“ที่คุณหลี่พูดมานั้นถูกแล้วล่ะครับ” ในหัวซูเต๋ออานมึนงง ไม่ว่าหลี่ขุยหวาจะพูดอะไรก็เออออห่อหมกตาม ไม่ได้เข้าใจที่หลี่ขุยหวาจะสื่อ
เห็นซูเต๋ออานไม่หือไม่อือ หลี่ขุยหวาก็ไม่มานั่งเสียเวลาต่อ
เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ซูเต๋ออานคนนี้ช่างโง่เสียจริง
หลี่ขุยหวาจ้องซูเต๋ออาน “เมื่อกี้ผมได้ยินที่คุณซูจะสื่อคือไม่นับคุณซูเป็นลูกแล้วใช่ไหม?”
สายเกินไปแล้วที่ซูเต๋ออันจะมานั่งเสียใจเอาตอนนี้ ข่าวตัดพ่อตัดลูกก็ได้ประกาศออกไปแล้ว
ซูเต๋ออานทำได้เพียงหัวแข็งและเอ่ย “บางทีผมและลูกอาจไม่มีดวงชะตาต้องกัน ผมได้ตัดพ่อตัดลูกกับซูชิงไปแล้วครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลี่ขุยหวาก็ปรบมือและอดไม่ได้ที่จะพูด “ดี”
เป็นเสียงที่ทำให้ทุกคนงงงวย
ขณะที่ทุกคนกำลังงงงวยอยู่นั้น หลี่ขุยหวาก็เดินไปทางซูชิงและพูดอย่างจริงใจ “คุณซู ผมนั้นมีแต่ลูกชาย แล้วก็มีลูกชายเพียงคนเดียว อยากจะมีลูกสาวมานานแล้ว เมื่อกี้ที่เห็นคุณซูก็รู้สึกได้ถึงความสนิทบางอย่าง อยากจะให้คุณซูมาเป็นลูกบุญธรรม คุณจะยินยอมไหม?”
ลูกบุญธรรม?
เป็นสามคำที่เหมือนฟ้าผ่าลงดิน
ทำให้ทั้งซูเต๋ออานและฉินซู่ฉินมองอย่างตกตะลึง
แม้แต่ซูเซว่ก็อิจฉาริษยาเช่นกัน
เมื่อเทียบกับตระกูลหลี่ ตระกูลซูไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับตระกูลหลี่ แม้แต่ตระกูลฉู่ก็ยังต้องให้ความเคารพ
หากซูชิงไปเป็นลูกบุญธรรมของหลี่ขุยหัวจริงๆ ตำแหน่งก็จะสูงกว่าเธอไม่ใช่? จะเหยียบย่ำเธอ?
ซูเซว่อิจฉาจนแทบบ้า เธอจะทนให้ซูเซว่เหยียบหัวเธอไปได้ยังไง?
ซูชิงเองก็รู้สึกประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องลูกบุญธรรมของหลี่ขุยหวา
พ่อแท้ๆทอดทิ้งเธอ แต่ในชั่วพริบตากลับมีคนมากอำนาจจะให้เธอเป็นลูกบุญธรรม เหมือนเป็นการถึงเธอจากโคลนสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย
หลี่ขุยหวามีท่าทางจริงจัง ไม่เหมือนกับล้อเล่นเลย แต่ซูชิงยังคงคิดว่าน่าสงสัย
“คุณหลี่ คุณจริงจังเหรอคะ?” ซูชิงกลืนน้ำลายก่อนจะสงบจิตสงบใจ “ทำไมคุณถึงจะให้ฉันไปเป็นลูกบุณธรรมล่ะคะ?”
หลี่ขุยหวายิ้มอย่างเอ็นดู “ฉันหลี่ขุยหัวพูดอะไรแล้วไม่คืนคำ ฉันถูกชะตาคุณซู บางทีอาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้ เพียงแค่คุณซูยินยอม คุณก็จะได้เป็นลูกบุณธรรมเพียงคนเดียวของฉัน ฉันจะปฏิบัติต่อคุณเหมือนลูกสาวแท้ๆเลย”
ลูกสาวแท้ๆ?
นั่นคือถึงแม้จะไม่มีสิทธิ์ที่จะแบ่งทรัพย์สินของตระกูลหลี่ก็จะไม่มีใครทำทำอะไรเธอได้
เงื่อนไขนี้ช่างน่าดึงดูดมาก
ซูเซว่แทบอยากจะไปเป็นลูกบุญธรรมของหลี่ขุยหัว เรื่องดีๆแบบนี้ทำไมถึงไม่ตกถึงเธอบ้าง?
หลี่ขุยหวาเป็นนักธุรกิจและจะไม่ทำธุรกิจหากขาดทุน หากเขาให้ซูชิงเป็นลูกบุญธรรมก็เป็นการเดิมพันว่าซูชิงจะได้เป็นนายหญิงตระกูลลู่
และหากเขาชนะเดิมพัน มันจะเป็นประโยชน์ต่อตระกูลหลี่
ซูเจี๋ยที่ได้ยินก็หวั่นไหว “พี่ มัวอึ้งอะไรล่ะ รีบตกลงสิ นี่มันฟ้าประทานเลยนะ มีบ้านตระกูลหลี่หนุนหลัง ผมจะรอดูว่าจะมีใครมารังแกพวกเราได้อีก”
สิ่งที่ซูเจี๋ยพูดความจริง
ซูเต๋ออานที่ได้ยินก็หน้าแดงและรู้สึกละอายใจ
ฉินซู่ฉินหลบตา ไม่กล้าสบตากับซูชิง
ซูชิงก็ไม่ใช่คนโง่ เรื่องดีๆแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีก
แต่สถานะลูกบุญธรรมของตระกูลหลี่ก็เป็นการตบหน้าคนพวกนี้ได้
ซูเต๋ออานเป็นคนตัดขาดกับเธอเองไม่ใช่เหรอ?
ไม่ใช่ว่ากลัวว่าเธอจะลากไปเอี่ยวด้วย?
ซูเซว่ไม่ได้อยากเหยียบย่ำเธอ?
งั้นเธอก็จะยินยิมกับการเป็นลูกบุณธรรมของตระกูลหลี่
เธอไม่ต้องการสิ่งอื่นใด ได้เพียงฉายาลูกบุญธรรมตระกูลหลี่ก็พอ
“ได้สิคะ” ซูชิงตอบตกลงก่อนจะเหลือบมองซูเต๋ออันและคนอื่นๆด้วยรอยยิ้ม และหันมาพูดกับหลี่ขุบหวาด้วยรอยยิ้ม “ฉันก็รูกสึกถูกชะตากับคุณหลี่ค่ะ รู้สึกสนิทสนมอย่างบอกไม่ถูก”
ใครบ้างที่จะพูดไร้สาระไม่เป็น?
หลี่ขุยหวายิ้มอย่างพอใจ “ดี ดี เดี๋ยวกลับไปฉันจะให้คนเตรียมพิธีสำหรับลูกบุญธรรม ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอเป็นลูกบุญธรรมของฉัน ฉันจะได้มีลูกสาวแล้ว”
ซูชิงไม่คิดว่าจะถึงขั้นมีพิธีการ
ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลย?
ดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญมาก
สายตาริษยาของซูเซว่แดงก่ำ
ฉินซู่ฉินก็ทั้งอิจฉาและโมโห อยากจะตบซูเต๋ออานให้แรงๆ
ซูเต๋ออานได้สติก็รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์ก็พลิกหน้ามือเป็นหลังมือทันที “คุณหลี่ ลูกสาวผมมีชะตาร่วมกับคุณหลี่ นั่นก็ถือเป็นพรของชิงชิง…”
“คุณซู เมื่อกี้คุณไม่ได้บอกว่าตักพ่อลูกกับซูชิงแล้วเหรอ?” หลี่ขุยหว่าพูดขัดและแกล้งทำเป็นแปลกใจ “ความทรงจำคุณซูคงจะไม่ค่อยดีสินะถึงได้ลืมไปได้”
เป็นคำพูดที่ทำให้ซูเต๋ออานอับอายอย่างมากและรอยยิ้มบนใบหน้าของซูชิงก็กดลึกขึ้น เป็นรอยยิ้มที่ไร้ซึ้งความอบอุ่น
ซูเจี๋ยพูดอย่างเหน็บแนม “ตอนนี้พอมาเห็นพี่ผมจะได้เป็นลูกบุญธรรมตระกูลหลี่แล้วก็เลยรีบมาประจบประแจงทันทีเลย? ไม่เสียหน้างั้นสิ?”
เป็นคำพูดที่รู้สึกดี
ซูเต๋ออานเปลี่ยนสีได้อย่างรวดเร็วดีจริง
ซูชิงยิ้มอย่างเย็นชา “คุณซู นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมาเหยียบบ้านตระกูลซู เมื่อก้าวออกไปแล้ว )นก็ไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับตระกูลซูอีกและได้โปรดจำสิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้ด้วย”
ซูเจี๋ยเย้ยหยัน “มนุษย์นี่นะ อย่าทำตัวจริงจังจนเกินไปเพราะบางครั้งจะโดนเอาคืนเร็วน่ะสิ ตอนนี้มาทำรู้จักพี่ ผมจะบอกให้ว่ามันสายไปแล้ว เมื่อกี้ตอนตัดขาดพี่ผมก็ทำแบบไร้เยื่อใย งั้นวันหลังก็อย่ามายุ่งกับพี่สาวผมอีก”
หลี่ขุยหัวเหลือบมองซูเต๋ออานและหันไปพูดกับชิงชิง “รถจอดรออยู่ตรงประตู เราไปหาที่คุยเรื่องพิธีกันเถอะ มีเงื่อนไขอะไรก็บอกได้เลยนะ”
ซูชิงเองก็ไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป
ซูชิงถือโอบกล่องไม้มะฮอกกานี ทนกับความเจ็บปวดตรงเอวและเดินออกจากบ้านตระกูลซูไป
ซูเต๋ออานมีสิ่งจะพูด แต่ยังไม่ทันได้ปริปากก็ไม่มีหน้าเรียกซูชิงอีก
ทันทีที่คนจากไป ซูเซว่ก็ทนความริษยาในใจไม่ไหว แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา “ทำไมซูชิงถึงได้โชคดีนัก ทำไมคุณหลี่ถึงเอาเธอไปเป็นลูกบุญธรรมด้วย หากเธอได้เป็นลูกบุญธรรมตระกูลหลี่ก็ไม่ใช่เป็นการเหยียบหัวหนูเหรอ”
“สมองหลี่ขุยหวามีปัญหาจริงๆรึเปล่า ยัยเด็กซูชิงนั่นมีอะไรดีกัน” ฉินซู่ฉินคิดยังไงก็คิดไม่ออก “เสี่ยวเซว่ของเราดีกว่าซูชิงร้อยเท่า ถ้าจะเอาไปเป็นลูกก็ต้องเป็นเสี่ยวเซว่สิ”
“สมองพวกเธอต่างหากที่มันมีปัญหา” ความโกรธของซูเต๋ออานปะทุขึ้น “ฉันไปฟังที่พวกเธอพูดให้ตัดขาดกับซูชิงได้ยังไงกัน นั่นตระกูลหลี่เลยนะ ได้ตระกูลหลี่ ตระกูลซูก็จะเข้าสู่แวดวงในเมืองหลวงได้ สถานะก็จะเปลี่ยนไปได้ด้วย”
ซูเต๋ออานล่ะรู้สึกเสียใจจริงๆ
หากมีตระกูลหลี่คอยช่วยเหลือ ปัญหาของบริษัทจะมีอะไรที่แก้ไขไม่ได้กัน?
ตอนนี้ไม่เพียงแต่พลาดโอกาสที่จะก้าวไปอีกระดับเท่านั้น แต่ยังไปทำหลี่ขุยหวาเคืองอีก ซูเต๋ออานรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นซูเต๋ออานโมโห ซูเซว่เองก็รู้ว่าซูเต๋ออานเสียใจและโกรธขนาดไหน ในขณะนั้นก็รีบช่วยพูดให้สงบลงอย่างรวดเร็ว “พ่อคะ พลาดตระกูลหลี่ไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เรายังเหลือความสัมพันธ์กับตระกูลโจวนะคะ หนู…ตอนนี้หนูเป็นคุณนายตระกูลฉู่แล้ว ลุงโจวคงจะเห็นแก่หน้าหนูอยู่บ้าง”
ซูเซว่เกือบพลั้งปากเธอไป ดีที่กลับคำได้อย่างรวดเร็ว
ฉินซู่ฉินกัดฟันพูดอย่างขมขื่น “ตอนนี้เราทำให้ซูชิงเคืองแล้ว นั่นก็เป็นการทำให้ตระกูลหลี่เคือง เราเดินสายนี้ไม่ได้แล้ว เรายังเหลือตระกูลโจวอีกทำไมต้องกลัวด้วย อีกอย่าง ฉันไม่เชื่อว่าหลี่ขุยหวาจะให้ซูชิงเป็นลูกบุญธรรมจริงๆ คงจะแค่พูดไปเล่นๆก็ได้”
ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้วซูเต๋ออานก็ทำได้เพียงคาดหวังจากตระกูลโจวเท่านั้น
เรื่องอะไรที่เขาจะให้สวมเขาได้ฟรีๆล่ะ?
MANGA DISCUSSION