หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร - ตอนที่ 14 ต่อว่า
ตอนที่ 14
ต่อว่า
“เจ้าได้ยินหรือเปล่า มีเด็กคนหนึ่งเข้าสำนักมาเมื่อวาน ได้ยินว่าไม่ต้องรับการทดสอบก็สามารถเข้าได้เลยนะ”เสียงพูดคุยของเหล่าศิษย์ในสำนักยามนี้แม้จะมีหลากหลายเรื่องราวให้พูดคุยกัน แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่เหล่าศิษย์ในสำนักเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดกัน นั่นก็คือเรื่องของเด็กหนุ่มปริศนาคนหนึ่งที่เข้ามาในสำนักโดยไม่ได้ผ่านการทดสอบ แถมยังเข้าไปอยู่ในส่วนที่พักของท่านเจ้าสำนักทันทีอีกต่างหาก
“ได้ยินว่าศิษย์พี่หว่านจือกับศิษย์พี่ซานเถียงกันยกใหญ่เลยเชียวนะ”ท่าทางข่าวของหนิงหลงที่แพร่ออกไปในกลุ่มศิษย์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรการรับศิษย์ใหม่โดยไม่ทดสอบแถมยังได้รับสิทธิ์พิเศษก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยใสสะอาดเท่าไหร่
“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน สำนักเพลิงบัญญัติของเราไม่เคยยอมให้ใช้เส้นสายแบบนี้มาก่อนไม่ใช่หรืออย่างไร”เหล่าศิษย์ยังคงมองหน้ากันด้วยท่าทีสงสัย น่าเสียดายคนที่รู้เรื่องดีอย่างหว่านจือกับหลี่ซานจงกลับไม่ได้มากระจายข่าวความจริงเสียด้วยทำให้เรื่องยิ่งเลยเถิดเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าเรื่องมันอยู่แค่ในกลุ่มศิษย์ก็ว่าไปอย่าง
“พวกเจ้า พูดเรื่องอะไรกัน”อยู่ๆท่ามกลางกลุ่มศิษย์ที่กำลังพูดคุยกันอยู่กลับมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน นางดูภายนอกแล้วสวยสง่าและดูสูงส่งอย่างมากราวกับเทพธิดาไม่มีผิด เพียงแต่ยามนางจ้องมองเหล่าศิษย์กลับมีแววตาที่ดุดันจนทำเอาเหล่าศิษย์หนาวสั่นไปหมด
“อาจารย์หญิง พวกเราไม่ได้…..”เหล่าศิษย์เห็นอีกฝ่ายได้ยินเรื่องที่พวกตนกำลังนินทาหนิงหลงอยู่ก็สะดุ้งโหยงรีบปฏิเสธทันที แต่ท่าทางจะไม่ทันเสียแล้ว
“พวกเจ้าบอกว่า มีการรับศิษย์โดยใช้เส้นสายอย่างนั้นหรือ ข้าแค่ไม่อยู่ครู่เดียวหยางเยี่ยนเหว่ยทำอะไรกัน”หญิงสาวตนนั้นพูดออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ นางได้ยินที่เหล่าศิษย์คุยกันมาได้พักหนึ่งแล้ว เลยพอจะจับใจความได้
“อาจารย์หญิง พวกเราเพียงได้ยินมาเฉยๆเท่านั้นขอรับ แต่หลายวันก่อนก็ไม่มีการทดสอบอะไรเกิดขึ้นเลยจริงๆขอรับ”เหล่าศิษย์เห็นอาจารย์หญิงจ้องมองด้วยท่าทีจริงจังก็ไม่กล้าโกหก ได้แต่บอกออกไปตามตรง หญิงสาวนางนี้คืออาจารย์หญิงของสำนักเพลิงบัญญัติ และยังเป็นภรรยาของเจ้าสำนักเพลิงบัญญัติอีกด้วย นางออกเดินทางไปทำธุระเมื่อหลายเดือนก่อนท่าทางนางจะไม่ทราบเรื่องที่หยางเยี่ยนเหว่ยรับตัวหนิงหลงเข้ามาในสำนักแน่ๆ
“เล่ามา ข้ารอฟังพวกเจ้าอยู่”ภรรยาของหยางเยี่ยนเหว่ยว่าพลางกอดอกเหมือนกำลังรอฟังอีกฝ่ายอยู่ ทำให้เหล่าศิษย์ได้แต่ยอมเล่าออกไปแต่โดยดีเท่านั้น
.
.
.
“เซียงเซียน เจ้ากลับมาแล้วงั้นหรือ”หลังจาก หยางเซียงเซียน ภรรยาของหยางเยี่ยนเหว่ยเดินทางเข้ามาในส่วนที่พักของเจ้าสำนัก หยางเยี่ยนเหว่ยก็เดินออกมาต้อนรับภรรยากลับบ้านทันที เพียงแต่ใบหน้าของภรรยายามกลับมาบ้านครั้งนี้เหตุใดถึงได้บึ้งตึงนัก
“ท่านพี่ ครั้งนี้ข้าได้ข่าวดีกลับมาไม่น้อยเลย แต่พอกลับมาข้ากลับได้รับข่าวที่ไม่ดีนัก”หยางเซียงเซียนพูดพลางมองไปทางสามีของตนด้วยท่าทีดุๆไม่ต่างจากมองเหล่าศิษย์ก่อนหน้านี้เลย
“เรื่องอะไรงั้นหรือ ข้า….ไม่ได้ทำอะไรผิดใช่หรือเปล่า”หยางเยี่ยนเหว่ยโดนภรรยาจ้องมองเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือดเหมือนเด็กทำผิดแล้วโดนจับได้เสียอย่างนั้น
“ระหว่างข้าไม่อยู่ ท่านแอบรับศิษย์เข้ามาเป็นพิเศษใช่หรือไม่ ไม่รู้หรือว่าตอนนี้เหล่าศิษย์กำลังพูดกันให้ทั่วไปหมด”ทันทีที่เริ่มเปิดเรื่อง หยางเซียงเซียนก็เอ่ยปากต่อว่าสามีนางอย่างเป็ดร้อนทันที เล่นเอาหยางเยี่ยนเหว่ยถอยกรูดแทบไม่ทันตั้งตัว
“น้องเซียงเซียน หลานหนิงหลงไม่ได้เข้าเป็นศิษย์ของสำนักนะ แค่มารับการสั่งสอนจากข้าเท่านั้น แถมหลานหนิงหลงก็ยังเป็นศิษย์ของท่านหมิงซานด้วย”หยางเยี่ยนหลงเห็นภรรยาเว้นช่องไฟก็รีบแทรกเข้าไปแก้ตัวทันที
“จะมารับคำสอนของท่านหรืออาจารย์คนอื่นก็คือมารับความรู้จากสำนักเราไม่ใช่หรือยังไง เด็กคนนั้นหากจะรับความรู้จากท่านก็ต้องรับท่านเป็นอาจารย์ แล้วนี่อะไรเด็กคนนั้นมีอาจารย์อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ถึงจะเป็นศิษย์ของท่านหมิงซานแต่ท่านก็ไม่ควรปฏิบัติลำเอียงเช่นนี้ไม่ใช่หรือ”แม้จะแก้ตัวออกไปแล้ว หยางเซียงเซียนก็ยังต่อว่าหยางเยี่ยนเหว่ยได้เป็นชุดๆไม่หยุดหย่อน เล่นเอาหยางเยี่ยนเหว่ยยิ้มแทบไม่ออก
“ท่านรู้หรือไม่ว่าเหล่าศิษย์เสียความเชื่อใจไปเท่าไหร่กับเรื่องนี้ แล้วท่านจะรับผิดชอบอย่างไรหากเหล่าศิษย์เสื่อมศรัทธาในสำนักของเรา ไม่ว่าจะอย่างไรเด็กคนนั้นก็ต้อง…..”
“ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”ระหว่างหยางเซียงเซียนกำลังต่อว่าสามีของนาง อยู่ๆที่ประตูด้านหลังก็ปรากฏร่างเล็กๆของหยางอี้เฟยที่กำลังเดินมาพร้อมกับหนิงหลงเสียอย่างนั้น
“อี้เฟยน้อยของแม่ เจ้าสบายดีนะ”ทันทีที่เห็นบุตรสาวเดินออกมา ใบหน้าดุดันของหยางเซียงเซียนก็เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มของนางฟ้าเสียอย่างนั้น แถมยังรีบเข้าไปหาบุตรสาวก่อนจะโอ๋นางเป็นการใหญ่เล่นเอาหยางเยี่ยนเหว่ยได้แต่เช็ดเหงื่ออยู่ด้านหลัง ขอบคุณบุตรสาวคนนี้จริงๆที่ช่วยให้หูของเขารอดพ้นมาได้
“ท่านแม่ พี่ชายท่านนี้คือพี่หนิงหลงเจ้าค่ะ พี่หนิงหลงมาช่วยสอนข้าควบคุมไฟด้วยเจ้าค่ะ เมื่อวานพี่หนิงหลงสร้างดอกไม้จากไฟด้วยเจ้าค่ะมันสวยมากเลย”หยางอี้เฟยไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางทราบเพียงว่ามารดากลับมาแล้วก็รีบเข้าไปหาแถมยังเล่าเรื่องของหนิงหลงให้นางฟังอย่างดีอกดีใจอีกด้วย
“อย่างนี้นี่เอง อี้เฟยน้อยของแม่มีความสุขก็ดีแล้ว ส่วนเจ้าคือหนิงหลงสินะ ยินดีที่ได้รู้จักข้าชื่อหยางเซียงเซียนเป็นมารดาของหยางอี้เฟย”ต่อหน้าบุตรสาวหยางเซียงเซียนเปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ นางยิ้มหวานก่อนจะกล่าวต้อนรับหนิงหลงอย่างอ่อนโยนเสียอย่างนั้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แทบจะออกปากไล่หนิงหลงไปแล้วแท้ๆ
“ข้าหนิงหลงขอรับ”หนิงหลงประสานมือคารวะหย่างนอบน้อมก่อนจะมองไปทางด้านหลังของท่านหยางเซียงเซียน ทำไมใบหน้าของท่านลุงหยางเยี่ยนเหว่ยถึงได้ซีดนักล่ะ
“หนิงหลง เจ้าเป็นศิษย์ของท่านหมิงซานสินะ ทำไมถึงมาที่นี่งั้นหรือ”เซียงเซียนถามพลางมองไปทางหนิงหลงด้วยท่าทีอ่อนโยนลง เห็นหนิงหลงสุภาพมารยาทดีก็เลยรู้สึกเอ็นดูขึ้นมาบ้างแถมอี้เฟยยังเดินมากับเขาทั้งๆที่ปกติกลัวคนแปลกหน้าแท้ๆแสดงว่าเด็กคนนี้เป็นคนดีไม่น้อยเลย
“ข้ามีปัญหาเรื่องระดับพลังธาตุไม่เพียงพอขอรับ อาจารย์เลยให้ข้ามาขอคำชี้แนะกับท่านลุงหยาง”หนิงหลงตอบด้วยท่าทีนอบน้อมและตรงไปตรงมา ตอนนี้หนิงหลงไม่สามารถสร้างไฟที่ร้อนมากพอจะหลอมโลหะบางชนิดได้ เพราะแบบนั้นก็เลยต้องมาที่สำนักเพลิงบัญญัติเพื่อหาสิ่งที่ขาดหายไป
“ตาแก่เจ้าเล่ห์……”
“อะไรนะขอรับ”อยู่ๆหยางเซียงเซียนก็บ่นอะไรออกมา แต่มันเบามากจนหนิงหลงฟังไม่ได้ยินเลยรีบถามออกไปเพราะกลัวว่าจะตอบคำถามของนางได้ไม่ดี
“ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ หลานหนิงหลงเจ้าเข้ามาฐานะหลานของหยางเยี่ยนเหว่ยก็จริง แต่ข้าไม่สามารถยอมรับเรื่องนั้นได้ ตอนนี้ศิษย์ในสำนักไม่พอใจกันเท่าไหร่เรื่องที่เจ้าเข้ามาโดยไม่ต้องทดสอบอะไร”แม้จะเอ็นดูบุตรสาว แต่กฎของสำนักก็ต้องเป็นกฎ หากไม่หยุดความขัดข้องใจของเหล่าศิษย์อาจจะกลายเป็นเหตุบานปลายได้ เพราะงั้นหยางเซียงเซียนเลยไม่อาจยอมให้หนิงหลงเข้ามาในสำนักเฉยๆเพียงเพราะเป็นหลานของหยางเยี่ยนเหว่ยได้
“ท่านแม่ แต่พี่หนิงหลงเก่งมากเลยนะเจ้าคะ ไม่เห็นจะต้องทดสอบเลย”อี้เฟยได้ยินก็โต้แย้งแทนหนิงหลงทันที คนที่สามารถควบคุมไฟของนางที่กำลังคลุ้มคลั่งได้มีไม่กี่คนในสำนักด้วยซ้ำ เช่นนั้นแล้วหนิงหลงก็ต้องเก่งกาจมากแน่ๆ
“เรื่องนั้นแม่รู้แล้วจ่ะ แต่พี่ๆในสำนักเขายังไม่รู้นี่นา เพราะงั้นเรามาทำให้พี่ๆในสำนักรู้กันดีกว่าว่าพี่หนิงหลงของเจ้าเหมาะสมจะอยู่กับพวกเรา”หยางเซียงเซียนว่าพลางลูบหัวบุตรสาวด้วยความเอ็นดู ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับหนิงหลงเสียหน่อย
“หนิงหลง น้าเองก็อยากจะรับเจ้าเข้ามาโดยไม่ต้องทดสอบเหมือนกัน ท่านหมิงซานก็เคยมีบุญคุณกับพวกเรา แต่น้าไม่อาจฝ่าฝืนกฎสำนัก พรุ่งนี้ข้าจะให้เจ้ารับการทดสอบต่อหน้าศิษย์ทั้งสำนักเพื่อยืนยันความสามารถของเจ้า”หยางเซียงเซียนหันไปพูดกับหนิงหลงด้วยท่าทีจริงจัง แต่หยางเยี่ยนเหว่ยกลับไม่ทราบจะทำหน้าอย่างไรดี
“น้องเซียงเซียน หนิงหลงเป็นช่างตีเหล็กนะ เรื่องวิชาต่อสู้อาจจะไม่ค่อยดีนัก”หยางเยี่ยนเหว่ยกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้ที่เข้าไปขวางการทดสอบก็เพราะกลัวว่าหนิงหลงจะไม่ผ่านการทดสอบเรื่องการต่อสู้ แม้จะเชื่อมั่นในพลังไฟของหนิงหลงและไม่อยากจะดูถูกกัน แต่ทักษะการต่อสู้ของช่างตีเหล็กมันออกจะ….
“ไม่เป็นไรขอรับท่านลุง ข้าคิดว่าข้าพอจะต่อสู้ได้ขอรับ”หนิงหลงตอบพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้ามั่นใจ ตัวเขาไม่ได้เป็นศิษย์ของอาจารย์เท่านั้นแต่ยังเป็นศิษย์ของพี่หลินฟานอีกด้วย เรื่องวิชาต่อสู้ตัวเขาเองก็พอจะทราบเรียนรู้มากบ้าง
“ดีมาก น้าจะรอดูความสามารถของเจ้าในวันพรุ่งนี้”หยางเซียงเซียนเห็นหนิงหลงไม่ได้ขัดข้องอะไรกับการทดสอบก็ยิ้มออกมา แสดงว่าการรับเข้ามาเป็นพิเศษครั้งนี้เป็นเพราะสามีของนางคิดเอาเองทั้งนั้น เช่นนั้นนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของหนิงหลงหรืออาวุโสหมิงซาน แต่เป็นความผิดของสามีนางแน่ๆ
“แต่ว่านะน้องเซียงเซียน หนิงหลงเรียกข้าว่าท่านลุงเช่นนั้นเจ้าต้องแทนตัวเองว่าป้าไม่ใช่หรือ”หยางเยี่ยนเหว่ยเห็นภรรยาแทนตัวเองว่าน้ามาสักพักแล้วก็เลยเอ่ยปากถามออกไปด้วยความสงสัย นางไม่น่าจะเรียงลำดับความอาวุโสผิดนี่นา อย่างไรบิดาของหนิงหลงก็อายุน้อยกว่าหยางเยี่ยนเหว่ยและอย่างเซียงเซียนนะ
“………..”คำตอบจากหยางเซียงเซียนหาใช่คำพูดไม่ แต่กลับเป็นจิตสังหารที่แผ่พุ่งมาทางสามีของตนเสียอย่างนั้น ท่าทางเรื่องนี้คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องจัดการกันในภายหลังเสียแล้ว