หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 805 ประชดประชันทุกสิ่งทุกอย่าง
ตอนที่ 805 ประชดประชันทุกสิ่งทุกอย่าง
เปรมศักดิ์อดใจไม่ให้รักหล่อนไม่ได้ขนาดนั้นเลย? ? ?
เปรมศักดิ์เดินเข้าไปนั่งลงด้านข้างกชกร จากนั้นมองไปที่จิดาภา “เหนื่อยไหม?”
“โอเคอยู่ค่ะ ไม่มีอะไร!”
เปรมศักดิ์พยักหน้า
กชกรนั่งมองพวกเขาด้วยสายตาเศร้าซิม จากนั้นยิ้มขึ้น “จิ ดูสิพี่เธอเป็นห่วงเธอขนาดไหน!”
คำพูดที่ดูธรรมดา แต่กลับถูกกชกรพูดเหมือนมีบางอย่างแอบแฝงอยู่
เปรมศักดิ์กับจิดาภาพร้อมใจกันมองไปที่หล่อน กชกรกลับยิ้มอย่างเยือกเย็น รอยยิ้มนั้น ทำให้คนที่เห็นรู้สึกไม่สบายใจ
จิดาภาหัวเราะ “นั่นสิ พี่ชายเอ็นดูเป็นห่วงฉันตั้งแต่เด็ก เรื่องนี้ ฉันเข้าใจดี!”
“นั่นสิ พี่ชายเธอรักเธอมาก ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไปเลยเนอะ!” กชกรพูดต่อ แต่ยิ่งพูดยิ่งเย็นชา
จากนั้น จิดาภาตกใจตะลึง อารมณ์ของกชกรในวันนี้ ดูแปลกมาก หรือว่า หล่อนไปรู้เรื่องอะไรมา?
มองดูกชกร จิดาภาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
ทันใดนั้น เปรมศักดิ์มองไปที่กชกร “คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่!”
“ทำไม? ไม่ใช่อย่างที่ฉันพูดเหรอ? หรือว่าฉันพูดผิด?”
“ คุณ…” เปรมศักดิ์มองกชกร ขมวดคิ้วขึ้น ตั้งแต่เมื่อคืน หล่อนก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด
ทั้งสองมองหน้ากัน จิดาภามองพวกเขาอยู่ด้านข้าง รู้สึกอึดอัดใจ จริงๆพวกเขาสามารถรู้สึกได้ว่าวันนี้กชกรดูอารมณ์ประชดประชัน
แม้ว่าพันเดชไม่อยู่ตรงนั้น แต่คำพูดของพวกเขา ท่าทาง และแววตา อยู่ในสายตาของเขาตลอด
ทันใดนั้นการันต์เดินออกมา มองพวกเขา “โอเค ไปทานข้าวกันเถอะ!”
จิดาภายืนขึ้นมาก่อน จากนั้นเดินออกไปด้วยท่าทางงุนงงทำอะไรไม่ถูก
เมื่อจิดาภาเดินออกไป เปรมศักดิ์มองไปที่กชกร ขมวดคิ้วย่น “วันนี้คุณเป็นอะไร?”
กชกรกลับกระพริบตาทำท่าทีใสซื่อ “ฉันเป็นอะไรเหรอ? หรือว่าฉันพูดอะไรผิดไป?”
เปรมศักดิ์หรี่ตากวาดมองกชกร ใครจะไปคาดคิด หล่อนกลับลุกขึ้นเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารทันที
เขายืนมองดูหล่อนที่เดินจากไป รู้สึกว่าเพียงเวลาชั่วข้ามคืน กชกรผู้อ่อนหวานร่าเริงกลับกลายเป็นคนเย็นชา รู้สึกเหินห่างขึ้นมาทันที
“พอแล้ว มาทานข้าวก่อน!” การันต์กล่าว
จากนั้นพันเดชจึงลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะอาหาร
“เป็นยังไงบ้าง? แพ้ราบคาบเลยใช่ไหม?” จิดาภาถามพันเดชพลางหัวเราะ
พันเดชมองหล่อน “ผมดูเหมือนคนแพ้ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
จิดาภามองดูเขารอบๆ พยักหน้าลง “เหมือน!”
พันเดชหัวเราะ ยื่นมือไปหยิกแก้มหล่อนด้วยความเอ็นดู ท่าทีของทั้งสองเล่นกันเสมือนคู่รักวัยรุ่น
เปรมศักดิ์และกชกรนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขา เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสอง จึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ก้มหน้าลงไปทานข้าวต่อกชกรกลับยิ้มขึ้นอย่างเยือกเย็น เปรมศักดิ์ นายจะต้องเสียใจ เสียใจมากล่ะสิ!“จิ เธอนี่มีความสุขจังเลย!”กชกรกล่าวจิดาภาหัวเราะ “พี่สะใภ้ก็มีความสุขเหมือนกันนั่นแหละ!”“งั้นเหรอ? คิดว่าฉันมีความสุขเหรอ?”กชกรย้อนถาม คำพูดนี้ทำให้บรรยากาศของคนทั้งโต๊ะแย่ลงทันที แม้แต่การันต์และจันทนีก็มองไปที่กชกรเช่นกันกชกรไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ยิ้มและก้มหน้าทานข้าวต่อจิดาภามองไปที่พันเดช พันเดชทำเหมือนไม่ได้ยินอะไร ตักอาหารใส่จานให้จิดาภา “ทานข้าว!”จิดาภาพยักหน้าลง จากเดิมที่เป็นมื้ออาหารเที่ยงที่เต็มไปด้วยความสุข กลับต้องเป็นเพราะคำพูดของกชกรที่ดังขึ้นตลอด ทำให้บรรยากาศหนองมนไปทันที จนกระทั่งเมื่อทานอาหารกันเสร็จ จิดาภากับพันเดชก็กลับไปภายในรถ จิดาภานั่งเงียบเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่จากนั้น พันเดชยื่นมือออกไปจับมือของหล่อน “กำลังคิดเรื่องกชกร?” จิดาภาหันไปมองเขา จากนั้นยิ้มขึ้น “ฉันปิดบังอะไรคุณไม่ได้เลยนะ!”“วันนี้หล่อนพูดประชดขนาดนั้น ไม่คิดมากคงไม่ได้” พันเดชกล่าวจิดาภามองไปที่พันเดช อันที่จริงเรื่องบางเรื่องหล่อนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มพูดอธิบาย แต่หล่อนรู้ดีว่าพันเดชรู้ทุกเรื่องความรู้สึกระหว่างทั้งสอง แม้จะไม่แสดงออกมา แต่ก็เข้าใจกันเป็นอย่างดีจิดาภาไม่พูดอะไรต่อ แต่หล่อนยังคงรู้สึกสงสัย หล่อนต้องไปรู้อะไรมาแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้กชกรเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ได้ประชดประชันทุกเรื่อง รถเคลื่อนผ่านไปบนถนน ทั้งสองต่างไม่พูดอะไรกันต่อเมื่อไปส่งจิดาภาเสร็จ พันเดชก็กลับบริษัทไปทันทีจิดาภาอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว รู้สึกเบื่อ ระหว่างนั้น หล่อนเหลือบมองไปเห็นนิตยสาร ซึ่งเกี่ยวกับเอลิสต์หลังจากที่หล่อนเห็นจึงหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาไปรยา ไปรยากำลังนั่งดูโทรทัศน์ เมื่อเห็นสายเรียกเขาจากจิดาภา จึงรีบกดรับทันที “ฮัลโหล จิ…”“ทำอะไรอยู่เหรอ?”ไปรยาคายเมล็ดองุ่นออก จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “กำลังดูโทรทัศน์อยู่!”“ทำไมว่างได้ขนาดนี้ล่ะ? ยังมีอารมณ์มานั่งดูโทรทัศน์อีก!”“ไม่อยากจะพูด ตั้งแต่กลับมาจากวันแต่งงานของเธอ ลาภิศให้เอลิสต์ขึ้นปกนิตยสาร ทำให้ติดเทรนด์ข่าวยอดนิยมมาสองวันติดแล้ว แต่พีทให้พวกเราเก็บทุกอย่างเป็นความลับ จึงต้องอยู่แต่ในบ้าน!”“งั้นก็ได้พักผ่อนดีๆแล้วสิ!”“อยู่บ้านเบื่อจะตายอยู่แล้ว!” ไปรยาร้องตะโกน!“ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงที่แสนสบายใจของเธอ? และกำลังกินอะไรบางอย่างอยู่ด้วย….”ไปรยาที่กำลังกินอยู่ หยุดชะงักไปทันที หัวเราะ “ยังอุตส่าห์ได้ยิน!”“เอลิสต์ล่ะ?” “ว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง!” “ช่วงนี้ดีจังเลยนะ!” จิดาภาพูดพลางหัวเราะ“ใครจะไปมีความสุขเหมือนเธอล่ะ เป็นยังไงบ้าง ชีวิตหลังแต่งงานเป็นยังไงบ้างจ้ะคุณแม่บ้าน!”“มีความสุขมาก!”“รู้แล้วว่ามีความสุข ไม่ต้องเน้นเยอะก็ได้!” ทั้งสองพูดคุยหัวเราะเฮฮากัน ขณะเดียวกันไปรยาหยิบมือถือขึ้นมาดูทีวี “เป็นอะไรรึ โทรหาฉันมีเรื่องอะไรรึเปล่า?”“เปล่า แค่เบื่อๆก็เลยโทรหาเธอ”“คุณนายบ้านเศรษฐีนี่ชีวิตดีจริงๆ!” “ว่าที่ภรรยาของดาราอย่างเธอก็ไม่เลวเลยนะ!” จิดาภาพูดหยอกล้อหล่อนเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไปรยารีบลุกขึ้นทันที “เธออย่าพูดอะไรมั่วๆสิ!”“มีที่ไหนกัน?” “มีสิ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ คืนที่ฉันแต่งงาน เธอกับเอลิสต์ทำอะไรกัน!?”เมื่อพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ไปรยาหน้าแดงทันที “ฉันดื่มหนักจนเมาขนาดนั้นจะไปทำอะไรได้ล่ะ?”“ใครจะไปรู้ เธอคงไม่ได้ทำอะไรเอลิสต์ใช่ไหม!” “จิดาภา! ! ทำไมเธอแต่งงานแล้วถึงได้กวนขนาดนี้นะ!” ไปรยาหน้าแดงพลางพูดตะโกนใส่จิดาภาหัวเราะอยู่ในสาย “อย่าโกรธสิ ฉันแค่ถามดูเฉยๆ!”“ฉันไม่คุยกับเธอแล้ว เธอยิ่งอยู่ยิ่งเพี้ยนแล้ว!” ไปรยากล่าวจิดาภาหัวเราะ “โอเค ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว งั้นเธอไปทำงานก่อนเถอะ ฉันขอตัวไปนอนก่อน!”“โอเค!” หลังจากวางสาย ไปรยานอนอยู่บนโซฟา ตอนนี้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าจิดาภาแต่งงานไปแล้วเริ่มไม่เรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว!หล่อนนอนลงไปกินองุ่นต่อ ในหัวของหล่อนยังคงคิดถึงสิ่งที่จิดาภาพูดขึ้นมาเมื่อครู้ คืนนั้นที่หล่อนเมา พวกเขาทำอะไรกัน…เรื่องนี้ห้ามคิดลึก ยิ่งคิดไปรยายิ่งหยุดกินองุ่นไม่ได้หล่อนค่อยๆหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น ตอนแรกนั่งดื่มด้วยกันในกลุ่ม ต่อมาค่อยๆทยอยกลับห้องกันไป จากนั้นหล่อนกับเอลิสต์นั่งดื่มกันต่อตรงนั้น….และจากนั้น หล่อนวิ่งไปด้านหน้าสุดของเรือตะโกนเหมือนคนบ้า และยังล้มลงบนตัวของเอลิสต์…เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเมื่อพวกเขากลับไปที่ห้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นต่อไปรยาค่อยๆกินองุ่น ย้อนคิดไปถึงวันที่อยู่บนเรือ ในความทรงจำเพียงเล็กน้อยของหล่อนจำได้อย่างเลือนรางว่าหลังจากที่นอนลงบนเตียง หล่อนถามบางอย่างขึ้นมา… หลังจากที่คิดออก สีหน้าของไปรยาแดงขึ้นมาทันที! !จนสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมานั่ง!หล่อนๆๆ….ขณะเดียวกันนั้นเอง เอลิสต์ว่ายน้ำกลับมาพอดี เขานุ่งผ้าเช็ดตัวปกปิดท่อนล่างไว้ สีผิวขาวนวล อกผาย กล้ามเป็นมัดจนเห็นเป็นร่องซิคแพ็ค ร่างกายของเขาสมส่วนดูดี ดูแล้วเซ็กซี่เป็นอย่างมากเมื่อเห็นเขา ไปรยาที่กำลังหยิบองุ่นชิ้นสุดท้ายเข้าปากกลับร่วงหล่นลงไปทันที เอลิสต์สะบัดหัวเช็ดผม เมื่อเห็นแล้วยิ่งเท่ห์ดึงดูดใจ มองหน้าหล่อน “เมื่อกี้คุยโทรศัพท์อยู่เหรอ?” สีหน้าของไปรยากลับแดงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุเมื่อเห็นเขาสวมชุดเช่นนั้น ทำให้คิดถึงเรื่องคืนวันนั้น คงต้องมั่วมากๆแน่เลย!หลังจากที่คิดถึงเรื่องนี้ ไปรยาอดไม่ได้ที่จะหาที่มุดหน้าไปที่ไหนสักแห่ง!ทันใดนั้น เอลิสต์เดินตรงเข้ามาหาหล่อน เมื่อเห็นว่าหน้าหล่อนแดงมาก จึงขมวดคิ้วขึ้น เดินตรงเข้ามายื่นมือไปทาบบนหน้าผากของหล่อนไปรยามองดูเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้า แสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน แต่ตอนนี้ ในความคิดของหล่อนกลับเต็มไปด้วยคำพูดที่หล่อนพูดพร่ำเพ้อในคืนนั้น เอลิสต์คงขำหล่อนมาก!มองหน้าเอลิสต์พลางย่นคิ้วขึ้น ไปรยากระพริบตา “ปะ…เป็นอะไร?”“ไม่มีไข้ ทำไมหน้าแดงขนาดนั้นล่ะ?”เขาถามหน้าของไปรยาเริ่มร้อนและแดงขึ้น“ปะ…เปล่า!”ไปรยาตอบกลับ จากนั้นก้มหน้าลงต่อ สายตาเลิ่กลั่กไม่กล้าสบตาเอลิสต์“เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?” เอลิสต์ถาม“เปล่า เปล่า!” ไปรยาตอบเอลิสต์มองหล่อนด้วยความสงสัย ไม่พูดอะไรต่อ “งั้นฉันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ!”“อื้มๆ!” ไปรยาพยักหน้าขณะที่เอลิสต์กำลังเดินไป ไปรยารีบลุกขึ้น หล่อนไม่รู้ว่าควรทำยังไง กระโดดไปมา จนล้มลงไปบนพื้น“โอ๊ย——” หล่อนตะโกนร้องลั่นตอนนั้นเอง เอลิสต์กลับยื่นมือออกไปหนึ่งข้าง ดึงหล่อนเข้ามาไว้ในอ้อมอก แต่เพราะจัดท่าไม่ดี ทั้งสองจึงล้มลงไปกองบนพื้น…