หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 829 ตัดสินใจยอมแพ้
ตอนที่ 829ตัดสินใจยอมแพ้
น่าเสียดาย
จิดาภาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พันเดชพูดเมื่อวันนั้นหมายถึงอะไรกันแน่
บางที ไม่ใช่ความไม่เข้าใจ เพียงแต่ตอนนั้น ไม่มีเรื่องอะไรมาเป็นอุปสรรคต่อพวกเขา พวกเขาให้ความสำคัญแก่กันและกันเป็นอย่างมาก
น่าเสียดาย…
ความจริงกับความปรารถนากลับสวนทางกัน
เรื่องที่มองดูเหมือนว่าไม่มีอะไร แต่กลับมีบางอย่างแอบแฝงอยู่
หลังจากนั้นสองวัน
ภายในห้องทำงาน พันเดชนั่งอยู่ที่เก้าอี้ หรี่สายตาลง มองด้วยสายตาเฉียบแหลมราวเหยี่ยว
ขณะเดียวกันนั้น เจ๊กเดินเข้ามา “ประธานพันเดช!”
“เป็นยังไงบ้าง?”
สีหน้าของเจ๊กดูมั่นใจ พยักหน้าลง “ประธานพันเดชเดาไม่ผิด!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของพันเดชแย่ลงทันที
“พวกเขาอยู่ที่ไหน?”
“พวกเขาเปลี่ยนที่อยู่แล้ว ตอนนี้อยู่ที่โรงแรมหัวเย่อ!”
พันเดชยิ้มด้วยความเยือกเย็น “พวกเราไปที่นั่นกัน!” เขาพูดพลาง ลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมเดินออกไป
เจ๊คเดินตามหลัง
โรงแรมหัวเย่อ
เปรมศักดิ์กำลังเซ็นสัญญากับFriedaอยู่ในบริษัท
“Frieda ผมเคยบอกแล้วว่า พวกเราจะต้องได้ร่วมงานกัน!” เปรมศักดิ์หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเล็กน้อย ยิ้มด้วยความมั่นใจ จนถึงขั้นหยิ่งผยอง
Friedaเป็นชาวต่างชาติ เขาชื่นชมคนที่มั่นใจในตัวเองมาก ยิ้มและพูดขึ้น “ผมก็หวังว่าพวกเราจะร่วมงานกันอย่างราบรื่น มีความสุข Cheers!”
เปรมศักดิ์ลุกขึ้น พร้อมยกแก้วไวน์ “Cheers!”
หลังจากดื่มหมด เปรมศักดิ์มองไปที่Frieda “งั้นก็เริ่มพิธีอย่างเป็นทางการกันเลยดีกว่า”
“OK!”
ขณะนั้น ผู้ช่วยของทั้งสองฝ่ายหยิบเอกสารขึ้นมายื่นให้พวกเขา จากนั้นยื่นปากกาให้ต่อ
ขณะที่กำลังจะเซ็น ประตูกลับถูกผลักออกท่าทางที่กำลังจะเซ็นกลับชะงักไปทันที สายตาของทุกคนมองไปที่ประตูพันเดชกับเจ๊กเดินเข้ามา“วันที่น่ายินดีเช่นนี้ ทำไมไม่เรียกฉันมาด้วยล่ะ!” พันเดชเดินเข้าไปด้วยท่าทีสง่างาม สีหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัยและมั่นใจ ออร่าของเขาเปล่งประกายไปรอบตัวจนไม่อาจละสายตาได้เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา เปรมศักดิ์ขมวดคิ้วขึ้นทันที หันไปมองผู้ช่วยผู้ช่วยรีบเอ่ยปากพูดขึ้น “ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!”Friedaมองพันเดช ย่นคิ้วขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะมาที่นี่เดิมทีสัญญาฉบับนี้ เขาเล็งพันเดชไว้มานานแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าบริษัทของเขาจะเกิดปัญหาใหญ่ขนาดนี้ สัญญาเป็นเรื่องเล็ก แต่ชื่อเสียงกลับเป็นเรื่องใหญ่ Friedaจึงตัดสินใจเลือกบริษัทธีร์อธิศพันเดชรีบเดินมุ่งหน้าเข้าไปด้วยท่าทีเหี้ยมโหด“พันเดช นายมาที่นี่ทำไม?” เปรมศักดิ์มองเขาด้วยความไม่พอใจ จะสำเร็จอยู่แล้ว แต่เขากลับโผล่มาทำอะไรตอนนี้?เมื่อเห็นสายตาไม่พอใจของขา พันเดชยิ้มขึ้น “ไม่มีอะไร แค่มาดูเท่านั้น คุณFrieda เราเจอกันอีกแล้วนะ!”Friedaมองพันเดช ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงพยักหน้าให้ในเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องดีนัก เขาก็ไม่รู้ว่าควรพูดยังไง“พันเดช วันนี้เป็นวันเซ็นสัญญาของพวกเรา นายมาที่นี่ทำไม? ก่อเรื่องวุ่นวาย?” เปรมศักดิ์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แฝงไปด้วยความไม่พอใจและเหยียดหยามเพราะเขารู้ดีว่า พันเดชมาที่นี่ต้องไม่มีเรื่องดีแน่นอนสัญญาที่ผ่านมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ล้วนแล้วแต่ถูกเขาแย่งชิงไปหมด เขาจะไม่เป็นกังวลได้เช่นไรเหมือนเห็นท่าทางวิตกกังวลของเขา พันเดชที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายใจพูดขึ้น “ประธานเปรมศักดิ์กำลังกังวลอะไรอยู่เหรอ?”“หึ ฉันไม่ได้กังวลอะไร เพียงแค่รู้สึกว่า บริษัทของประธานพันเดชเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ควรจะอยู่จัดการปัญหาที่บริษัทไม่ดีกว่าเหรอ?” เปรมศักดิ์มองหน้าเขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยามเมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของพันเดชเย็นชาขึ้นมาทันที จากนั้นเขายิ้มเยาะ “ในเมื่อนายรู้สึกว่า บริษัทของฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง แล้วนายยังจะกังวลเรื่องอะไรล่ะ? หรือนายคิดว่าถึงแม้บริษัทCAจะเสียชื่อเสียงแต่ก็ยังมีความสามารถแข่งขันกับนายได้?”เปรมศักดิ์หน้าถอดสี แค้นใจมากขึ้นพันเดชหันไปยิ้มด้วยความสะใจ“นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”“แค่ผ่านมาดูเท่านั้น และมาแสดงความยินดีกับพวกนายด้วย!” พันเดชพูดพลางหยิบไวน์ตรงหน้าขึ้นมา สายตามองไปที่เปรมศักดิ์และFrieda ยกไวน์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีสง่างามแววตาของเปรมศักดิ์เคืองแค้นโมโหจนแทบจะลุกเป็นไฟ “ในเมื่อเห็นแล้ว ก็สมควรออกไปได้แล้วใช่ไหม?”พันเดชวางแก้วไวน์ลง ยิ้มเย้ยพวกเขา “รีบร้อนอะไรกัน? นายกังวลว่าจะไม่ได้เซ็นสัญญา หรือกังวลเรื่องอื่นอยู่ล่ะ!?” เขาสบตามองเปรมศักดิ์ด้วยสายตาเป็นนัย แฝงไปด้วยความเยือกเย็น จนทำให้เปรมศักดิ์รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันทีเขาเบี่ยงสายตาออก พูดสบถ “ไม่รู้ว่านายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่!”“ไม่รู้งั้นเหรอ?” พันเดชยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ ราวกับว่าเปรมศักดิ์ทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้กับพันเดชทันใดนั้น พันเดชมองหน้าเขา “เปรมศักดิ์ ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกนายว่า เรื่องบางเรื่อง ควรหยุดดีกว่า ไม่เช่นนั้น ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร นายคงเข้าใจดีกว่าฉัน!”เปรมศักดิ์หันมองพันเดช ขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกสับสนอยู่ภายในใจ หรือว่าเขารู้แล้ว?ขณะเดียวกัน พันเดชลุกขึ้น มองพวกเขา “พวกนายเซ็นสัญญากันต่อ ขอให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง!” หลังจากพูดจบ เขามองพวกเขาด้วยสายตาเตือนเป็นนัย และหันหลังเดินออกไป คำพูดที่พูดขึ้น กลับทำให้เขาไม่สบายใจอย่างมากหลังจากเห็นเขาเดินออกไป เปรมศักดิ์ที่ทั้งกลัวทั้งกังวล รู้สึกโล่งอกไปทันที พันเดช ไม่ว่าครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่นายก็แพ้ฉันแล้ว!จากนั้นหันหลังกลับไปคุยกับFrieda “ขออภัยด้วยครับ คุณFrieda พวกเราเซ็นสัญญากันต่อเถอะครับ!”Friedaพยักหน้าลง กำลังเตรียมเอกสารเซ็นสัญญา แต่จู่ๆผู้ช่วยเดินเข้ามา กระซิบข้างหูของเขา เมื่อฟังจบ Friedaขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “มีอะไรรึเปล่าครับ คุณFrieda?” เปรมศักดิ์ถามขึ้นFriedaยิ้ม “ขอโทษด้วยนะครับคุณเปรมศักดิ์ ผมมีธุระ เกรงว่าเรื่องเซ็นสัญญาคงต้องเลื่อนไปก่อนครับ!” “เลื่อนออก? ทำไมล่ะครับ?” เปรมศักดิ์ถามขึ้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อFriedaไม่ได้พูดอธิบายต่อ กลับมองหน้าเขา ขอโทษและยิ้มให้ จากนั้นหยิบเอกสารเดินออกไปทันทีเปรมศักดิ์ยืนอยู่ด้านหลังมองFriedaเดินออกไปด้วยสายตาเคียดแค้น!แฟ้มเอกสารถูกเขาซัดลงบนพื้นอย่างเต็มแรง เขาโกรธจนสีหน้าย่ำแย่บิดเบี้ยวไปหมด พันเดช!!!ฉันไม่มีทางยอมแพ้ ไม่มีทางปล่อยให้ผ่านไปแบบนี้แน่นอน! ! !พันเดชเดินออกไปขึ้นรถกับเจ๊กเจ๊กถามขึ้นด้วยความกังวล “ประธานพันเดช คุณจะปล่อยโอกาสไปแบบนี้เลยเหรอครับ?”พันเดชไม่พูดอะไร สีหน้านิ่งขรึม“ประธานพันเดชทำเพื่อ….คุณจิดาภาใช่ไหม?” เจ๊กค่อยๆพูดถามทันใดนั้น เมื่อพูดถึงชื่อนี้ขึ้นมา พันเดชรีบเอ่ยปากพูดขึ้น “เรื่องนี้ห้ามบอกใครเด็ดขาด!”เจ๊กพยักหน้าอย่างจนปัญญา “รับทราบครับ!” “กลับบ้าน!”เจ๊กไม่พูดอะไร ขับรถออกไปทันทีเจ๊กเข้าใจดีว่าโปรเจคCSสำคัญกับพันเดชมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เพื่อจิดาภา เขาจะปล่อยโอกาสนี้ไป!จะว่าไป ในใจของพันเดช จิดาภาคือสิ่งสำคัญที่สุด…กลางดึกที่ประชุมส่วนตัวผู้บริหารระดับสูงพันเดชนั่งดื่มอยู่ที่นั่น ดื่มแล้วดื่มอีก ไม่ว่าจะดื่มมากเท่าไหร่ แต่สีหน้าหล่อเป็นสง่าของเขายังคงนิ่งขรึม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆจัสตินหันไปมองเขา “พันเดช นี่นายจะยอมแพ้แบบนี้จริงเหรอ?”นี่ไม่ใช่นิสัยของพันเดชพันเดชนิ่ง ไม่พูดอะไร หยิบไวน์ตรงหน้าขึ้นมาดื่มต่อ ลาภิศเดินตรงเข้ามาเขาพร้อมแก้วไวน์ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเปรมศักดิ์จะกล้ามาแตะต้องบริษัทขนาดนี้!” “เขาทำตัวไร้ยางอายขนาดนี้ ยังคิดว่ามี “น้องสาวที่แสนดี”! ปาณชัยก็พูดเย้ยขึ้นพลางยกแก้วไวน์แกว่งไปมาความสามารถของพันเดช ถ้าเขาอยากตอบโต้ เกรงว่าตอนนี้เปรมศักดิ์คงหมดสภาพไปแล้ว แต่ที่เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย เป็นเพราะเขาเป็นห่วงจิดาภา“น้องสาว? โชคดีที่จิดาภาไม่ใช่ลูกแท้ๆของตระกูลสวันนีย์ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงลำบากกว่านี้แน่นอน!”ลาภิศกล่าว “สิ่งที่กลัวก็คือ เพราะไม่ใช่ลูกแท้ๆก็เลยลำบาก!” จัสตินพูดขึ้นพลางเลิกคิ้วขึ้น“พันเดช นายจะยอมให้เรื่องเป็นแบบนี้จริงเหรอ?” จัสตินถามด้วยความเป็นห่วง ถ้าบริษัทCAจะต้องแบกรับความผิดไปแบบนี้ ต่อไปคงพัฒนาขึ้นยากอย่างน้อย ถ้าจะต่อยอดพัฒนาไปต่างประเทศคงถูกดูถูกเหยียดหยาม ใครจะกล้ามาลงทุนร่วมมือด้วย!? พันเดชนั่งจิบไวน์ เงียบไปครู่ใหญ่ “ยังไม่รู้เลย!”เมื่อเห็นท่าทีของเขา ลาภิศอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ พูดขึ้น “จะว่าไป ความรักก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป!”อย่างน้อย ในขณะที่เผชิญกับเรื่องราวเช่นนี้ ก็หมดหนทางเลือกจริงๆถ้าเลือกฝ่ายหนึ่ง กลับไปทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าคิดจะห่วงจิดาภา ดังนั้นสิ่งที่พันเดชเสียสละให้บริษัทCAทั้งหมด ถือว่าสูญเปล่าไปแล้วอย่าน้อยครึ่งหนึ่ง“เปรมศักดิ์!” ปาณชัยพูดชื่อนี้ขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ครั้งนี้ ถือว่าเขาฉลาด จับจุดอ่อนของนายได้…”เขาพูดพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มจนหมดถือเป็นคำพูดที่ทำร้ายพวกเขาอย่างมาก หาภรรยา หากเป็นไปได้อย่าหาคนที่มีพื้นหลังครอบครัวเช่นนี้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น จะเกิดปัญหาตามมาในอนาคตแน่นอน“ในเมื่อฉันไม่ได้โปรเจคCS เขาก็ไม่มีทางได้!”พันเดชพูดขึ้น สายตาเฉียบคมเคียดแค้นราวเหยี่ยว เขาไม่ได้เป็นคนที่ถูกกระทำแล้วจะไม่เอาคืน กลับตรงกันข้าม เขาจะเอาคืนให้หนักยิ่งกว่า เพียงแต่ มีจิดาภาขวางกั้นอยู่ เขาไม่สามารถทำลายชื่อเสียงของเขาได้ สิ่งที่เขาไม่สามารถนำมาครอบครองได้ ใครก็อย่าหวังที่จะได้ไปครอบครอง!