หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร - ตอนที่ 20 จดจำ
ตอนที่ 20
จดจำ
“หลานหนิงหลง ฝ่ามือเพลิงสะท้านนั่นเจ้าเรียนมาจากไหนงั้นหรือ”เจ้าสำนักหยางเยี่ยนเหว่ยเอ่ยปากถามไปทางหนิงหลงที่เพิ่งจะเข้ามานั่งข้างๆด้วยความสงสัย หนิงหลงเข้าสำนักมาแล้วสมควรได้เรียนวิชาของสำนักก็จริงแต่นี่หนิงหลงยังไม่ทันได้เรียนอะไรเลยด้วยซ้ำเหตุใดถึงสามารถใช้วิชาออกมาได้กัน?
“ข้าเรียนมาจากศิษย์พี่ซานขอรับ”หนิงหลงตอบด้วยใบหน้าใสซื่อเสียอย่างนั้น เขาไม่ทราบเรื่องราวในโลกภายนอกเท่าไหร่โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการตีเหล็ก ยิ่งเป็นเรื่องวิชาของแต่ละสำนักด้วยแล้วหนิงหลงไม่ค่อยทราบหรอกว่าห้ามสอนให้คนนอกหรือไม่
“จากหลี่ซานจงงั้นเหรอ…เจ้าไปเรียนมาตอนไหนกัน”หยางเยี่ยนเหว่ยได้ยินก็ยิ่งไม่เข้าใจ หนิงหลงตั้งแต่เข้ามาในสำนักก็เจอหลี่ซานจงไม่กี่ครั้ง ส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องฝึกร่วมกับบุตรและตนเองเท่านั้นไม่ใช่หรือ
“ก็ตอนทำการทดสอบไงขอรับ แต่ศิษย์พี่ใช้ออกมาแค่สองท่าข้าเลยเรียนมาแค่นั้น”หนิงหลงตอบออกมาด้วยใบหน้าใสซื่อราวกับสิ่งที่ตนพูดออกมาเป็นเรื่องปกติเสียอย่างนั้น แต่การมองผู้อื่นแล้วสามารถลอกเลียนวิชาได้นั้นไม่ใช่เรื่องปกติที่คนทั่วไปเขาทำได้หรอก นอกจากท่วงท่าแล้วในกระบวนท่าของแต่ละสำนักยังมีเคล็ดวิชาที่ต้องเรียนรู้ เพราะหากมีแต่กระบวนท่าแต่ไร้เคล็ดวิชาก็ทำได้เพียงวาดฝ่ามือเลียนแบบเท่านั้น แต่ในวันนี้หนิงหลงทำให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้ทำเพียงวาดฝ่ามือตามหลี่ซานจงเท่านั้น แถมยังเคลื่อนพลังวิญญาณและปลดปล่อยฝ่ามือเพลิงสะท้านออกมาได้จริงๆ แถมที่หนิงหลงบอกก่อนหน้านี้ก็เหมือนว่าหนิงหลงจะสามารถใช้ฝ่ามืออีกท่าที่หลี่ซานจงแสดงออกมาได้ด้วย แต่นั่นเป็นฝ่ามือไม้ตายของเคล็ดฝ่ามือเพลิงโลกันตร์เชียวนะ แค่มองครั้งเดียวก็จดจำได้แล้วงั้นหรือ
.
.
.
ตูม!!
อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของอาณาจักรมังกรคราม ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร่ายกระบี่อยู่เบื้องหน้าน้ำตกขนาดใหญ่ด้วยท่าทีสง่างามราวกับท่วงท่ากระบี่ที่นางกำลังร่ายรำออกมานั้นไม่ใช่กระบวนท่าสังหารแต่เป็นท่าอันงดงามแทน แต่ถึงอย่างนั้นกระบวนท่ากระบี่ของนางก็ไม่ใช่สิ่งสวยงามเท่านั้น เพราะมันเป็นกระบวนท่าที่น่ากลัวกระบวนท่าหนึ่งเลยทีเดียว
คลืนนนนนน
พริบตาที่นางวาดกระบี่ไปรอบๆ กระแสน้ำใต้เท้าของนางก็ปั่นป่วนจนเกิดคลื่นน้ำไหลไปตามกระบี่ของนางราวกับนางกำลังบังคับกระแสน้ำด้วยกระบี่ของนางไม่มีผิด ยิ่งนางร่ายรำไปรอบๆ กระแสน้ำใต้เท้าก็ยิ่งบ้าคลั่งราวกับเทพแห่งสายธารากำลังพิโรธไม่มีผิด
คลืนนนนน
กระบี่สุดท้ายของนางวาดไปทางน้ำตกก่อนที่น้ำตกที่ไหลลงมาอย่างรุนแรงจะหยุดชะงักแล้วเกิดภาพที่น่าเหลือเชื่อให้เห็นเบื้องหน้า กระบวนท่าสุดท้ายของนางถึงกับทำให้น้ำตกไหลย้อนทวนกลับขึ้นไปด้านบนได้หลายอึดใจ ผู้ที่ทำเช่นนี้ได้จะต้องมีพลังระดับไหนกัน….
“ยอดเยี่ยมมากขอรับองค์หญิง กระบวนท่าครั้งนี้ยอดเยี่ยมมาก”ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ริมลำธารปรบมือเบาๆด้วยท่าทียินดีก่อนจะเดินลงมาบนผืนน้ำราวกับมันเป็นพื้นดินปกติเสียอย่างนั้น
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านราชครู”หญิงสาวที่ร่ายรำกระบี่อยู่กลางลำธารหันมายิ้มให้ชายหนุ่มด้วยใบหน้าอ่อนหวานก่อนที่น้ำตกที่นางเพิ่งจะทำให้กระแสน้ำไหลย้อนกลับไปจะเริ่มคืนสภาพกลับมาเป็นน้ำตกปกติจนได้
“สมแล้วที่เป็นองค์หญิง ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถสำเร็จวิชากระบี่ธาราเคลื่อนคล้อยได้สำเร็จ ข้าผู้นี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งขอรับที่ได้สั่งสอนองค์หญิง”ชายหนุ่มตอบพลางก้มลงคุกเข่าเบื้องหน้าองค์หญิงด้วยท่าทีนอบน้อม สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะในรอบหลายพัน ไม่สิน่าจะหลายหมื่นปีของอาณาจักรมังกรครามเสียด้วยซ้ำ เพียงอายุแค่ 17 ปีก็บรรลุพลังวิญญาณระดับหยกขาวได้แล้ว เหนือล้ำกว่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ของแต่ละอาณาจักรไปหลายขั้น ไม่ใช่แค่นั้น…
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ ท่านครูก็น่าจะทราบที่ข้าสามารถทำได้เป็นเพราะกระบี่เล่มนี้ต่างหาก”องค์หญิงยิ้มออกมาบางๆก่อนจะหยิบกระบี่ในมือขึ้นมาดู กระบี่ที่นางถือเป็นยอดศาสตราที่คนทั่วทั้งอาณาจักรต่างใฝ่ฝันว่าจะได้ครอบครอง เหตุผลที่ราชวงศ์มังกรครามตัดสินใจให้นางถือเอาไว้ก็เพราะนางเป็นยอดอัจฉริยะแห่งยุค แถมยังเป็นสายเลือดของราชวงศ์อีกด้วย ในอนาคตข้างหน้าขอเพียงนางเติบใหญ่นางจะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรมังกรครามอย่างแน่นอน
“กระบี่ก็สำคัญ แต่ผู้ถือกระบี่หากไร้ฝีมือกระบี่ระดับเซียนเล่มนี้ก็คงมีค่าไม่ต่างจากกิ่งไม้หรอกนะขอรับ”ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าราชครูตอบพลางมองกระบี่ในมือองค์หญิงน้อยด้วยท่าทีอ่อนโยนเช่นกัน ยามนี้ตระกูลหลินของเขามีอำนาจต่อรองมากมายเพราะกระบี่เล่มนี้ ตัวหลินฟานเองได้เป็นราชครูคนสนิทขององค์หญิงอันดับ 7 ผู้นี้นับว่าได้หยั่งรากฐานมั่นคงให้ตระกูลแล้ว แน่นอนว่าที่หลินฟานได้โอกาสนี้ก็เป็นเพราะกระบี่ของหนิงหลง และมันก็ทำให้เหล่าขุนนางคนอื่นๆต่างอิจฉากันถ้วนหน้า แต่…..หลินฟานกลับมีความคิดหนึ่งที่เหล่าขุนนางคนอื่นไม่ทราบและหลินฟานก็ไม่สามารถบอกออกไปได้ นั่นคือในอนาคตแม้องค์หญิงจะเก่งกาจจนเหนือล้ำกว่ายอดฝีมือในอาณาจักร แต่หลินฟานก็ยังไม่คิดว่านางจะไร้คู่ต่อสู้
ความเร็วในการฝึกฝนวิชาต่างๆขององค์หญิงนับว่าเหนือมนุษย์จนเหล่าราชครูคนอื่นๆต่างพากันใจหาย แต่นั่นยังไม่เท่าความรู้สึกตอนหลินฟานรับปากอาวุโสหมิงซานเพื่อสอนวิชาให้หนิงหลงเสียด้วยซ้ำ องค์หญิงใช้เวลาไม่กี่เดือนเพื่อบรรลุวิชากระบี่ธาราเคลื่อนคล้อย แต่……หนิงหลงใช้เวลาเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น ตลอดเวลาหลายเดือนที่หลินฟานอยู่กับหนิงหลง วิชาที่ตระกูลหลินมีโดนหนิงหลงดูดกลืนไปจนหมดราวกับเป็นตำราเคลื่อนที่ไม่มีผิด แต่เพราะตอนนั้นหนิงหลงยังเด็กก็เลยแสดงวิชาออกมาได้ไม่รุนแรงนัก แต่ในใจหลินฟานตอนนั้นกลับสะท้านจนหนาวสั่นไปทั้งตัว และได้แต่บอกว่าโชคดีจริงๆที่หนิงหลงอาศัยอยู่ในอาณาจักรเก้าเมฆาที่เป็นพันธมิตรของอาณาจักรมังกรคราม อย่างน้อยเขาก็ไม่น่าเปลี่ยนมาเป็นศัตรูกับองค์หญิงได้
“หนิงหลง…..”อยู่ๆองค์หญิงก็พูดชื่อของหนิงหลงออกมาทำเอาหลินฟานสะดุ้งโหยงหลุดออกจากความคิดเรื่องอดีตในทันที
“อะไรหรือขอรับองค์หญิง”หลินฟานถามพลางมองไปทางองค์หญิงด้วยท่าทีตกใจ แต่พอเห็นว่าองค์หญิงกำลังประคองกระบี่เพื่อพินิจดูโดยรอบหลินฟานก็เข้าใจทันทีว่าทำไมชื่อ หนิงหลง ถึงออกมาจากปากขององค์หญิงได้
“ทำไมกระบี่เล่มนี้ถึงได้ชื่อหนิงหลงล่ะเจ้าคะ”องค์หญิงถามออกมาด้วยท่าทีสงสัย จริงๆแล้วกระบี่เล่มนี้ไม่ได้มีชื่ออะไร เพราะตัวอาวุโสหมิงซานไม่ได้ตั้งชื่อให้ แต่เพราะมันสลักคำว่า หนิงหลง เอาไว้ที่ใบดาบทำให้ทั้งหลินฟานทั้งคนของอาณาจักรมังกรครามต่างเรียกมันว่ากระบี่หนิงหลงไปเสียแล้ว
“เรื่องนั้น…”หลินฟานยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องของเด็กชายผู้หนึ่งให้องค์หญิงได้ฟัง เรื่องราวของเด็กชายที่ช่วยเหลือตระกูลหลินเอาไว้
.
.
.
“ไม่น่าเชื่อ ความสามารถนี้จะติดต่อกันทางสายเลือดได้ด้วย”เจ้าสำนักเพลิงบัญญัติหยางเยี่ยนเหว่ยนั่งลงภายในห้องนอนของตนก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ หลังจากได้สอบถามจากหนิงหลงแล้ว ทั้งวิชาฝ่ามือเพลิงโลกันตร์ทั้งวิชาอาภรณ์ดอกเหมยที่หนิงหลงเกือบจะใช้ออกมานั้นเกิดจากหนิงหลงมองพวกตนใช้วิชาออกมาทั้งสิ้น
“หนิงหลงเป็นบุตรชายของเขาคนนั้นนี่นา…..”หยางเซียงเซียนที่นั่งอยู่บนเตียงเดียวกันตอบพลางยื่นมือมาจับมือสามีของนางเอาไว้ ความสามารถนี้ของหนิงหลงไม่ทำให้หยางเยี่ยนเหว่ยแปลกใจเท่าไหร่ เพียงแค่ตระหนักว่าหนิงหลงมีความสามารถนี้เช่นเดียวกับบิดาที่ล่วงลับไปแล้วของหนิงหลงเช่นกัน เพียงแต่ความสามารถนี้สร้างปัญหาให้ไม่น้อย หากหนิงหลงแสดงวิชาของสำนักอื่นออกไปต่อหน้าคนของสำนักนั้นๆละก็….
“โชคดีจริงๆที่พวกเราห้ามเขาเอาไว้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องแน่ๆ หลังจากนี้ข้าจะถ่ายทอดวิชาฝ่ามือเพลิงโลกันตร์ให้หนิงหลง แล้วบอกคนในสำนักว่าหนิงหลงเรียนรู้ไปจากข้าก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน”หยางเยี่ยนเหว่ยตอบพลางคิดหาข้ออ้างกับคนในสำนัก
หลังจากทราบความจริงข้อนี้แล้ว หยางเยี่ยนเหว่ยได้กำชับกับหนิงหลงว่าห้ามไปลอกเลียนวิชาของผู้อื่นตามใจชอบอีก และสอนสามัญสำนึกที่ควรจะเป็นของเหล่าผู้อยู่ในสำนักต่างๆให้หนิงหลงเท่าที่จะทำได้ แม้จะไม่ทราบว่าหนิงหลงจะเข้าใจหรือไม่
“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นกับพี่หนิงหลงหรือเจ้าคะ”หยางอี้เฟยที่เพิ่งเข้ามาในห้องของบิดามารดาเห็นทั้งสองพูดเรื่องของหนิงหลงกันอยู่ก็เลยถามออกไปด้วยความสงสัย อยู่ๆพวกท่านก็เรียกพี่หนิงหลงเข้าไปคุยกันเองไม่บอกอะไรนางเลย แบบนี้อี้เฟยก็ย่อมสงสัยเป็นธรรมดา
“ไม่มีอะไรหรอก จริงสิอี้เฟย เจ้าชอบพี่หนิงหลงหรือเปล่า”หยางเยี่ยนเหว่ยถามพลางมองอี้เฟยที่เดินเข้ามานั่งบนตักของเขาด้วยความเคยชิน เพราะไม่สามารถเข้าใกล้คนอื่นได้อี้เฟยเลยมีนิสัยชอบตามติดคนที่สามารถเข้าใกล้ได้เสียอย่างนั้น แต่เพราะน่ารักดีหยางเยี่ยนเหว่ยเลยไม่ได้ว่าอะไร
“ชอบเจ้าค่ะพี่หนิงหลงควบคุมไฟของข้าได้ แล้วก็ใจดีกับข้ามากเลย”หยางอี้เฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้าอ่อนหวานและใสซื่อ
“ดีแล้ว ถึงอย่างไรพี่หนิงหลงของเจ้าก็เป็นบุตรชายของท่านน้าของเจ้า เป็นญาติผู้พี่ของเจ้าและเป็นคนในครอบครัวของเรา เจ้าสามารถไว้วางใจเขาได้”หยางเยี่ยนเหว่ยตอบพลางลูบหัวบุตรสาวด้วยท่าทีเอ็นดู สาเหตุที่หยางเยี่ยนเหว่ยรับหนิงหลงเข้าสำนักเพราะเป็นหลานนั้นไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรย แต่จริงๆแล้วหนิงหลงเป็นหลานชายของหยางเยี่ยนเหว่ยจริงๆ และมารดาแท้ๆของหนิงหลงก็คือน้องสาวของหยางเซียงเซียนเช่นกัน แต่เพราะเรื่องราวบางอย่างพวกตนเลยไม่สามารถบอกหนิงหลงได้ว่าบิดาของเขาคือใคร หรือมารดาของเขาคือใคร เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็จากไปหมดแล้ว หยางเยี่ยนเหว่ยและหยางเซียงเซียนได้แต่ทำหน้าที่ของป้าและลุงโดยไม่ได้แสดงตัวจริงๆเท่านั้น โชคดีที่พวกตนรู้จักอาวุโสหมิงซานก็เลยใช้ข้ออ้างนั้นเรียกหนิงหลงว่าหลานได้อยู่
“จริงสิ….ข้ายังไม่ได้คำตอบเรื่องพลังของอี้เฟยน้อยเลยนี่นา”พอพูดถึงเรื่องหนิงหลงกับบุตรสาวของตน หยางเซียงเซียนก็เพิ่งจะนึกออกว่าตนเองยังไม่ได้คำตอบจากหนิงหลงเรื่องการฝึกให้อี้เฟยเลย เพราะเกิดเรื่องมากมายแท้ๆทำให้นางลืมเรื่องนี้ไปเลย