หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 813 งานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ตอนที่ 813 งานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
“ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่! ” หลังจากพูดจบ ก็ตัดสายทันที
พอได้ยินเสียงกชกร เปรมศักดิ์ก็ขมวดคิ้วแน่น มองไปด้านนอก แล้วก็ถอนหายใจออกมา
และกชกรที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งนั้น ถือโทรศัพท์อยู่ ในใจมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ช่วยให้เขาสมหวังงั้นเหรอ?
แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดแบบนั้น!
และไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!
เธอนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง กชกรมองเงาสะท้อนของตัวเองผ่านกระจก จู่ๆ เธอก็มีความคิดที่น่ากลัว
ต่อให้เปรมศักดิ์จะต้องโดดเดี่ยวไปยันแก่ เธอก็ไม่มีวันช่วยให้เขาสมหวังแน่นอน!
ความคิดแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกตกใจ
แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยคิดว่า ในจิตใต้สำนึกลึกๆ นั้น ความรู้สึกทั้งรักและเกลียดที่เธอมีให้เขา จะมาถึงขั้นนี้แล้ว
……………………………………
ข่าวนี้ ไม่ได้ดีขึ้นแม้จะพยายามระงับไว้เลย และยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นหัวข้อที่ผู้คนพูดคุยในเวลาว่าง แม้แต่ภายในออกแบบก็พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ไรแต่ไหนมาพวกคนรวยนั้น ชีวิตที่ร่ำรวยเป็นจุดที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้มากที่สุด
โดยเฉพาะจิดาภา เธอปรากฏตัวอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนแรกก็เป็นข่าวกับพันเดชไม่หยุด หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของตระกูลสวันนีย์ ทั้งเรื่องแต่งงานทั้งเรื่องนู่นนี่ ตอนนี้จู่ๆ ก็ถูกเปิดโปงว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลสวันนีย์ การแต่งงานที่ครึมโครมของเมืองAในครั้งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
มันช่างขึ้นๆ ลงๆ กลับไปกลับมา เหมือนกับละครจริงๆ
นิทานเรื่องซินเดอเรลล่า เร้าใจพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในทีวีเท่านั้น แต่ว่ามาเกิดขึ้นข้างๆ พวกเขาเลย!
เพราะฉะนั้น พวกเขาต้องทำงานให้หนักขึ้น เพราะว่าตัวอย่างของชีวิตอยู่ข้างๆ พวกเขาแล้ว!
หนึ่งวันนี้ ตระกูลสวันนีย์กับตระกูลฐิตานันท์ต่างไม่ได้ออกมาแถลงการณ์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เรื่องนี้ กลายเป็นประเด็นร้อนบนWeiboในทันที
อยู่ในอันดับหนึ่งของการค้นหา
บางคนบอกให้จิดาภายึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง
บางคนก็สนับสนุนจิดาภากับพันเดช หวังว่าจะไม่เลิกกัน
บางคนก็บอกว่า ชีวิตร่ำรวยไม่ได้ง่าย จงทะนุถนอมในสิ่งที่ตัวเองมี
สรุปแล้ว มีครบทุกรูปแบบ
ไปรยากับเอลิสต์ก็เห็นข่าวนี้ กำลังจะเริ่มพิธีเปิดกอง ไปรยาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วแอบไปโทร
“จิ ที่ในข่าวบอก เป็นเรื่องจริงรึเปล่า? ”ไปรยาถามอย่างระมัดระวัง
จิดาภารับสายไปรยา คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตอบ “อืม! ”
“ถ้ายังงั้น เธอไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? ” ไปรยารู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย ยังไงข่าวนี้สำหรับคนอื่นแล้วนั้น ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อเหมือนกัน
จิดาภายิ้ม “แน่นอนว่าไม่ได้เป็นอะไร เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก! ”
ไปรยาขมวดคิ้วแน่น ไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้มแข็งขนาดไหน ก็ไม่เข้มแข็งขนาดนี้หรอกมั้ง เธอขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “จิ เธอคงไม่ได้รู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? ”
จิดาภาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ไปรยาฉลาดขนาดนี้ จะเดาไม่ได้ได้ยังไง
เธอก็ตอบ “อืม! ”
ไปรยาตะลึง “เธอ เธอรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ”
“หลายปีก่อน! ”
ไปรยาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เธอก็มีช่วงเวลาที่ผิดปกติ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้สนใจคิดมากขนาดนั้น “อยู่ดีๆ ทำไมถึงมาโดนเปิดโปงได้! ”ต้องรู้ว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไร แต่ว่าพอมาเปิดเผยแบบนี้ การที่ทั้งสองคนต้องเจอหน้ากันคงกระอักกระอ่วนเหมือนกัน “ตอนนี้ยังไม่รู้เลย! ” “แล้วพวกเธอวางแผนจะทำยังไง ดูท่าทางแล้ว ถ้าเกิดว่าไม่มีผลไม่จบแน่! ” “เดินไปก้าวแล้วดูอีกก้าวแล้วกัน! ” จิดาภาถอนหายใจแล้วพูดออกมา “เฮ้อ……” “ไปรยา มานี่หน่อย……” ตอนนี้เองก็มีคนด้านหลังตะโกนเรียกเธอ “ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้! ” ไปรยากำโทรศัพท์ของเธอแล้วตอบไป หลังจากนั้นก็พูดกับปลายสาย “จิ เดี๋ยวตอนเย็นฉันโทรไปใหม่……” “ได้ เธอไปทำงานก่อนเถอะ! ” “อืม! ” พอวางสาย ไปรยาก็รีบไปทำงานต่อ ที่จริงมันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมาย พิธีเปิดกองเป็นเรื่องที่จุกจิกเล็กน้อย แต่ว่าพอจัดการเสร็จ ไปรยาก็ใจลอย นั่งงงอยู่ตรงนั้น คิดถึงอดีตของวันที่ผ่านมา ทั้งหมดปรากฏขึ้นในหัวของเธอ มีความคิดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าเธอรู้สึกยากที่จะเชื่อ เอลิสต์เดินเข้ามา เห็นว่าเธอนั่งงงอยู่ ก็พูดออกมา “เธอคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ไปรยาได้สติกลับมา “หืม? ” “เธอนั่งงงอะไรอยู่ตรงนี้? ”เอลิสต์ถาม แล้วก็หยิบน้ำที่อยู่ในมือของเธอ เปิดฝาแล้วดื่ม ไม่ได้แคร์ว่าไปรยาจะเคยดื่มไปรึยัง สำหรับเรื่องนี้ ไปรยาชินแต่แรกแล้ว ดวงตาของเธอลึกซึ้ง “เมื่อกี้ฉันโทรหาจิ! ” พอพูดเรื่องนี้ เอลิสต์ก็จริงจังขึ้นมา “ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? ” “ไอ้ไม่มีนั่นก็ไม่มีหรอก แต่ว่า……” “แต่ว่าอะไร?! ”เอลิสต์มองหน้าไปรยาแล้วถามออกมา ไปรยามองเอลิสต์ สุดท้ายก็ส่ายหัว “ไม่มีอะไรหรอก! ” เห็นว่าเธอพูดๆ หยุดๆ เอลิสต์ก็ไม่ได้ไปฝืนใจอะไร ตอนนี้เอง ไปรยาก็มองเขา “เสร็จธุระแล้วเหรอ? ” “อืม วันมะรืนถ่ายรูปเสร็จก็เริ่มถ่ายได้แล้ว! ” “ถ้ายังงั้นพวกเรากลับกันไหม? ” “อืม! ” ทั้งสองคนหยิบสัมภาระแล้วก็เดินทางกลับ และในฝั่งของจิดาภา เพราะว่าปัญหาของข่าวนี้ หุ้นของบริษัทธีร์อธิศ ก็ค่อนข้างผันผวนเล็กน้อย โชคดีที่บริษัทCAไม่ได้มีปัญหาอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จิดาภายังถือหุ้นของบริษัทธีร์อธิศ อยู่20% พวกผู้ถือหุ้นเก่าของบริษัทธีร์อธิศ นั้นไม่รู้ด้วยซ้ำ ตอนนี้รู้แล้ว แล้วหุ้นก็ตกลง แล้วพวกเขาจะเลิกราไปแบบนี้ได้ยังไงกัน ต่างมาก่อความวุ่นวายที่บริษัทธีร์อธิศ หลังจากที่การันต์ได้ยินเรื่องนี้ สีหน้าก็ดูแย่เล็กน้อย เตรียมตัวจะไปบริษัทธีร์อธิศ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่สนใจเรื่องของบริษัทธีร์อธิศ แล้ว แต่ว่าไม่ว่ายังไงเขายังดำรงตำแหน่งประธานของบริษัทธีร์อธิศ อยู่ เห็นว่าการันต์กำลังจะไป จิดาภาเองก็พูดออกมา “พ่อ เดี๋ยวหนูไปด้วย! ” การันต์มองจิดาภา แล้วขมวดคิ้วแน่น “ในเมื่อเป็นสมาชิกของตระกูลสวันนีย์ แล้วเรื่องนี้มันก็เป็นเพราะว่าหนู หนูก็ควรจะออกหน้าด้วยเหมือนกัน! ”จิดาภาพูดออกมาทีละคำ พอได้ยินแบบนี้ การันต์ยิ้มแล้วก็พยักหน้า แล้วทั้งสองคนก็ไปบริษัทธีร์อธิศ ด้วยกัน ถึงแม้ว่าพันเดชจะเป็นท่านประธานของบริษัทCA แต่ว่าก็เป็นผู้ชายของจิดาภาเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เขาก็เลยตามไปด้วย ยังไงก็ไม่ใช่การสอดแนมโอกาสทางธุรกิจอยู่ดี ไม่มีอะไรต้องเลี่ยง บริษัทธีร์อธิศ เปรมศักดิ์ตอนแรกก็ไม่ได้อยากจะสนใจพวกสุนัขจิ้งจอกแก่ๆ แบบนี้ แต่ว่าพวกเขายิ่งกล้าก่อเรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่บุกเข้าไปในห้องทำงานของเขา ไม่มีทางเลี่ยง ก็เลยต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้น “ประธานเปรมศักดิ์ ยังไงคุณก็ควรให้คำอธิบายพวกเราหน่อยไหม!? ” เปรมศักดิ์นั่งอยู่ตำแหน่งหน้าสุด มองพวกเขา สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “พวกคุณอยากได้คำอธิบายแบบไหน?! ” “คุณจิดาภามีหุ้นอยู่20% แล้วอีกอย่าง ตอนนี้หุ้นก็ปั่นป่วน สามารถตกลงได้ทุกเมื่อ หรือว่าไม่ควรจะอธิบายหน่อยรึไง? ”หนึ่งในผู้ถือหุ้นถาม “ผู้อำนวยการโถมนะ นี่มันเป็นเรื่องในครอบครัวของเรา! ” “มันเป็นเรื่องในครอบครัวของพวกคุณ แต่ว่าพวกเราไม่อยากจะเห็นว่าเรื่องนี้มันมากระทบต่อหุ้นบริษัทของเรา ไม่ยังงั้นพวกเราจะไม่ยุ่งก็ไม่ได้! ” ผู้อำนวยการโถมนะพูดอย่างไม่ยอมปล่อยไป ในทุกบริษัท จะต้องมีผู้ถือหุ้นที่ชอบสร้างความวุ่นวายแบบนี้ อยากครอบครองมาก แต่ว่าเมื่อไม่ได้ ก็ได้แต่หาเรื่องไม่หยุด หาทางเอาชนะอีกฝ่ายด้วยวิธีการทุกรูปแบบ เพื่อที่จะทำให้ตำแหน่งของตัวเองมั่นคงแข็งแรง “คุณ——” “แล้วถ้าเอาตามความคิดเห็นของคุณ คุณคิดว่าควรทำยังไง? ” ในตอนนี้เอง การันต์ก็เดินเข้ามาจากประตูใหญ่ แล้วจิดาภาก็ยืนอยู่ด้านหลัง เห็นว่าพวกเขามาพร้อมกัน ผู้อำนวยการโถมนะก็ตะลึงไป ตอนที่เห็นจิดาภาที่ยืนอยู่ข้างหลัง ก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะมาด้วยกันได้ “พ่อ! ” เปรมศักดิ์ยืนขึ้น “มาได้ยังไงครับ? ” “เวลาแบบนี้ แน่นอนว่าพ่อก็ต้องมาดูหน่อย! ”การันต์พูด ถึงแม้ว่าปกติจะเขาจะเป็นคนอ่อนโยนและใกล้ชิด แต่ว่าในตอนนี้ กลิ่นอายความน่าเกรงขามที่เขามีมาโดยกำเนิดนั้นทำให้คนอื่นไม่มีทางล่วงละเมิดได้ เปรมศักดิ์หลีกทางให้ ให้การันต์นั่งลงตำแหน่งของตัวเอง เปรมศักดิ์กับจิดาภาก็ยืนอยู่ข้างๆ เขา มองหน้าพวกเขา ผู้อำนวยการโถมนะก็คลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “คุณการันต์ สุดท้ายคุณก็ปรากฏตัวแล้ว เรื่องนี้ ตระกูลสวันนีย์ของพวกคุณไม่ควรอธิบายกับพวกเราหน่อยเหรอ? ” พอประโยคนีออกมา คนอื่นๆ ก็เอาด้วย “ใช่! ” “ใช่ ควรมีคำอธิบายนะ! ” พอได้ยินเสียงจากด้านล่าง สายตาของการันต์ก็กวาดไปที่พวกเขา แล้วก็ขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน คนพวกนี้ก็เป็นแบบนี้ เมื่อสร้างรายได้ให้พวกเขา จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่าถ้าเกิดว่าอะไรที่เสียประโยชน์แล้วล่ะก็ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่ ตอนนี้เอง จิดาภามองพวกเขา “เรื่องนี้มันเป็นเพราะฉันเอง แล้วทุกคนคิดว่าจะแก้ไขยังไงเหรอคะ? ”จิดาภามองพวกเขาแล้วถาม พอพูดแบบนี้ออกมา คนที่อยู่ด้านล่างตอนแรกก็ตะลึงไป หลังจากนั้นก็มองหน้ากัน ประโยคนี้ ทำให้พวกเขานิ่งไป ควรจะทำยังไงดี ใครจะไปรู้ว่าควรจะทำยังไง! และผู้อำนวยการโถมนะก็เป็นคนที่สะท้อนความคิดเห็น เขาพูดว่า “ควรจะทำยังไง พวกเราก็ไม่รู้ พวกเราแค่อยากให้บริษัทมั่นคง ตอนนี้หุ้นของเราตกลง พวกเราสูญเสียย่อยยับ แล้วพวกคุณบอกมาสิว่าควรจะทำยังไง! ” ปัญหานี้ ยังโยนมาให้พวกเขาอีก เห็นว่าพวกเขามองมาที่จิดาภาทีละคน การันต์ก็พูดออกมาว่า “ในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะว่าพวกเรา พวกเราก็จะแก้ไขเอง ส่วนเรื่องที่หุ้นบริษัทตก การชดเชยทั้งหมด ผมจะเป็นคนชดเชยให้! ” “พ่อ! ” “พ่อ! ” เปรมศักดิ์กับจิดาภาหันไปมองหน้าการันต์ การันต์ยื่นมือออกมา แสดงให้เห็นว่าไม่ให้พวกเขาพูดอะไรต่อ “สรุปแล้ว เรื่องนี้ ยังไงก็ต้องแก้ไขได้! ” ผู้อำนวยการโถมนะอึ้งก่อน หลังจากนั้นก็ยิ้ม “คุณการันต์ นี่คุณพูดเองนะ พวกเราไม่ได้พูดอะไรเลย! ” พอได้รับผลประโยชน์ก็เปลี่ยนเป็นท่าทีที่น่ารัก การันต์มองท่าทางพวกเขาออกตั้งนานแล้ว “ในเมื่อหุ้นมันตกเพราะว่าพวกเรา ถ้ายังงั้นเป็นไปได้ไหมว่า เมื่อไหร่ที่หุ้นขึ้น ก็จะไม่เกี่ยวกับพวกคุณ? แต้มต่อทั้งหมดที่จะได้ จะกลับคืนมาที่พวกเรา? ”จิดาภาพูดออกมาอย่างเหมาะเจาะ พอพูดประโยคนี้ออกมา คนข้างล่างต่างก็พากันตะลึง “คุณจิดาภา นี่เป็นการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น คุณน่าจะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะพูดออกมาใช่ไหม? ต่อให้คุณจะเป็นคนของตระกูลสวันนีย์แล้วยังไงกัน ตอนนี้ใช่หรือไม่ใช่ ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำ! ”ผู้อำนวยการโถมนะเริ่มหาเรื่องก่อนอีกแล้ว แต่ว่าจิดาภาเองก็ไม่ได้อ่อนแอ อยู่กับพันเดชมาตั้งนาน ก็เลยได้เรียนรู้พวกนี้มาบ้างเธอยิ้ม “ค่ะ สิ่งที่โลกภายนอกพูดก็เป็นเรื่องจริง ฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลสวันนีย์ แต่ว่าเหมือนกับว่าคุณลืมไปเรื่องหนึ่งนะคะ ว่าฉันถือหุ้นของบริษัทธีร์อธิศ อยู่20% เป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบธรรมของบริษัทธีร์อธิศ ! ”จิดาภาพูดเน้นออกมาทีละคำ มองไปที่เธอ เหมือนกับว่าเห็นร่างของพันเดชที่อยู่ในร่างกายเธออย่างแปลกประหลาด อารมณ์ความรู้สึกที่ดุเดือดและรุนแรง ทำให้คนยากที่จะตอบโต้ การันต์กับเปรมศักดิ์ก็ต่างมองเธอ แล้วก็คลี่ยิ้มอย่างปลื้มใจ ตอนนี้เอง เปรมศักดิ์ก็พูดออกมา “นอกจากผมแล้ว เธอก็เป็นคนที่ถือหุ้นของบริษัทเยอะที่สุด พวกคุณคิดว่า เธอไม่มีอำนาจที่จะมาเข้าร่วมงานประชุมผู้ถือหุ้นของพวกเรางั้นเหรอ? ” คนด้านล่าง ต่างพากันมองหน้ากัน แล้วทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินเรื่องเมื่อกี้ จิดาภามองพวกเขา เธอก็รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะหยุด สำหรับพวกผู้ถือหุ้นพวกนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชอบแต่รับแต่ไม่รู้จักให้ ชอบเรื่องมาก แต่ว่าพวกเขาก็ถือว่าเป็นพนักงานของบริษัทนี้เหมือนกัน ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง จิดาภารู้ดีว่าเมื่อไหร่ควรจะหยุด มองพวกเขา “ฉันบอกแล้วว่า เรื่องนี้ ในเมื่อมันเป็นเพราะฉัน ฉันก็ต้องแก้ไขให้ได้ พวกคุณให้เวลาฉันสองวัน ถ้าเกิดว่าตอนนั้นยังแก้ไขไม่ได้ ทุกคนค่อยมาถามใหม่ก็ไม่สายไปหรอกค่ะ! ” สองวัน? การันต์มองจิดาภา แต่ว่าจิดาภากลับมีท่าทีที่มั่นคงและมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะในเวลาไหน หรือสถานการณ์ใด ก็แพ้ไม่ได้ เรื่องพวกนี้ เธอได้ฝึกมาจากพันเดช “ได้ นี่คุณพูดเองนะ ถ้าเกิดว่าทำไมได้ ถ้ายังงั้นคุณจิดาภา ก็เชิญให้คุณถอนหุ้นออกจากบริษัทธีร์อธิศไปซะ! ” ผู้อำนวยการโถมนะลุกขึ้นแล้วพูด ประโยคนี้ ทำให้เกิดเสียงฮือฮา “ ผู้อำนวยการโถมนะ นี่คุณจะเกินไปแล้วนะ! ”เปรมศักดิ์พูด “ยังไงครับ? ก็คุณจิดาภาเป็นคนพูดเอง ว่าขอเวลาสองวัน หรือว่าไม่มีความมั่นใจ? ”ผู้อำนวยการโถมนะยิ้มแล้วพูด จงใจทำเสียงดังวุ่นวาย เพื่อทำให้พวกเขาไม่พอใจ “ใช่! ” “จริง! ” “ไม่ผิด……” ได้ยินเสียงคนด้านล่างคล้อยตาม เปรมศักดิ์ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ จิดาภาค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา “ค่ะ ถ้ายังงั้นถ้าเกิดว่าฉันทำได้ ขอให้ต่อไปนี้ผู้อำนวยการโถมนะหุบปากซะ ไม่ต้องพูดแม้แต่คำเดียว! ” ตอนแรกผู้อำนวยการโถมนะมีสีหน้าเก้อเขินดูไม่ได้ หลังจากนั้นก็พูด “ได้ คำไหนคำนั้น! ” “คำไหนคำนั้น! ” อย่างไรก็ตาม การประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใหญ่นี้ ก็แยกย้ายหลังจากการตกลงของพวกเขา การประชุมพึ่งสิ้นสุดลง ตอนนี้เอง ผู้อำนวยการโถมนะก็พูดกับคนข้างๆ “ไปหาคนมา ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องทำให้เรื่องนี้มันวุ่นวายให้ได้มากที่สุด! ” คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็เข้าใจในทันที เขายิ้มแล้วพยักหน้า “ครับ ผมรู้แล้วว่าควรทำยังไง! ” ตอนที่พวกเขาเดินออกไปนั้น พันเดชก็ยืนรออยู่ด้านนอก เพราะว่าเป็นการประชุมของบริษัทธีร์อธิศ เขาไม่สะดวกจะเข้าไป เพราะฉะนั้นก็เลยนั่งรออยู่ด้านนอก นั่งไขว่ห้าง พลิกนิตยสารตรงหน้าตามอารมณ์ กาแฟที่วางอยู่ตรงหน้า เหมือนกับว่าไม่ได้แตะต้องเลย เห็นคนค่อยๆ เดินออกมา พันเดชก็เลยมองเข้าไป ตอนที่เห็นนั้น เขาก็เลยวางนิตยสารลง แล้วก็เดินเข้าไปหาเธอ