หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 791 เจมน่าจากไป
ตอนที่ 791 เจมน่าจากไป
จิดาภาออกจากโรงพยาบาลแล้ว แน่นอน เจมน่าก็ออกจากโรงพยาบาลเหมือนกัน
จิดาภากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฐิตานันท์เลย อยู่ตรงนั้นมีคนดูแล แล้วอีกอย่างหลังจากพวกเขาแต่งงานกันก็ต้องกลับไปอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็เลยกลับไปก่อน
หลังจากส่งจิดาภากลับนั้น ที่บ้านมีคนอยู่ พันเดชก็เลยวางใจ แล้วก็รีบไปจัดการงานที่บริษัทต่อ
พอกลับไปจิดาภาก็กลายเป็นสมบัติทันที ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิง คุณหญิงภารดีหรือว่ามุ้งมิ้ง ก็ถือจิดาภาไว้ในมืออยู่ตลอด คอยปรนนิบัติเธอให้ทั้งกินทั้งดื่ม นอกจากไปห้องน้ำนั้น ก็อยากจะให้จิดาภานั่งแต่รถเข็น
“จิ ย่าไม่สนใจหรอก ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หนูต้องปกป้องตัวเองเป็นอย่างแรก เรื่องแบบนี้ย่าไม่อยากจะเห็นอีกเข้าใจมั้ย! ” คุณหญิงกำชับกับจิดาภา
“ไม่สิ ย่าจะไม่ให้โอกาสหนูได้ทำแบบนี้อีกแล้ว! ”
จิดาภายิ้มและพยักหน้า “คุณย่า หนูเข้าใจแล้วค่ะ! ”
“ก็ใช่นะจิ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น หนูต้องปกป้องตัวเองก่อน! ” คุณหญิงภารดีก็พูดอยู่ข้างๆ เหมือนกัน
จิดาภารู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดการ “สั่งสอน”แบบนี้เกิดขึ้น แต่ว่าเธอกลับชอบความรู้สึกที่มีคนเป็นห่วงแบบนี้ เธอเอาแต่ยิ้มแล้วก็พยักหน้า “หนูรู้แล้วค่ะ หนูจะระวัง รับประกันได้เลยค่ะ! ”
“ค่อยดีหน่อย! ” เห็นว่าเธอรับประกันแบบนี้ คุณหญิงก็วางใจ
“คุณจิดาภา ไม่ใช่สิ คุณหญิงเล็ก ดื่มซุปไก่หน่อยค่ะ แผลจะได้หายไวๆ! ”
“อ้อ ได้เลยค่ะ! ” จิดาภานั่งอยู่บนโซฟา พยักหน้าแล้วก็รับไป
“ดื่มตอนที่มันยังร้อน! ” คุณย่าพูดออกมา
จิดาภาพยักหน้า แล้วดื่มลงไป
เธอยิ้มอย่างมีความสุขมาก
แต่ว่าเจมน่านั้น ก็ถูกเมินไปโดยปริยาย
ตอนนั้นเอง เจมน่าที่อยู่ชั้นบน พอเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ในใจก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
ตอนนั้นเอง วรชิตก็ออกมาจากห้องอ่านหนังสือ แล้วก็เห็นเจมน่าที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ทำไมหรอ? เป็นอะไรทำไมไม่ลงไปข้างล่าง? ” วรชิตพูด
เจมน่าหันกลับมา หลังจากเห็นวรชิตนั้น เธอก็ส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ! ”
“ครั้งนี้เกิดเรื่องขึ้นกับจิ พวกเราก็ต่างเป็นห่วงมาก ก็เลยดูแลเธอดีเป็นพิเศษ มันเป็นเรื่องปกติ! ” วรชิตพูด
เจมน่าก็พยักหน้า “หนูรู้ค่ะ หนูเองก็รู้สึกขอบคุณพี่จิมากๆ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเธอ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าครั้งนี้หนูจะมีชีวิตรอดต่อไปมั้ย! ”
พอได้ยินเจมน่าพูดแบบนั้น วรชิตก็สบายใจขึ้น เขายิ้ม “จิเป็นคนที่ชอบคิดแทนคนอื่น การที่เธอทำแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจหรอก! ” หลังจากพูดจบวรชิตก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็เดินลงไปชั้นล่าง
เจมน่ายืนอยู่ตรงนั้น มองแผ่นหลังของวรชิต พร้อมกับมองไปที่เหตุการณ์ที่ดูมีชีวิตชีวาด้านล่าง แต่กลับไม่ได้รู้สึกอิจฉาอะไร ในทางตรงกันข้ามเธอกลับเข้าใจ ว่าทำไมถึงมีคนชอบจิดาภาเยอะแยะมากมายขนาดนั้น
พอคิดถึงตรงนี้ ก็เหมือนกับว่าเธอตัดสินใจอะไรบางอย่าง แล้วก็เดินกลับไปในห้องของตัวเอง
หลังจากนั้นสองวัน จิดาภาก็ยังโดนโอ๋เหมือนกับว่าเป็นสมบัติ แผลก็หายเร็วอยู่ ถึงแม้ว่าจะยังไม่หายดีทั้งหมด แต่ว่าก็เริ่มตกสะเก็ดช้าๆ แล้ว วันนี้เอง จิดาภาก็ได้รับสาย เจมน่าเป็นคนโทรมา อยากนัดเธอให้ไปเจอกัน ไม่มีทางเลือก จิดาภาต้องทำตามคำสั่งที่เข้มงวดของคุณหญิง ให้คนขับรถไปส่ง ที่จริงจิดาภาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าพวกเธอก็อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แล้วทำไมเจมน่าต้องนัดให้มาเจอกันข้างนอกด้วย แต่ว่าในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ออกไป ในร้านอาหาร ทั้งสองคนนั่งตรงข้ามกัน จิดาภามองหน้าเธอ “มีเรื่องอะไรที่พูดที่บ้านไม่ได้ด้วยหรอ ก็เลยต้องนัดออกมาข้างนอก! ” เจมน่ายิ้ม “แน่นอนว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน ที่มาที่นี่ ก็เพราะว่าอยากจะแสดงความขอบคุณที่เธอช่วยชีวิตฉัน แล้วก็มีเรื่องอยากจะพูดด้วย! ” จิดาภายิ้ม กินสลัดผลไม้ที่อยู่ตรงหน้าลงไป “มีเรื่องอะไรหรอ? ” เจมน่าคิดอยู่ซักพัก แล้วก็พูดว่า “ฉันจะกลับไปมาเลเซียแล้ว! ” จิดาภาอึ้งไป มองหน้าเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ “กลับไปงั้นหรอ? ” เจมน่าพยักหน้า “บินเย็นนี้แหละ! ” “ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น?! ” “ความจริง ฉันก็คิดมานานแล้ว ตั๋วก็จองไว้ตั้งนานแล้ว แต่ว่าฉันแค่มาพูดวันนี้แค่นั้นเอง! ” เจมน่ามองหน้าจิดาภาแล้วพูดออกมานิ่งๆ น้ำเสียงก็สงบ จิดาภากะพริบตาภายใต้ขนตาที่เรียวยาว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะพูดว่าอะไรถึงจะดี เจมน่าก็พูดต่อ “พี่จิ เรื่องทุกอย่างที่ฉันเคยทำให้เธอก่อนหน้านี้ ก็ขอโทษด้วยนะ ฉันเองก็ยอมรับ ว่าฉันชอบพันเดช แต่ว่า เขาไม่ได้ชอบฉัน เขากับฉัน เป็นแค่ความสัมพันธ์แบบพี่ชายน้องสาวเท่านั้น แล้วก็ ความรับผิดชอบ! ” “ที่จริงเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีนั้น ก็จะโทษเขาทั้งหมดไม่ได้ ฉันเป็นคนขึ้นไปนั่งเองและไม่ยอมลงมา เพราะฉะนั้น ที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบก็ได้ แต่ว่า หลังจากที่ฉันรู้ว่าเขารู้สึกผิด ก็เลยใช้ข้ออ้างนี้ ในการอยู่ข้างเขาอย่างไร้ยางอาย! ” เจมน่ายิ้มอย่างขมขื่น เรื่องราวระหว่างพวกเขา จิดาภาก็ได้ยินมานิดหน่อย เธอก็ไม่มีทางไปวิจารณ์อะไรได้ และก็ไม่สามารถไปเข้าอกเข้าใจได้ ถ้าเกิดว่าไม่ได้เกิดเรื่องกับตัวเอง ก็ไม่มีทางเข้าใจได้เลย “ตอนนี้ ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ว่าเขาไม่เคยรักฉันเลย มันเป็นแค่ความปรารถนาของฉันแค่คนเดียว! ” เจมน่าพูดนิ่งๆ น้ำเสียงดูขมขื่นเล็กน้อย ต้องเผชิญหน้ากับความก้าวร้าว ความคมกริบของเธอ จิดาภาก็สามารถรับมือได้อย่างสบายๆ แต่ว่าอยู่ดีๆ เธอก็เป็นแบบนี้ จิดาภากลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ที่แท้ เธอก็ไม่เหมาะกับรูปแบบที่ซึ้งใจแบบนี้! “พี่จิ ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ฉันทำเรื่องที่ทำร้ายเธอเยอะแยะ แต่ว่าเธอไม่ใช่แค่ไม่โทษฉัน แต่ยังช่วยชีวิตฉันอีก! ” เจมน่ามองหน้าเธอและยิ้ม จิดาภายิ้ม “เธอไม่ต้องพูดถึงฉันใหญ่โตขนาดนั้นหรอก สถานการณ์ตอนนั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ฉันก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าตอนนั้นฉันไม่คิด ว่านิสนธิ์จะบ้าถึงขั้นนั้น! ” “แต่ว่า เธอยังคิดให้ฉันหนี! ” เจมน่ารู้ดีว่า ในสถานการณ์ตอนนั้น จิดาภาทำแบบนั้นเพื่อถ่วงเวลาให้เธอหนี จิดาภายิ้ม แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ “เธอกับผู้หญิงคนก่อนๆ ของพันเดชไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันขออวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขนะ! ” เจมน่าพูด “มีคำอวยพรจากเธอ ฉันเชื่อว่าพี่พันเดชของเธอต้องมีความสุขแน่ๆ แล้วเธอจะไปเมื่อไหร่ เขารู้รึยัง? ” เจมน่าส่ายหน้า “เขาไม่รู้ ฉันไม่ได้บอกเขา และเธอก็ห้ามบอกเขาด้วย! ” “ทำไมล่ะ? ” “เขาน่าจะยังโกรธเรื่องที่เธอบาดเจ็บอยู่แหละ ไม่ว่าจะยังไง พี่จิ อย่าบอกเขานะ! ” เจมน่ามองหน้าจิดาภาแล้วพูด สายตาแน่วแน่ ดูเหมือนว่าไม่อยากจะให้บอกพันเดชจริงๆ “เจมน่า เธอคิดมากเกินไปแล้ว ต่อให้เขาโกรธเธอ แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เขาก็น่าจะไม่โกรธแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขาอาจจะไม่ได้โกรธเธอก็ได้ แค่ตอนนั้นเครียดมากไปหน่อยแค่นั้นเอง! ” จิดาภาพูดออกมานิ่งๆ ตอนนี้เธอสามารถรู้สึกได้ ถึงความรู้สึกรับผิดชอบที่พันเดชมีให้เธอ “ก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ปเถอะ……”เจมน่าพูดออกมานิ่งๆ “แต่ว่าพี่จิ ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้? ” “หืม? ” จิดาภาเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “มีผู้หญิงคนไหนโง่เท่าเธออีกมั้ย ถ้าเกิดว่าฉันจะไป แล้วพันเดชไปส่งฉัน แล้วฉันทำใจจากไปไม่ได้ทำยังไง? ” เจมน่าถามออกมา จิดาภาก็ยิ้ม “ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนนี้ฉันก็ไม่ยืนอยู่ตรงนี้หรอก! ” “ถึงยังงั้น ก็ระวังไว้หน่อยก็ดี ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรเหมือนกับฉันหรอกนะ”เจมน่าพูด ก็จริง พันเดชนั้นมีคนมากมายคอยล้อมรอบ ถึงแม้ว่าเจมน่าจะเล่นงานด้วยความคิดอย่างรอบคอบ แต่ว่าก็ไม่เคยทำให้จิดาภาต้องเจ็บตัวเลยซักครั้ง ความรัก ก็แบบนี้ ทำให้คนอิจฉา ทำให้คนหลงทาง และก็ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะทำสิ่งต่างๆ มากมาย แต่ว่าเธอก็ไม่ได้เหมือนกับจุฑา เพื่อความรัก ทำร้ายคนอื่นอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น บางทีนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผล ที่จิดาภาเกลียดเจมน่าไม่ลง “ฉันรู้แล้ว! ” จิดาภายิ้มแล้วพูดออกมา เจมน่าก้ยิ้มเหมือนกัน ทั้งสองคนก็กินข้าวกัน หลังจากกินข้าวเสร็จ คนขับรถไปส่งจิดาภา และเจมน่าก็ตรงไปที่สนามบินเลย จิดาภาไม่สามารถไปส่งเธอที่สนามบินได้ แต่พอคิดว่าเจมน่าจะจากไปแบบนี้ เธอก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย หลังจากคิดอยู่ซักพัก ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพันเดช แต่ว่าก็ไม่มีใครรับสาย จิดาภาโทรอีก แต่ว่าก็ไม่มีใครรับสายเลย สุดท้าย จิดาภาก็โทรหาเลขาของเขา “ลินดา ประธานพันเดชล่ะ? ”จิดาภาถาม “ประธานพันเดชประชุมอยู่ค่ะ โปรเจ็คหนึ่งเกิดปัญหานิดหน่อย ประชุมไปหนึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ! ” “สำคัญมากเลยหรอ? ”จิดาภาถาม “ใช่ค่ะ! ” ถ้าสำคัญขนาดนั้น จิดาภาก็ไม่ได้ให้เลขาไปขวาง ได้แต่บอกว่า “ถ้าเกิดว่าประธานพันเดชออกมาแล้ว ให้เขาโทรหาฉันทันทีเลยนะ! ” “ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ! ”เลขาตอบรับ หลังจากนั้นก็วางสายไป จิดาภานั่งลง มองโทรศัพท์ เวลาผ่านไปทุกวินาที แต่ว่าโทรศัพท์ก็ยังไม่ดังเลย จนถึง หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น แต่ว่าไม่ใช่พันเดช แต่กลับเป็นเจมน่า เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็รับสายทันที “ฮัลโหล……” “พี่จิ ตอนนี้ฉันอยู่สนามบินเตรียมจะขึ้นเครื่องแล้ว แต่ว่าก่อนที่ฉันจะไป ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกเธอ! ” “เรื่องอะไร? ” “ถ้าเกิดว่าฟังเรื่องนี้ไปแล้ว ฉันแค่หวังว่า เธอยังจะรักพันเดชต่อไปนะ! ”เจมน่าพูด จิดาภาถือโทรศัพท์ ฟังเจมน่าพูด “อันที่จริงตอนแรกที่พันเดชออกไปทำงานเมืองนอก ก็คือครั้งที่เครื่องบินขาดการติดต่อนั้น โครงการตอนนั้น ก็เป็นฝีมือของพี่ชายเธอ เพราะฉะนั้นถึงได้ลงแรงมากขนาดนั้น ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเขา พันเดชก็ไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบินลำนั้นกลับ และก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุ! ” พอได้ยินแบบนี้ จิดาภาได้แต่รู้สึกว่ามีเสียงหึ่งอยู่ในหู รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย “เครื่องบินขาดการติดต่อ ฉันได้รับโทรศัพท์จากลาภิศก็เลยรีบตามไป ตอนนั้นพี่ชายของเธอก็ยังคงโจมตีโครงการของพันเดชไม่หยุด เรื่องนี้ ฉันคิดว่าเขาน่าจะยังไม่เคยบอกเธอ เขารักเธอจริงๆ ……” จิดาภาไม่คิดเหมือนกันว่า เจมน่าจะพูดเรื่องนี้ เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ “ท่านผู้โดยสายโปรดทราบ เที่ยวบินไปมาเลเซียกำลังจะเรียกขึ้นเครื่องแล้ว……” ตอนนี้เอง เสียงประกาศของสนามบินก็ดังเข้ามาในโทรศัพท์ เจมน่าถือโทรศัพท์ “พี่จิ ฉันต้องขึ้นเครื่องแล้วนะ ลาก่อน! ” จิดาภาถือโทรศัพท์อยู่ เจมน่าตัดสายไปแล้ว มองที่โทรศัพท์ ในหูของจิดาภายังได้ยินคำพูดที่เจมน่าพูดกับเธอเมื่อกี้อยู่เลย……เธอพูดความจริงงั้นหรอ? แต่ว่า ตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรต้องโกหกเธอแล้วนี่! ถ้าเกิดว่ามันคือความจริง…… ในหัวของเธอคิดถึงตอนที่เครื่องบินของพันเดชขาดการติดต่อไป เธอไปหาเปรมศักดิ์ ตอนนั้น เธอก็เห็นผู้ช่วยของเขาเดินออกไปด้วยความตื่นตระหรก แล้วอีกอย่าง เธอขอให้เปรมศักดิ์ช่วยเธอ แต่ว่าเขาก็เอาแต่ปฏิเสธ……พอตอนนี้มาคิดดูแล้ว มันก็น่าสงสัยจริงๆ