หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 823 การแข่งขันที่เที่ยงธรรม
ตอนที่ 823 การแข่งขันที่เที่ยงธรรม
วันถัดไป
ตอนเช้าตรู่ หลังจากทานอาหารแล้ว รถก็ขับไปฝั่งสนามบินด้วยความกระปรี้กระเปร่า
บนรถ ชนัณ กับ ดัมพ์รงค์ก็เตือนเธออยู่ตลอดว่าอย่าลืมนู่นอย่าลืมนี่ ดูแลตัวเองให้ดีๆ
ส่วนกชกรก็ตอบไปอย่างมีความอดทน
ตลอดทางไปสนามบิน คนที่มาส่งก็คือดัมพ์รงค์กับชนัณ
หลังจากนั้นไม่นาน คนขับรถก็จัดการขั้นตอนต่างๆ จนเสร็จ เมื่อใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน ดวงตาของชนัณก็แดงขึ้น “กชกร ถ้าอยู่ทางนั้นไม่ชินก็รีบกลับมานะ รู้ไหม ? ยังไงก็ตามแม่ก็จะเลี้ยงเธอไปตลอดชีวิต !”
เดิมทีก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่เป็นเพราะคำพูดนี้ของชนัณ ดวงตาของกชกรจึงแดงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “แม่คะ” กชกรยื่นมือออกไปแล้วกอดชนัณ
เป็นอย่างที่คิดไว้ คนที่รักตนที่สุดบนโลกนี้คือคุณแม่
กชกรกอดชนัณอย่างอาลัยอาวรณ์ น้ำตาทนไม่ได้จึงตกลงมา
“อย่าร้องๆ แค่จำไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตราบใดที่หนูอยากกลับมา แม่ก็รอหนู !” ชนัณ พูด
“ค่ะ !” กชกรพยักหน้า
ดัมพ์รงค์ก็มองดูอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เล็กจนโต กชกรก็โตมากับมือของตัวเอง แม้ว่าจะห่างกันก็ไม่สิบวันครึ่งเดือน ตอนนี้ไปตั้งนานขนาดนี้ เขาจะไม่อาลัยอาวรณ์ได้ยังไง
“ถึงที่นั่นแล้ว มีเรื่องอะไรก็บอกที่บ้านนะ !” ดัมพ์รงค์พูด
กชกรพยักหน้าแล้วหันไปมองดัมพ์รงค์ พร้อมทั้งกอดไปด้วย
“พ่อคะ ตอนที่หนูไม่อยู่ คุณต้องดูแลคุณแม่ให้ดีๆ นะคะ !”
“หนูวางใจได้เลย พ่อรู้อยู่แล้วล่ะ หนูดูแลตัวเองให้ดีก็พอ !”
กชกรพยักหน้า
“ขณะนี้ ผู้โดยสารสำหรับเที่ยวบินลอนดอน เริ่มขึ้นเครื่องได้แล้วนะคะ……”
ในขณะนี้ที่กระจายเสียงก็มีเสียงประชาสัมพันธ์ให้ขึ้นเครื่องดังขึ้น
เมื่อได้ยินสิ่งนี้กชกรก็หันไปมองพวกเขา
“เอาล่ะ ไปขึ้นเครื่องได้แล้ว !” ดัมพ์รงค์พูด แม้ว่าจะอาลัยอาวรณ์มากก็ตาม
กชกรก็พยักหน้า “พ่อคะแม่คะ ฉันเข้าไปแล้วนะคะ……”
“จ้ะ !”
กชกรลากกระเป๋าเดินทางแล้วเดินไปที่จุดตรวจความปลอดภัยตรงนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์
ขณะนั้นสายตาก็มองออกไปรอบๆ เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังมองอะไรอยู่ แต่ในใจรู้สึกว่างเปล่าอย่างไร้เหตุผล
สุดท้ายก็มองไม่เห็นสิ่งที่ตัวเองอยากจะเห็น เธอจึงค่อยๆ หันหลังไป แล้วเดินไปยังจุดตรวจความปลอดภัย……
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเครื่องบินก็เริ่มออกเดินทาง
ในเวลาเดียวกัน เปรมศักดิ์ก็ยืนอยู่ที่หน้าต่างบานกว้างของบริษัท สายตาก็มองเครื่องบินที่กำลังบินขึ้นไป มือสอดลงไปกำแน่นในกระเป๋า……
กชกร ขอให้มีความสุข……เขายืนอยู่ริมหน้าต่างบานกว้างอย่างเงียบๆ ครึ่งชั่วโมงต่อมาเครื่องบินก็ได้ลับจากสายตาของเขาไป ส่วนสายตาของเขาก็มองไปบนท้องฟ้าอยู่ตลอด……อย่างเงียบๆในขณะนั้นผู้ช่วยก็เคาะประตูแล้วผลักประตูเดินเข้าไป “ประธานเปรมศักดิ์ครับ ถึงเวลาเปิดประชุมแล้วครับ !”เปรมศักดิ์ก็หันมองไปที่เขาแล้วพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว !”ผู้ช่วยก็พยักหน้าแล้วหันหลังออกไปเปรมศักดิ์ก็เก็บอารมณ์แล้วหยิบเอกสารบนโต๊ะไปประชุมในห้องประชุมกรรมการแต่ละคนกำลังสนทนากันเซ็งแซ่ เปรมศักดิ์นั่งอยู่ด้านหน้าสุด สายตามองไงที่พวกเขาอย่างเย็นชา“เดิมทีบริษัทแฮรุนก็สัญญาว่าจะร่วมมือกับพวกเราแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายจะไปร่วมมือกับบริษัท CA !” กรรมการคนหนึ่งพูดออกมาอย่างไม่พอใจ“ใช่ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัท CA แย่งพันธมิตรของเราไปตั้งหลายคน !”ส่วนข้างล่างก็ซุบซิบกันมากมายเปรมศักดิ์ที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดได้ยินสิ่งที่พวกเขาซุบซิบกัน สีหน้าก็ไม่ค่อยดีนัก“ประธานเปรมศักดิ์ คุณว่าตอนนี้ควรจะทำยังไงครับ ?” กรรมการแต่ละคนต่างจ้องมองไปที่เปรมศักดิ์ เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เปรมศักดิ์ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาลึกลับราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่“ประธานเปรมศักดิ์ คุณควรจะชี้แจงด้วยนะครับ !”กรรมการต่างก็โยนปัญญาทั้งหมดไปให้เปรมศักดิ์ จากนั้นเขาก็มองกลับไปยังพวกเขาด้วยสายตาอันแหลมคมคู่หนึ่ง“ให้ชี้แจง ? ควรจะให้ผมชี้แจง ?”“โครงการยังไม่เสร็จสิ้น ภารกิจยังไม่สำเร็จ มันเป็นปัญหาของผมหรือเป็นปัญหาของพวกคุณ ล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง ผมจะเลี้ยงพวกคุณเพื่ออะไรล่ะ ?” ทันใดนั้นเปรมศักดิ์ก็โกรธขึ้นมาทันทีส่วนข้างล่างก็เงียบสงบลงทันทีเปรมศักดิ์มักจะมีชื่อเสียงด้านนิสัยใจคอที่ดี ตอนนี้กลับโกรธขึ้นอย่างใหญ่หลวงขนาดนี้ขึ้นมากะทันหัน จึงทำให้พวกเขาตกตะลึงไปบ้างเมื่อเห็นพวกเขาเงียบกันหมด เปรมศักดิ์จึงเอ่ยปากพูดขึ้น “สิ้นเดือนนี้จะร่วมมือกับบริษัท CS ถ้ายังไม่สำเร็จนะ พวกคุณก็ไม่ต้องมาแล้ว ยื่นใบลาออกมาก็พอ !”พูดจบเปรมศักดิ์ใช้สายตามองไปที่พวกเขาอย่างรุนแรง จากนั้นก็หันหลังออกจากห้องประชุมหลังจากที่เขาเดินออกไปแล้ว ในห้องประชุมมีแต่คุณก็ฉัน ฉันก็มองคุณ ส่วนการซุบซิบเมื่อกี้ก็ได้หายไปแล้ว สิ่งที่ทดแทนมาคือต่างคนต่างก็มองหน้ากัน จากนั้นก็เลิกการประชุมไปเปรมศักดิ์นั่งอยู่ในออฟฟิศ ยกแขนค้ำไปบนโต๊ะ ทั้งสองมือประสานกันราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างพันเดช……เมื่อนึกถึงชื่อนี้ดวงตาของเขาก็ยิ่งมืดครึ้มมากไปอีก กชกรจากไปแล้วทว่าเปรมศักดิ์ก็ไม่ได้ตามไปเมื่อรู้ข่าวนี้แล้ว ในใจของจิดาภาก็มีความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา ยังไงก็ตามนี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือก ส่วนจิดาภาก็เงียบไปแล้วไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกในที่สุด สิ่งต่างๆ ก็สิ้นสุดลง และไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว จิดาภาจึงได้ผ่อนอย่างเต็มที่อยู่สองสามวันแต่สองสามวันนี้พันเดชก็ยุ่งมากภายในบริษัทพันเดชนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตรงหน้ามีเอกสารมากมายที่ต้องการให้เขาเซ็นขณะนั้นเจ๊กก็เดินเข้ามา “เจ้านายครับ นี่คือเป้าหมายโครงการที่บริษัท CS เสนอมาครับ !”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ พันเดชก็เอื้อมมือออกไปเพื่อเอามาดู หลังจากที่เห็นแล้ว มุมปากของเขาก็ยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยังไงก็ตาม บริษัท CS คือกุญแจแห่งความสำเร็จ สั่งคำสั่งลงไป ไม่ว่ายังไงก็ตามเราจะต้องประมูลโครงการนี้ให้สำเร็จให้ได้ !” เจ๊กพยักหน้า “ครับ ผมรู้แล้ว !”ปกติแล้ว ตราบใดที่เจ้านายต้องการทำ ยังไม่มีสิ่งไหนที่ยังไม่สำเร็จเลยหลังจากเจ๊กออกไปทำงานแล้ว ประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษๆ ก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก “เจ้านายครับ…..”“ว่าไง เกิดอะไรขึ้น ?” พันเดชมองไปที่เขาแล้วถามขึ้นอย่างเรื่อยเปื่อยเจ๊กคิดอยู่ชั่วขณะแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “ผมได้รับข่าวหนึ่งมาว่าบริษัทบริษัทธีร์อธิศก็จะประมูลโครงการของบริษัท CS ด้วยครับ !”การกระทำที่กำลังลงนามของพันเดชก็หยุดลงอยู่ชั่วขณะ แล้วเงยหน้ามองไปที่เขา “บริษัทธีร์อธิศ ?”เจ๊กพยักหน้ารู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นซับซ้อน โดยเฉพาะจิดาภาที่เป็นคนของตระกูลสวันนีย์ด้วย เขาจำเป็นที่จะต้องรายงาน“พวกเขาดูมีศักยภาพในรูปลักษณ์ของผู้ชนะครับ !”ส่วนพันเดชก็ยิ้มขึ้น มุมปากยกขึ้นด้วยความมั่นใจและแน่วแน่“งั้นก็คอยดูละกันว่าสุดท้ายใครจะได้ !”“แล้วคุณจิดาภา……”“นี่คือการทำงาน เป็นการแข่งขันที่เที่ยงธรรม ฉันยินดีต้อนรับเสมอ !” พันเดชพูดอย่างมั่นใจมากเจ๊กก็ยิ้มขึ้น วางใจลงไปไม่น้อย “ครับ ผมรู้แล้วครับ !”“โอเค ออกไปทำงานเถอะ !”เจ๊กพยักหน้าแล้วหันหลังเดินออกไป หลังจากเขาไปแล้ว พันเดชก็ใช้มือลูบคางอยู่ในออฟฟิศ ดวงตาที่เหมือนหินสีเปล่งประกายออกมาอย่าลึกลับเปรมศักดิ์……เขายกมุมปากขึ้น จากนั้นก็ก้มหน้าตรวจเอกสารต่อไปเช่นกันเปรมศักดิ์ก็ได้ข่าวมาว่าพันเดชก็จะประมูลโครงการของบริษัท CSเมื่อได้ยินข่าวนี้แล้ว สีหน้าของเปรมศักดิ์ไม่ค่อยดีนัก ช่วงเวลานี้พันธมิตรหลายคนก็เลือกร่วมมือกับบริษัท CA ตอนนี้ถ้าโครงการของบริษัท CS ถูกเขาประมูลไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ก็ยากที่จะก้าวไปสู่ความรุ่งโรจน์ขณะที่กำลังคิดแบบนี้ เขาก็มองไปที่ผู้ชาย “ยังไงก็ตามผมก็ต้องเอาโครงการของบริษัท CS มาให้ได้ หลังจากทำข้อเสนอโครงการเสร็จก็รีบเอามาให้ฉันดูโดยเร็วที่สุด ถ้าทำไม่ดีก็เก็บข้าวของออกไปซะ !”ราวกับว่าผู้ช่วยจะเข้าใจถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ จึงรีบพยักหน้าแล้วเดินออกไปเห็นได้ว่าโครงการประมูลในครั้งนี้จะต้องเผชิญกับพายุเลือดแต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้โครงการของบริษัท CS พวกเขากำลังจะชนะวันถัดไปเปรมศักดิ์กำลังอยู่ในออฟฟิศ ผู้ช่วยก็เดินเข้ามาอย่างกะทันหัน “เจ้านายครับ…..”“ว่าไง ?”“ผมได้ข่าวมาว่าพันเดชกำลังกินอาหารกับผู้รับผิดชอบโครงการของบริษัท CS ที่โรงสาอันครับ !”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของเปรมศักดิ์ไม่ค่อยดีนัก สองสามวันนี้เขาพยายามเชิญผู้รับผิดชอบโครงการบริษัท CS มาทานอาหาร แต่ฝ่ายตรงข้ามมักบอกว่าไม่เวลาตลอด แล้วตอนนี้……เปรมศักดิ์กำหมัดแน่น ลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อคลุมแล้วออกไป“ไปโรงสาอันเดี๋ยวนี้ !”ผู้ช่วยตามหลังมาติดๆ เปรมศักดิ์นั่งอยู่บนรถ สายตาก็มองไปที่ประตูโรงแรม ในใจก็แอบเตะความคิดของตัวเอง ส่วนในโรงแรม พันเดชกำลังคุยกับผู้รับผิดชอบโครงการของบริษัท CS อย่างสนุกสนาน เมื่อกินจนอิ่มและดื่มจนพอก็เดินออกมา ขณะนั้นเปรมศักดิ์ก็ผลักประตูแล้วเดินลงไป จากนั้นก็เดินตรงไปฝั่งพวกเขา “ประธานพันเดช เฝ้ารอเสนอข้อเสนอโครงการของพวกคุณนะ !”“วางใจได้เลยครับ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน !” มุมปากของพันเดชยิ้มอย่างแน่วแน่และมั่นใจทั้งสองคนจับมือกันและเตรียมจะออกไป ขณะนั้นเปรมศักดิ์ก็เดินเข้ามากะทันหัน เมื่อเห็นพวกเขาแล้ว มุมปากก็ยิ้มขึ้นอย่างสุภาพบุรุษ “Frieda !”เมื่อมองเห็นเปรมศักดิ์ Frieda ก็ขมวดคิ้วขึ้น “คุณคือ ?” เขาถามขึ้นด้วยภาษาจีนที่ไม่ค่อยมีมาตรฐานเล็กน้อย“ผมคือประธานบริษัทบริษัทธีร์อธิศ เปรมศักดิ์ครับ !” หลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้แล้ว Frieda ก็เข้าใจในทันที แล้วเขาก็ยื่นมือออกไป “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ !”“นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่ ไม่รู้ว่าคุณพอจะมีเวลาว่างไหมครับ ผมจะได้ชวนคุณดื่มชาด้วย !”การดื่มชาเป็นหนึ่งในงานอดิเรกของ Frieda อีกอย่างเขาชอบชาหลงจิ่งของจีนเป็นที่สุดจุดนี้เปรมศักดิ์ก็รู้อยู่แล้ว พันเดชยืนอยู่ข้างๆ แล้วมองไปที่เปรมศักดิ์ มุมปากก็ยังคงยกขึ้นยิ้มด้วยรอยยิ้มแบบสุภาพบุรุษอยู่เสมอ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะรู้ข่าวเร็วขนาดนี้ แล้วถึงรีบตามมา เห็นได้ว่าเขาให้ความสำคัญต่อโครงการครั้งนี้มากเช่นกัน