หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 826 ถูกคนใส่ร้าย
ตอนที่ 826 ถูกคนใส่ร้าย
ในไม่กี่นาที
ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบก็ปรากฏตัวขึ้นที่ออฟฟิศ
เป็นผู้ชายวัยประมาณสามสิบห้า หน้าตาธรรมดาๆ สูงๆ ผอมๆ
สำหรับผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบคนนี้จิดาภาไม่คุ้นเคย เขาเพิ่งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้ แม้ว่าช่วงนี้จิดาภาจะมาทำงานบ้าง แต่ก็ไม่แน่ไม่นอน ดังนั้นจึงไม่ได้รู้จักและติดต่อกันมากนัก
จิดาภานั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับข้อมูลส่วนตัวของเขาที่อยู่ข้างหน้า
“คุณจิดาภาครับ เรียกพบผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ ?” ผู้จัดการกุนต์ มองไปที่จิดาภาแล้วถามขึ้น
จิดาภานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ได้รีบที่จะเอ่ยปากพูด เพียงแค่มองไปที่เขาอยู่แบบนั้น
กุนต์ยืนอยู่ตรงนั้น ตอนแรกคิดว่าจิดาภาจะพูดสักสองสามคำแล้วจะไปได้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้พูดและไม่ได้ถามอะไร เพียงแค่นั่งมองเขาอยู่ตรงนั้น มองอยู่เป็นเวลานาน มองจนเขายืนแทบไม่ไหวอยู่บ้าง……
“คุณจิดาภาครับ……” กุนต์จึงเรียกไปหนึ่งคำ “ไม่รู้ว่าคุณเรียกพบผมด้วยเรื่องอะไรครับ ?”
จิดาภามองไปที่เขาแล้วตั้งสติกลับมา “ฉันเรียกพบคุณด้วยเรื่องอะไรคุณจะไม่รู้จริงๆ เหรอ ?”
กุนต์ส่ายหัว
“บริษัทเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คุณก็ไม่รู้เลยเหรอ ?” จิดาภาถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ใบหน้าที่งดงามกระจายกลิ่นอันเยือกเย็น
กุนต์ก็มองไปที่จิดาภาด้วยความตื่นเต้นอยู่บ้าง “ผม รู้ บริษัทเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมก็เป็นกังวลอยู่มาก……”
“งั้นเหรอ ?” จิดาภาเลิกคิ้วถามอย่างขี้เกียจ ท่าทางนั้นมีสไตล์ของพันเดชอยู่บ้าง
งั้นเหรอ ?
กุนต์มองไปที่จิดาภา รู้สึกได้ว่าคำพูดของเธอแฝงนัยอยู่เสมอ ตื่นเต้นจนเผลอกลืนน้ำลายอย่างไม่อาจควบคุมได้ แต่ก็ยังตอบไปอย่างมั่นใจว่า “ใช่ครับ !”
ขณะนั้นจิดาภาก็มองไปยังเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ แล้วหยิบมาพลิกดูอย่างเรื่อยเปื่อย “ผู้จัดการกุนต์ คุณทำงานอยู่ที่บริษัท CA เป็นยังไงบ้าง ? ดีไหม ?” จิดาภาถามขึ้นอย่างเรื่อยเปื่อยด้วยคำพูดที่ผ่อนคลาย
“ดี ดีมากครับ !”
“ในบริษัทเครื่องประดับทั้งหมดทั้งมวล บริษัท CA ให้เงินเดือนสูงที่สุด คุณเพิ่งได้เลื่อนตำแหน่ง อนาคตจะรุ่งโรจน์……”
“ผม ผมรู้ แล้วผมก็ขอบคุณมากที่ประธานพันเดชดูแลผม !”
“คุณรู้ไว้ด้วยว่าถ้าคนที่ถูกบริษัท CA ไล่ออก แม้ว่าจะไปบริษัทไหนก็อาจจะไม่มีคนรับ !” จิดาภาพูดต่อ
คำพูดต่อไป ไม่หนักและก็ไม่เบา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก แต่มีความรู้สึกว่ายิ่งพูดยิ่งทำให้คนอึดอัดอยู่ตลอดเวลา
“คุณจิดาภาครับ คุณเรียกพบผมเพื่อพูดเรื่องพวกนี้เหรอครับ ?” กุนต์รีบถามขัดคำพูดของจิดาภา เพื่อไม่ให้เธอถามต่อไป
สิ่งที่ควรจะพูด จิดาภาก็ได้พูดไปแล้ว ต่อมาก็ควรจะเข้าสู่ประเด็น “ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันจะพูดตรงๆ เลยนะ !”
มองไปที่ กุนต์ “คุณรู้ไหมว่าอัญมณีรังสีที่ค้นพบในบริษัทอยู่ในห้องคลัง !”
“รู้ครับ !”
“กุญแจห้องคลังมีเพียงแค่คุณกับประธานพันเดชที่มี สำหรับเรื่องนี้คุณจะอธิบายยังไง ?”
“ผม ผมก็ไม่รู้ครับ……นี่อาจจะเอาไปไว้ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วก็ได้ครับ !” กุนต์พูด
“เมื่อก่อน……?”
“คูณจิดาภาครับ ตอนนี้คือคุณสงสัยผมงั้นเหรอ ?” กุนต์ถามกลับ หากถูกจิดาภาถามต่อไป เขาคงต้องบ้าแน่ๆ
“ตอนนี้บริษัทมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฉันไม่ควรจะถามสักหน่อยเลยเหรอ ?” จิดาภาพูดลอยๆ
ทันใดนั้นกุนต์ก็สำลัก แล้วมองไปที่จิดาภา โดยไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร
ขณะนั้นเขาก็เอากุญแจห้องคลังออกมา แล้ววางมันไปบนโต๊ะ “ถ้าคุณจิดาภาไม่เชื่อ งั้นผมลาออกดีกว่าครับ !”
“ลาออก ?” จิดาภายิ้ม
“ผู้จัดการกุนต์ คุณไม่รู้สึกเหรอว่าถ้าคุณจะลาออกตอนนี้ ยิ่งจะทำให้คนสงสัย ?”
สีหน้าของ กุนต์ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยืนอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะตัวอย่างไร และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
“ใบลาออกของคุณฉันจะไม่อนุมัติ แต่สามารถพักงานคุณสองสามวันได้ !”
“ขอบคุณครับคุณจิดาภา !”
“ออกไปเถอะ !”
กุนต์ จึงพยักหน้าและออกไปอย่างรีบร้อน
เขาเพิ่งจะเดินออกไป เจ๊กก็เดินเข้ามา “คุณจิดาภาครับ มีข่าวว่าสามารถประกันตัวประธานพันเดชออกมาได้ครับ !”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มุมปากของจิดาภาก็ยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ตอนไหน ?”
“อีกหนึ่งชั่วโมงครับ !”
“พวกเราไปรับเขากันเถอะ !”
“ครับ !”จิดาภารีบเดินออกมาเพิ่งจะขึ้นไปบนรถ จิดาภาก็นึกอะไรขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน “เจ๊ก……”“คุณจิดาภา มีอะไรเหรอครับ ?” เจ๊กถาม“ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของกุนต์ หน่อย ฉันต้องการรายละเอียด !”“กุนต์ ? ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ?”จิดาภาพยักหน้า เจ๊กก็ไม่ได้ถามต่อไป เพียงแค่พยักหน้า “ผมรู้แล้วครับ ผมจะทำนะครับ !”จิดาภานึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความออกไป หลังจากส่งข้อความเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงวางใจไปมากเจ๊กมองไปจิดาภาผ่านกระจกมองหลัง รถค่อยๆ ขับไปบนถนน…….บริษัทธีร์อธิศเปรมศักดิ์นั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขาในออฟฟิศ มองดูข่าวในโทรทัศน์ แล้วใบหน้าที่หล่อเหลาก็ฉายแววลึกลับพันเดช นายมีวันนี้แล้วสินะ !ที่นายทำกับฉันไม่ใช่แค่นี้ !เมื่อนึกถึงตรงนี้ มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเย้ยหยันในขณะนั้นประตูก็ถูกเคาะ ส่วนเปรมศักดิ์ก็ปิดโทรทัศน์แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “เข้ามา !”ผู้ช่วยเดินเข้ามา แล้วมองไปที่เขา “บุคคลของบริษัท CS อยู่ในสายแล้วครับ !”มุมปากของเปรมศักดิ์ยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ฉันรู้แล้ว !”เมื่อผู้ช่วยพูดจบก็ตรงออกไป ส่วนเปรมศักดิ์ก็หยิบบนโต๊ะขึ้นมาแนบหู “สวัสดีครับ คุณ Frieda……”“แน่นอนครับ ผมยินดีที่จะได้ร่วมมือกับพวกคุณนะครับ……”เมื่อวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว เปรมศักดิ์ก็เอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างขี้เกียจ ส่วนมือก็เล่นโทรศัพท์อย่างเรื่อยเปื่อย ดวงตาอันลึกลับกะพริบอย่างมืดครึ้ม…………เจ๊กกับจิดาภาก็รีบตามมา ส่วนพันเดชกับทนายความก็เดินออกมาจากข้างในพอดี“พันเดช !” จิดาภารีบเดินเข้าไป “เป็นยังไงบ้าง ? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?”พันเดชส่ายหัวแล้วมองไปที่ทนายความ “โอเค ถ้าอย่างนั้นผมก็จะรอสายโทรศัพท์คุณนะครับ !”“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมก็กลับก่อนนะครับ !” พันเดชพยักหน้า หลังจากทั้งสองคนจับมือกันแล้ว ธนเดชก็จากไป“เรื่องเป็นยังไงบ้าง ?” จิดาภาถาม“ตอนนี้มีทางเดียวก็คือหาคนที่ใส่ร้ายคนนั้นให้เจอ ไม่เช่นนั้นต้องเป็นแพะรับบาป !” พันเดชพูด“กลับไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน !” พันเดชพยักหน้าแล้วขึ้นไปบนรถส่วนเจ๊กก็ขับรถแล้วส่งพวกเขากลับไป“ส่วนคุณย่ากับคุณแม่ฉันก็ให้เจ๊กโทรไปแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไร !” จิดาภาพูดเมื่อได้ยินสิ่งนี้พันเดชก็พยักหน้าแล้วจับมือของจิดาภาไว้ สายตาอ่อนโยนมาก “ลำบากคุณเลยนะ !” จิดาภายิ้ม “ก็ต้องทำอยู่แล้ว !”“บริษัทเป็นยังไงบ้าง ?” พันเดชถามในขณะนั้นจิดาภายังไม่ได้เอ่ยปากพูด เจ๊กก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน “ตามที่คุณจิดาภาสั่งให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ออกข่าวประชาสัมพันธ์ว่า ตราบใดที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท CA ก็สามารถคืนสินค้าได้โดยไม่มีเงื่อนไขครับ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค แล้วยังไปหาผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้มาตรวจสอบอัญมณีของพวกเรา แล้วประกาศผลไปสู่สาธารณชนครับ !”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ พันเดชก็หรี่ตาขึ้นเล็กน้อย แล้วหันไปมองจิดาภา“สายตาอะไรเนี่ย ?”“ภรรยา ผมเห็นว่าคุณมีพรสวรรค์ด้านการทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ !”ส่วนจิดาภาก็เม้มริมฝีปากยิ้ม “ฮึ อย่าลืมสิว่าฉันเคยเรียนการบริหารธุรกิจมา เรื่องพวกนี้ก็เป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น !”“งั้นเหรอ ?” เห็นท่าทางภาคภูมิใจของจิดาภา พันเดชจึงโน้มตัวไป “ดูเหมือนว่าวันหนึ่งผมสามารถยกบริษัท CA ให้คุณได้เลยนะเนี่ย !”“ยกให้ฉัน แล้วคุณล่ะ ?”“ผม ? แน่นอนว่าดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้าน เกาะผู้หญิงกิน !” พันเดชพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งนี้จิดาภาก็ยิ้มขึ้น แล้วส่งสายตาขวางให้เขา ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้น พวกเขายังสามารถหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานได้ขนาดนี้ บนโลกใบนี้อาจจะมีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นเจ๊กมองไปที่พวกเขาผ่านกระจกมองหลัง ถ้าไม่ใช่เพราะติดตามพันเดชมานานแล้ว เขาก็อาจจะรู้สึกว่าตอนนี้มันแปลกประหลาด ดีที่อยู่ด้วยกันมานานจนชินแล้ว……รถวิ่งอยู่บนถนนประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะมาถึงบ้านเก่าของตระกูลฐิตานันท์เพิ่งจะเดินเข้าไป หญิงชรากับคุณหญิงภารดีก็เข้ามาหา “พันเดช คุณเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?”พันเดชยิ้มให้พวกเขาอย่างมั่นใจ “คุณย่าครับ แม่ครับ ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง !”พูดจบก็เดินไปข้างใน แล้วนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น “มันเป็นเรื่องอะไรกันเนี่ย ?”“คุณย่าครับ แม่ครับ พวกคุณวางใจได้นะ เรื่องนี้ผมจะจัดการเองครับ พวกคุณไม่ต้องห่วง !”“ฉันเชื่อว่าตราบใดที่ไม่ได้ทำ ก็จะสามารถหาเจอได้อย่างแน่นอน !” หญิงชราพูดด้วยความมั่นใจคุณหญิงภารดีก็พยักหน้า “ใช่แล้ว สิ่งต่างๆ จะเปิดเผยในที่สุด !”พันเดชยิ้มขึ้น เมื่อก่อนเขาไม่เคยพูดเรื่องงานกับคนในครอบครัวเลย มากไปกว่านั้นคือไม่ปล่อยให้พวกเขาเป็นห่วงและกังวล แต่ตั้งแต่รู้จักจิดาภาและได้อยู่ด้วยกันกับเธอมาแล้ว เขาจึงได้รู้ถึงความสำคัญของครอบครัวมากขึ้น ที่รู้มากไปกว่านั้นคือไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ต้องมีเหตุผล ไม่ปล่อยให้พวกเขาต้องเป็นห่วง !“แม่ครับ ผมไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวลงมาค่อยว่ากันนะครับ !” พันเดชพูด“จ้ะ คุณขึ้นไปก่อนเถอะ ฉันจะให้ป้าแม่มทำอาหารให้คุณทาน !” พันเดชพยักหน้า จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปชั้นบนส่วนจิดาภาก็ตามขึ้นไปชั้นบนด้วยพันเดชอาบน้ำ ส่วนจิดาภาก็ช่วยจัดเสื้อผ้าให้เขา หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว พันเดชก็เดินออกมาแล้วเห็นจิดาภากำลังช่วยเก็บของให้เขา เขาจึงเดินเข้าไปด้วยเท้าเปล่า“อาบเสร็จแล้วเหรอ ?”เมื่อได้ยินเสียง จิดาภาก็มองย้อนกลับไป แต่ในขณะนั้นพันเดชก็โน้มตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน จับท้ายทอยของเธอแล้วจูบไปที่ริมฝีปากของเธออย่างลึกซึ้ง……เหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในพริบตาจิดาภาก็ตกตะลึงเล็กน้อย ทว่าไม่ได้ผลักเขาออก แต่ยังโอบเขาไว้และตอบสนองการจูบของเขาหลังจากนั้นไม่นาน พันเดชก็จึงปล่อยเธอออกไปอย่างอาวรณ์ แตะหน้าผากของเธอด้วยดวงตาอันลึกซึ้ง “ทำให้คุณเป็นห่วงเลยนะ……”จิดาภามองไปที่เขา ในใจรู้สึกอบอุ่นมาก “ความสุขคือการที่ฉันยังสามารถยืนอยู่ข้างๆ คุณได้……”พันเดชก็กอดเธอไว้เขาเองก็กลัวว่าจะทำให้เธอเป็นห่วง แต่เขารู้ว่าจิดาภานั่นเข้มแข็งมาก ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนก็เข้มแข็งมากเช่นกันจิดาภามองไปที่เขา “เอาล่ะพันเดช ใส่ชุดแล้วลงไปกินอาหารเถอะ ยังมีเรื่องมากมายรอคุณไปทำอยู่นะ !”พันเดชพยักหน้า จากนั้นจึงปล่อยจิดาภาออกไปจิดาภากวาดสายตาไปรอบๆ จากนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นทันทีเธอนึกไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเดินเปลือยออกมาอย่างกล้าหาญได้ขนาดนี้ !!ราวกับว่าจับได้ที่จิดาภาหน้าแดง เขาก็เลยยิ้มขึ้นแล้วเอ่ยปากพูดติดตลก “ภรรยาครับ ทำไมหน้าคุณแดงแบบนั้นล่ะ ?”“เปล่านี่ !” จิดาภาปฏิเสธ แล้วย้ายสายตาไม่ไปมองเขา“เปล่า ? แต่หน้าคุณแดงมากจริงๆ นะ……” พันเดชเพียงแค่ยื่นมือออกไปยั่วเย้าเธอ แต่ใครจะไปรู้ว่าจิดาภาจะเอ่ยปากพูดขึ้นมากะทันหัน “ฉันลงไปรอคุณก่อนนะ !”เมื่อพูดจบจิดาภาก็เดินตรงไปที่ประตูก่อนที่จะไป พันเดชยังเห็นแก้มของเธอแดงทั้งสองข้างมุมปากจึงยกขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลาย……เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยพันเดชก็ลงไปชั้นล่าง ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง คำนี้พูดไว้ไม่ผิดสักนิดเดียว เขาเพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ดูสง่างามและมีชีวิตชีวาขึ้นมา บนร่างกายเปล่งประกายอำนาจจากภายในสู่ภายนอก“มาทานอาหารเถอะพันเดช !” คุณหญิงภารดีพูดพันเดชเดินลงบันไดตรงไปกินอาหาร“ต่อไปต้องมีเรื่องให้ทำมากมายแน่นอนเลย ถ้าพ่อของคุณไม่ได้ไปปารีส เขาจะสามารถช่วยคุณได้แน่ๆ !” คุณหญิงภารดีพูดพันเดชเงยหน้ามองไปที่เธอ “แม่ครับ คุณไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของผมเหรอครับ ?”จากบริษัทเล็กๆ ธรรมดาๆ ใช้เวลาสั้นๆ เพียงสองปีก็กลายเป็นผู้นำ ความแข็งแกร่งแบบนี้จะไม่เชื่อได้อย่างไร“เมื่อเชื่อคุณนั่นแหละจ้ะ !”พันเดชยิ้มอย่างมั่นใจ ราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรสามารถขวางเขาได้ หลังจากทานอาหารแล้ว พันเดชก็จะไปบริษัทกับเจ๊กเมื่อมองไปที่จิดาภา เขาก็เอ่ยปากเตือนขึ้น “คุณพักผ่อนอยู่ที่บ้านดีๆ นะ ผมจะไปบริษัทแล้ว ค่อยรอข่าวของผมนะ !”“ไม่ต้องให้ฉันไปบริษัทกับคุณหรอกเหรอ ?” จิดาภาถาม“คุณก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เรื่องต่อไปก็ปล่อยให้ผมก็พอ !” พันเดชพูดจากนั้นจิดาภาก็พยักหน้า “โอเคค่ะ !”พันเดชลูบผมของเธอแล้วยิ้มขึ้น จากนั้นเดินตามเจ๊กออกจากประตูไปเพิ่งขึ้นไปที่รถ พันเดชถามขึ้น “ที่บริษัทยังมีเรื่องแปลกอื่นๆ อีกไหม ?”เจ๊กสตาร์ทรถไปด้วย แล้วนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาด้วย เขามองไปที่พันเดชแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “มีเรื่องหนึ่งครับ……”“เรื่องอะไร ?”“บริษัท CS บอกว่าโครงการอาจจะเกยตื้นครับ !” เจ๊กรู้ว่าโครงการนี้มันสำคัญต่อพันเดชมากแค่ไหน ดังนั้นเมื่อพูดคำพูดนี้จบไป จึงมองไปที่สีหน้าของพันเดชอย่างระมัดระวังพันเดชนั่งอยู่ข้างหลัง อวัยวะทั้งละเอียดอ่อนและทรงเสน่ห์แผ่ความเยือกเย็นออกมา สำหรับเรื่องนี้เขาก็คิดไว้แล้ว บริษัท CA มีข่าวอื้อฉาวแบบนี้ออกมา โครงการ CS จะต้องเกยตื้นเพราะเรื่องนี้อย่างแน่นอนเขาพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว !”จากนั้นเจ๊กจึงโล่งอกแล้วขับรถไปที่บริษัทบริษัทที่อยู่ภายใต้การปลอบขวัญของจิดาภา ตอนนี้ก็มีความมั่นคงแล้ว ตอนนี้พันเดชกลับมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นดั่งยาที่ทำให้จิตใจของทุกคนสงบลงสิ่งเดียวที่ไม่มั่งคงคือผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยพื้นฐานแล้ว หากมีสิ่งที่พวกเขามองหา พวกเขาก็จะมา หากไม่มีสิ่งที่พวกเขามองหา พวกเขาก็จะไม่มา ตอนนี้บริษัทมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น พวกเขาต้องโวยวายแน่นอน ส่วนจิดาภาไม่ได้ไปสนใจ เพราะรู้แล้วว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน ดังนั้น จิดาภาจึงปล่อยให้พวกเขาโวยวายอยู่ที่ห้องประชุมในออฟฟิศเจ๊กกำลังรายงานอยู่ หลังจากรายงานเรื่องนี้ไปแล้ว ใบหน้าที่มืดครึ้มของพันเดชก็หัวเราะออกมาทันที นี่เป็นนิสัยของจิดาภาแน่แท้“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาโวยวายกันอยู่ห้องประชุมไปเถอะ !”“ไม่ไปยุ่งจริงเหรอครับ ?”“ใครกล้าโวยวายก็บอกให้พวกเขารับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง !”เจ๊กพยักหน้า “ครับ ผมรู้แล้ว !”“ใช่แล้ว เรื่องที่เกี่ยวกับอัญมณีเป็นยังไงบ้าง ?”เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ เจ๊กก็จริงจังขึ้นมาทันที “เมื่อก่อนคุณจิดาภาก็เคยถามเรื่องนี้แล้วครับ เธอตามหากุนต์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบแล้วครับ แล้วยังให้ผมตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของคนนี้อย่างละเอียด ?”กุนต์ ?เมื่อพูดถึงสิ่งนี้พันเดชก็หรี่ตาขึ้นมา“ค้นพบอัญมณีที่ห้องคลัง แล้วกุญแจห้องคลังก็มีแต่คุณกับกุนต์ที่มี ดังนั้นคุณจิดาภาจึงเรียกเขามาครับ !” เจ๊กอธิบายพันเดชรู้ถึงสาเหตุที่จิดาภาเรียกเขามาโดยปริยาย “หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้วรีบมาบอกฉัน !”“ครับ อีกอย่างอัญมณีชิ้นนั้นไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ดังนั้นเอาไปวางไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ได้จริงๆ ครับ !”“แล้วกล้องวงจรปิดของบริษัทล่ะ ?”“กล้องวงจรปิดที่ประตูคลังเหมือนจะ……เสียไปพอดีครับ !”พันเดชขมวดคิ้วขึ้น จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้จริงๆ เหรอ ? มีเรื่องบังเอิญมากมายขนาดนี้ มันยิ่งทำให้พันเดชรู้สึกแปลกๆ ขณะนั้นพันเดชก็มองไปที่เจ๊ก ดวงตาลึกลับกะพริบเป็นแสงแวววาว “ช่วยฉันจัดการเรื่องหนึ่ง……”หลังจากเจ๊กฟังแล้วก็พยักหน้า ในตอนกลางคืนพันเดชกลับไปตอนเที่ยงคืนจิดาภาหลับไปแล้ว เขาเดินเข้าไป ส่วนจิดาภาก็ยังอยู่ในระหว่างกึ่งหลับกึ่งตื่น“คุณกลับมาแล้วเหรอ ?”“อืม !”“จัดการเรื่องเป็นยังไงบ้างคะ ?” จิดาภาข่มความง่วงไว้ แล้วถามขึ้น“ทุกอย่างกำลังดำเนินการอยู่ !” พันเดชถูไปที่เธอเบาๆ“งั้นดีก็ดีแล้ว……” จิดาภาพึมพำ อยากจะมีสติขึ้นมา แต่เพราะตั้งท้องอยู่เธอจึงง่วงมาก พันเดชมองไปที่เธอ แม้ว่าในตอนกลางคืนจะมืดจนมองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นโครงร่างของเธอผ่านความมืดมิดในตอนกลางคืนดวงตาซับซ้อน หมดหนทาง มีความกังวล มีความกลัว “ภรรยา……” เขากอดเธอแล้วมองไปที่เธอ“หืม !?”“ถ้าวันหนึ่งผมทำเรื่องอะไรลงไป……คุณจะให้อภัยผมไหม ?” เขาถามขึ้นอย่างจนปัญญาอยู่บ้าง