หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร - ตอนที่ 1 คุกเข่า
ตอนที่ 1
คุกเข่า
ซ่า!!
น้ำในถังไม้ถูกสาดออกมาใส่ร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นอย่างจัง ตามปกติแล้วโดนน้ำที่สาดออกมาไหลอาบไปทั้งชุดที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็หรูหรามีราคาเช่นนี้ผู้ถูกสาดก็ต้องโกรธกันบ้าง แต่ชายหนุ่มที่โดนน้ำจากถังไม้สาดจนเปียกไปทั้งตัวกลับไม่มีท่าทีโกรธแต่อย่างไร ตรงกันข้ามเขากลับยิ้มออกมาบางๆแล้วนั่งคุกเข่าแบบนั้นต่อไปโดยไม่บ่นอะไรออกมาแม้แต่น้อย
“พี่ชาย…อาจารย์ของข้าเป็นคนใจแข็งนะขอรับ ถึงท่านนั่งอยู่ตรงนี้จนตายอาจารย์ของข้าก็ไม่สนใจหรอก”เด็กชายที่ถือถังไม้เอาไว้ในมือพูดพลางมองมาทางชายหนุ่มด้วยท่าทีนิ่งๆเหมือนเคยชินกับภาพแบบนี้อยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมานั่งคุกเข่าอยู่หน้าบ้านของเด็กชายแต่อย่างไร แต่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆตั้งแต่เด็กชายจำความได้ก็มีผู้คนจากหลากหลายดินแดนเดินทางมาที่หน้าบ้านของอาจารย์เพื่อขอร้องอาจารย์ให้ช่วยสร้างอาวุธให้ ดูเหมือนคนพวกนี้จะเข้าใจผิดว่าอาจารย์เป็นช่างตีเหล็กในตำนานอะไรสักอย่าง
“ขอบใจน้องชายที่ชี้แนะ แต่ข้ามีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอร้องท่านอาวุโสจริงๆ”ชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าบ้านตอบด้วยท่าทีใจดี เมื่อครู่ที่เด็กชายเอาน้ำออกมาสาดใส่คงเพราะอาจารย์ของเด็กชายผู้นี้เป็นคนสั่ง แต่ถึงจะทำแบบนั้นชายหนุ่มนามว่า หลินฟาน ผู้นี้ก็ไม่อาจถอยออกไปได้ นั่นเพราะเขาใช้เวลาสืบเรื่องนี้มานานหลายปีกว่าจะทราบว่าอาวุโสหมิงซานอาจารย์ของเด็กน้อยตรงหน้าคือคนเดียวกับช่างตีเหล็กในตำนานผู้ได้ชื่อว่าเป็นช่างตีเหล็กเพียงคนเดียวที่สามารถตีอาวุธระดับเซียนขึ้นมาได้และยังมีชีวิตอยู่ เพราะแบบนั้นหลินฟานไม่อาจถอยกลับไปได้ แม้จะต้องคุกเข่าตรงนี้จนตายก็ตาม
“ข้าเตือนท่านแล้วนะ”เด็กชายเห็นแบบนั้นก็เก็บถังน้ำเดินเข้าไปในตัวบ้านปล่อยให้หลินฟานนั่งอยู่แบบนั้นตามที่ต้องการ ที่เขาเตือนออกไปนั้นเป็นเรื่องจริง มีคนมาคุกเข่าขอร้องอาจารย์แบบนั้นหลายครั้งแล้ว และต่อให้คนๆนั้นเป็นลมสลบไปอาจารย์ก็ไม่คิดจะช่วยแล้วปล่อยให้พวกเขาฟื้นขึ้นมาแล้วยอมแพ้ไปเองเท่านั้น
.
.
.
ซ่า….!
ราวกับเป็นกิจวัตรประจำวัน เด็กชายต้องเดินออกมาจากบ้านแล้วเอาน้ำออกมาสาดใส่หลินฟานแบบนี้ทุกวันเหมือนพยายามขับไล่หลินฟานออกไป แต่ไม่ว่าจะผ่านไปวันแล้ววันเล่าหลินฟานก็ไม่คิดจะยอมแพ้ ทั้งๆที่คนปกติจะยอมกลับไปในช่วงสองสามวันแรกแล้วแท้ๆ
“น้องชาย เจ้าชื่ออะไรงั้นเหรอ”หลังจากโดนสาดน้ำใส่หน้าไปเต็มๆ แทนที่หลินฟานจะโกรธออกมา แต่กลับกลายเป็นว่าหลินฟานกลับถามชื่อของเด็กชายที่เอาน้ำออกมาสาดใส่เขาทุกวันเสียอย่างนั้น
“ถึงจะตีสนิทข้าไปอาจารย์ก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะขอรับ”เด็กชายได้ยินหลินฟานถามแบบนั้นก็วางแง่เอาไว้ทันที มีหลายคนที่พยายามตีสนิทกับเขาเพื่อให้อาจารย์ใจอ่อน แต่ถึงจะตีสนิทเด็กชายไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก
“อย่ามองข้าแบบนั้นสิ ข้าก็แค่อยากหาคนคุยเท่านั้นเอง ที่นี่นอกจากท่านอาวุโสแล้วก็มีแค่เจ้ากับข้าเท่านั้น ขอข้ารู้ชื่อเจ้าหน่อยไม่ได้หรือ”หลินฟานถามพลางยิ้มบางๆออกมา หลินฟานเป็นพี่ใหญ่ของตระกูลหลิน มีน้องชายน้องสาวหลายคน เห็นเด็กชายคนนี้แล้วทำเอานึกถึงน้องชายขึ้นมาก็เลยอยากจะสนิทสนมด้วยเท่านั้นเอง
“ข้า….ชื่อหนิงหลงขอรับ”หนิงหลงตอบพลางมองหลินฟานด้วยท่าทียังไม่ไว้ใจ แม้จะยอมบอกชื่อแต่ก็ถอยห่างออกมาไม่ยอมเข้าใกล้แต่อย่างไร
“ข้าชื่อหลินฟาน ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องหนิงหลง”หลินฟานยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ ต้องนั่งคุกเข่าอยู่แบบนี้หลายวันโดยไม่ทานอาหารไม่ดื่มน้ำเลยนั้นทรมานอย่างมาก แต่หลินฟานเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทำให้ร่างกายทนทานกว่ามนุษย์ปกติมาก แค่อดน้ำอดอาหารไม่กี่วันไม่ทำให้ร่างกายย่ำแย่หรอก แต่ที่ทำให้หลินฟานรู้สึกหนักอึ้งมาตลอดกลับกลายเป็นความเครียดต่างหาก เขาพยายามอย่างหนักเพื่อหาตัวท่านอาวุโสหมิงซานให้พบ แต่ยังไม่ทันได้เจอหน้าก็โดนไล่กลับไปเสียแล้ว หลินฟานยังไม่ทันได้บอกจุดประสงค์ที่ตนเองมาพบท่านเลย
เพราะไม่ทราบว่าต้องรออีกนานแค่ไหน หรือท่านอาวุโสจะไม่ตอบรับตนเองเลยหรือไม่ทำให้หลินฟานเครียดอย่างมากเพราะตัวเขาแขวนชีวิตเอาไว้กับเรื่องนี้จริงๆ ตอนนี้ที่ชวนหนิงหลงคุยก็เพื่อผ่อนคลายตนเองลงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเขาได้ตายเพราะความเครียดก่อนจะได้ตายเพราะอดอาหารแน่ๆ
“หนิงหลง เข้าบ้านไปได้แล้ว”หนิงหลงแนะนำชื่อตัวเองออกไปไม่เท่าไหร่ อยู่ๆร่างของชายชราคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากบานประตู ชายคนนั้นเป็นชายชราที่มีเส้นผมขาวหงอกเต็มศีรษะ แต่ร่างกายกลับเต็มไปด้วยมัดกล้ามไม่เหมือนคนแก่เลยสักนิด แต่ที่หลินฟานอดไม่ได้ที่จะมองชายชราอย่างไม่วางตาก็คือพลังวิญญาณของชายชราที่แผ่ออกมาต่างหาก ที่หลินฟานมั่นใจว่าตนเองไม่ได้จำคนผิดนั้นก็เพราะพลังวิญญาณของชายชราผู้นี้ที่สัมผัสได้ตั้งแต่นอกตัวบ้าน แม้จะเป็นช่างตีเหล็กแต่ช่างตีเหล็กที่สร้างอาวุธระดับเซียนขึ้นมาได้ก็ย่อมไม่ธรรมดา
“ท่านอาวุโส ได้โปรดฟังข้าหน่อยเถอะขอ…..”
ปึง!!
หลินฟานเตรียมจะเข้าไปขอร้องท่านอาวุโสหมิงซานตามที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคอาวุโสหมิงซานก็พาหนิงหลงเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูบ้านใส่หน้าหลินฟานเสียงดังสนั่น น่าเสียดายท่านอาวุโสหมิงซานไม่คิดจะฟังอะไรหลินฟานเลยแม้แต่น้อย
.
.
.
ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่หลินฟานที่รออยู่หน้าบ้านของท่านอาวุโสหมิงซานยามนี้แทบไม่เหลือเค้าโครงคุณชายเสียแล้ว แม้ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณจะสามารถอดอาหารได้หลายวันโดยไม่เป็นอะไร แต่นี่หลินฟานอยู่หน้าบ้านของอาวุโสหมิงซานมาเกือบเดือนแล้ว ต่อให้เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณก็เถอะแบบนี้มันเสี่ยงตายแล้วชัดๆ
“………..”น่าเสียดาย หลินฟานยามนี้หากไม่ตายตรงนี้ก็ได้เพียงกลับไปตายเท่านั้น อย่างน้อยการคุกเข่าอยู่แบบนี้เพื่อขอร้องอาวุโสหมิงซานยังมีความหวังเสียกว่ากลับไปยังอาณาจักรมังกรครามที่ตนจากมา หากกลับไปมือเปล่าไร้อาวุธวิเศษ นอกจากตนเองจะต้องตายแล้วแม้แต่พี่น้องในตระกูลหลินก็อาจจะต้องตายตามไปด้วย เพราะไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินฟานเลยได้แต่ก้มมองพื้นดินแห้งกรังเบื้องหน้าด้วยร่างกายที่แทบจะหมดแรงอยู่แล้ว
ซ่า….
เช่นเดิมเหมือนทุกวัน หนิงหลงเดินออกมาจากบ้านพร้อมถังน้ำก่อนจะสาดลงไปบนร่างของหลินฟานจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว ตอนแรกการโดนสาดน้ำเช่นนี้อาจจะทำระคายผิวไม่สบายตัวก็จริง แต่ในยามที่น้ำในร่างกายเหือดแห้งไปแล้วนั้น น้ำที่สาดใส่กลับทำให้หลินฟานได้สติกลับมาอีกครั้งก่อนจะล้มลงไปสลบที่พื้น
“ฮะๆ…..น้องหนิงหลงวันนี้เจ้าออกมาไวจังเลยนะ”หลินฟานหัวเราะก่อนจะยันตัวขึ้นมานั่งอีกครั้งด้วยท่าทีอ่อนแรง เป็นอย่างที่หนิงหลงบอกจริงๆด้วย ต่อให้หลินฟานสลบลงไปอาวุโสหมิงซานก็ไม่ออกมาหรอก
“ท่านคงนับเวลาผิดแล้ว ข้าออกมาตามเวลาปกติต่างหาก”หนิงหลงตอบพลางมองร่างของหลินฟานที่เหมือนจะล้มลงไปให้ได้ หลินฟานดูเป็นคนไม่เลว แถมยังมีความตั้งใจอันแน่วแน่อีกด้วย แต่หนิงหลงเห็นใจชายผู้นี้ไปก็เท่านั้น เพราะทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับอาจารย์ของเขาเท่านั้น
“พี่หลิน….อาวุธที่ท่านอยากได้เป็นแบบไหนหรือขอรับ”หนิงหลงถามออกมาช้าๆด้วยท่าทีสงสัย อาจารย์ไม่เคยสร้างอาวุธให้หนิงหลงเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เหล่าผู้คนที่มาต่างขอร้องอาจารย์เพื่อให้สร้างอาวุธวิเศษให้แก่ตนกันอย่างถวายหัว เพราะแบบนั้นหนิงหลงก็เลยสนใจอาวุธพวกนั้นขึ้นมา
“ข้า….”
“ที่นี่งั้นเหรอ ที่มีช่างตีเหล็กที่สร้างอาวุธวิเศษได้”หลินฟานยังไม่ทันบอกอะไร อยู่ๆก็มีเสียงชายคนหนึ่งเดินมาจากด้านหลังของหลินฟานเสียอย่างนั้น แถมชายคนนั้นไม่ได้มาคนเดียวแต่อย่างไร นอกจากเจ้าตัวแล้วยังมีชายร่างใหญ่อีก 2 คนเดินตามมาข้างหลังเหมือนเป็นองครักษ์ส่วนตัวเลย
“ไอ้หนู ที่นี่เป็นบ้านของช่างตีเหล็กที่ชื่อหมิงซานหรือเปล่า”ชายที่เดินนำหน้ามาถามพลางมองหนิงหลงด้วยท่าทีเหยียดๆ ดูจากการแต่งกายของชายคนนั้นแล้วท่าทางจะเป็นบุตรหลานคนมีเงินกระมัง ไอ้ท่าทางวางมาดข่มผู้อื่นเช่นนี้หลินฟานเห็นจนชินตาเสียแล้ว
“ขอรับ อาจารย์อยู่ข้างในขอรับ”หนิงหลงตอบพลางมองไปทางชายคนนั้นด้วยท่าทีเคยชิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
“ไปตามอาจารย์เจ้ามา ข้าจะสั่งทำอาวุธหน่อย”ชายคนนั้นสั่งพลางมองไปรอบๆเหมือนกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง บ้านของอาวุโสหมิงวซานไม่ได้ใหญ่โตอะไร ท่าทางชายคนนั้นกำลังคิดว่าที่นี่จะสร้างอาวุธวิเศษที่เขาต้องการได้หรือไม่อยู่แน่ๆ
“อาจารย์ไม่รับทำอาวุ…..”
ฟุบ…!!
หนิงหลงตอบได้ไม่กี่คำ อยู่ๆชายคนนั้นก็คว้าคอเสื้อของหนิงหลงขึ้นมาจนร่างของหนิงหลงลอยขึ้นจากพื้น
“ข้าถามหรือไงว่ามันจะรับทำหรือเปล่า ข้าสั่งมันก็ต้องทำ หรือจะให้ข้าใช้กำ……”
ผั๊ว!!!
ไม่ปล่อยให้ไอ้บ้านั่นพล่ามเปลืองน้ำลายเช่นกัน หนิงหลงที่โดนกระชากคอเสื้อจนตัวลอยเหวี่ยงถังไม้ในมือเข้าที่หัวของชายคนนั้นอย่างจังจนชายคนนั้นปล่อยหนิงหลงลงกับพื้น แต่ถึงกำลังของหนิงหลงจะทำให้ชายคนนั้นหัวแตกก็จริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายคนนั้นหมดสติแต่อย่างไร
“เจ้า….”ชายตรงหน้าหนิงหลงโดนฟาดหัวเข้าอย่างจังก็ชักกระบี่ออกมาเตรียมจะพุ่งเข้าไปหาหนิงหลงหมายจะฆ่าหนิงหลงทิ้งเสีย
“น้องหนิงหลง ระวัง”หลินฟานพยายามลุกขึ้นจากพื้น แต่กำลังที่แทบจะไม่เหลือของเขาไม่อาจขยับร่างกายได้ดั่งใจ แม้จะเรียกกระบี่ออกมาถือแต่ก็ไม่อาจพุ่งตัวเข้าไปขัดขวางกระบี่ของอีกฝ่ายได้ทัน….