาวของเย่แจ๋หยิ่งยื่นเข้ามาด้านหน้าของร่างกายนางในฉับพลันนั้น ก็ได้มลายหายไปสิ้น
และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ พวกเขาทั้งคู่ได้เปลื้องเสื้อผ้าออก ปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจตรงไปตรงมา……
ยิ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ พวกเขาหลอมรวมซึ่งกันและกัน ร่างกายผสมผสานเข้าด้วยกัน ลืมตัวทำให้กันและกัน……
หลังจากที่เล้าโลมกันหลายรอบ
หลานเยาเยาก็ไม่สามารถทนต่อการกระทำที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเย่แจ๋หยิ่งได้ สุดท้ายก็หลับสนิทไปในอ้อมกอดของเขา
ใบหน้าที่แสดงออกถึงความรักและความเอ็นดูของเย่แจ๋หยิ่ง กอดหลานเยาเยาไว้อย่างแนบแน่น
อารมณ์ความรู้สึกที่ตื่นเต้นไม่ละลายหายไปสักที
ความรักของทั้งสองที่มีความสุข ที่แท้แล้วงดงามเช่นนี้
ดูแล้วบนตัวของหลานเยาเยาแทบจะเป็นรอยจูบที่เขาทิ้งไว้ทั้งหมด มุมปากค่อยๆยกขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆบรรจงจูบลงไปที่ไหล่ของนาง
……
จากการคำนวณจากระบบของหลานเยาเยา นางน่าจะนอนหลับสนิทเลยหนึ่งคืน
ปกตินางไม่ได้หลับลึก หากไม่ใช้เพราะเย่แจ๋หยิ่งทรมานจนกระดูกนางแทบแตกเป็นเสี่ยง นางก็คงไม่หลับนานขนาดนั้น
เมื่อตื่นขึ้นมา
นางไม่อยากจะขยับแม้แต่น้อย
แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้นมา ก็เห็นเย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ในระยะใกล้มากๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยแววตาที่ปรากฏถึงความรักความโปรดปรานเป็นที่สุด
นางตกใจจนรีบปีนขึ้นมา มองดูเย่แจ๋หยิ่งด้วยสีหน้าระมัดระวัง กลับพบว่าสายตาของเย่แจ๋หยิ่งอยู่บนตัวของนาง นางรีบก้มลงไปดู
พระเจ้าช่วย!
นาง……
นางไม่ได้ใส่อะไรเลย
ทันใดนั้นภาพเมื่อคืนที่ทำให้คนอายจนหน้าแดงหูแดงปรากฏขึ้นมาเป็นฉากๆในสมอง หลานเยาเยาใบหน้าร้อนผ่าวทันที รีบเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่
“แฮ่มแฮ่ม!”
หลังจากที่สวมใส่เรียบร้อย นางก็กระแอมเบาๆ มองไปทางเย่แจ๋หยิ่ง
เมื่อเห็นหน้าอกที่ดูแข็งแรงของเขา กล้ามท้องที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งน้องชายของเย่แจ๋หยิ่งที่ทารุณนางจนทนไม่ได้เมื่อคืนนี้ นางรีบกุมจมูกไว้ หันหลังให้
“ทำไมท่านยังไม่ใส่เสื้อผ้าอีก?”
สวรรค์!
เกินไปแล้ว
หัวใจน้อยๆ “ตึกๆตึกๆ” เต้นอย่างว้าวุ่น ราวกับว่าจะกระโดดออกมาเช่นนั้น
“เยาเยา เมื่อคืนเจ้าเอาแต่เสพสุขอย่างเดียว ไม่ได้มองข้าดีๆสักนิด ดังนั้นข้าอยากให้เจ้าดูให้พอ เช่นนี้ อนาคตเจ้าก็คิดถึงเพียงแต่ข้าผู้เดียว”
ได้ยินดังนั้น!
หลานเยาเยามุมปากก็กระตุกอย่างหนัก แทบจะสำลักน้ำลาย
เย่แจ๋หยิ่งมีความมั่นใจในรูปร่างของตัวเองเกินไปแล้วมั้ง?
แต่จะว่าไปแล้ว เขาก็ดูล่ำสันมากจริงๆน้า!
เพียงแต่ว่าล่ำสันมากเกินไป นางทนไม่ไหวหน่ะสิ!
เมื่อคิดถึงบางส่วนของตัวเองที่ยังคงเจ็บปวดอยู่บ้าง ในใจของหลานเยาเยาก็แอบไว้อาลัยให้ตัวเองหนึ่งนาที
“รีบลุกขึ้น ภาพจิตรกรรมฝาผนังในถ้ำน้ำแข็งนั่น ข้ายังดูไม่หมดเลย! ท่านไม่ลุกขึ้นมา ข้าก็จะไปเองแล้ว”
เย่แจ๋หยิ่งก็คิดไม่ถึงว่าหลานเยาเยาจะตอบสนองอย่างชัดเจนขนาดนี้
หรือว่าเป็นเขาแสดงออกมากเกินไปแล้ว?
เมื่อคืนพวกเขาก็ปฏิบัติต่อกันอย่างเปิดเผยแล้วไม่ใช่หรือ?
ที่ควรดู ที่ไม่ควรดู ก็เห็นหมดแล้ว ที่ควรทำ ที่ไม่ควรทำ ก็ทำหมดแล้ว
และเมื่อคืนท่าทางอารมณ์ที่ดุเดือดเช่นนั้นของนาง ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้นี่!
หรือว่านางเขินอาย?
หลังจากที่ได้ผลสรุปเช่นนี้แล้ว เย่แจ๋หยิ่งก็ยิ้มมุมปากขึ้น เมื่อเห็นคราบเลือดที่แห้งอยู่บนเตียงหยก รอยยิ้มของเขาก็ยิ่งเผยมากขึ้น
หลังจากที่หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่แล้ว เขาก็มองหลานเยาเยาที่นั่งแต่งตัวอยู่หน้ากระจกทองแดง แล้วก็เดินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
หลานเยาเยามองดูตัวเองในกระจกทองแดง
เส้นผมที่ดำดั่งหมึกและมีความยุ่งเหยิงอยู่เล็กน้อย……
ริมฝีปากที่บวมแดงเล็กน้อย……
รอบจูบตรงคอที่เห็นได้ชัดจนตกใจ……
เฮ้อ!
เวรกรรม!
นี่ก็คือการขยายความหมายของความเจ็บปวดและก็มีความสุขได้ดีที่สุด
“ข้าช่วยเจ้ามวยผม” น้ำเสียงที่นุ่มนวลและเย้ายวนดังขึ้น
“ท่านทำเป็น?”
“ต้องเป็นอยู่แล้ว!”
“เช่นนั้นก็ดี!” เพียงแค่ไม่น่าเกลียดมากนางก็ยังพอจะยอมรับได้
มองจากในกระจกทองแดงเย่แจ๋หยิ่งหยิบหวีไม้สีแดงจากมือของนาง หวีผมให้นางด้วยท่าทางที่สง่า มวยผม
หลังจากที่ทำเสร็จ ยังจุ๊บไปที่ริมฝีปากของนางเบาๆ
จากนั้นก็จูงมือนาง พูดอย่างแผ่วเบา : “ไปเถอะ!”
“อ่อ!”
ทันทีที่ลุกขึ้นเดิน นางก็ก้าวเดินด้วยความไม่เป็นธรรมชาติเป็นที่สุด ถึงขั้นมีบางก้าวที่เซไปบ้าง
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเย่แจ๋หยิ่งอย่างแข็งกร้าวแวบหนึ่ง
สมควรตาย
เพราะเย่แจ๋หยิ่งที่รุนแรงเกินไป? หรือเป็นเพราะร่างกายของตัวเองที่อ่อนแอเช่นนี้?
เห็นดังนั้น!
เย่แจ๋หยิ่งที่มุมปากกลั้นยิ้ม ในดวงตากลับแฝงไปด้วยความเอ็นดูเล็กน้อย จากนั้นก็อุ้มนางขึ้นทันที เดินไปทางด้านนอกพระราชวัง……