หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 787 ปกป้องตัวเอง
ตอนที่ 787 ปกป้องตัวเอง
พอได้ยินคำพูดของการันต์ เปรมศักดิ์ถึงได้พยายามกดความโกรธของตัวเองไว้ แต่ว่าสายตาก็ยังไม่ลืมที่จะมองพันเดชและเจมน่าด้วยสายตาเตือน
มองเปรมศักดิ์เดินเข้ามาหา เจมน่าก็ยืนอยู่ตรงนั้น มองหน้าพันเดช ยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ว่าคำพูดทั้งหมดก็ติดอยู่ที่คอพูดอะไรไม่ออก
“พันเดช……”ตอนที่ประโยคนี้ออกมานั้น เธอก็รู้สึกเวียนหัว วินาทีหลังจากนั้น เธอก็เป็นลมไป
“เจมน่า เจมน่า……”
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
ในห้องผู้ป่วย
พันเดชนั่งอยู่ข้างเตียงของจิดาภา จับมือของเธอไว้ สายตาจ้องไปที่เธอ รอให้เธอตื่นขึ้นมา
ทุกนาที ทุกวินาที เหมือนกับว่าเป็นความทรมาน
สุดท้าย จิดาภาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเล็กน้อย ขนตาของเธอขยับ พันเดชดีใจมาก “จิ จิ……” เขาเปลี่ยนชื่อเรียกเธอ
จิดาภาขมวดคิ้ว แล้วก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ตอนที่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้านั้น เธอถึงได้พูดออกมา “พันเดช……”
“เธอเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนรึเปล่า? บอกฉันมาเลย! ” เขาพูดออกมาอย่างร้อนรน ท่าทางดูเป็นกังวลมาก ทำให้คนรู้สึกประทับใจ
จิดาภาส่ายหน้า หลังจากนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ลูก ลูก……”พึ่งจะตื่นขึ้นมา ยังรู้สึกอ่อนแอนิดหน่อย แต่ว่าท่าทางที่กังวลของเธอนั้น กลับทำให้ตาของพันเดชแดงขึ้นมาทันที
เขาจับมือเธอแน่น “ลูกไม่ได้เป็นอะไร เธอไม่ต้องเป็นห่วง เขาไม่ได้เป็นอะไร! ”
พอได้ยินแบบนี้ จิดาภาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วก็ค่อยๆ หลับตาลง
ตอนนี้เอง จันทนีก็เดินเข้ามา “จิ มีตรงไหนไม่สบายรึเปล่า ถ้าเกิดว่ามี ต้องบอกทันทีเลยนะ! ”
พอมองตามเสียงไป แล้วเห็นจันทนีนั้น จิดาภาก็พูดออกมา “แม่……”
เธอก็พึ่งสังเกตเห็นว่า ทุกคนอยู่ในห้องนี้หมดเลย
“ทุกคนมาหมดเลยหรอคะ? ”
“เกิดเรื่องขึ้นกับเธอ พวกเราจะไม่เป็นห่วงได้ยังไงกัน! ”จันทนีตอบ
“ใช่ จิ ย่าตกใจจนเกือบจะจากโลกนี้ไปแล้วนะ! ” คุณหญิงพูดออกมา
“ขอโทษค่ะ ที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง! ”จิดาภาตอบ
“ยัยบื้อ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเธอไม่เป็นอะไรต่างหาก! ”
จิดาภาส่ายหน้า “หนูไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ! ” เธอคิดอยู่ว่า ขอแค่ลูกไม่ได้เป็นอะไร เธอก็สบายแล้ว
ตอนนี้เอง พันเดชก็มองหน้าเธอ “พอแล้ว เธอพึ่งจะฟื้นขึ้นมา อย่าพูดอะไรเยอะเลย พักผ่อนให้เยอะๆ! ” จิดาภาพยักหน้า หลังจากนั้นก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ “ใช่สิ แล้วนิสนธิ์ล่ะ? เจมน่าด้วย? ” “เขาโดนจับไปแล้ว วางใจเถอะ! ” “แล้วเจมน่าล่ะ? ” “เธอก็ไม่ได้เป็นอะไร! ” ตอนนี้เองจิดาภาถึงได้สบายใจ “พักผ่อนเยอะๆ ไม่ต้องคิดให้มากมาย! ”พันเดชกำชับ จิดาภาก็พยักหน้า พอเห็นว่าจิดาภาไม่ได้เป็นอะไร หลังจากคนในห้องทักทายเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยๆ แยกย้าย คุณหญิงเองก็ตกใจมากเหมือนกัน แล้วก็กลับไปพร้อมกับคุณหญิงภารดี จันทนีกับการันต์และเปรมศักดิ์อยู่นานกว่าหน่อย หลังจากนั้นพอมั่นใจว่าจิดาภาไม่เป็นอะไรแล้วก็กลับไป จนถึงตอนที่ในห้องเหลือแค่พันเดชกับจิดาภา “เป็นยังไงบ้าง? หิวมั้ย? คอแห้งรึเปล่า? ” พันเดชถาม จิดาภาส่ายหน้า มองหน้าเขา “ไม่หิว และก็ไม่คอแห้งด้วย! ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ดวงตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาพันเดชมองหน้าเธอ พอเห็นว่าตาเธอเดง ก็รู้สึกใจเต้น ยื่นมือออกไป ลูบผมของเธอ “รับปากฉัน หลังจากนี้ไป ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ไม่ว่าเป็นใคร ก็ต้องปกป้องตัวเองก่อน เรื่องแบบวันนี้ ฉันไม่อยากจะให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง……ฉันยอมให้คนที่โดนเป็นฉันมากกว่า! ” จิดาภามองหน้าเขา ตาแดง น้ำตาใสๆ ก็คลออยู่ในดวงตาของเธอ “ต่อให้ไม่ใช่เพื่อฉัน แต่ก็ถือว่าเพื่อลูกของเรา อย่าทำให้ฉันต้องเจ็บปวดของความรู้สึกที่เกือบจะสูญเสียเธอไปอีก ฉันยอมให้เธอเห็นแก่ตัว แต่ต้องปกป้องตัวเองก่อน! ” เขาพูด น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความวิงวอน จิดาภาพยักหน้า และน้ำตาก็ไหลออกมา “อืม! ” พันเดชช่วยเช็ดน้ำตาให้เธอ ตาเขาเองก็แดงเหมือนกัน ใช้เวลานานกว่าจะพูดประโยคนี้ออกมา “จิดาภา ฉันรักเธอ……”จิดาภาร้องไห้แล้วยื่นมือออกไป พันเดชก็กอดเธอไว้ ความจริงแล้ว เขารู้ดีว่า ที่จิดาภาทำแบบนี้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าทนดูเฉยๆ ไม่ได้ แต่ว่าเป็นเพราะเขาด้วยจิดาภาที่เป็นแบบนี้ จะทำให้เขาไม่ปวดใจได้ยังไง จะทำให้เขาไม่รักได้ยังไง? ตอนที่จิดาภาเริ่มนิ่งขึ้นนั้น พันเดชก็เลยสบายใจขึ้นนิดหน่อย แต่ว่าก็พิถีพิถันกับจิดาภามาก หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่ยังไม่กลับ ไม่ใช่สิ ถ้าให้พูดตามจริงก็คือ มีสองคน เปศลกับปวีร์เดินเข้ามา ตอนที่เห็นจิดาภารอดพ้นจากอันตรายแล้วนั้น ก็เลยวางใจ “คุณเปศล?”ตอนที่เห็นเขานั้น จิดาภาก็รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย เปศลมองหน้าเธอ สายตาของเขาอ่อนโยนมาก “เป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ” จิดาภาส่ายหน้า “ฉันไม่ได้เป็นอะไร คุณมาได้ยังไงคะเนี่ย? ” “มาตรวจร่างกายที่นี่พอดี พอรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเธอก็เลยมาดูหน่อย! ”เปศลพูดออกมา พอได้ยินดังนั้น พันเดชที่นั่งอยู่ก็เงยหน้ามองหน้าเขา เขาโกหก! การบริจาคเลือดไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่าทำไมเขาถึงไม่บอกจิดาภา แถมยังโกหกเธออีก จิดาภายิ้ม “ขอบคุณค่ะ แล้วตรวจเป็นยังไงบ้างคะ? ไม่ได้มีเรื่องอะไรใช่มั้ย? ดูสีหน้าคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย! ” “ฉันก็แค่เจาะเลือดเอง ก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไร! ”เปศลตอบ “ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว พอถึงเวลางานแต่งของพวกเรา คุณต้องมาด้วยนะคะ! ” เปศลพยักหน้า “แน่นอน! ” จิดาภายิ้มออกมา “โอเค ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ถ้ายังงั้นฉันกลับก่อนนะ เดี๋ยววันหน้าฉันมาเยี่ยมเธอใหม่! ” “อืม เดินทางปลอดภัยระวังๆ ด้วยนะคะ! ” เปศลพยักหน้า แล้วก็ออกไป ปวีร์ยืนอยู่ตรงนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเปศลถึงพูดแบบนั้น สายตาสอดส่องไปที่จิดาภา แล้วก็เดินตามเขาออกไป พันเดชนั่งอยู่ตรงนั้น มองหน้าจิดาภา “เดี๋ยวฉันออกไปส่งเขานะ! ” จิดาภาพยักหน้า พันเดชก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ลึกเข้าไปในทางเดิน ตอนนี้ดึกแล้ว ไม่มีใครแล้ว “คุณเปศล!”พันเดชเรียก เหมือนกับว่ารู้ว่าเขาจะตามมา เปศลหันหน้ากลับมา “ยังมีเรื่องอะไรอีกงั้นหรอ? ” “ขอบคุณที่วันนี้คุณบริจาคเลือดให้จินะครับ! ” “เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องขอบคุณหรอก! ” พันเดชมองหน้าเขา “แต่ว่า มันเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนั้น ที่คุณมาตรวจร่างกายที่นี่พอดีหรอครับ? ”“ไม่ยังงั้นล่ะ? ”เปศลถามกลับ พวกเขาทั้งสองคนคุยกันเป็นประโยคย้อนไปย้อนมา ใครก็ไม่ยอมตอบคำถามแบบชัดเจน พันเดชไม่ไปไล่ตามเรื่องนี้ แต่ก็พูดออกมา “แต่แค่ไม่คิดว่าคุณเปศลก็จะมีเลือด RH-เหมือนกัน! ” เปศลยิ้ม “มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่น่าสงสัยนิ ยังไงเรื่องที่นึกไม่ถึง เรื่องที่คุณคิดไม่ถึง ก็มีอีกเยอะ! ” พันเดชมองหน้าเขา ดวงตาที่ลึกซึ้งเหมือนกับว่าจะมองเปศลให้ทะเล เขารู้สึกว่า เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดาขนาดนั้น มันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง “ดูแลเธอให้ดี อย่าให้เธอได้รับบาดเจ็บอีกแม้แต่นิดเดียว! ” “ทำไมไม่บอกเธอ ว่าคุณเป็นคนบริจาคเลือดให้? ” “ฉันไม่อยากให้เธอรู้สึกผิด แล้วเอาแต่ขอบคุณ! ” “แค่นั้นหรอครับ? ” “แค่นั้นแหละ! ”เปศลตอบอย่างมั่นใจมาก พันเดชมองหน้าเขาอยู่นาน เปศลพูดออกมา “ถ้าเกิดว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะ! ” “ครับ คุณเปศลเดินทางปลอดภัยนะครับ! ” “แน่นอน! ” หลังจากตอบ เปศลก็เดินไปด้านหน้า ปวีร์ก็ตามมาด้านหลัง มองดูแผ่นหลังของเขา พันเดชก็หรี่ตาลง แล้วก็ยิ้มออกมา “มาตรวจร่างกายที่นี่ตอนกลางคืน ข้ออ้างนี้……ไม่เลวเลย! ” ตอนที่กลับมาที่ห้องนั้น จิดาภาก็กำลังพยายามจะลุกขึ้นมา พอพันเดชเห็น ก็รีบเดินเข้าไป แล้วก็ช่วยเธอหาท่าที่นั่งสบาย “ทำไมถึงจะลุกขึ้นมาล่ะ? ” “เอาแต่นอนแล้วรู้สึกอุดอู้น่ะ เพราะฉะนั้นก็อยากจะนั่ง คุณเปศลกลับไปแล้วหรอ? ”จิดาภาถาม พันเดชพยักหน้า ดึงเก้าอี้มานั่งตรงหน้าเธอ “เป็นยังไงบ้าง? หิวมั้ย? ” จิดาภาส่ายหัว “ไม่หิว! ” “เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่ อยากกินอะไรก็บอกฉันนะ! ” จิดาภาพยักหน้า เอามือแตะหน้าท้องเบาๆ รู้ว่ามีเขาอยู่ เธอก็รู้สึกสบายใจแล้ว เธอรู้สึกเสียใจนิดหน่อย ถ้าเกิดว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะก็ เธอต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ แต่โชคดีที่มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น