บ้านตระกูลซู
ฉินซู่ฉินที่กำลังมาส์กหน้าและกำลังรอข่าว เมื่อได้ยินสายเรียกเข้าเธอก็กดรับอย่างมีความสุข
“ซงเฟย จัดการเสร็จหรือยัง? ยัยเด็กซูชิงตายแล้วใช่ไหม”
“ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังซูชิงกันแน่ คนที่ผมส่งไปไม่มีใครกลับมาเลย ฉันให้คนไปลักพาตัวแต่โจวเจ๋อกลับโดนจัดการ บริษัทก็ถูกโจมตีในหลายๆด้านจนขาดทุนไป 10 พันล้าน”
โจวซงเฟยที่อยู่ในสายก็มีท่าทีโกรธจัด
ฉินซู่ฉินยิ้มค้างอย่างหวาดกลัว “ซงเหย เป็นไปได้ยังไงกัน จะมีใครหนุนหลังซูชิงได้ โจวเจ๋อไปทำใครเขาแค้นหรือเปล่า? หากซูชิงมีคนสนับสนุนแล้วจะโดนฉันไล่ออกไปได้ยังไงล่ะคะ”
โจวซงเฟยถาม “วันนี้คุณพูดว่าคุณชายลู่ไปบ้านตระกูลซู ไปเพื่ออะไร?”
“ฉันเองก็ไม่รู้ คุณชายลู่กับคุณซูไปคุยในห้องหนังสือน่ะ” ฉินซู่ฉินพูดอย่างร้อนรน “แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ตระกูลลู่ที่สนับสนุนซูชิงแน่ ซูชิงหนีงานแต่ง คุณชายลู่ไม่จัดการก็นับว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว”
โจวซงเฟยเงียบไปครู่หนึ่ง เขาคิดว่าเป็นตระกูลลู่แต่เขาก็รู้ด้วยว่าคนที่มีอำนาจของตระกูลลู่จะอยู่ได้อีกไม่นานและแทบไม่ออกมาปรากฏตัว แถมยังถอนงานแต่งกับทางบ้านตระกูลซูอีก
ซูชิงก็เป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ไม่มีค่าพอที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลลู่และตระกูลโจวหรอก
โจวซงเฟยเพียงโทรถามฉินซู่ฉินเท่านั้นว่ามีใครคอยหนุนหลังซูชิงหรือไม่
“ช่วงนี้คุณก็อยู่เงียบๆไปก่อน อย่าเพิ่งไปหาเรื่องซูชิง ฉันจะดูว่าใครอยู่เบื้องหลังเธอ”
“ได้ค่ะ” ฉินซูฉินจะไปกล้าพูดอะไรได้ล่ะ “ซงเฟยคะ โจวเจ๋อเป็นอะไรร้ายแรงไหม อยู่โรงพยาบาลไหนเดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยม”
“คุณจะไปทำอะไร ดูแลซูเซว่ให้ดี ให้เธอทำหน้าที่คุณนายฉู่ให้ดี”
โจวซงเฟยพูดจบก็วางสายไป
สีหน้าฉินซู่ฉินไม่ดีนักและก็พอดีพอดีที่ซูเซว่เดินเข้ามา “แม่คะ เกิดอะไรขึ้น ลุงโจวทำสำเร็จไหมคะ?”
“เกิดเรื่องแล้ว” สีหน้าของฉินซู่ฉินซีดเผือด “ซูชิยังไม่ตาย โจวเจ๋อก็โดนจัดการเข้าที่ขา ลุงโจวของลูกก็กำลังโมโหอยู่”
“โจวเจ๋อพิการแล้ว?” ใบหน้าของซูเซว่ฉายแววความสุข “สมน้ำหน้า เขาเป็นลูกชายสุดโปรดของลุงโจวนี่นา โจวเจ๋อใช้การไม่ได้แล้ว ลุงโจวก็จะได้เอ็นดูหนูมากยิ่งขึ้น ไม่แน่สมบัติตระกูลโจวอาจจะตกเป็นของหนูแล้วให้หนูคืนตำแหน่ง”
“เสี่ยวเซว่” ฉินซูฉินรีบปิดปากซูเซว่ พร้อมมองออกไปนอกประตูอย่างระแวดระวังและปิดประตู “กำแพงมีหู ประตูมีช่องนะ”
“แม่จะกลัวอะไร” ซูเซว่พูด “แม่ ตระกูลซูกำลังจะล้มละลายแล้ว แม่ก็ต้องหาทางเอาตัวรอด ตระกูลซูจะไปเทียบตระกูลโจวได้ยังไง ก่อนหน้านี้ลุงโจวสัญญากับหนูไว้แล้วว่าจะให้ตำแหน่งหนู”
“เสี่ยวเซว่ เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ฉินซู่ฉินมองได้ทุลุปรุโปร่งกว่าซูเซว่ เธอเป็นเมียน้อยของโจวซงเฟยมาตั้งหลายปี คอยแอบอยู่ตลอด ถึงเป็นซูเซว่ก็ไม่ได้ตำแหน่งหรอก คงทำได้แค่มีนามสกุลซูเอาไว้อย่างนี้
น่าเสียดายที่เด็กที่เธอคลอดออกมาไม่ใช่ลูกชาย แต่เป็นลูกสาว
“ลุงโจวรักหนูมาก หนูมีเลือดตระกูลโจว ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องได้ตำแหน่ง
ฉินซูฉินมองซูเซว่ที่คาดหวัง เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดประโยคที่โจวซงเฟยพูดเอาไว้
“แม่ จริงสิ ยัยซูชิงนั่นเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่รู้สิ คนที่ลุงซูของลูกส่งไปไม่มีใครกลับไปเลย” ฉินซู่ฉินนึกขึ้นได้บางอย่างก็จะเอ่ยถาม “เสี่ยวเซว่ ที่ลูกเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าซูชิงมีแฟนแล้ว แถมยังให้หัวใจเทพธิดามูลค่า 8 ล้านอีก ชายคนนั้นเป็นมายังไงลูกหรือไหม?”
ซูเซว่กล่าวอย่างดูถูก “ก็แค่คนยากจน สวมชุดจากพวกแผงลอย รถที่ขับราคาแค่ไม่กี่แสนจะไปให้สร้อยข้อมือแพงขนาดนั้นได้ยังไงล่ะคะ สร้อยนั่นต้องเป็นของปลอมแน่ แอนดี้ก็แค่มองพลาดไปเท่านั้นแหละ”
ซูเซว่ไม่เชื่อว่าเป็นสร้อยข้อมือนั้นเป็นของจริง ถึงจะใช่ ก็ต้องเป็นซูชิงเอาร่างกายไปแลกกับเศรษฐีใหม่มาแน่
…
ซูชิงได้สติก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากไข้ลดแล้ว ทั้งร่างกายก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
เมื่อลืมตาขึ้น
เจ็บลำคอจนไอออกมา เธอถึงสังเกตเห็นว่าตัวเองยังมีชีวิต ยังไม่จมน้ำตาย
ความทรงจำเมื่อคืนนี้หลั่งไหลเข้ามาในหัว หลังจากลงไปในน้ำ เหมือนเธอจะได้ยินเสียงของลู่หรงเยียน
หรือเขาช่วยชีวิตเธอ?
เสียงเคลื่อนไหวภายในห้องทำให้ผู้คนภายนอกตื่นตระหนก ลู่หรงเยียนผลักประตูเข้ามาก็เห็นซูชิงฟื้นแล้ว หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข
“ชิงชิง ฟื้นแล้วเหรอ” ลู่หรงเยียนช่วยเธอลุกขึ้นนั่งและถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่สบายตัวตรงไหนหรือเปล่า?”
ซูชิงเห็นดวงตาของลู่หรงเยียนแดงก่ำก็ใจสั่น ไปที่ https://th.readeraz.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! เมื่อคืนเธอเกือบตายแล้ว
พอมาคิดอีกทีก็ยังกลัวอยู่ดี
ลู่หรงเยียนกอดซูชิงไว้ในอ้อมแขนทั้งยังพูดอย่างอบอุ่น “ผมอยู่นี่ ไม่ต้องกลัว”
เขารู้สึกถึงซูชิงกำลังสั่นอยู่ในอ้อมแขน เมื่อคืนเธอต้องหวาดกลัวมากแน่ๆ
ในขณะนั้น ในใจลู่หรงเยียนที่ไม่เคยคิดจะแข็งแกร่งอะไรก็รู้สึกว่าเขาอยากจะปกป้องผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาไปตลอดชีวิต
ซูชิงกำเสื้อผ้าลู่หรงเยียนไว้แน่น สูดลมหายใจ หลังจากที่อารมณ์ผ่อนคลายลงถึงได้ผละจากอ้อมแขนของเขา
หลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ต้องแบกรับไว้คนเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกเธอว่าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
“คุณหาฉันเจอได้ยังไงน่ะ?”
ลู่หรงหยวนคิดหาข้ออ้างไว้แล้ว “ผมโทรหาคุณแต่โทรศัพท์ปิดเครื่อง เลยสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องกับคุณก็เลยรีบแจ้งความ เป็นตำรวจที่หาคุณเจอ แต่คนที่ลักพาตัวคุณก็หนีไปแล้ว”
ลู่หรงเยียนคงไม่มีทางบอกซูชิงแน่ว่าสองคนนั้นได้หายไปจากเมืองหลวงแล้ว
ซูชิงคงนึกไม่ออกเลยว่าถ้าลู่หรงเยียนไม่มาหาเธอ เธอก็คงจะตายไปแล้วสินะ?
รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ซูชิงไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าคำพูดของลู่หรงเยียนนั้นนะจริงหรือเท็จ
สิ่งที่เธอรู้สึกได้คือความอบอุ่นที่ไม่เคยมีมาก่อน
หลังจากที่เธอตกลงไปในน้ำ เหมือนมีคนโดดตามลงมา ทั้งยังจูบริมฝีปากของเธอด้วย
“ลู่หรงเยียน คุณดีกับฉันขนาดนี้ หากฉันไปจากคุณไม่ได้จะทำยังไงล่ะ”
หลังจากผ่านเรื่องของฉู่เทียนอี้ ซูชิงไม่กล้าที่จะทุ่มสุดใจ
แต่ลู่หรงเยียนกลับดีกับเธอมาก
เธอเป็นเหมือนเด็กที่ไม่เคยได้กินของหวาน พอได้ลิ้มรสความหวานก็ไม่สามารถเลิกได้
“ยัยบ๊อง คิดอะไรอยู่น่ะ” ลู่หรงเยียนจิ้มจมูกซุชิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน “คุณเป็นผู้หญิงของผมแล้ว เว้นแต่ผมจะตายไป ชีวิตนี้คุณคงไม่มีทางได้ห่างผมหรอก”
เมื่อได้ยินคำว่า ตาย ซูชิงก็วางนิ้วชี้บนริมฝีปากของลู่หรงหยวนโดยไม่รู้ตัว “อย่าพูดมั่วสิ”
ลู่หรงเยียนยิ้มและจับมือเธอไว้ก่อนจะกดจูบลงอย่างอ่อนโยน
อาการจักจี้จนแก้มซูชิงแดงก่ำ
ขณะนั้นเองพยาบาลก็นำยาเข้ามา “คุณซูคะ ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ”
ซูชิงหน้าแดงและดึงมือของเธอกลับก่อนจะทำตาโตใส่ลู่หรงเยียน
ลู่หรงเยียนยิ่งยิ้มหนักขึ้น
พยาบาลวางยาลงและจากไปหลังจากให้คำแนะนำเล็กน้อย
ซูชิงกลัวการกินยามากที่สุด มองไปยังเม็ดยาก็ตกใจยา “ไม่กินได้ไหม มันขม”
“ไม่ได้” ลู่หรงเยียนเทน้ำแล้วยื่นให้เธอ “ยาขมน่ะสิถึงดี”
ซูชิงขมวดคิ้ว หยิบยามากินก่อนจะดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีรสขมแผ่ซ่านอยู่ในปากของเธอ
ก่อนที่เธอจะคลายความขมขื่นกลับได้ยินลู่หรงเยียนพูด “อ้าปาก”
ซูชิงอ้าปากโดยไม่รู้ตัวแต่ก่อนที่จะทันได้โต้ตอบ ลู่หรงเยียนก็กดจูบและดันลูกอมรสหวานเข้ามาในปากเธอเสียเเล้ว
ความนุ่มนวลประทับลงบนริมฝีปาก
ในปากกลับมีแต่ความหวาน ลูกอมค่อยๆละลายในปาก ซูชิงรู้สึกถึงทั้งร่างกายเหมือนถูกแช่อยู่ในหม้อน้ำผึ้ง
แม้ว่าทั้งสองได้ทำเรื่องที่สนิทสนมที่สุดด้วยแล้ว แต่การจูบก็ยังทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นเร็วขึ้น
ใบหน้าซูชิงแดงขึ้นอย่างรวดเร็วและร่างกายของเธอก็ร้อนขึ้นเช่นกัน
ลู่หรงเยียนทนความอึดอัดเอาไว้ก่อนจะปล่อยเธอไปพร้อมพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ช่างเป็นนางฟ้าตัวน้อยจริงๆ ผมล่ะอยากทำเรื่องอย่างว่าเลย”
ถ้าไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล ลู่หรงเยียนคงจะรักซูชิงทันทีที่ไข้ลด
เขาบอกตัวเองให้อดกลั้น แต่ซูชิงก็อยู่ที่นี่ เขากลับไม่มีความยับยั้งชั่งใจเลย
เธอเป็นเหมือนดอกป๊อปปี้ที่อันตรายถึงตาย ทำให้คนเสพติด
ซูชิงไม่สงสัยในคำพูดของลู่หรงเยียนเลยสักนิด
เธอได้เห็นแล้วว่าในขั้นตอนอย่างว่า ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
ซูชิงรู้สึกอายกับคำพูดรักที่ชัดเจนของลู่หรงเยียนและรู้สึกประทับใจกับความอดกลั้นของเขา
เมื่อเห็นเขาอดทนอย่างหนัก จู่ๆซูชิงก็ยิ้ม จับคางของลู่หรงเยียนและพูดอย่างยั่ว “ใครจะไปกลัวกันล่ะ”
พูดไปซูชิงก็เป็นคนเริ่มโอบคอ มือลูบไล้ร่างกายของเขา
ซูชิงรู้สึกประหลาดใจกับที่เธอเป็นคนเริ่มก่อน
แต่ในเวลานี้เธอก็รู้สึกสงสารที่เขาต้องอดทนอย่างหนัก
MANGA DISCUSSION