ซูชิงออกจากบ้านตระกูลซูก่อนจะมอบกล่องไม้มะฮอกกานีให้กับซูเจี๋ยและให้เขากลับไปโรงพยาบาลก่อน
เธอยังมีเรื่องให้คุยกับหลี่ขุยหวา
ทั้งสองหาที่เงียบสงบและหยุดรถ
ซูชิงถามด้วยความสงสัย “คุณหลี่คะ คุณจะไม่เอาเรื่องจากเรื่องเมื่อคืนเหรอคะ? แล้วยังให้ฉันเป็นลูกบุญธรรมด้วย?”
หลี่ขุยหวายิ้มอย่างใจดี “ใช่แล้วล่ะ เรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ความรับผิดชอบของเธอหรอก ลูกชายของฉัน ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ ครั้งก่อนฉันก็เตือนเขาแล้ว เด็กคนนั้นไม่คิดจำ คราวนี้ก็ต้องให้ฉันมาแก้หน้าให้แล้วมาขอโทษคุณซูด้วยตัวเอง หวังว่าคุณซูจะให้อภัย”
ซูชิงไม่เห็นถึงสายตาโกหกจากหลี่ขุยหวา
แต่เธอรู้ว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น แต่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หรือว่าจะเป็นอย่างที่ลู่หรงเยียนบอกว่าตระกูลหลี่นั้นมีเหตุมีผล?
เรื่องเมื่อคืนก็เป็นหลี่เซินที่เริ่มก่อน
ไม่ว่าจะยังไง ตราบใดที่ไม่เอาเรื่องเธอ เธอและลู่หรงเยียนก็จะไม่เป็นไร
ซูชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณหลี่ คุณช่วยบอกความจริงหน่อยได้ไหมว่าทำไมคุณถึงจะให้ฉันเป็นลูกบุญธรรมของคุณ คุณเองก็เห็นว่าฉันไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลซูแล้ว ไม่มีใครมาหนุนหลังให้และไม่มีประโยชน์อะไรกับตระกูลหลี่ด้วย คุณที่เป็นนักธุรกิจ คงจะไม่ทำอะไรที่ขาดทุน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ขุยหวาก็ยิ้มและมองซูชิงด้วยความชื่นชม
“คุณซูฉลาดจริงๆ” หลี่ขุยหวาพูดด้วยความเสียใจ “น่าเสียดายที่ไม่ใช่ลูกสาวฉัน ถ้าฉันมีลูกสาวที่ทั้งสวยทั้งเก่งก็คงจะดีมาก”
“คุณหลี่ชมเกินไปแล้ว” ซูชิงยิ้ม “ฉันชอบฟังความจริงมากกว่าคำสุภาพทางการ”
หลี่ขุยหวายิ้มอย่างจริงใจ “คุณซูพูดตรงประเด็นดี ฉันชอบ งั้นเรามาคุยกันเถอะ ลูกชายฉันชอบเธอ อยากให้คุณซูแต่งเข้าแต่ก็คงไม่ได้ เลยทำได้แค่รับเป็นลูกบุญธรรม จะได้ตัดความคิดเจ้าลูกชาย อย่างที่สองคือฉันรู้สึกถูกชะตากับคุณซู”
สองข้อนี้ หลี่ขุยหวาไม่ได้พูดโกหก
ซูชิงขมวดคิ้ว “แล้วอย่างที่สามล่ะคะ?”
หลี่ขุยหวาผงะก่อนจะกดยิ้ม “หลบจากคุณซูไม่ได้จริงๆด้วยสินะ มีข้อสามจริงๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดน่ะ เมื่อถึงตอนนั้นคุณซูก็จะรู้เอง แต่คุณซูสบายใจได้ ฉันไม่มีเจตนาทำร้ายและฉันก็อยากรู้จักเธอในฐานะลูกบุญธรรมจริงๆ”
หลี่ขุยหวาเป็นคนใจกว้าง เผิดเผยทุกอย่าง และซูชิงก็ไม่เห็นถึงความเท็จเลยแม้แต่น้อย
“คุณซู อันที่จริงฉายาลูกบุญธรรมตระกูลหลี่นั้นก็ดีสำหรับตัวเธอนะ เราทุกคนต่างก็ได้สิ่งที่ต้องการ” หลี่ขุยหวาให้สัญญา “เป็นลูกบุญธรรมของหลี่ขุยหวาจะไม่มีใครทำอะไรเธอได้ เมื่อกี้ฉันเห็นร่างกายน้องชายเธอไม่ค่อยดี ฉันจะให้หมอที่เก่งที่สุกไปดูอาการน้องเธอให้”
ซูชิงครุ่นคิดก่อนจะยิ้มทันที “เป็นข้อตกลงที่ดีมากค่ะ ฉันรับธุรกิจได้”
นอกเหนือจากเรื่องอื่นก็ไม่ได้พูดอะไร พอนึกถึงสีหน้าซูเซว่และฉินซู่ฉิน เธอก็รู้สึกสุขใจ
“คุณซูช่างมีความสุขจริงๆ” หลี่ขุยหวาพูดพร้อมรอยยิ้ม “งั้นจากนี้ฉันเรียกเธอว่าเสี่ยวชิง เดี๋ยวฉันจะให้คนเตรียมพิธีและเลือกวันมงคล”
“ได้ค่ะ”
ซูชิงรู้สึกดีมาก ยังไงเธอก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว เธอลางานเพียงครึ่งวันเท่านั้นเลยต้องอดทนมาทำงานทั้งที่ยังปวดเอว
เรื่องเมื่อกี้ราวกับฝันไป
ไม่ว่าจะจริงหรือปลอม เรื่องนี้ก็ได้รับการจัดการแล้วและซูชิงก็สบายใจ
ซูชิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาขณะเดินเข้าประตูบริษัท กำลังคิดว่าจะโทรหาลู่หรงเยียน ยังไม่ทันได้กดโทร จู่ๆก็ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีออร่ากระตือรือร้นอย่างสูงเดินเข้ามาหาเธอ
“เธอคือซูชิงใช่ไหม ซูซู สวยจริงๆเลยนะเนี่ย หน้าตาดีมีออร่า ลูกชายฉันช่างตาดีจริงๆ” เฉินซิ่วเฟินใช้สายตาแสกนมองซูชิง ยิ่งมองยิ่งพอใจ ซูชิงมองอย่างงงงวย “ไม่ทราบว่าคุณคือ?”
เฉินซิ่วเฟินพูดโพล่งออกมา “ฉันคือแม่ยายในอนาคตเธอเอง”
ทันทีที่สิ้นเสียง เฉินซิ่วเฟินก็รีบปิดปาก ตายแล้ว เผลอหลุดปากไป จะทำให้ลูกเสียเรื่องไหมเนี่ย?
ซูชิงยิ่งงงเข้าไปใหญ่
“คุณป้าทักคนผิดหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ผิด ไม่ผิด” เฉินซิ่วเฟินโบกมือ ยังไงก็พูดไปแล้ว งั้นก็ช่างมันเถอะ “เธอกับลูกชายฉันคบกันอยู่ใช่ไหม?”
ทันทีที่ซูชิงได้ยินก็เบิกตากว้าง “คุณเป็นแม่ของลู่หรงเยียนเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว” เฉินซิ่วเฟินพยักหน้าอย่างรวดเร็วและยิ้ม “ซูซู นี่เป็นของขวัญจากคุณป้านะ เก็บไว้เถอะ หากวันหลังลูกชายป้าแกล้งอะไรเธอล่ะก็ เธอก็เอาคืนได้เลยนะ ไม่ต้องกลัว ป้าอยู่ฝ่ายเธอเอง”
เฉินซิ่วเฟินหยิบกล่องเครื่องประดับที่มีสร้อยข้อมือหยกจักรพรรดิ์มูลค่าหลายสิบล้านออกมา
แม่ยายในอนาคตถึงกับให้ของหรูหราขนาดนี้
แม้ว่าซูชิงจะมองไม่ออกว่าสร้อยข้อมือนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่แต่เธอก็มีตานะและเธอก็สามารถรับรู้ได้ว่ามันมีค่ามาก
เฉินซิ่วเฟินกระตือรือร้นมาก ไม่ว่าจะมองยังไงก็ชอบซูชิง ยิ้มจนตาหยีแสดงถึงความเมตตา
ซูชิงสงบสติอารมณ์แล้วก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว “คุณป้าคะ ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันรับไว้ไม่ได้”
เธอกับลู่หรงเยียนยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ถึงจะมีความรักให้กันแต่ก็ไม่สามารถรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ได้
“ทำไมถึงรับไว้ไม่ได้ล่ะ ป้าให้เป็นของขวัญนะ เธอรับไว้เถอะ” เฉินซิ่วเฟินแสร้งทำเป็นเศร้า “ที่ซูซูไม่รับหรือจะเป็นเพราะว่าไม่ชอบลูกชายป้าเหรอ หรือว่าจะไม่ชอบแม่สามีอย่างฉัน?”
เฉินซิ่วเฟินพูดไป น้ำตาก็เหมือนจะไหลออกมา
ซูชิงทำตัวไม่ถูก เธอไม่ได้คิดรับมือแม่สามีไว้เลย มาแบบนี้เธอก็งงน่ะสิ
แต่ก่อนแม่ของฉู่เทียนอี้ไม่ชอบเธอ พูดอะไรก็ไม่ไปทางเดียวกันและก็รู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับฉู่เทียนอี้
สำหรับคำว่า แม่สามี ซูชิงรู้สึกเกรงกลัว ก่อนหน้านี้เธอก็คิดว่าจะเข้ากับแม่ของลู่หรงเยียนได้ไหม ไม่คิดเลยว่าจะต้อนรับอบอุ่นจนเธอรับมือไม่ทันแบบนี้
“คุณป้าเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันชอบคุณมาก…”
เฉินซิ่วเฟินยิ้มสู้ ซูชิงก็ต้องชอบอยู่แล้ว
“ถ้างั้นก็โอเค รับไว้เถอะนะ” เฉินซิ่วเฟินบังคับยัดสร้อยข้อมือให้ซูชิง “นี่คือกฎของตระกูลลู่เราที่ต้องรับของขวัญตอนเจอกันน่ะ”
เมื่อได้ยินว่าเป็นกฎ ซูชิงก็ลำบากใจ
ซูชิงก็กลัวว่าเฉินซิ่วเฟินจะเสียใจก็เลยรับมาก่อนและคิดว่าค่อยคืนให้ลู่หรงเยียนอีกที
“ได้ค่ะ งั้นฉันจะเก็บไว้นะคะ”
ทันทีที่สิ้นเสียงซูชิง ก็มีเสียงตะโกนมาจากด้านข้าง
“ซูชิง มาทำอะไรตรงนี้ ยังไม่รีบเข้าไปทำงานอีก”
ไม่ต้องหันไปมองซูชิงก็รู้ว่าเป็นใคร
ตั้งแต่เรื่องสร้อยข้อมือครั้งก่อน เธอกับหลิวตงก็มีเรื่องกันอยู่ตลอด
แต่เมื่อเขาเป็นเจ้านาย ซูชิงก็ยิ้มออกมา “ผู้จัดการหลิว ฉันลาครึ่งวันและตอนนี้เพิ่ง 11:30 น. ยังอยู่ในช่วงลาน่ะค่ะ”
หลิวตงแค่นเสียง “ใครอนุมัติให้ลา? ถ้าฉันไม่เซ็นก็ไม่นับ ขาดงานครึ่งวัน ตามกฎและข้อบังคับของบริษัทแล้ว โบนัสเดือนนี้ของเธอก็ไม่เหลือแล้ว”
ซูชิงทนอะไรก็ได้ แต่ให้ทนกับการโดนหักเงินนั้นไม่ได้
ซูชิงมีชื่อเล่นว่าคนเห็นเงินสำคัญ
“ผู้จัดการหลิว เกิดเป็นมนุษย์ไม่ควรทำอะไรเกินพอดี ทำแบบนี้คงจะไม่ดีต่อใครทั้งนั้นนะคะ” ซูชิงโกรธและพูดด้วยเสียงนิ่ง “ใจแคบนั้นถือเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเรื่องไปเข้าหูบอสใหญ่ว่าลูกสาวตัวเองมาคบคนแบบนี้ ความฝันที่คุณอยากจะเป็นลูกเขยของบอสใหญ่ได้พังแน่”
“ซูชิง เธอกล้าขู่ฉันงั้นเหรอ” ใบหน้าหลิวตงเคร่งขรึมและชี้นิ้วใส่ซูชิง “เธอคิดว่าเธอเป็นใคร”
MANGA DISCUSSION