หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 825 บริษัทมีเรื่องแล้ว
ตอนที่ 825 บริษัทมีเรื่องแล้ว
วันถัดไป
เวลาสิบโมงเช้า
มีรถตำรวจสองคันขับขึ้นมาแต่ไกลแล้วค่อยขับเข้ามาใกล้ จากนั้นก็จอดอยู่ที่ประตูของบริษัท CA พันเดชกำลังทำงานอยู่ในออฟฟิศ ขณะนั้นประตูก็ถูกผลักออก จากนั้นก็มีตำรวจสองสามคนเดินเข้ามา พันเดชเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามา แล้วขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ “เกิดอะไรขึ้น ?”
เจ๊กก็เดินตามเข้ามา กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ตำรวจก็เอ่ยปากพูดไปก่อน “คุณพันเดชครับ สวัสดีครับ ผมเป็นตำรวจในพื้นที่นี้ พวกเราได้รับแจ้งความสงสัยว่าบริษัทพวกคุณนำเข้าเครื่องประดับที่แผ่รังสีแบบผิดกฎหมายเพื่อหาผลประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายและเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตผู้บริโภค ตอนนี้บุคคลของพวกผมเริ่มทำการค้นหาเครื่องประดับของบริษัทพวกคุณอย่าครอบคลุมแล้ว ดังนั้นตอนนี้ขอให้คุณกลับไปกับพวกเราเพื่อรับการสอบสวนครับ !”
พันเดชขมวดคิ้วขึ้น “พวกคุณทำผิดพลาดไปหรือเปล่าครับ เครื่องประดับของบริษัทพวกผมจัดหาโดยช่างอัญมณีมืออาชีพ เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ !”
“คุณพันเดชครับ ขอความร่วมมือด้วยนะครับ !”
เจ๊กรีบเดินออกมา “พวกคุณเข้าใจผิดไปหรือเปล่าครับ นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง ?”
ขณะนั้นก็มีคนเดินมาพร้อมกับกล่องใบหนึ่ง “หาเจอแล้วครับ พวกเราค้นพบอัญมณีส่วนหนึ่งที่ห้องคลัง หลังจากทดสอบดูแล้ว ระดับรังสีเกินมาตรฐานเกิน 50 % ครับ !”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สายตาของพันเดชก็มองไปที่กล่องอัญมณีกล่องนั้น แล้วขมวดคิ้วขึ้น รู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่ร้ายแรงขนาดไหน
“คุณพันเดชครับ ขอให้คุณกลับกับพวกเราและรับการสอบสวนด้วยนะครับ !” ตำรวจพูด
“เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้……” เจ๊กรีบเอ่ยปากพูดขึ้น ขณะที่เจ๊กกำลังจะพูดอะไรขึ้นมา พันเดชก็ขัดจังหวะของเขา “วางใจเถอะ ฉันจะไม่เป็นอะไรหรอกนะ รีบไปแจ้งธนเดช !”
เมื่อเห็นท่าทีของพันเดชใจเย็นแบบนี้ เจ๊กก็พลอยได้รับอิทธิพลมาด้วย แม้ว่าจะเป็นห่วง แต่ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ผมรู้แล้วครับ !” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรอยู่ด้านข้าง
“คุณพันเดช ไปกันเถอะครับ !” เมื่อพูดจบตำรวจก็นำกุญแจมือออกมา
พันเดชมองไป จากนั้นก็ยื่นมือออกมา แม้ว่าจะใส่กุญแจมือแล้ว แต่ความทรงพลังที่แสดงออกก็ไม่ได้ลดลง ตรงข้ามกันกลับดูมีอำนาจมากขึ้น
จากนั้นพันเดชก็ถูกพาไปภายใต้สายตาสาธารณชน
เพียงแค่เดินไปที่ประตู มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากรออยู่ที่ประตูแล้ว เห็นได้ว่าผู้สื่อข่าวต่างพากันรุมถ่ายรูปและถามคำถาม
“คุณพันเดชครับ สามารถอธิบายได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ?”
“ใช้อัญมณีแผ่รังสีที่ไร้คุณภาพ เป็นความจริงไหมคะ ?”
“ประธานพันเดชอธิบายให้ละเอียดหน่อยได้ไหมครับ ?”
“คุณพันเดชคะ การที่คุณใช้อัญมณีแผ่รังสีที่ไร้คุณภาพ เคยคิดไหมคะว่าจะมีวันนี้ ?”
นักข่าวหลั่งไหลมา ทุกคนต่างแย่งกันเพื่อให้ได้สัมภาษณ์
เดิมทีพันเดชไม่อยากจะสนใจ แต่เมื่อได้ยินคำพูดนักข่าวคนสุดท้ายแล้ว ฝีเท้าของเขาก็หยุดลงหันหัวมองไปที่นักข่าวคนนั้น “คนเราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำ และต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองพูด ผมบอกไว้เลยนะว่าผมไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย !” พูดจบก็มองไปที่นักข่าวคนนั้นเชิงตักเตือน จากนั้นก็ตามเข้าไปในรถ“พันเดช……”ขณะนั้นจิดาภาก็วิ่งออกมาจากบริษัท ยืนเรียกด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่ที่ประตูเมื่อพันเดชได้ยินเสียงแล้วจึงหันหัวมองไป จิดาภาจึงรีบเดินเข้าไป “เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ?” จิดาภาถามขึ้นอย่างเป็นห่วง เห็นเขาใส่กุญแจมือ จึงขมวดคิ้วขึ้นด้วยความกังวล ส่วนพันเดชก็มองไปที่เธอแล้วยิ้มขึ้น “ภรรยา ดูเหมือนว่าบริษัทจะต้องให้คุณจัดการเป็นการชั่วคราวก่อนแล้วล่ะ วางใจได้เลย ผมจะไม่เป็นอะไร !”ขณะที่จิดาภากำลังจะถามอะไรบางอย่าง ตำรวจก็เร่งให้ไปพันเดชก็ยิ้มให้เธออย่างมั่นใจ “ไม่ต้องห่วงนะ !” พูดจบก็มองไปที่เธออย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็หันหลังขึ้นรถไปจิดาภายืนอยู่ตรงประตู เมื่อเห็นพันเดชถูกนำตัวไปแล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้น ในขณะนั้นเมื่อนักข่าวเห็นจิดาภาแล้วก็ต่างจับกลุ่มกันมา “คุณจิดาภาครับ บอกได้ไหมครับมันเกิดอะไรขึ้น ?”“บริษัท CA เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เรื่องงานจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องนี้ไหมคะ ?”“คุณจิดาภาคะ เรื่องนี้คุณรู้ไหมคะ ?”……ฯลฯ ทุกๆ คำถามต่างหลั่งไหลเข้ามาเมื่อเจ๊กที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นนักข่าวถาโถมเข้ามาก็รีบเดินไปขวางไว้ จิดาภาได้รับการป้องกันอยู่ด้านหลังเจ๊ก ส่วนจิดาภาก็ยืนมองทิศทางที่รถตำรวจหายไปอย่างกังวล……เมื่อข่าวนี้ออกมา ทั้งเมือง A ก็ตื่นตระหนกตกใจไปหมดแม้แต่หญิงชราและคุณหญิงภารดีที่อยู่ที่บ้านต่างก็ตกตะลึงอย่างไรก็ไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แต่ตามที่พวกเขารู้จักพันเดช เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเรื่องแบบนี้ออกมาแต่ตอนนี้เรื่องมันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว อีกอย่างยังเห็นตำรวจค้นพบของจากด้านในด้วยตาตัวเองอีก……เมื่อเห็นข่าวนี้แล้ว หญิงชราก็หันหัวไปมองคุณหญิงภารดี “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร ?” ในทางกลับกันคุณหญิงภารดีกำลังจ้องมองไปที่โทรทัศน์อย่างเหม่อลอยด้วยสายตาที่เป็นห่วงมากสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นทุกปี ทว่าปีนี้เยอะเป็นพิเศษ ยังไม่ทันได้สงบลงก็เกิดขึ้นอีกแล้วคุณหญิงภารดีก็สายถอนออกจากโทรทัศน์อย่างแข็งทื่อ แล้วมองไปที่หญิงชรา “แม่คะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ใช่จิก็อยู่บริษัทหรอกเหรอคะ ฉันจะโทรหาเธอเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนนะคะ !”หญิงชราพยักหน้า “ได้ รีบโทรเลย !”พวกเขากำลังจะโทรไป ขณะนั้นโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น คุณหญิงภารดีจึงรีบรับสาย “ฮัลโหล…..”เมื่อได้ยินคำพูดจากข้างในแล้ว คุณหญิงภารดีก็พยักหน้า “ค่ะ ฉันรู้แล้วนะ !”หลังจากวางสายไปแล้วหญิงชราก็รีบถามขึ้น “ว่าไง ? มันเกิดอะไรขึ้น ?”“จิให้เจ๊กโทรมาว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ค่ะ แต่ตอนนี้พันเดชยังไม่มีปัญหาอะไร ได้จัดทนายความไปแล้ว บอกว่าอย่าให้พวกเราเป็นห่วงเกินไปค่ะ !” คุณหญิงภารดีพูดถึงแม้จะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่จะไม่เป็นห่วงได้ยังไง“ฉันไม่เชื่อว่าพันเดชจะใช้อัญมณีแผ่รังสีที่ไร้คุณภาพ !” หญิงชราพูดอย่างแน่วแน่คุณหญิงภารดีมองไปที่เธอ “แม่คะ คุณมั่นใจขนาดนี้ งั้นคุณก็ควรจะรู้ด้วยว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ จะไม่เป็นอะไรแน่นอน !” คุณหญิงภารดีพูดเมื่อได้ยินสิ่งนี้หญิงชราก็พยักหน้า ในตอนนี้คุณหญิงภารดีจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร ทว่าตอนนี้กลับมาปลอบเธอแบบนี้ หญิงชราก็รู้สึกอิ่มเอมใจมาก “เธอวางใจเถอะ แม้ว่าฉันจะแก่แล้ว แต่คุณภาพทางจิตใจยังดีมาก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน มีเรื่องอะไรที่ยังไม่เคยผ่านมาล่ะ ฉันเชื่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพันเดชอย่างแน่นอน !” หญิงชราพูด เธอภูมิใจในตัวลูกสะใภ้คนนี้มากจริงๆ จากนั้นคุณหญิงภารดีก็พยักหน้าอย่างวางใจ ตั้งแต่เรื่องเมื่อครั้งก่อน เธอกลัวว่าหญิงจะได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจเมื่อนึกถึงเรื่องของพันเดช คุณหญิงภารดียังคงเป็นห่วงอยู่มากภายในบริษัทเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว อย่าว่าแต่ข้างนอกเบน แม้แต่ในบริษัทก็วุ่นวายมากเมื่อพันเดชถูกนำตัวไปแล้ว ทั้งบริษัทก็ซุบซิบนินทากันพันเดชไม่อยู่ เรื่องนี้จึงปล่อยให้จิดาภามาเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบโดยปริยายขณะนั้นเจ๊กก็เดินเข้ามา “คุณจิดาภาครับ ทนายความไปแล้วครับ ส่วนจะทำยังไง เดี๋ยวจะติดต่อมาหาพวกเราครับ !”“ยังไงก็ตามต้องหาทนายความที่ดีที่สุด เรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน พันเดชบริสุทธิ์ !” เธอมั่นใจได้ว่าพันเดชมุ่งมั่นที่จะสร้างบริษัทนี้ขึ้นมา จะไม่ใช้อัญมณีที่ไร้คุณภาพและอัญมณีที่มีรังสีมาทำลายชื่อเสียงบริษัทของตัวเอง เขาไม่ได้ขาดเงินด้านนี้ ไม่จำเป็นต้องเลยที่ต้องทำแบบนี้ ดังนั้นเรื่องนี้มันต้องมีปัญหาแน่นอน !เจ๊กพยักหน้า “ธนเดช เป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทเรา จะต้องมีวิธีอย่างแน่นอนครับ !”จิดาภาพยักหน้า กำลังยืนคิดอะไรอยู่ตรงหน้าต่างบานกว้างในสมองยังปรากฏภาพที่พันเดชถูกนำตัวไปอยู่ตลอด เธอจึงสูดหายใจเข้าลึก พยายามที่จะทำให้พันเดชออกจากสมองของตัวเองชั่วคราว ในตอนนี้เธอต้องการใจเย็น ใจเย็น!!“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?” จิดาภาสูดหายใจเข้าลึกแล้วถามขึ้น“หลังจากที่มีข่าวออกไป ก็ทำให้ผู้บริโภคตื่นตระหนก และห้างร้านของพวกเราทั้งหมดก็ถูกปิดตัวลง !” เจ๊กพูดตามความจริง เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เธอก็คิดไว้แล้วว่าต้องเกิดสถานการณ์แบบนี้ เพราะมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้นมา “รีบให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ประกาศข่าวทันที ให้ผู้บริโภคคืนสินค้าโดยไม่มีเงื่อนไขได้ตั้งแต่วันนี้เลย ต้องทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจกับพวกเรา จากนั้นไปหาหน่วยงานที่น่าเชื่อถือมาตรวจสอบผลิตภัณฑ์เครื่องประดับทั้งหมดของบริษัท CA เมื่อได้ผลการตรวจสอบแล้วต้องประกาศออกไปทันที โดยไม่มีการปิดบังให้ผู้บริโภคได้เห็นด้วยตาตัวเอง !” จิดาภาสั่งไปเจ๊กที่ฟังอยู่ด้านข้างพยักหน้าซ้ำๆ หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานาน จิดาภามีท่าทีของพันเดชเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ยังสามารถหาวิธีออกมาได้อย่างรวดเร็ว“ผมจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้ครับ !” เจ๊กพูด จากนั้นก็กำลังจะจากไป“เดี๋ยวก่อน……” ทันใดนั้นจิดาภาก็เอ่ยปากพูดขึ้นเจ๊กมองไปที่เธอ “ยังมีเรื่องอะไรเหรอครับ ?”จิดาภาค่อยๆ หันหลังแล้วมองไปที่เขา “เจ๊ก สำหรับเรื่องคิดว่าไง ?” จิดาภามองไปที่เจ๊กแล้วถามขึ้น เจ๊กพูดตามความจริงว่า “ตั้งแต่ผมเริ่มติดตามประธานพันเดชสองปีที่แล้ว เขาใส่ใจต่อบริษัทมากแค่ไหน ผมก็รู้อยู่อย่างชัดเจน ผมเชื่อว่าประธานพันเดชจะไม่ไปใช้เครื่องประดับที่มีรังสีเพื่อให้ได้กำไรมาก จนทำให้บริษัทต้องจมสู่สถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอนครับ !” เจ๊กพูดอย่างมั่นใจมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพันเดชไม่ได้ขาดเงิน จึงไม่จำเป็นเลยสักนิดที่จะต้องทำแบบนี้ !จิดาภาก็เชื่อว่าเขาไม่ใช่คนที่ไม่สนใจชื่อเสียงของบริษัทและความปลอดภัยของชีวิตเพื่อทำกำไรมหาศาล ดังนั้นในระหว่างนี้มันต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลอยู่อย่างแน่นอน !“คุณหมายความว่า……?”“พูดแล้วก็รู้สึกแปลกพอสมควร พวกเขาบอกว่าได้รับสายแจ้งความ และเมื่อพวกเขามาถึงแล้วนักข่าวก็มาเฝ้ารออยู่ที่ประตูเลยครับ ราวกับว่ามีคนจัดเตรียมไว้แล้ว !” เจ๊กพูดคิ้วของจิดาภาก็ขมวดขึ้น “นี่คุณหมายความว่ามีคนใส่ร้าย ?”เจ๊กพยักหน้าอย่างมั่นใจมาก “ผมเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ประธานพันเดชจะทำเรื่องแบบนี้ออกมา !”แน่นอนว่าจิดาภาก็คิดเช่นนี้ จากนั้นเธอก็เงยหน้ามองไปที่เจ๊ก “หาอัญมณีรังสีเจอที่ไหน ?”“ที่ห้องคลังครับ !”“ใครเป็นคนถือกุญแจห้องคลัง ?” จิดาภาถามเจ๊กคิดอยู่ชั่วขณะ “นอกจากประธานพันเดชแล้วก็มีแต่ผู้อำนวยการแผนกออกแบบเท่านั้นครับ !”บนเส้นทางแห่งหญิงแกร่งของจิ ยิ่งเดิน ยิ่งไปไกล……