หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 792 ก่อนวันแต่งงาน
ตอนที่ 792 ก่อนวันแต่งงาน
ถ้าเกิดว่ามันเป็นอย่างที่เจมน่าพูดจริงๆ ทำไมพี่ใหญ่ถึงต้องทำแบบนั้นกันนะ?
หรือว่าเพราะว่า……เธอ?
จิดาภาไม่กล้าจะคิดต่อไปแล้ว ข่าวนี้มันน่าตกใจสำหรับเธอมาก
เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันผ่านไปนานแค่ไหน จนถึงตอนที่พันเดชกลับมา เธอถึงเรียกสติคืนกลับมาได้โดยฉับพลัน
“เป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้นั่งเหม่ออยู่ตรงนี้? ” พันเดชมองหน้าเธอแล้วถาม
จิดาภามองหน้าเขา คำพูดของเจมน่าก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง เขาเองก็รู้เรื่องนี้ แต่ว่าก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่แม้แต่บอกเธอด้วยซ้ำ
การให้อภัยแบบนี้ ทำให้จิดาภาไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอะไรดี
เธอมองตรงไปที่เขา ผ่านไปนานก็ไม่รู้จะพูดอะไร
เห็นว่าจิดาภาไม่ได้พูดอะไร พันเดชก็ขมวดคิ้วแน่น “ทำไมหรอ? ไม่สบายตรงไหนรึป่าว? ”
นี่ถึงเป็นการเรียกสติของจิดาภาให้กลับมา เธอส่ายหน้า “ฉันไม่ได้เป็นอะไร! ”
“เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างยังไงยังงั้น ทำไมหรอ? คิดถึงฉันอยู่รึไง?! ”พันเดชยิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วก็เดินเข้ามาจูบลงบนริมฝีปากของจิดาภา
จิดาภาไม่ได้ถอย ได้แต่มองหน้าเขาแล้วยิ้มออกมานิ่งๆ “ทำไมถึงพึ่งกลับมาตอนนี้ล่ะ? ”
“วันนี้มีประชุม ก็เลยกลับมาสายหน่อย! ”
จิดาภาก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ “ใช่สิ เจมน่าไปแล้ว! ” เธอบอก
“ไปที่ไหน? ”
“กลับมาเลเซียไปแล้ว! ” ตอนที่พูดอยู่นั้น จิดาภาก็มองเวลาในโทรศัพท์ “เวลานี้ เธอน่าจะขึ้นเครื่องไปแล้ว! ”
พันเดชก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่าจะเป็นแบบนี้
“ตอนไหน? ”
“วันนี้ตอนบ่าย ฉันโทรหานายเยอะมาก แต่ว่าเลขาบอกว่านายประชุมอยู่! ” จิดาภาตอบ
พันเดชเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ทำไมถึงไม่เคยคิดเลยว่า เจมน่าจะจากไปแบบที่ไม่บอกลาเลยด้วยซ้ำ
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเวลาบินของเธอ เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเมื่อกี้ตอนที่โทรหาฉันนั้น เธอกำลังเตรียมจะขึ้นเครื่องแล้ว ตอนนี้นายไปดูหน่อย บางทีอาจจะทันก็ได้! ” จิดาภาตอบ
หลังจากได้ยินแบบนี้ พันเดชกลับเงยหน้ามองหน้าเธอ “ไม่ต้องหรอก ในเมื่อนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ แล้วเราจะไม่เคารพการตัดสินใจของเธอได้ยังไง! ”
“นายจะไม่ไปจริงๆ หรอ? ฉันมองออก ว่าต่อให้เธอไม่พูดออกมา แต่ว่าก็อยากจะเจอนายเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน! ”จิดาภาถาม
“ฉันไปผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้หรอก! ”
จิดาภาพยักหน้า
ตอนนี้เอง พันเดชก็ยื่นมือออกมา จับคางของเธอไว้ “จิดาภา ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอกำลังผลักไสฉันล่ะ? เธอเชื่อใจฉันมากเกินไปรึเปล่า? ” เขามองหน้าจิดาภาใกล้ๆ แล้วถามออกมา
จิดาภาได้แต่ยิ้มนิ่งๆ “ทำไมหรอ? โดนเชื่อใจแล้วไม่สบายใจงั้นหรอ? ” “ฉันชอบเวลาเธอหึงมากกว่า! ” พันเดชหรี่ตาแล้วพูดเสียงเบา จิดาภายิ้ม “ถึงแม้ว่าตอนนี้จะท้องอยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้อยากจะหึงเท่าไหร่หรอกนะ! ” พอได้ยินคำพูดของเธอ มือของพันเดชก็ออกแรงขึ้นมากกว่าเดิม “คุณจิดาภา อย่าได้คืบจะเอาศอกนะ! ”พุ่งเข้าไป แล้วก็มอบจูบที่ยาวนานให้กับเธอ “เป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า? ” จิดาภาส่ายหน้า “ไม่เจ็บแล้ว! ”หัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่น เพราะว่าพันเดชเป็นห่วง “ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว งานแต่งงานใกล้จะมาถึงแล้ว เดี๋ยวตอนนั้นจะให้ดีไซเนอร์เอาผ้าคลุมให้เธอจะได้ไม่เห็นแผล! ” พันเดชพูด จิดาภาไม่คิดว่าเขาจะไตร่ตรองถึงเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ยังยิ้มและพูดติดตลก “ถ้าเกิดว่ามันเป็นแผลเป็น นายจะรังเกียจมั้ย? ” “ไม่มีทาง! ”พันเดชตอบอย่างเด็ดขาดมาก “ทำไมล่ะ? ” พันเดชกุมมือของเธอไว้ “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าฉันชอบเธอ ไม่ใช่เพราะว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเธอ แต่ชอบเพราะว่าความเฉลียวฉลาดและจิตใจของเธอ! ” “ไม่ได้เกี่ยวกับภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ หรอ? ”จิดาภาเลิกคิ้ว ยิ้มแล้วถามออกมา “รูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดฉัน แต่ว่าพอผ่านไปนาน ถ้าเกิดว่ามีหัวใจที่ชั่วร้าย จะอยู่ได้นานแค่ไหนกัน?! ” พันเดชถาม สายตาของเขามองที่แผลของเธอ “ยิ่งไปกว่านั้น แผลนี้ของเธอเกิดขึ้นเพราะว่าเธอรับแทนฉัน ได้เกิดว่าเป็นแผลเป็น มันก็เป็นคำเตือนว่าฉันต้องรักเธอมากยิ่งขึ้น “คุณพันเดช วันนี้คุณทานน้ำตาลไปหรอคะ? ”จิดาภามองหน้าเขาแล้วถาม “ทำไมหรอ? ” “ปากถึงได้หวานขนาดนี้! ” “แล้วเธอชอบมั้ย? ” “ชอบ! ”ตอนที่พูดอยู่นั้น จิดาภาก็พุ่งเข้าไป แล้วก็จุ๊บลงบนริมฝีปากของเขา “พันเดช ฉันรักนาย……” เธอพูดอย่างจริงจังมาก แสงไฟในห้องค่อนข้างสว่าง แต่ว่าสายตาของจิดาภานั้นสว่างยิ่งกว่า จิดาภาพูดคำว่ารักน้อยมากๆ เพราะฉะนั้นพันเดชก็รู้สึกอยากจะเก็บรักษามันไว้มากเป็นพิเศษ “ฉันก็รักเธอเหมือนกัน! ” เขาตอบ จิดาภามองหน้าเขา สายตาที่เข้มข้นของเธอนั้น ทำให้หัวใจของพันเดชเต้น “จิดาภา ถ้าเกิดว่าเธอยังใช้สายตาแบบนี้มองฉันอยู่ ฉันไม่รับประกันว่าฉันจะไม่ทำอะไรเธอนั้น! ” เขาพูด จิดาภายังคงไม่ได้พูดอะไรเหมือนเดิม ได้แต่มองหน้าเขาอยู่แบบนั้น วินาทีหลังจากนั้น พันเดชก็ใช้การกระทำแทนที่การเต้นของหัวใจ เขาจับด้านหลังศีรษะของเธอไว้ แล้วก็จูบเธอลงไป จิดาภาไม่ได้ต่อต้าน แต่ก็ปล่อยให้เขาจูบแบบนั้น แม้แต่ เริ่มตอบสนองเขาด้วยซ้ำ การจูบนั้นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ พันเดชก็กลัวว่าจะโดนแผลของเธอ ก็หยุดในช่วงเวลาที่กำลังสำคัญ มองหน้าเธอ “วันนี้เธอเป็นอะไรไป? ” จิดาภาเองก็มองหน้าเขาเหมือนกัน หายใจหอบถี่ “อะไรคือเป็นอะไรหรอ? ” “วันนี้เธอ……เร่าร้อนเป็นพิเศษ! ” “ไม่ชอบหรอ? ” “ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่รู้สึกว่ามันกะทันหันไปหน่อย! ” จิดาภากลับนอนลงข้างๆ เขา พิงเขาไว้ แล้วก็กอดเอวเขา “พันเดช พวกเราจะคบกันตลอดไปมั้ย? ” “แน่นอนสิ! ” “ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว! ” ตอนที่พูดอยู่นั้น จิดาภาก็หลับตาลง แล้วก็กอดเขาไว้แน่นกว่าเดิม พันเดชมองเธอ ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอะไร ได้ว่าความรู้สึกบอกเขาว่า จิดาภาต้องมีเรื่องอะไรในใจแน่ๆ นอนอยู่บนเตียงแบบนั้นไม่ได้ขยับตัวไปไหน ปล่อยให้จิดาภากอดอยู่แบบนั้น เสียงลมหายใจของทั้งสองคนกระจายไปทั่วทั้งห้อง…… จนถึงตอนกลางดึก พันเดชก็ได้รับข้อความ เจมน่าเป็นคนส่งมา พันเดชที่กำลังหลับสบายนั้น ได้แต่ยินเสียง ก็หยิบขึ้นมาดู ข้อความไม่ได้ยาวมากเท่าไหร่ มีแค่คำไม่กี่คำ “พันเดช ฉันไปแล้วนะ ฉันไม่ได้ทำตามอำเภอใจ แค่ไม่ได้บอกกับนายด้วยตัวเองเท่านั้น ฉันคิดว่า สุดท้ายก็ต้องมีวันนึง ที่ฉันสามารถปรากฏตัวต่อหน้านายได้อีกครั้ง จนถึงตอนนั้น ฉันจะไม่ชอบนายอีกต่อไปแล้ว พี่จิเป็นผู้หญิงที่ดี หวังว่านายจะรักและทะนุถนอมเธอให้มากๆ ขอให้พวกเธอมีความสุข! ” แค่ประโยคสั้นๆ แต่ว่าเต็มไปด้วยความหมายมากมาย พันเดชได้แต่อ่าน แต่ว่าไม่ได้ตอบอะไร หลังจากอ่านอยู่นาน เขาก็เลยกดลบ แล้วก็วางโทรศัพท์กลับไปบนโต๊ะอีกครั้ง กอดผู้หญิงด้านข้างของตัวเองแน่น แล้วก็หลับต่อ วรชิตมองคนที่อยู่ตรงหน้าถึงแม้ว่าจะไม่อยากเผชิญหน้า แต่ว่าเขาก็รู้ดีว่า ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเจอ บนโต๊ะมีรูปวางอยู่ นั่นก็คือฉัตรชัยและวรชิตตอนยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นท้องของฉัตรชัยค่อนข้างจะเห็นได้ชัด น่าจะเป็นตอนที่ท้องประมาณเจ็ดเดือนวรชิตไม่รู้ว่าเปศลไปเอารูปพวกนี้มาจากไหน แต่ว่าสิ่งที่สามารถแน่ใจได้เรื่องเดียวก็คือ เปศลไปสืบเกี่ยวกับเขามาแล้ว “คุณเปศล นี่มันหมายความว่ายังไงหรอครับ? ” “หมายความว่ายังไงคุณพันเดชก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ฉัตรชัยอยู่ที่ไหน? ” วรชิตเหลือบมองรูปที่อยู่บนโต๊ะ “คุณเปศลสืบเกี่ยวกับผมงั้นหรอ? ” “ฉันก็แค่กำลังตามหาฉัตรชัย!” เปศลตอบ วรชิตเอาแต่เงียบ “ที่จริงคุณก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ถึงต้องมาถามผมด้วย! ” วรชิตถาม เขาสรุป ว่าเปศลสืบเจอตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่ามาถามเขาตอนนี้ “ผมก็มีเหตุผลของผม ตอนนี้ผมแค่อยากรู้ว่า ฉัตรชัยอยู่ที่ไหน? ”เปศลถามอย่างรีบร้อน “คุณเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?! ”วรชิตถาม ฉัตรชัยไม่เคยเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเปศลให้เขาฟัง ทั้งหมด อาศัยจากการเดาของเขาเท่านั้นเอง เธอได้แต่โทรมาบอกเขาว่า ให้ดูแลจิดาภาให้ดีเท่านั้น “มันเป็นเรื่องในอดีตของผมกับเธอ! ” “แต่ว่าผมเคยรับปากกับเธอแล้ว บอกคุณไม่ได้หรอก! ” พอได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเปศลก็หมองหม่นลงทันที “เธอบอกคุณแบบนั้นหรอ? ” วรชิตพยักหน้า “ใช่! ” สีหน้าของเปศลดูแย่มาก ผ่านไปนาน เขาถึงได้ถามออกมา “เธอยังพูดอะไรอีก? ” “เธอบอกว่า เธอจะไม่มีวันยกโทษให้คุณตลอดชีวิต! ” สีหน้าของเปศลดูแย่ยิ่งกว่าเดิม “เธอพูดแบบนั้นจริงๆ หรอ? ” วรชิตไม่ได้ปฏิเสธ ได้แต่มองหน้าเขานิ่งๆ ถึงแม้ว่าจะคิดไว้อยู่แล้ว แต่ว่าพอได้ยินสิ่งที่เธอพูดจากปากคนข้างหน้า ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอย่างประหลาด หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวด มือของเขา ค่อยๆ ลูบคลำที่หัวใจของตัวเอง…… ปวีร์ที่อยู่ข้างๆ เห็นดังนั้น ก็เดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง “เปศล!”เปศลยื่นมือออกมาห้ามเขาไว้ “ฉันไม่ได้เป็นไร! ” ตอนนี้เอง เปศลก็พยายามอดทนไว้สุดแรง มองหน้าวรชิตที่อยู่ตรงหน้า “ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? ” วรชิตได้แต่เงียบ ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี เปศลขมวดคิ้ว “ผมก็แค่อยากรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้างแค่นั้นเอง! ” พอเห็นท่าทีที่เป็นห่วงของเขา วรชิตก็คิดอยู่พักนึงแล้วก็พูดออกมา “ผมก็ไม่รู้ เธอหายไปตั้งแต่20กว่าปีก่อนแล้ว! ” “หายไปงั้นหรอ? ” วรชิตพยักหน้า “ผมเองก็ไม่รู้ข่าวคราวของเธอหรอก หลายปีมานี้ ผมส่งคนให้ไปตามหาเธอ แต่ว่าก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ผมคิดว่า คุณพาเธอไปแล้วซะอีก! ”วรชิตตอบ ตอนแรกเขาก็คิดแบบนี้ แต่ว่าไม่นานก็ล้มเลิกความคิดแบบนี้ไป เปศลสีหน้าหมองหม่น เขาเชื่อว่าวรชิตไม่ได้โกหกเขา เพราะว่ามันไม่ได้มีความจำเป็นอะไร แต่ว่าตอนนี้ คนเพียงคนเดียวเกี่ยวข้องกับฉัตรชัยก็ไม่เจอเธอแล้วเหมือนกัน……แล้วควรจะไปตามหายังไง? ฉัตรชัย……