หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร - ตอนที่ 19 เสียหาย
ตอนที่ 19
เสียหาย
เคร๊ง!!
ค้อนของหนิงหลงกระแทกเข้าใส่กระบี่ของศิษย์สำนักเทพอัคคีที่พุ่งเข้ามาเป็นคนแรกเข้าอย่างจังทำเอากระบี่ของชายคนนั้นหักเป็นสองเสี่ยงอย่างง่ายดายราวกับเป็นเพียงกิ่งไม้แห้งเสียอย่างนั้น
เปรี้ยง!!
หลังจากทำลายอาวุธหนิงหลงก็เปลี่ยนมือซัดฝ่ามือเพลิงสะท้านเข้าใส่อีกฝ่ายทันทีเพื่อผลักชายคนนั้นออกไป แต่ชายที่เข้ามาโจมตีหนิงหลงไม่ใช่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเงินเหมือนสะใภ้ตระกูลอ้าว เขาเป็นศิษย์ของสำนักอันดับ 3 ที่อยู่ระดับทองเช่นเดียวกับหนิงหลง แต่ถึงอย่างนั้น….
ผลัก!!
ร่างของชายที่หนิงหลงซัดฝ่ามือใส่ถอยไปกระแทกร่างของศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นๆที่ตามมาเข้าอย่างจังเล่นเอาศิษย์คนนั้นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
พลังวิญญาณของหนิงหลงก็ไม่ได้ห่างจากเขามาก แต่ทำไมฝ่ามือของหนิงหลงถึงได้รุนแรงนัก แขนของเขาไม่ได้มีมัดกล้ามอะไรแต่แรงปะทะที่เกิดจากการโจมตีเมื่อครู่มันหนักมากอย่างกับโดนเอาค้อนฟาดเลย
“ได้เด็กนี่…”เห็นศิษย์ร่วมสำนักนอกจากจะโดนหักกระบี่แล้วยังโดนซัดจนปลิวอีกต่างหากทำให้ชายร่างใหญ่ที่เพิ่งจะเข้ามาถึงตัวหนิงหลงแสดงท่าทีโมโหเป็นอย่างมาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมเจ้าหนูนี่ถึงทำลายอาวุธวิเศษได้ง่ายดายนัก แต่ขวานในมือของเขานั้นทั้งหนาและใหญ่ไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆแน่นอน
วูบ….
หนิงหลงมองขวานสงครามที่ฟาดลงมาใส่เขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งราวกับไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะเป็นอาวุธหนักมันเลยช้ากว่าพวกกระบี่เสียอีก แถมขวานนั่นยังเป็นเพียงอาวุธวิเศษระดับกลางเท่านั้น ในสายตาของหนิงหลงความทนทานของมันยังน้อยกว่ากระบี่ที่สะใภ้ตระกูลอ้าวใช้ก่อนหน้านี้เลย
เปรี้ยง!!
หนิงหลงยกค้อนของตัวเองขึ้นรับขวานที่สับลงมาด้วยมือข้างเดียว กำลังที่อาวุโสหมิงซานสั่งสมให้หนิงหลงนั้นไม่ได้มีน้อยๆ เพื่อจะยกค้อนสดับทศทิศให้ขึ้นกำลังของหนิงหลงกลายเป็นกำลังของสัตว์ประหลาดไปเสียแล้ว แค่ยกแขนข้างหนึ่งป้องกันเอาไว้ก็ต้านกำลังของชายร่างใหญ่ตรงหน้าได้สบาย
เปรี้ยง!!!
หนิงหลงดันขวานของอีกฝ่ายกลับไปก่อนจะตั้งท่าหวดค้อนของตนใส่ขวานของชายตรงหน้าอย่างจังด้วยกระบวนท่าทำลายขวานหนึ่งในวิชาที่หนิงหลงสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง แม้จะเป็นเหล็กเนื้อหนาแต่ขอเพียงฟาดให้ถูกจุดและส่งแรงกระแทกเข้าไปในส่วนที่เปราะ การทำลายรูปทรงของขวานก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
ตุบ….ตุบ….ตุบ…..
“…………”เศษชิ้นส่วนขวานที่ตกลงมานั้นทำเอาชายร่างใหญ่จากสำนักเทพอัคคีไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าหนูนี่พลังวิญญาณระดับทองเช่นเดียวกับเขาแน่ๆ ทำไมถึงได้รับมือยากเช่นนี้
เปรี้ยง!!
หนิงหลงทำลายอาวุธเสร็จก็ซัดฝ่ามืออัดร่างของชายคนนั้นออกไปเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ก็อยู่ในสภาวะชุลมุนเหล่าศิษย์ของสำนักเทพอัคคีไม่คิดจะหยุดเพราะฝ่ายตนโดนจัดการไป 2 คนแน่ๆ
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!!
ยิงฝ่ายเทพอัคคีเข้ามามากเท่าไหร่ หนิงหลงก็ใช้ค้อนทำลายอาวุธของอีกฝ่ายไปมากเท่านั้น แต่ยิ่งออกแรงหนิงหลงที่มีพลังเพียงระดับทองก็เสียพลังวิญญาณไปเรื่อยๆกลัวว่าต่อสู้ในสถานการณ์นี้ต่อไปหนิงหลงจะหมดแรงเข้าจนได้ เช่นนั้นแล้วต้องหาทางรับมือกับฝ่ายตรงข้ามให้ได้
พรึบ…..
พริบตานั้นรอบกายหนิงหลงก็เกิดเปลวเพลิงสีแดงสดราวกับดอกเหมยออกมาปกคลุมร่างกาย หากมีคนมองอยู่จะพบว่ารอบร่างของหนิงหลงนั้นมีเปลวเพลิงที่เหมือนกับวิชาอาภรณ์ดอกเหมยของหยางเซียงเซียนปรากฏออกมาเลย แม้จะดูไม่เสถียรเท่าไหร่ แต่ก็เป็นวิชาอาภรณ์ดอกเหมยไม่ผิดแน่
ตูม!!!
แต่ก่อนที่วิชาของหนิงหลงจะแสดงออกมาให้ทุกคนได้เห็น อยู่ๆก็มีแรงกระแทกมหาศาลเกิดขึ้นเบื้องหน้าศิษย์ของสำนักเทพอัคคีที่กำลังพยายามล้อมหนิงหลงเอาไว้พอดี แรงกระแทกนั่นมีหนิงหลงเป็นศูนย์กลางกระแทกพวกเขาออกมาจนไม่สามารถล้อมหนิงหลงได้สำเร็จ เพียงแต่แรงกระแทกนี้ไม่ได้เกิดจากตัวหนิงหลงเอง แต่เป็น….
ตุบ….
“เอาเจ้าสำนักของพวกเจ้ากลับไป”หยางเยี่ยนเหว่ยโยนร่างของเจ้าสำนักเทพอัคคีลงบนพื้นเบื้องหน้าพร้อมแบกดาบเพลิงบูรพาเอาไว้บ่นไหล่ การต่อสู้ของพวกเจ้าสำนักจบลงแล้ว และผลที่ออกมาก็คือเจ้าสำนักเทพอัคคีพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย แถมยามนี้เจ้าสำนักออกมายืนหน้าหนิงหลง เหล่าศิษย์ที่พยายามเล่นงานหนิงหลงก็หมดหนทางเข้ามาทำร้ายเสียแล้ว
“หลานหนิงหลง….ยามใช้วิชาเจ้าต้องระวังให้มากกว่านี้นะ”หยางเยี่ยนเหว่ยมองมาทางหนิงหลงที่รอบกายมีเปลวเพลิงสีแดงสดให้เห็นอยู่เล็กน้อย เขาเอามือจับไปที่บ่าของหนิงหลงก่อนจะส่งพลังของตัวเองเข้าไปขัดขวางวิชาจนเพลิงสีแดงสดพวกนั้นหายไปจนหมด ท่าทีของหยางเยี่ยนเหว่ยดูไม่แปลกใจอะไรเท่าไหร่ราวกับว่าเจ้าตัวรู้อะไรบางอย่างมาก่อนแล้ว
“ขอรับ….”หนิงหลงพยักหน้าช้าๆก่อนจะค่อยๆลดพลังวิญญาณของตนลง การต่อสู้ครั้งนี้นับเป็นการต่อสู้ที่หนักมากครั้งหนึ่งของหนิงหลงเลย ศิษย์ของสำนักฝึกฝนพลังวิญญาณนี่เก่งกันจริงๆ แถมยังมีใจสู้อีกต่างหาก
“เอาล่ะ การสอนของพวกเราจบแล้ว พวกเจ้ากลับไปซะ”หยางเยี่ยนเหว่ยว่าพลางยกดาบเพลิงบูรพาขึ้นมาชี้ไปทางพวกศิษย์สำนักเทพอัคคี ตอนแรกการปะทะกันในระดับศิษย์ฝ่ายสำนักเพลิงบัญญัติค่อนข้างจะเสียเปรียบอยู่มากเพราะอาวุธต่างกันเกินไป แต่ทันทีที่พวกศิษย์ของสำนักเทพอัคคีเริ่มหันมาล้อมหนิงหลง ฝ่ายเพลิงบัญญัติก็ได้รับแรงกดดันน้อยลง แถมที่สะใจที่สุดคงเป็นเรื่องที่พวกมันโดนทำลายอาวุธกันไปหลายเล่มนี่ล่ะ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…..”ฝ่ายสำนักเทพอัคคีพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด แต่สะใภ้ตระกูลอ้าวที่เป็นคนชักศึกมายังสำนักเพลิงบัญญัติกลับเพิ่งจะได้สติ แต่ภาพที่นางได้เห็นครั้งแรกยามตื่นขึ้นมากลับเป็นภาพของพ่อสามีที่นอนอยู่บนพื้นเบื้องหน้าคนของสำนักเพลิงบัญญัติ แถมยังมีเศษอาวุธวิเศษจำนวนมากแตกหักเสียหายอยู่บนพื้นอีกต่างหาก
“พวกเจ้า…….”สะใภ้ตระกูลอ้าวเห็นเศษอาวุธก็หน้าถอดสีไม่นึกว่าแค่มาหาเรื่องสำนักเพลิงบัญญัติก็ถึงกับเสียอาวุธวิเศษไปมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ทวนแทงตะวัน แต่กระบี่ประจำตัวของนางที่อยู่ระดับตำนานเช่นเดียวกันก็เสียหายไปด้วย ไม่เท่านั้นหากมองบนพื้นก็จะพบว่ามีอาวุธไม่ต่ำกว่า 15 เล่มที่กลายเป็นเศษโลหะอยู่บนพื้น คิดว่าอาวุธพวกนั้นราคาเท่าไหร่กัน แบบนี้ไม่ใช่แค่สำนักเทพอัคคีเท่านั้น แม้แต่นางเองก็คงโดนตระกูลต่อว่าแน่ๆ
“เจ้ายังมีปัญหาอะไรอีกงั้นเหรอ”หยางเซียงเซียนภรรยาของเจ้าสำนักเดินตามเข้ามาด้วยท่าทีดุดัน นางใช้สายตาอันเย็นยะเยียบมองไปยังเหล่าคนของสำนักเทพอัคคีราวกับจะฆ่าคนพวกนั้นให้หมด แน่นอนว่าตอนนี้นางทำแบบนั้นไม่ได้ แต่หากพวกมันยังหาเรื่องอีกก็คงเป็นอีกเรื่อง
“คุณหนู พวกเราพาท่านเจ้าสำนักกลับก่อนเถอะขอรับ ตอนนี้อีกฝ่ายมีระดับราชาสวรรค์สองคนพวกเรารับมือไม่ไหวแน่ๆ”ผู้อาวุโสของสำนักเทพอัคคีเดินเข้ามาพยุงร่างของสะใภ้ตระกูลอ้าวให้ลุกขึ้น ส่วนรองเจ้าสำนักก็เข้าไปอุ้มร่างของเจ้าสำนักเทพอัคคีขึ้นบ่าด้วยท่าทีเกรงๆ ไม่นึกเลยว่าสำนักเพลิงบัญญัติจะซ่อนความเก่งกาจเอาไว้ขนาดนี้ คิดจะเป็นสำนักเพลิงอันดับหนึ่งท่าทางจะเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว
“พวกเจ้าจำเอาไว้เลย ตระกูลข้าไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่”สะใภ้ตระกูลอ้าวกล่าวคำอาฆาตก่อนจะมองไปทางหนิงหลงอย่างไม่วางตา ในศึกครั้งนี้ศิษย์สำนักเทพอัคคีบาดเจ็บนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครตาย ที่หนักที่สุดคืออาวุธวิเศษที่เสียไป แต่คนที่ทำลายอาวุธวิเศษไปมากที่สุดกลับไม่ใช่เจ้าสำนักอย่างหยางเยี่ยนเหว่ย แต่เป็นหนิงหลงต่างหาก แม้นางจะไม่ทราบว่าหนิงหลงทำลายอะไรไปบ้างเพราะสลบไป แต่วันนี้นางไม่มีทางลืมใบหน้าของหนิงหลงแน่ๆ สักวันนางจะต้องหาทางเอาคืนเจ้าเด็กนั่นที่ทำลายกระบี่ของนางให้ได้
“เอาล่ะ หมดเรื่องแล้ว ใครที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาที่เรือนพยาบาล ข้าจะพาอี้เฟยไปพักเสียหน่อย”หยางเยี่ยนเหว่ยเห็นสำนักเทพอัคคีถอยไปแล้วก็เก็บอาวุธกลับเข้ากำไลก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นผ่อนคลายขึ้นทันที แต่ถึงอย่างนั้นวันนี้สำนักเทพอัคคีก็ทำให้หยางเยี่ยนเหว่ยได้ทราบปัญหาของสำนักอย่างหนึ่ง ตอนแรกหยางเยี่ยนเหว่ยไม่อยากให้ศิษย์พึ่งพาอาวุธวิเศษเกินไปเลยไม่จัดหาอาวุธวิเศษให้เหล่าศิษย์เอาไว้ใช้เป็นอาวุธประจำตัว แต่พอได้เห็นผลของศึกวันนี้แล้วท่าทางหยางเยี่ยนเหว่ยคงต้องคิดใหม่
ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีอาวุธวิเศษแล้วเก่งกว่าศิษย์ฝ่ายตน แต่เพราะศิษย์ของสำนักเทพอัคคีใช้อาวุธวิเศษได้ไม่ถึงขั้นเลยด้วยซ้ำ ปกติแล้วมีอาวุธวิเศษเอาไว้ในมือควรจะแสดงแสนยานุภาพได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นเพียงได้เปรียบฝ่ายตนนิดหน่อยเท่านั้น เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขายังไม่ชินกับการใช้อาวุธวิเศษ ต่อให้ได้อาวุธมาก็เหมือนไก่ได้พลอย เขาจะปล่อยให้สำนักเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ เช่นนั้นแล้วเขาควรจะหาอาวุธวิเศษระดับกลาง หรือ สูง เข้ามาในสำนักบ้าง และฝึกให้เหล่าศิษย์คุ้นชินกับการใช้อาวุธบ้างไม่อย่างนั้นในภายภาคหน้าหากมีสงครามระหว่างอาณาจักรปะทุขึ้นอีก ยามตัดสินเป็นตายแล้วศิษย์ของตนใช้อาวุธไม่เป็นคงอันตรายแน่
“ท่านเจ้าสำนัก ค่าเสียหายวันนี้เอาอย่างไรดีขอรับ”ผู้อาวุโสหงมองไปรอบๆก่อนจะหันไปถามหยางเยี่ยนเหว่ยเรื่องค่าเสียหายออกมาเสียอย่างนั้น ตอนนี้สวนหน้าสำนักเสียหายหลายจุด แถมประตูเหล็กกล้าสลักลายเปลวเพลิงก็โดนทำลายจนเสียรูปทรงไปหมด ค่าซ่อมของพวกนี้ไม่ใช่ถูกๆแน่นอน
“ซ่อมแซมให้เรียบร้อยแล้วส่งใบเรียกเก็บเงินไปให้สำนักเทพอัคคีซะ ท่านเจ้าสำนักเทพอัคคีประกาศเอาไว้แล้วว่าจะจ่ายค่าซ่อมแซมให้เองแลกกับการสั่งสอนของพวกเรานี่นะ”หยางเยี่ยนเหว่ยหัวเราะออกมาเช่นเดียวกับเหล่าคนของสำนักที่พากันหัวเราะเช่นเดียวกัน วันนี้สำนักเทพอัคคีคงได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่ของสำนักเพลิงบัญญัติแล้ว คงไม่กล้าโอ้อวดต่อหน้าพวกตนอีกเป็นแน่
“หลานหนิงหลง ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าหน่อย กลับไปที่พักของข้าเถอะ”หยางเยี่ยนเหว่ยเดินมาหาหนิงหลงก่อนจะชวนให้หนิงหลงกลับเข้าไปกับตนเอง นี่เขาต้องการคุยเรื่องอะไรกัน?