“คุณเป็นใครเนี้ย?”หลี่เซินไม่ให้หน้าแม้แต่นิดเดิมทีก็ไม่ได้เห็นฉู่เทียนอี้อยู่ในสายตา พูดว่า”อ่อ ผมนึกขึ้นได้แล้ว คุณก็แค่ลูกนอกสมรสคนนั้นของบ้านตระกูลฉู่ ลูกนอกสมรสคนหนึ่งยังอยากที่จะดื่มเหล้ากับผม คุณคู่ควรเหรอ?”
ซูชิงได้ยินรู้สึกตลกมากแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมา ดูความครึกครื้นต่อ
คำพูดของหลี่เซินทำให้ฉู่เทียนอี้ขายหน้า เรื่องลูกนอกสมรสนี้เป็นจุดที่เจ็บปวดมากที่สุดของเขา
เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่เซินนี้จะไม่ให้หน้าแม้แต่นิดแต่กลับพูดถ้อยคำเหยียดหยามออกมา
และการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทางนี้ทำให้คนออกมาอย่างตื่นตกใจไม่น้อย สามารถเข้ามาที่นี่ได้นั่นต่างก็เป็นบุคคลที่มีหน้าตา ฉู่เทียนอี้เพียงแค่รู้สึกว่าบนหน้าถูกตบฉาดหนึ่งอย่างแสบร้อน
ใบหน้านี้คือขายหน้าหมดสิ้นแล้ว
ฉู่เทียนอี้อับอายจนโมโหชี้หลี่เซินพูดว่า”คุณก็เป็นคุณชายที่กินเที่ยวไปวัน ๆ อาศัยอำนาจในบ้านไม่เห็นหัวใคร เอาคำพูดเมื่อกี้พูดให้ผมฟังอีกครั้ง”
“เป็นยังไง?”หลี่เซินทำใบหน้าท่าทางเก่งจริงก็ต่อยผมสิ พูดอย่างไม่แคร์ว่า”ผมก็พูดว่าคุณลูกนอกสมรส เป็นไง?เก่งก็ต่อยผมสิ”
หลี่เซินเอาใบหน้าเข้าไปใกล้อยากที่จะโดนต่อยมาก บนหน้ายิ้มร่าแต่ละประโยคต่างก็กระตุ้นฉู่เทียนอี้
“หลี่เซิน”ฉู่เทียนอี้ดึงปกคอเสื้อของหลี่เซินไว้ด้วยความโกรธ ยกกำปั้นขึ้นมา
นี่ยังไม่ได้ต่อยลงไป หลี่เซินก็เริ่มร้องตระโกนว่า”โอ๊ย ลูกนอกสมรสของบ้านตระกูลฉู่ทำร้ายคนแล้วทุกคนรีบมาดูเร็วลูกนอกสมรสทำร้ายคนแล้ว ทุกคนช่วยเป็นพยานให้ผมกลับไปหาคุณท่านฉู่ตัดสินผิดถูกให้ดี ๆ ”
ซูชิงมองอยู่ก็ตลกมากโดยเฉพาะเห็นท่าทางพ่ายแพ้ของฉู่เทียนอี้นั่นแล้วกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูดออกมา ได้ยินชื่อของคุณท่านฉู่ก็ตะลึงไม่กล้าต่อยลงไป
“ไอ้ขี้ขลาด”หลี่เซินฉลาดแกมโกงดึงฉู่เทียนอี้ออก พูดอย่างเย้ยหยันว่า”ไม่มีความสามารถยังออกหน้าแทนอะไร เรียนแบบฮีโร่ช่วยสาวงาม”
ฉู่เทียนอี้โกรธมากกำหมัดแน่น เส้นเลือดเขียวหลังมือนูนขึ้นมาโหนกแก้มต่างก็รัดแน่น เผชิญหน้ากับการท้าทายของหลี่เซินกลับตะลึงไม่กล้าพูดสักคำ
ตำแหน่งของฉู่เทียนอี้อยู่บ้านตระกูลฉู่ก็ไม่มั่นคงเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย วันนี้ถ้าล่วงเกินหลี่เซินแล้วงั้นเขาอยู่บ้านตระกูลฉู่ก็ยิ่งอยู่ได้ยาก
ซูชิงมองท่าทางของฉู่เทียนอี้ที่ค่อนข้างอดทนกับอารมณ์ของคนอื่นได้ ในใจอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใส
บนโลกนี้มีคนชนิดหนึ่งยิ่งสามารถอดทนได้ก็ยิ่งอันตรายน่ากลัว
หลี่เซินยิ้มอย่างเย็นชาก็ไม่ได้เปลืองน้ำลายกับฉู่เทียนอี้อีก เป้าหมายของเขาคือซูชิง
“สาวสวยไปกับผมแล้วกัน ดูแลผมดีพอผมดีใจไม่แน่ว่าจะเอาคุณแต่งกลับไปแล้ว”ถึงแม้หลี่เซินโมโหมากที่ครั้งที่แล้วถูกถีบแต่ก็ไม่อยากที่จะทำอะไรซูชิงจริง ๆ เกิดใบหน้าที่ดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงที่ตัวเองรักเล็กน้อยนั่น
“อยากแต่งฉันเป็นภรรยา?ฉันกลัวว่าคุณทนเท้าของฉันไม่ไหว”ซูชิงเพยิดริมฝีปากยิ้ม หล่อนก็ไม่กลัวหลี่เซินหล่อนใช้ชีวิตเพียงคนเดียวไม่มีอะไรที่ต้องกลัว ไม่ได้เหมือนฉู่เทียนอี้ที่กังวลมากอย่างนั้น
“เธอผู้หญิงคนนี้ยังไม่รู้ชั่วดีอีก”หลี่เซินพูดพรางก็เตรียมที่จะไปกระชากซูชิง
ซูชิงก็เตรียมถีบอีก จู่ ๆ ไหล่ของหลี่เซินก็ถูกคนที่อยู่ด้านหลังจับไว้
คนที่มาไม่ใช่คนอื่นก็คือลู่หรงเยียนนั่นเอง
ซูชิงตกใจมากเท้าก็ลืมถีบออกไปแล้ว
ลู่หรงเยียนอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
หลี่เซินหันหน้ากลับไปมอง เห็นเป็นใบหน้าที่แปลกหน้าคนหนึ่งถึงยังไงก็เป็นคนที่ไม่รู้จักเป็นคงเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาจัดการ
หลี่เซินยิ้มแล้ว”อัยโย่ว มายุ่งเพิ่มอีกคนแล้วฮีโร่ช่วยสาวงาม รีบหลีกไปอย่ารบกวนเรื่องดี ๆ ของผม…โอ๊ย…”
ยังพูดไม่จบ ลู่หรงเยียนเท้าหนึ่งก็ถีบหลี่เซินออกไปไกลสองสามเมตร
คนที่ล้อมดูต่างก็ตะลึงแล้ว
อากาศจู่ ๆ ก็เงียบสงบ
ฉู่เทียนอี้ก็ช็อกมากเขาต่างก็ไม่กล้าลงมือ คนนี้คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำร้ายหลี่เซิน?
สามารถลงมืออย่างไม่กังวลแม้แต่นิดได้เป็นความอิจฉาในใจของฉู่เทียนอี้ที่พูดไม่ออก มองหลี่เซินถูกถีบความโกรธในใจนั่นก็คลายออกไปเล็กน้อยแต่พอคิดถึงผู้ชายคนนี้เป็นแฟนของซูชิงในใจก็รู้สึกไม่สบายอีก เป็นคนบ้านนอกจริง ๆ อาจจะฝ่ายตรงข้ามเดิมทีไม่รู้ฐานะของหลี่เซินดังนั้นถึงกล้าที่จะลงมือ
พอคิดอย่างนี้ในใจของฉู่เทียนอี้ก็มีความสมดุลแล้ว
ล่วงเกินบ้านตระกูลหลี่เขากลับต้องการดูว่าคนบ้านนอกคนนี้จะจัดการตอนจบยังไง
ซูชิงก็มองตะลึงถึงแม้ลู่หรงเยียนมีสไตล์เท้าถีบนี้เหมือนหล่อนก่อนหน้านี้ แต่ฝ่ายตรงข้ามคือหลี่เซินลูกชายที่รักมากที่สุดของบ้านตระกูลหลี่ อีกทั้งยังเป็นลูกคนเดียวรุ่นเดี่ยวที่ตกทอดมาหลายรุ่นชนิดนั้น เป็นของรักสุดหวงแหนบ้านตระกูลหลี่มากนี่ก็ส่งเสริมความจองหองของหลี่เซินแล้ว
ลู่หรงเยียนตอนนี้ทำร้ายหลี่เซินแล้วจะต้องเกิดความลำบากแน่นอน
หล่อนหาเรื่องยุ่งยากไม่กลัวแต่ลู่หรงเยียนไม่ได้ หล่อนไม่สามารถทำลายลู่หรงเยียนได้
ลู่หรงเยียนเป็นคนขับรถแกร็บคนหนึ่งจะมีความสามารถอะไรที่จะไปต่อต้านบ้านตระกูลหลี่?
เจอการแก้แค้นของบ้านตระกูลหลี่ผลเสียยากที่จะจินตนาการได้
“คุณมาได้ยังไง รีบไป”ซูชิงเป็นห่วงดึงลู่หรงเยียนเล็กน้อยอยากที่จะไล่คนไป
“แขกคนหนึ่งที่ไปส่งเมื่อก่อนเลี้ยงข้าวได้ยินการเคลื่อนไหวก็เลยมาดูหน่อย “。สีหน้าของลู่หรงเยียนไม่เปลี่ยน ซูชิงก็ไม่ได้สงสัยมาก
ลู่หรงเยียนก็ไม่ถือว่าพูดโกหกครึ่งจริงครึ่งเท็จ เขาก็มากินข้าวที่นี่จริง ๆ ได้ยินการเคลื่อนไหวก็มา
มาที่นี่ถึงแม้เป็นคนที่มีหน้ามีตาแต่ยังไม่ถึงกับกลุ่มที่ระดับสูงสุดบวกกับลู่หรงเยียนทำตัวลึกลับมาตลอด อย่าพูดชื่อเรียกที่อยู่ข้างนอกว่าเสียโฉมคนที่เจอโฉมหน้าอย่างแท้จริงก็มีไม่กี่คน คนเมื่อก่อนที่สามารถสัมผัสลู่หรงเยียนก็มีไม่มาก
เหมือนหลี่เซินคุณชายที่กินเที่ยวไปวัน ๆ ชนิดนี้ก็เพียงแค่เคยได้ยินชื่อของลู่หรงเยียนแต่ไม่เคยเจอตัวจริง
หลี่เซินทนความเจ็บคลานขึ้นมาจากบนพื้นใบหน้าเจ็บจนบิดเบี้ยว พูดร้องเสียงดังอย่างโมโหว่า”คนบ้านนอกมาจากไหนมองให้ชัดเจนผมเป็นใคร เบื่อชีวิตแล้วใช่ไหมกูจะจัดการให้แกตาย”
ลู่หรงเยียนปกป้องซูชิงอยู่ด้านหน้าเปิดพลังทั้งหมดใบหน้าเยือกเย็น พูดว่า”ถ้ายังอยากมีลูกหลานสืบสกุลก็ไสหัวไป”
หลี่เซินหยิ่งผยองมาตลอดจนเคยเป็นนิสัยแล้ว กลับเป็นครั้งแรกถูกทำให้เกิดความหวาดกลัว แววตาที่เยือกเย็นของลู่หรงเยียนมองไปความกล้านั่นก็อ่อนลงไปทันทีกระทั่งตัวเขาเองต่างก็รู้สึกคาดไม่ถึง
รอหลี่เซินมีปฏิกริยากลับมา ตัวเองคิดไม่ถึงว่าจะอ่อนแอต่อหน้าคนบ้านนอกคนหนึ่งแล้ว พูดอย่างโมโหว่า”นี่คือผู้หญิงที่ผมชอบ”
“อ๊ะ?”ลู่หรงเยียนกดคิ้วอย่างเย็นชาแล้วถีบไปอีกครั้งนี้ถีบไปยิ่งไกลมาก
หลี่เซินพ่นเลือดสดออกมาจากในปาก
คนรอบ ๆ ตกใจจนถอยหลังก้าวหนึ่ง คนหนุ่มหนึ่งในนั้นรีบขึ้นไปประคองพูดว่า”คุณชายหลี่”
ซูชิงก็ตกใจแล้ว”ลู่หรงเยียน”
เท้าถีบนี้หนักมากไปแล้ว หลี่เซินรู้สึกว่าโครงกระดูกของตัวเองต่างก็หักแล้ว สีหน้าขาวซีด
ครั้งนี้หลี่เซินลุกไม่ขึ้นต้องอาศัยคนหนุ่มประคองอยู่
คนหนุ่มพูดอย่างโมโหว่า”รู้ไหมที่แกถีบเป็นใคร?นี่คือคุณชายของบ้านตระกูลหลี่ เกิดเรื่องแกรับผิดชอบไหวไหม?แกเด็กน้อยมีกี่ชีวิตที่จะพอชดใช้”
ลู่หรงเยียนเดิมทีก็ไม่ได้เห็นคนหนุ่มอยู่ในสายตา พูดเสียงเตือนแข็งกร้าวต่อหลี่เซินว่า”มายุ่งวุ่นวายกับซูชิงอีกก็ให้หลี่ขุยหวารอเก็บศพคุณแล้วกัน”
หลี่ขุยหวาก็คือพ่อของหลี่เซินนั่นเอง
กล้าที่จะเรียกชื่อคนโดยตรงอย่างนี้มีไม่มากจริง ๆ
บ้านตระกูลหลี่ในเมืองหลวงนั่นก็มีตำแหน่งในสังคมที่แน่นอน หลี่ขุยหวาใช้วิธีการหลอกลวงให้ได้มีชื่อเสียงมาชอบทำเรื่องการกุศลบางอย่างเพื่อให้ตัวเองได้รับชื่อเสียงที่ดี คนธรรมดาทั้งหมดก็คุ้นเคยชื่อของหลี่ขุยหวาจนสามารถพูดออกมาได้
ได้ยินลู่หรงเยียนพูดชื่อของหลี่ขุยหวาออกมาก็มีไม่กี่คนที่รู้สึกไม่ใช่
แต่ซูชิงกลับมองลู่หรงเยียนแวบหนึ่งอย่างคิดได้
ลู่หรงเยียนหยิ่งผยองมาก
หยิ่งผยองกว่าหลี่เซินอีก
ตอแข็งเจอกับตอที่ยิ่งแข็งกว่า
หลี่เซินสัมผัสถึงดวงตาที่เยือกเย็นของลู่หรงเยียน ในใจหวาดกลัวพักหนึ่งมองแล้วเกิดความกลัวพยักหน้าอย่างคิดได้ เอ่ยปากอย่างลำบากแสดงความอ่อนแอว่า”เมื่อกี้หยอกล้อ ครั้งหน้า…ไม่กล้าแล้ว”
หลี่เซินมองเห็นการฆ่าในสายตาของผู้ชายจริง ๆ เป็นการฆ่าที่เข้มข้น
เขาเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามสามารถทำออกมาได้จริง ๆ
เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้นนอกจากพ่อของเขาแล้วก็ไม่เคยกลัวใคร คิดไม่ถึงผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าคนนี้แววตาหนึ่งยังน่ากลัวกว่าพ่อของเขาอีก เขาเกือบจะคุกเข่าลงมาเรียกพ่อแล้ว
ลู่หรงเยียนจูงมือของซูชิงไว้ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า”กลับ”
ลู่หรงเยียนพอกลับ คนหนุ่มก็รีบพาหลี่เซินไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วโทรแจ้งให้คนบ้านตระกูลหลี่ทราบ
และทางเดินระเบียงอีกมุม ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งมองอย่างตกตะลึงยังไม่ได้มีสติกลับมา
“ว่าน ว่านหยาง ผู้หญิงคนนั้นเมื่อกี้เป็นใครคิดไม่ถึงว่าจะทำให้หลานชายคนโตลงมือแล้ว”
ผู้ชายวัยกลางคนก็คือเฉินเหาลุงของลู่หรงเยียนเอง
“ลงมือยังน้อยไปแล้ว พี่ใหญ่ก่อนหน้านี้เพื่อคุณหนูซูแล้วกระทั่งทะเลต่างก็กระโดดมาแล้ว”ว่านหยางไม่ตื่นตกใจแล้ว
ขาลูกชายของโจวซงเฟยต่างก็หักแล้ว หลี่เซินถูกถีบสองเท้านั่นถือว่าเบาแล้ว
คุณชายหลี่คนนี้ก็โชคร้ายคิดไม่ถึงว่าจะกล้ามีความคิดต่อผู้หญิงของพี่ใหญ่ นี่ไม่ใช่เรียกว่ารนหาที่ตายแล้วจะเรียกว่าอะไร?
เฉินเหายิ่งตื่นตกใจว่า”คุณหนูซู?คุณหนูซูคนไหน?”
MANGA DISCUSSION