หวนคืนชะตาแค้น - ตอนที่ 416 โบยฉินอ๋อง (4)
มู่ชิงอีงุนงง “สายตาที่เขามองหม่อมฉัน?” เหตุใดนางถึงไม่สังเกตุเห็นว่าสายตาที่หรงไหวมองตนผิดปกติตรงไหน
หรงจิ่นแค่นเสียงหัวเราะ ก็เพราะว่าชิงชิงไม่ได้สนใจหรงไหว เมื่อเทียบกับหรงเซวียนและหรงเหยี่ยนแล้ว หรงไหวไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจอย่างแท้จริง แม้ตอนนี้ดูเหมือนจะมีอำนาจแต่หรงไหวที่เพิ่งเข้ามาในราชสำนักตอนอายุสามสิบปี จะเทียบกับบรรดาองค์ชายที่อยู่ในราชสำนักมานานกว่าสิบยี่สิบปีได้อย่างไร ถึงแม้พวกตนจะไม่ลงมือทำอะไร แต่ไม่ช้าก็เร็ว หรงไหวก็คงถูกหรงเซวียนและหรงเหยี่ยนฆ่าตายอยู่ดี
แต่หรงไหวกล้ามองชิงชิงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เช่นนั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงแค่พริบตาเดียว แต่เขาก็จะทำให้หรงไหวตายทั้งเป็น!
มู่ชิงอีถอนหายใจแล้วเอ่ยเบาๆ “ในเมื่อไม่เป็นอะไรก็ลุกขึ้นเถิด หรงไหวและหรงเซวียน ถูกฮ่องเต้เเคว้นเย่ว์เรียกเข้าไปในวังแล้ว เกรงว่าคงจะถูกตำหนิ” ท่าทีที่ฮ่องเต้เเคว้นเย่ว์มีต่อหรงจิ่น ถึงแม้มู่ชิงอีจะคิดตั้งหลายเดือนก็ยังไม่เข้าใจ แต่เรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือฮ่องเต้เเคว้นเย่ว์รักใคร่เอ็นดูหรงจิ่น แต่ความรักนี้มันกลับผลักหรงจิ่นให้เป็นศัตรูกับบรรดาองค์ชายทั้งหมด หากฮ่องเต้เเคว้นเย่ว์ยังมีชีวิตอยู่ อาจเอ่ยได้ว่ามันคือความรัก เพราะตราบใดที่ฮ่องเต้เเคว้นเย่ว์มีชีวิตอยู่ก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องหรงจิ่น แต่ตอนนี้ฮ่องเต้เเคว้นเย่ว์อายุจะเจ็ดสิบชันษาแล้ว ซ้ำยังไม่ยอมให้อำนาจหรงจิ่น ความรักเช่นนี้ย่อมเป็นการทำร้ายเขาในอีกมุมหนึ่ง
“ไม่ลุก ข้าป่วย” หรงจิ่นพูดอย่างแน่นิ่ง มู่ชิงอียักไหล่ สองสามวันนี้ไม่มีเรื่องอันใดอยู่แล้ว คิดเสียว่าเขาอยากจะอู้งานก็พอ มู่ชิงอียกมือขึ้นห่มผ้าให้เขา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หม่อมฉันไปดูเนี่ยอวิ๋น?”
“ข้าจะไปกับเจ้า” หรงจิ่นรีบลุกขึ้นนั่งแล้วลงจากเตียงทันที
หลังจากดูแลเขามาได้สองสามวัน สีหน้าของเนี่ยอวิ๋นดีขึ้นไม่น้อย แต่ร่างกายของเขายังไม่แข็งแรงดี ใบหน้ายังคงเป็นสีม่วงคล้ำ เกรงว่าเดิมทีมู่หรงอวี้คงไม่รู้วิธีใช้ยาพิษเท่าไหร่ นอกจากนี้ยาพิษที่อยู่ในมือของมู่หรงอวี้คงไม่ไช่พิษพิเศษที่ทำให้คนตายเลยทันที ซ้ำยังมีกำลังภายในของเนี่ยอวิ๋นควบคุมมันอยู่ ตอนนี้จึงไม่เป็นอันตรายใดๆ
เมื่อเห็นหรงจิ่นและมู่ชิงอีเดินเข้ามา เนี่ยอวิ๋นก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที เห็นว่าเขาจะลงมาจากเตียง มู่ชิงอีจึงรีบออกปากห้าม “หัวหน้าองครักษ์เนี่ยยังไม่หายดี นั่งก่อนเถิด”
เนี่ยอวิ๋นจับจ้องมู่ชิงอี เงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ขอบพระทัยองค์ชายเก้ากับคุณหนูมู่ที่ช่วยชีวิตกระหม่อมเอาไว้”
มู่ชิงอีมองไปที่เนี่ยอวิ๋นด้วยความตกใจ นางปลอมเป็นชายมาตั้งนาน ไม่เคยมีใครรู้ คิดไม่ถึงว่าเนี่ยอวิ๋นจะดูออก คงไม่ใช่เพราะเขามีวิทยายุทธที่ไม่ธรรมดาใช่หรือไม่ หรือว่าเว่ยอู๋จี้ก็มองออกเหมือนกัน?
ครั้นเห็นท่าทีตกใจของมู่ชิงอี เนี่ยอวิ๋นก็ถอนหายใจพลางพูดอย่างกระอักกระอ่วน “ครั้งก่อนที่พบคุณชายจังในเมืองหลวงแคว้นหวา…ก็ล่วงรู้ตัวตนของเจ้าตั้งนานแล้ว” การแต่งงานขององค์หญิงไหวหยางครั้งนั้น เขาบังเอิญจับมือจังชิง ตอนนั้นจึงล่วงรู้ว่าจังชิงเป็นสตรี รู้เพียงแค่นี้ คิดทบทวนอีกสักหน่อยก็ชัดเจนแล้ว
มู่ชิงอีถอนหายใจ ไม่แปลกที่ครั้งก่อนตอนอยู่นอกแคว้นหวา เนี่ยอวิ๋นปล่อยพวกเขาไปอย่างง่ายดาย ที่จริงเขารู้ตัวตนของนางแล้ว “ตอนนั้นหัวหน้าองครักษ์เนี่ยช่วยชีวิตข้าไว้ วันนี้ข้าก็แค่ตอบแทน ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ”
เนี่ยอวิ๋นนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก มู่ชิงอีมุ่นคิ้วพลางมองเนี่ยอวิ๋น “ฮ่องเต้แคว้นหวาสั่งให้หัวหน้าองครักษ์เนี่ยมาฆ่ามู่หรงอวี้เช่นนั้นหรือ”
เนี่ยอวิ๋นพยักหน้า พระราชโองการของฮ่องเต้แคว้นหวาคือฆ่ามู่หรงอวี้ ไม่เช่นนั้นต้องเอาหัวตัวเองไปแลก
มู่ชิงอีถอนหายใจเบาๆ “ก่อนหน้านี้หัวหน้าองครักษ์เนี่ยเคยลงมือแล้ว ก็คงรู้ว่าตอนนี้มู่หรงอวี้คือเจ้าสำนักเย่าหวังกู่ กล่าวตามตรง…ถึงแม้หัวหน้าองครักษ์เนี่ยจะมีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา แต่หากอยากฆ่ามู่หรงอวี้แล้วกลับมาอย่างปลอดภัย ย่อมไม่ง่ายขนาดนั้น”
ตั้งแต่ทรยศแคว้นหวา มู่หรงอวี้ก็รู้ว่าฮ่องเต้แคว้นหวาไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน รอบตัวของเขาเลยเต็มไปด้วยองครักษ์ยอดฝีมือ หลังจากได้เป็นเจ้าสำนักเย่าหวังกู่ เขาสามารถใช้งานยอดฝีมือและยาพิษของสำนักเย่าหวังกู่ได้ตามอำเภอใจ อยากฆ่ามู่หรงอวี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ความพ่ายแพ้ของเนี่ยอวิ๋นในครั้งนี้อาจเป็นเพราะเขาประเมินศัตรูต่ำเกินไป และหลังจากครั้งนี้ มู่หรงอวี้คงเสริมกำลังองครักษ์รอบตัวแน่นหนามากขึ้นกว่าเดิม
เนี่ยอวิ๋นเอ่ยด้วยท่าทางนิ่งสงบ “ฝ่าบาทมีเมตตาต่อเนี่ยอวิ๋น การฆ่ามู่หรงอวี้คือการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ฝ่าบาทมีต่อเนี่ยอวิ๋น ฆ่าไม่ได้ก็ต้องฆ่าให้ได้” แล้วอีกอย่าง ในเมื่อเขายังมีชีวิตคิดหาวิธีก็ย่อมต้องมีหนทางแน่นอน หากต้องตายเพราะเรื่องนี้ก็ถือว่าตายเพื่อฮ่องเต้แคว้นหวา
หรงจิ่นที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ เอ่ยด้วยเสียงเย้ยหยัน “ที่จริงในสายตาของหัวหน้าองครักษ์เนี่ย มีแค่ความเมตตาของฮ่องเต้แคว้นหวาคือบุญคุณ ส่วนของคนอื่นไม่ใช่เช่นนั้นหรือ”
เนี่ยอวิ๋นขมวดคิ้วเอ่ย “องค์ชายเก้าหมายความว่าอย่างไร”
หรงจิ่นเลิกคิ้ว “วันนั้นหากข้าไม่ช่วยเจ้าปกปิด เจ้าคิดว่าเจ้าจะรอดเช่นนั้นหรือ หากไม่ใช่เพราะข้าบอกให้อู๋ฉิงพาเจ้ากลับมาที่จวน เจ้าคงจะตายไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะข้าใช้กำลังภายในช่วยเจ้าควบคุมพิษในตัวของเจ้า ตอนนี้เจ้าคงเป็นศพไปแล้ว ดังนั้น…เจ้าเป็นหนี้ชีวิตข้าสามชีวิต”
มู่ชิงอีอ้าปากค้างด้วยความอึ้งตะลึง แต่กลับพูดอะไรไม่ออก ท่านอ๋องช่างคิดคำนวณเก่งเสียจริง
เนี่ยอวิ๋นเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยอย่างเฉยเมย “องค์ชายเก้า เนี่ยอวิ๋นมีแค่ชีวิตเดียว” เห็นได้ชัดว่า เนี่ยอวิ๋นไม่ได้หลงกลเขา เขามีชีวิตเดียว ตายไปก็หมดแล้ว เขาไม่มีทางเป็นหนี้ชีวิตหรงจิ่นได้ถึงสามชีวิต
หรงจิ่นไม่สนใจ เอ่ยด้วยความพอใจ “ได้ ขอแค่เจ้ายอมรับว่าเจ้าเป็นหนี้ชีวิตข้าก็พอแล้ว”
เนี่ยอวิ๋นพยักหน้า “องค์ชายเก้าอยากให้เนี่ยอวิ๋นตอบแทนอย่างไร”
เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเนี่ยอวิ๋น มู่ชิงอีก็แอบถอนหายใจ ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมหนานกงเจวี๋ย หย่งจยาจวิ้นจู่ หรงจิ่นและเว่ยอู๋จี้ถึงได้ประสบความสำเร็จ แต่เนี่ยอวิ๋นถึงเป็นแค่หัวหน้าองครักษ์ ไม่เพียงแต่พวกเขาสี่คนสถานะแตกต่างกัน นอกจากนั้นเป็นเพราะว่าเนี่ยอวิ๋นเป็นคนดีมีศีลธรรม
หรงจิ่นเอ่ยขึ้น “ข้าไม่ต้องการให้เจ้าตอบแทนข้าด้วยชีวิต แค่ให้เจ้า…ปกป้องชิงชิงเป็นเวลาสิบปี เป็นอย่างไรเล่า คุ้มค่าหรือไม่”
สายตาของเนี่ยอวิ๋นมีความแปลกใจ เดิมทีเขาคิดว่าหรงจิ่นอยากให้เขาจงรักภักดีต่อตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเสนอเงื่อนไขเช่นนี้
“องค์ชายเก้า” มู่ชิงอีมีท่าทีลังเล “หม่อมฉันมีอู๋ซินกับฮั่วซูแล้ว…” เขาคือหนึ่งในองครักษ์ยอดฝีมือ ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ นอกจากนี้มู่ชิงอียังรู้สึกประทับใจในตัวเนี่ยอวิ๋น นางไม่อยากเห็นเขาถูกกักขังอยู่ที่นี่
หรงจิ่นเลิกคิ้ว ยิ้มเอ่ย “ทำไมกัน หัวหน้าองครักษ์เนี่ยไม่อยากทำเช่นนั้นหรือ”
เนี่ยอวิ๋นส่ายหน้า “กระหม่อมยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ”
หรงจิ่นพยักหน้าเอ่ย “ข้ารู้ ฆ่ามู่หรงอวี้ใช่หรือไม่ ตอนนี้เจ้าฆ่าเขาไม่ได้ ฆ่าเขาตอนนี้ เจ้าจะถูกสำนักเย่าหวังกู่ไล่ล่าไปตลอดชีวิต หากเจ้าช่วยข้าปกป้องชิงชิง ข้าจะฆ่ามู่หรงอวี้ให้เจ้าเอง” นัยน์ตาดำขลับแฝงไว้ด้วยความอาฆาต เพราะไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องฆ่ามู่หรงอวี้อยู่แล้ว ใช้เรื่องนี้แลกกับตัวยอดฝีมืออย่างเนี่ยอวิ๋นมันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
เนี่ยอวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถาม “เมื่อไร…องค์ชายเก้าจะฆ่ามู่หรงอวี้เมื่อไรพ่ะย่ะค่ะ” หรงจิ่นเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆ “ภายในหนึ่งปี หากปีหน้าเวลานี้ มู่หรงอวี้ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าจากไปได้เสมอ ถือว่าเราจบสิ้นสัญญาต่อกัน”