หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 831 ประธานพันเดชตอบโต้
ตอนที่ 831 ประธานพันเดชตอบโต้
ดูไปแล้ว ไม่เหมือนการโกหก
“ผู้อำนวยการนิศัพท์ คุณคิดว่าพันเดชจะทำเรื่องหลีกเลี่ยงภาษีงั้นเหรอ?” จิดาภาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อพูดออกไปเช่นนั้น ผู้อำนวยการนิศัพท์หัวเราะแทรกขึ้นทันที “คุณโกหกผมอยู่?”
ตอนนี้จิดาภามั่นใจมากว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้
เรื่องอัญมณีเป็นพิษ เขายอมรับแล้ว ถ้าเรื่องนี้เขาเป็นคนทำจริงๆ เขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโกหกหล่อน!
เพียงแต่…ทำไมจิดาภาถึงรู้สึกว่า เรื่องนี้มีคนลงมือทำเพียงคนเดียว
ใช่แล้ว เมื่อครู่เขาพูดว่า เรื่องนี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้จิดาภาตกใจขึ้นมาทันที
“เมื่อครู่คุณบอกว่ามีคนสั่งให้ทำเรื่องนี้ เขาเป็นใคร?” จิดาภาถามขึ้น
ผู้อำนวยการนิศัพท์มองหน้าหล่อนพลางหัวเราะขึ้น รูม่านตาสีดำเปล่งประกายด้วยความสะใจ “คุณอยากรู้จริงเหรอ?”
“ฉันทำเหมือนเสแสร้งงั้นเหรอ?”
“จิดาภา ถ้าผมบอกคุณเรื่องนี้ ผมเกรงว่าคุณจะรับไม่ได้!”
“หมายความว่ายังไง?”
“ก็หมายความว่า ถ้าคุณรู้คำตอบ คงต้องทำให้คุณตกใจสะพรึงแน่นอน!”
จิดาภารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ท่าทางของผู้อำนวยการนิศัพท์ดูเหมือนตั้งใจทำให้หล่อนกลัว และก็ยังเหมือนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จิดาภาไม่รู้ว่าควรเชื่อเขาหรือไม่
“ใคร?”
“ทำไมผมต้องบอกคุณ?” ผู้อำนวยการนิศัพท์ย้อนถาม
“คุณเคียดแค้นฉันกับพันเดชมาโดยตลอดไม่ใช่หรือไง? ไหนบอกว่าฉันจะต้องตกใจกลัว? ในเมื่อคุณมาเช่นนี้แล้ว บางทีฉันอาจจะตกใจกลัวจริงๆก็ได้!”
หล่อนพูดไม่ผิด
แม้ว่าผู้อำนวยการนิศัพท์จะรู้ดีว่าจิดาภากำลังท้าทายเขา แต่สิ่งที่หล่อนพูดมาถือเป็นเรื่องจริง
“โอเค ผมจะบอกคุณ คนนั้นก็คือ…เปรม ศักดิ์!” ผู้อำนวยการนิศัพท์จ้องหน้าหล่อนพูดชื่อขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ ราวกับอยากรู้ท่าทีของหล่อนหลังจากรู้เรื่องนี้แล้ว
หลังจากที่เขาพูดจบ จิดาภาขมวดคิ้วขึ้น “เป็นไปไม่ได้!”
“ฮ่า จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจคุณ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง!” ผู้อำนวยการนิศัพท์พูดด้วยความมั่นใจ
จิดาภานั่งมองหน้าเขา “ผู้อำนวยการนิศัพท์ คุณคิดว่าแผนที่จะทำให้ความสัมพันธ์แตกร้าวกัน จะทำให้ฉันเชื่องั้นเหรอ?”
“ถ้าไม่เชื่อ คุณกลับไปถามพันเดช เขาฉลาดขนาดนั้น ต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน!” ผู้อำนวยการนิศัพท์พูดอย่างช่ำชอง
สีหน้าของจิดาภาแย่ลงทันที หรือว่า จะเป็นพี่ชายจริงๆ?
ไม่!
หล่อนยังคงไม่เชื่อ!
แต่ทว่า ทำไม จิดาภาจึงอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้น?
หรือนี่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ทำไมบริษัทCAเกิดเรื่องขึ้น จนถึงตอนนี้พันเดชยังไม่มีท่าทีตอบโต้อะไรเลย หรือว่านี่เป็นเรื่องจริง….?
ขณะที่จิดาภากำลังคิดสับสน ผู้อำนวยการนิศัพท์ก็กระแอมขึ้น จากนั้นลุกขึ้นยืนเดินออกไป ไม่บอกกล่าวกันสักคำ จนเขาเดินออกไปแล้ว จิดาภาจึงจะตั้งสติขึ้นมาได้
หล่อนนั่งอยู่ที่เดิมด้วยความสับสนงุนงงจู่ๆหล่อนก็คิดขึ้นมาว่า ถ้าเป็นเปรมศักดิ์จริงๆ ควรจะทำเช่นไรดี?คำตอบคือ หล่อนไม่รู้! หล่อนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร!ระหว่างที่ครุ่นคิดอยู่ จิดาภาหยิบมือถือออกมา สุดท้ายอดไม่ได้ที่จะโทรหาเปรมศักดิ์เสียงรอสายดังอยู่ครู่หนึ่ง ฝั่งคู่สายก็กดรับ“ฮัลโหล!”“พี่ ฉันเอง!” จิดาภาพูดขึ้น“จิ? มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”จิดาภาไม่รู้ว่าควรเริ่มพูดเช่นไร ถ้าไม่ใช่เปรมศักดิ์ แล้วคำพูดที่ผู้อำนวยการนิศัพท์กำลังสร้างความแตกร้าว อาจจะถามได้จากเขา ถ้าเป็นเขาจริงๆ หล่อนไม่รู้เลยว่าต่อไปจะสู้หน้าเปรมศักดิ์ได้อย่างไรแต่ถ้าไม่ถาม…หล่อนจะสบายใจได้เช่นไร?“จิ? เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อไม่ได้ยินเสียงของหล่อน เปรมศักดิ์จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง“พี่รู้ข่าวบ้างไหมว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบริษัทCAบ้าง?” จิดาภาถามขึ้นเปรมศักดิ์คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่จิดาภาโทรมาหาเขาเพื่อถามเรื่องนี้โดยเฉพาะเขานั่งพิงเก้าอี้ให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย “รู้สิ ตอนนี้มีข่าวรายงานเต็มไปหมด ทำไมถามแบบนี้ล่ะ?”จิดาภาควรถามตรงๆเลยดีไหม?“ฉันอยากถามว่า พี่มีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร?”“ความคิดเห็น? ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้ล่ะ?!” เปรมศักดิ์ย้อนถาม สัญชาตญาณบ่งบอกเขาว่าจิดาภาโทรมาเช่นนี้ ต้องมีเรื่องผิดปกติแน่นอน“ไม่มีอะไรค่ะ แค่อยากถามดูเฉยๆ!”“นี่ไม่ใช่เรื่องของบริษัทพี่ พี่ไม่มีความเห็นอะไรทั้งนั้น!”คำตอบของเปรมศักดิ์ มีลับลมคมใน จิดาภาก็ไม่รู้ว่าควรพูดเช่นไร หล่อนกำมือถือไว้แน่น “พี่ ฉันเชื่อว่า พี่จะไม่ทำเรื่องที่ทำร้ายฉัน!”คำพูดนี้ ทำให้คู่สายเงียบไปทันทีเปรมศักดิ์ก็กำมือถือไว้แน่น ไม่รู้ว่าควรพูดยังไงต่อผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงพูดขึ้น “แน่นอนสิ พี่จะทำร้ายเธอทำไม!?” ทำร้ายใคร เขาไม่มีทางทำร้ายจิดาภาแน่นอนเพียงแต่ เขายังคงไม่เข้าใจกับคำพูดของจิดาภา หรือว่า ในสายตาของเขา เรื่องที่เขาทำ ไม่ได้กำลังทำร้ายจิดาภา แต่กำลังกอบกู้หล่อนคืนมาท้ายสุดจิดาภาตัดสายไปแต่การโทรไปครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้หล่อนสบายใจขึ้น แต่กลับทำให้ทุกข์ใจหนักกว่าเดิมราวกับว่า เรื่องที่หล่อนไม่อยากเห็น ค่อยๆเปลี่ยนไป… ………กลางดึก พันเดชกลับบ้านมาตอนตีหนึ่งกว่าเมื่อก่อน ตอนที่บริษัทยังไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น จะดึกเพียงไหน เขาก็จะกลับบ้านก่อนห้าทุ่ม แต่ตอนนี้…ได้กลิ่นไวน์จากตัวของเขา จิดาภาเลิกคิ้วขึ้น“คุณกลับมาแล้วเหรอ?” จิดาภาถามขึ้นด้วยเสียงเย็นชาภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ พันเดชหันข้างไปมอง คิดไม่ถึงว่าหล่อนยังไม่นอนหลับ“อื้ม ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ?” เขาถาม“รอคุณอยู่!” จิดาภาพูดอย่างเรียบเฉยพันเดชเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ไม่ได้เปิดไฟ มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ส่องเข้ามา เขามองหน้าหล่อน “เป็นอะไรรึเปล่า?” “เรื่องไปถึงไหนแล้ว?”พันเดชกลับหัวเราะ “ไม่มีอะไร ผมจัดการได้ ไม่ต้องกังวล!”แต่หล่อนจะไม่กังวลได้อย่างไรถ้าวันนี้ไม่ได้ไปหาผู้จัดการนิศัพท์ บางทีหล่อนอาจจะถูกปลอบด้วยคำพูดนี้ก็เป็นได้ แต่ตอนนี้ หล่อนไม่มีทางเชื่อเขาอีกแล้ว“พันเดช เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นใช่ไหม? ถ้าใช่…คุณบอกฉันได้นะ!” จิดาภาจ้องหน้าเขาพลางถามขึ้น คำพูดของนิศัพท์ ทำให้หล่อนไม่กล้าถามพันเดชไปตรงๆ เพราะหล่อนกลัวว่า คำตอบนั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่อยากฟังพันเดชมองจิดาภา มีบางเวลาที่เขาอยากจะพูดออกมา แต่เมื่อเบี่ยงสายตาไปมองท้องของหล่อน…สุดท้าย เขาจึงตัดสินใจไม่พูดพันเดชหัวเราะพลางยื่นมือออกไปหยิกแก้มหล่อน “พอแล้ว ไม่ต้องกังวลไป ถ้าสามีของคุณจะล้มละลาย ก็ยังเลี้ยงคุณไหวนะ!”“พันเดช…”“จิ!” ทันใดนั้น พันเดชจับมือของหล่อนไว้ “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่เป็นอะไร ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ…”หลังจากพูดจบ เขาลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำทันทีคำพูดของจิดาภา ยังคงค้างคาอยู่ ไม่รู้ว่าควรพูดออกมาเช่นไร “พันเดช….” เขาเพิ่งลุกขึ้น จิดาภาก็เรียกเขาจากด้านหลัง “”ถ้าคุณอยากทำอะไร ก็ทำนะ ไม่ต้องกังวลเรื่องคนอื่น!พันเดชไม่พูดอะไร เพียงแต่หยุดชะงักไป จากนั้นเดินตรงไปที่ห้องน้ำต่อหล่อนมองเขาเดินไปด้วยความรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากเมื่อพันเดชเดินออกมาจากห้องน้ำ จิดาภาก็นอนแล้ว พันเดชก็ล้มตัวลงนอนเช่นกัน จากนั้นกอดหล่อนจากด้านหลัง…จิดาภาไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่สะดุ้งเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะร่างกายอันเย็นเฉียบของของเขา สรุปแล้ว ทั้งสองต่างพากันเงียบ ไม่พูดอะไรต่อ ภายในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ ดูเผินๆเหมือนว่านอนหลับแล้ว แต่ในความเป็นจริง ต่างคนต่างคิดกังวลอยู่ค่ำคืนนี้ ผ่านไปโดยความเงียบเหงา…วันรุ่งขึ้น เมื่อจิดาภาตื่นขึ้นมา ข้างกายของหล่อนก็ว่างเปล่าแล้วผ่านมาเนิ่นนานเท่าไหร่แล้วที่หล่อนตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขา? ….ภายในบริษัทเมื่อพันเดชเดินเข้าไปในห้องทำงาน เจ๊กก็เดินตามติดเข้าไปพันเดชหยิบเอกสารฉบับหนึ่งขึ้นมาจากบนโต๊ะ “เอาของพวกนี้ไปให้เปรมศักดิ์!”เจ๊กรู้ทันทีว่า พันเดชจะตอบโต้กลับแล้ว!และสิ่งที่เขาชื่นชมมากก็คือท่าทางเช่นนี้ของพันเดชเขาพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ครับ!”จากนั้น เขาหันหลังเดินออกไปทันทีพันเดชยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้วยท่าทางที่ชัดเจน สายตาคู่นั้นดูเหมือนมั่นใจและยืนหยัดมากขึ้นเปรมศักดิ์ ในเมื่อนายจะเล่น ฉันก็จะเล่นกับนายแต่ ผลสุดท้าย นายต้องพ่ายแพ้! ! !บริษัทธีร์อธิศ เมื่อได้รับเอกสารที่พันเดชส่งมาก สีหน้าของเขาแย่ลงไปทันทีกำหมัดขึ้นแน่นพันเดช! ! !หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง มีข่าวฉาวของบริษัทธีร์อธิศออกมาทันทีบริษัทธีร์อธิศมีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้มาด้วยวิธีสกปรก ขนาดกิจกรรมทำบุญยังเป็นการหลอกลวงโกงกินเมื่อเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นภายในบริษัท เกิดความขัดแย้ง ถูกแฉและเปิดโปงเรื่องหลีกเลี่ยงภาษีอีกทั้งเรื่องอื่นๆ เมื่อมีข่าวออกไปเช่นนั้น จึงเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้ง ทันใดนั้น พันเดชกำมือถือไว้พร้อมยิ้มอย่างเยือกเย็น “เอกสารหลักฐานเรื่องหลีกเลี่ยงภาษีที่นายเอาไปยื่นฉบับนั้น เป็นหลักฐานของหัวหน้าฝ่ายการเงินคนล่าสุด เปรมศักดิ์ ก่อนที่นายจะทำอะไร ได้โปรดใช้สมองก่อน!” เปรมศักดิ์ขว้างมือถือลงไป สภาพภายในห้องทำงานยุ่งเหยิงไปหมดทำไมถึงคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำเช่นนี้!ขณะเดียวกันนั้นเอง ผู้ช่วยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ประธานเปรมศักดิ์ มีคนฉวยโอกาสปั่นหุ้นของบริษัทพวกเรา จากนั้นค่อยๆซื้อกลับไป”ว่าไงนะ?สีหน้าของเปรมศักดิ์แย่ลงมากขึ้น “รีบปิดหุ้นเดี๋ยวนี้ ไม่ว่ายังไง ห้ามให้ใครซื้อไปได้!” เปรมศักดิ์ตวาดเสียงดัง“แต่ตอนนี้ปิดไม่ทันแล้ว…”“ไม่ว่ายังไง ต้องหยุดให้ได้เดี๋ยวนี้! ! !” เปรมศักดิ์ตะคอกเมื่อเห็นท่าทางโมโหของเขา ผู้ช่วยจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ ทำได้เพียงพยักหน้าลง จากนั้นเดินออกไป…ภายในห้อง เปรมศักดิ์ยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าบึ้งตึงอย่างมากเขารู้ดีว่า พันเดชคิดจะฉวยโอกาสนี้ซื้อหุ้นบริษัทธีร์อธิศ จึงค่อยๆกว้านซื้อหุ้นของพวกเขา!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเขาแย่ลงมากขึ้นและเอกสารที่เขาเอาออกมาเปิดโปง ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาภายในบริษัท คาดไม่ถึงเลยว่าพันเดชจะรู้เรื่องทั้งหมด!นี่เปรียบเสมือนเป็นสัญญาเตือนพวกเขา