หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร - ตอนที่ 45 กองตํารา
ตอนที่ 45 กองตํารา
ฟุบ!! ฟุบ!!
กระบี่ที่พุ่งเข้ามาหาหนิงหลงรวดเร็วไม่น้อย แต่เทียบกับคนที่หนิงหลงเคยเห็นมาอย่างหลินฟาน ท่านลุงหยางเยี่ยนเหว่ย หรือแม้แต่ซีเฉิง พวกเขาเหล่านั้นกลับรวดเร็วกว่ามาก การหลบกระบี่ของคนตรงหน้าเลยไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสําหรับหนิงหลง แถมวิชากระบี่ที่แสดงออกมาก็ยังไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่
เปรี้ยง!
หนิงหลงใช้ฝ่ามือเพลิงโลกันตร์อัดเข้าที่อกของอีกฝ่ายก่อนจะถอยห่างออกไป น่าเสียดายแม้หนิงหลงจะใช้ฝ่ามือออกไปแล้วแต่เพราะอีกฝ่ายมีพลังเหนือกว่าก็เลยไม่มีอาการสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
“แก..อย่าคิดว่าจะหนีได้นะ”เห็นหนิงหลงเข้ามาโจมตีตนเองคนของพรรคยอดศาสตราไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้ นอกจากการหนี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ช่างตีเหล็กคิดจะใช้กําลังกับคนของพรรค เพียงแต่ไม่คิดว่าหนิงหลงจะลงมือระหว่างที่คนตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบอาวุธเท่านั้น เพราะมันไร้ประโยชน์ คนตรวจสอบพวกนี้วรยุทธสูงกว่าคนเฝ้าวัตถุดิบ และคนคอยตรวจตราภายในหลายเท่า การแสดงอาการต่อต้านออกมาต่อหน้าคนตรวจสอบเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย
ฟุบ!!
แม้วิชากระบี่จะไม่น่าสนใจ แต่วิชาตัวเบาของคนตรวจสอบคนนี้น่าสนใจดีไม่น้อย เพียงอึดใจเดียวก็ทะยานตามหลังหนิงหลงมาได้เสียแล้ว
เปรี้ยง!!
หนิงหลงพยายามใช้ฝ่ามือเพลิงโลกันตร์โจมตีใส่ร่างของคนตรวจสอบอีกครั้ง แต่เหมือนคราวนี้อีกฝ่ายจะรู้ทันก็เลยชิงคว้าข้อมือของหนิงหลงเอาไว้ก่อนจะจับหนิงหลงล็อกเอาไว้กับที่ไม่ให้หนีไปไหนได้
“คิดจะหนีงั้นเหรอ ไม่มีทาง” ผู้ตรวจสอบว่าพลางจับร่างของหนิงหลงกลับมายืนยังจุดเดิม เพียงแต่ตอนนี้รอบๆตัว หนิงหลงกลับมีคนของพรรคยอดศาสตราเข้ามาล้อมเอาไว้หมดแล้ว
“ไร้สมองจริงๆ คิดจะหนีทั้งๆที่พวกเรายังล้อมอยู่เนี่ยนะ” คนของพรรคยอดศาสตราคนหนึ่งพูดพลางเท้าเอวยืนมองหนิงหลงด้วยท่าที่ดูถูก ปกติคนที่คิดจะหนีหากไม่คิดจะแอบออกไปก็จะรวบรวมพรรคพวกแล้วซ่อนอาวุธเอาไว้เสียก่อน แต่เจ้าหนนี่กลับหนีมันโต้งๆ ไม่มีว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่รอด หรือว่าเจ้าหนูนี่จะเอาแต่ฝึกฝนวิชาตีเหล็กจนไม่เหลือสมองอยู่แล้วกันนะ
“ท่านครับ จะเอายังไงกับเจ้าหนูนี่ดี” คนคุมวัตถุดิบหันไปหาคนตรวจสอบเพื่อจะถามความคิดเห็น ตนเพียงเรียกอีกฝ่ายมาตรวจสอบอาวุธและความสามารถของหนิงหลงเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ทั้งๆที่หนิงหลงน่าจะสามารถขึ้นไปอยู่บนชั้นสูงๆเพื่อจะได้รับวัตถุดิบชั้นดีในการสร้างอาวุธให้กับพรรคแท้ๆแต่โจมตีคนตรวจสอบแบบนี้จะโดนลงโทษให้อยู่ข้างล่างต่อไปเรื่อยๆก็ไม่แปลก
“ให้มันขึ้นไปข้างบน” คนตรวจสอบคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกให้คนของพรรคพาหนิงหลงขึ้นไปชั้นบนอย่างที่คิดเอาไว้ตอนแรก
“แต่ท่าน เจ้าหนูนี่มัน…” คนคุมวัตถุดิบได้ยินแบบนั้นก็มีความสงสัยเกิดขึ้นทันที ชั้นบนเหล่าช่างตีเหล็กมีพรสวรรค์ได้รับการดูแลจากพรรคยอดศาสตราดีกว่าชั้นใต้ดินนี้มาก แบบนั้นจะเหมาะกับคนที่โจมตีผู้ตรวจสอบงั้นหรือ
“ฝีมือของเจ้าหนูนี่เป็นของจริง มันจะต้องผลิตอาวุธชั้นดี ให้กับพรรคของเราได้แน่ แถม…”คนตรวจสอบหยุดพูดไปกลางคันก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยองๆตรงหน้าหนิงหลงด้วยใบหน้ายิ้มเหี้ยมเกรียมราวกับจะคิดร้ายกับหนิงหลงอยู่
“ผู้คุมด้านบนฝีมือสูงกว่าข้าซะอีก แถมยังมีพวกชอบใช้กําลังกว่าข้าด้วย ถ้าเจ้าหนีเจ้าพวกนั้นไม่จับเจ้าเอาไว้เฉยๆหรอก” ผู้ตรวจสอบว่าพลางจับไปที่แก้มของหนิงหลงก่อนจะตบเบาๆเหมือนกําลังจะบอกว่าสิ่งที่เจ็บปวดกําลังจะตามมาให้เตรียมใส่เอาไว้
“พามันขึ้นไป”ผู้ตรวจสอบว่าพลางยืนขึ้นจัดเสื้อผ้าของตัวเอง ดีที่ชุดของพรรคยอดศาสตรามีความทนทานสูง ไฟของวิชาฝ่ามือเพลิงโลกันตร์เลยไม่ได้ให้เสื้อผ้าของเขาเสียหายเท่าไหร่
.
.
.
โครม!!
หนิงหลงยังไม่ทันจะได้เห็นว่าบนชั้น 4 และ 5 มีรูปร่างเช่นไร เหล่าผู้คุมก็พาหนิงหลงเข้ามาในห้องขนาดใหญ่ที่ห้องในชั้นล่างเทียบไม่ติดก่อนจะโยนหนิงหลงเข้าไปในห้องอย่างไร้เยื่อใยไม่ต่างจากตอนโดนซีเฉิงเหวี่ยงเอาเลย
“เจ้านี่มันคิดจะหนี จับตามันเอาไว้ด้วยล่ะ”ผู้คุมของชั้นล่างพาหนิงหลงมาส่งเสร็จก็หันไปคุยกับพวกผู้คุมที่อยู่ในชั้นบนก่อนจะเดินกลับลงไปทํางานของตนเองที่ชั้นล่าง แต่ก่อนจะลงไปพวกเขาก็ได้บอกอะไรบางอย่างกับเหล่าผู้คุมชั้นนี้เอาไว้ก่อน
“ไอ้หนู เจ้าอดอาหารสามวันแล้วก็ห้ามออกไปข้างนอก ถือเป็นบทลงโทษที่ทําร้ายผู้ตรวจสอบของชั้นล่าง” ผู้คุมว่าพลางปิดประตูห้องของหนิงหลงก่อนจะลงกลอนจากด้านนอก ทําให้ห้องของหนิงหลงปิดตายในทันที
ในห้องชั้นบนนั้นใหญ่และมีข้าวของเครื่องใช้ราวกับห้องของคนมีฐานะในโลกข้างนอกเลย แต่ก็เหมือนเคย ห้องพวกนี้ไม่มีหน้าต่างมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวคือ ประตูที่ล็อกอยู่ด้านหน้าหนิงหลงเท่านั้น หรือก็คือมันก็เป็นเพียงคุกที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น
ตุบ..
หนิงหลงลุกขึ้นมาหยุดยืนกลางห้องด้วยใบหน้าเรียบเฉย ราวกับไม่รู้สึกอะไรกับการกระทําของเหล่าสมาชิกพรรคยอดศาสตราแต่อย่างไร ทั้งเรื่องถูกโจมตีกลับรวมถึงเรื่องโดนขัง 3 วันนั้นเป็นเรื่องที่หนิงหลงคิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องที่เขาไม่สามารถหนีได้ก็ด้วย
ฟุบ..
ร่างของหนิงหลงออกตัววิ่งไปข้างหน้าด้วยท่าเท้าแบบเดียวกับที่ผู้ตรวจสอบของพรรคยอดศาสตราทํา วิชาตัวเบาของชายคนนั้นน่าสนใจไม่น้อยเลย และนั่นก็คือสิ่งที่หนิงหลงต้องการจากการโจมตีใส่ผู้ตรวจสอบ ตอนนี้หนิงหลงสังหารซีเฉิงไม่ได้ อาวุธไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทําให้สามารถเอาชนะได้ ต่อให้เป็นอาวุธระดับเซียนแต่ถ้าผู้ถือเป็นเด็กทารกก็ไม่อาจเปล่งรัศมีออกมาได้
การสังหารซีเฉิงไม่ใช่เพียงการสร้างอาวุธให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ตัวหนิงหลงจะต้องแข็งแกร่งกว่านี้เพื่อจะลงคมดาบทะลุผิวกายของซีเฉิงได้ แต่ในหอตําราไม่มีวิชาต่อสู้ใส่เอาไว้ ทําให้เหล่าช่างตีเหล็กทําได้เพียงฝึกฝนพลังวิญญาณและพลังธาตุเท่านั้น ต่อให้พลังวิญญาณมากกว่าแต่หากขาดทักษะก็คงสู้อีกฝ่ายไม่ได้เช่นกัน ทําให้เหล่าช่างตีเหล็กไม่อาจต่อต้านเหล่าพรรคยอดศาสตราได้เลย
แต่ทว่า…ตั้งแต่เล็กจนโตหนิงหลงมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งที่ไม่เคยบอกใคร แม้อาจารย์กับหลินฟานจะมองออกแต่คนของพรรคยอดศาสตราไม่มีทางทราบเรื่องนี้ หนิงหลงมีความสามารถในการเรียนรู้วิชาสูงมาก ราวกับดวงตาของหนิงหลงสามารถมองเห็นเคล็ดวิชาของอีกฝ่ายได้ เหมือนกับมองเห็นว่าแร่ชนิดไหนมีอะไรผสมอยู่บ้างไม่มีผิด ตัวเขาอ่านกระบวนท่าและเคล็ดวิชาได้อย่างง่ายดายด้วยการมอง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็สามารถเข้าใจและนํามาใช้ได้อย่างเหลือเชื่อ
เพราะแบบนั้นสําหรับหนิงหลงแล้วพรรคยอดศาสตราได้ วางตําราวิชายุทธเอาไว้เต็มไปทั่ววังเหนือศาสตราแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว ขอแค่หนิงหลงเข้าไปอ่านมันเท่านั้น
เคร๊ง!!!
หลังจากออกมาจากห้องได้ หนิงหลงก็สร้างดาบขึ้นมาเล่มหนึ่งจากวัสดุที่เบิกได้จากบนชั้น 4 แห่งนี้ แต่เพราะได้รับการเตือนมาแล้วว่าหนิงหลงมีท่าทีที่จะคิดหนีเหล่าผู้คุมเลยใช้มือกุมอาวุธของตนเองเอาไว้เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่หนิงหลงก็ไม่ทําให้พวกเขาผิดหวัง หนิงหลงใช้ดาบของตนเองโจมตีใส่ผู้คุมอย่างจังจนผู้คุมต้องชักอาวุธออกมาจัดการ
เคร๊ง เคร๊ง!
จริงอย่างที่ผู้ตรวจสอบบอกจริงๆด้วย ผู้คุมบนชั้น 4 และ 5 เก่งกว่าพวกคนของพรรคยอดศาสตราด้านล่างเสียอีก วิชาที่พวกเขาใช้ออกมาหนักหน่วงรุนแรงกว่ามาก แต่หนิงหลงก็รู้อย่างหนึ่งว่าพรรคยอดศาสตราห้ามคนของตนเองไม่ให้ สังหารช่างตีเหล็กของตนโดยเด็ดขาด เพราะพรรคยอดศาสตราค้าขายอาวุธวิเศษเป็นหลักทําให้หนิงหลงสามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนฆ่า
ปึง!!!
หลังจากหนิงหลงโจมตีผู้คุม หนิงหลงก็โดนจับเข้ามาในห้องของตนอีกครั้งก่อนจะขังเอาไว้ไม่ให้ออกมา แต่หนิงหลงที่โดนขังเองกลับไม่คิดจะร้องโวยวายหรือขอร้องให้คนช่วย เขารีบลุกขึ้นยืนก่อนจะตั้งกระบวนท่าและฝึกซ้อมวิชาที่ลอกเลียนมาจากผู้คุมอีกที่หนึ่ง พอเริ่มเหนื่อยก็นั่งลงฝึกฝนพลังวิญญาณให้สูงขึ้นกว่าเดิมเพื่อจะใช้มันล้างแค้นให้สําเร็จ
พรึบ..
ไม่ใช่ทุกครั้งที่หนิงหลงจะโจมตีผู้คุมหลังจากออกมาจากการลงโทษ หนิงหลงเข้าห้องตําราของชั้น 4 และ 5 เพื่อตรวจสอบตําราวิชาตีเหล็กของพรรคยอดศาสตรา และสิ่งหนึ่งที่หนิงหลงได้ทราบก็คือตําราของพรรคยอดศาสตรามีมากกว่า ในห้องตําราของอาจารย์เสียอีก ไม่ใช่เท่านั้นบางเล่มที่เหมือนกันก็ยังมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายๆอย่างที่อาจารย์รู้แต่ที่นี่ไม่รู้อยู่ดี
.
.
.
ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หนิงหลงยังคงอยู่ในชั้น 4 ของวังเหนือศาสตรา สร้างอาวุธและโจมตีผู้คุมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ฝึกฝนพลังวิญญาณซ้ําแล้วซ้ําเล่าจนพลังของหนิงหลงพัฒนาขึ้นมาเป็นระดับหยกขั้น 1 เรียบร้อยแล้ว
“ยอดเยี่ยมมาก…”ไม่ใช่เท่านั้น ในมือของหนิงหลงยามนี้ยังถือกระบี่ระดับตํานานขั้นที่ 1 เอาไว้ด้วย ไม่ใช่แค่กําลังที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นทักษะที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในที่สุดหนิงหลงก็ทะลุข้ามผ่านประตูของระดับชั้นเลิศขึ้นมาจนได้ เพียงแต่คนที่ดีใจที่สุดกลับไม่ใช่หนิงหลงแต่เป็นคนของพรรคยอดศาสตราที่เฝ้าอยู่ข้างๆต่างหาก แถมเพราะหนิงหลงซัดพวกผู้คุมบ่อยๆ เวลาหนึ่งหลงออกมาสร้างอาวุธเหล่าผู้คุมก็เลยเตรียมคนมาคอยป้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยิ่งนานหนิงหลงก็ยิ่งหนีเก่งขึ้น
กึก…
ทันทีที่สร้างกระบี่เสร็จ หนิงหลงก็ใช้มือจับไปที่ด้ามกระบี่ เพื่อจะเริ่มต่อสู้ทันที
“ไม่เอาน่าไอ้หนู…ทําไมต้องตีกับแกทุกครั้งที่แกสร้างอาวุธเสร็จด้วยเนี่ย”ผู้คุมเห็นหนิงหลงจับกระบี่ก็เหมือนทราบชะตารีบชักอาวุธออกมาทันที ปกติผู้คุมและคนของ พรรคยอดศาสตราไม่สามารถสังหารช่างตีเหล็กของตนเองได้อยู่แล้ว เพราะพวกเขาคือแหล่งรายได้และที่มาของอํานาจพรรคอีกด้วย ยิ่งเป็นช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างอาวุธระดับตํานานได้ไม่มีทางที่พวกเขาจะสังหารหนิงหลงอย่างแน่นอน ทุกครั้งที่หนิงหลงเริ่มโจมตีพวกเขาก็เลยได้แต่ใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อจับหนิงหลงกลับไปขังในห้องเท่านั้น