หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 786 ปกป้องตัวเอง
ตอนที่ 786 ปกป้องตัวเอง
เจมน่าต่อสู้ ถอยหลัง ยังไงก็ไม่ยอมให้เขา
แต่เหมือนกับว่า มันยั่วให้นิสนธิ์โกรธ เขาเริ่มใช้วิธียื้อแย่งแล้ว ค้นตัวเธอตามอำเภอใจ
“นิสนธิ์ ปล่อยฉันนะ ถ้านายยังเป็นแบบนี้อยู่ พันเดชไม่มีวันปล่อยนายไปแน่! ”เจมน่าตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แล้วก็พูดชื่อพันเดชออกมา เวลาแบบนี้ คนที่นึกถึง ก็มีแต่เขาเท่านั้น
แต่ทว่า ชื่อเขาสำหรับนิสนธิ์แล้วนั้น มันเป็นเหมือนคำสาป!
ธนาคารไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้เขา หลายๆ คนก็ไม่ยอมมอบทุนจดทะเบียนให้เขา ส่วน ส่วนมากก็เป็นเพราะว่าพันเดช ตอนนี้พอเจมน่าพูดถึงคนๆ นี้ขึ้นมา เขาก็เหมือนเป็นบ้าขึ้นมาทันที ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวไปหมด “พันเดช? จนถึงตอนนี้เธอยังนึกถึงเขาอยู่อีกหรอ? เธอลองดูแล้วกันว่าตอนนี้เขาจะมาช่วยเธอได้มั้ย……”ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็ยิ้มอย่างโหดร้าย แล้วก็ผลักเจมน่าลงพื้น
หัวของเจมน่า ชนกับขอบโต๊ะไม้ สมองเบลอไปหมด
เธอเงยหน้ามองหน้านิสนธิ์ที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ มองดูเขาค่อยๆ เดินเข้ามาทีละก้าว เธอถึงได้รู้สึกกลัว
“นาย นายคิดจะทำอะไร? ” เจมน่าอยากจะถอยหลัง แต่ว่าตอนนี้เวียนหัวมากเกินไป เธอไม่สามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้
“ทำอะไรน่ะหรอ? เธอรอให้พันเดชมาหาเธออยู่ไม่ใช่หรือไง? ดูซิว่าเขาจะมาช่วยเธอรึเปล่า……”ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็ก้าวเข้ามาใกล้เจมน่าเรื่อยๆ
และในตอนนี้เอง จิดาภาก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู หลังจากเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ขมวดคิ้ว “นิสนธิ์ นายคิดจะทำอะไร? ”
พอได้ยินเสียงด้านหลัง นิสนธิ์ก็หันกลับไป ตอนที่เห็นจิดาภานั้น ก็ขมวดคิ้วแน่น เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
แต่ว่าจิดาภากลับวิ่งเข้ามา เห็นเจมน่าที่นั่งอยู่ที่พื้น “เจมน่า เจมน่า เธอเป็นยังไงบ้าง? ”
“ฉันไม่เป็นไร เขา เขาเป็นบ้าไปแล้ว……”เจมน่าพูดออกมาอย่างหวาดกลัว หน้าเธอซีดมากตอนนี้
ตอนนี้เอง จิดาภาก็มองหน้านิสนธิ์ “นิสนธิ์ นายคิดจะทำอะไร? ”
“คิดจะทำอะไรงั้นหรอ? เธอคิดว่าไงล่ะ? ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่าพันเดช ฉันจะเปลี่ยนมาเป็นสภาพนี้มั้ย! ”
“นายเล่นหุ้นจนเสียเงิน แอบใช้เงินสาธารณะ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของนายเอง แล้วนายไปโทษคนอื่นได้ยังไง?! ” จิดาภามองหน้าเขาแล้วพูดออกมาทีละคำอย่างชัดเจน
พอเห็นเธอพูดออกมาอย่างถูกต้องแบบนี้ นิสนธิ์กลับหัวเราะออกมา “ดูเหมือนว่า เธอน่าจะรู้เรื่องอย่างชัดเจนแล้วสินะ? ”หลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็กลับมาบิดเบี้ยวอีกครั้ง และทำท่าทีน่ากลัว “แล้วมันยังไงกัน? เล่นหุ้นเป็นเรื่องปกติจะตาย ถ้าเกิดว่าไอ้พันเดชนั่นไม่ได้แอบขัดขวางอยู่ ทำไมฉันถึงยืมเงินไม่ได้เลยล่ะ เรื่องพวกนี้ ต้องขอบคุณมันด้วย! ” นิสนธิ์ตะคอกออกมา
“นายคิดมากเกินไปแล้ว เขาไม่เคยสนใจเรื่องของนายเลยแม้แต่นิดเดียว และก็ไม่มีวันเอื้อมมือมายุ่งเรื่องของนายด้วย! ”จิดาภาพูด เรื่องนี้เธอกล้ารับประกัน แม้ว่า พันเดชจะรู้สึกสงสัยเขา แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่งมาก่อน แต่ไม่คิดเลยว่า นิสนธิ์กลับผลักเรื่องพวกนี้ให้พันเดช
“เหอะ เธอคิดว่าฉันจะเชื่อยังงั้นหรอ? ตอนนี้ก็ดีเลย ที่เธอมาที่นี่ ฉันไม่กลัวหรอกนะว่ามันจะมายุ่งเรื่องของฉันอีก! ”นิสนธิ์หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ดวงตาที่มืดมนของเขาทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
เห็นว่าเธอค่อยๆ เดินเข้ามาทางพวกเขา จิดาภาก็พูดออกมา “นิสนธิ์ นายคิดจะทำอะไร? นายอยากได้เงินไม่ใช่หรอ? นายอยากได้เท่าไหร่ ฉันจะให้นายเอง! ”
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อยังงั้นหรอ? ”
“ถ้ายังงั้นนายจะเอายังไง? ทางที่ดีนายควรใจเย็นหน่อย เพราะว่าตอนที่ฉันขึ้นมานั้น ฉันแจ้งตำรวจแล้ว! ” จิดาภามองหน้าเขาแล้วพูดออกมา สายตาของเธอจ้องหน้าเขานิ่ง ไม่ลืมที่จะมองไปรอบๆ พยายามคิดว่าจะหาทางหนีออกไปยังไง
“แจ้งตำรวจ? เหอะ ตอนนี้ฉันไม่ได้ต่างอะไรกับความตายเท่าไหร่ แล้วคิดว่าฉันจะกลัวตำรวจหรอ? ” ตอนที่พูดอยู่นั้น เขาก็เดินเข้าไปหาจิดาภา
และในตอนนั้นเอง จิดาภาก็หมอบลง แล้วพยุงเจมน่าขึ้นมา “ไปหาพันเดช! ” เธอบอก
“แล้วเธอล่ะ? ” “ตอนนี้เป้าหมายก็คือฉัน เธอรีบไปแล้ว! ” เจมน่าไม่ลังเล รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปทันที “อยากหนีงั้นหรอ? ฉันจะดูว่าเธอจะหนีไปทางไหน! ” นิสนธิ์หยุดเธอทันที ขวางทางเธอไว้ “วันนี้ ใครก็อย่าหวังจะได้ออกไปจากที่นี่! ” จิดาภาไม่ได้พูดอะไรต่อ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรออกทันที และเป็นอีกครั้ง หลังจากที่นิสนธิ์เห็น ก็เดินเข้ามาหาเธอ แล้วก็ทำลายโทรศัพท์เธอ “อยากโทรออกงั้นหรอ? เดี๋ยวฉันให้เธอโทรแน่! ” หลังจากพูดจบ เขาก็ตบหน้าจิดาภาอย่างแรง เจมน่าตะลึง “ยังไม่รีบไปอีก! ”จิดาภาตะคอกใส่เธอ ถ่วงเวลาไว้เพื่อให้เธอหนีไป แต่ว่าเธอกลับยืนอึ้งอยู่ตรงนี้ เจมน่าตั้งสติได้ แล้วก็เตรียมจะวิ่งออกไป แต่ว่าตอนนี้เอง นิสนธิ์ก็เดินเข้ามา แล้วบีบคอของจิดาภาไว้ “เธอกล้าหลอกฉันหรอ? ” จิดาภาที่โดนแบบคออยู่นั้น รู้สึกว่าหายใจไม่ออก เธอมองหน้าเขา แล้วก็ค่อยๆ พูดออกมา “นิสนธิ์……นายรู้ตัวมั้ยว่านายกำลังทำอะไรอยู่? ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะ ถ้าฆ่า……ฉัน นายไม่มีวันหนีรอดหรอก! ”“เจมน่า……ต้องพาคนมาแน่นอน! ”จิดาภาพูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่คำพูดของเธอ ทำให้นิสนธิ์ลังเลเล็กน้อย ในตอนที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น จิดาภาก็คลำหาของที่อยู่บนโต๊ะได้ แล้วก็ฟาดไปที่หัวของเขา “โอ๊ย——” พอได้ยินเสียงร้อง จิดาภาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาอะไรฟาดหัวเขาไป แต่พอเห็นว่ามือของเขาหลวมลง จิดาภาก็อาศัยโอกาสนี้วิ่งออกไปที่ประตู ตั้งสติได้ ตอนที่เห็นว่าจิดาภาวิ่งไปที่ประตูนั้น ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายความอยากฆ่า “อยากหนีงั้นหรอ? ” เขามองมีดปอกผลไม้ด้านข้าง แทบจะไม่ได้ลังเลเลยซักนิด แล้วก็พุ่งเข้าไปที่จิดาภาทันที มีดปอกผลไม้เสียบเข้าไปที่หลังของจิดาภา…… เลือดสาดกระจาย ในโรงพยาบาล จิดาภานอนอยู่บนรถเข็น โดนเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป พันเดชมองหน้าจิดาภา แล้วก็จับมือของเธอแน่น จนถึงประตูนั้น พยาบาลก็บอกเขาว่า “ขอให้ญาติรอด้านนอกนะคะ……” พวกเขาถึงได้แยกออกจากกัน พันเดชมองดูจิดาภาโดนส่งตัวเข้าไป หน้าซีดอย่างรุนแรง สีหน้าของความกังวล เป็นอะไรที่ไร้คำอธิบาย เจมน่าก็ยืนอยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉิน ในเวลานั้น ความรู้สึกในใจของเธอมันพัวพันกันมากมาย ยากที่จะอธิบายได้ เธอมองหน้าพันเดช ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะพูดอะไรถึงจะดี หลังจากคิดอยู่นาน ถึงได้พูดออกมา “พันเดช ฉันขอโทษ……” พันเดชได้แต่เหลือบมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เขาพยายามกดความโกรธของตัวเองไว้อย่างมาก ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่เดินไปด้านข้าง นั่งลงที่เก้าอี้ ริมฝีปากเม้มแน่น ตอนนี้ไม่สามารถบรรยายได้เลยว่าเขากำลังรู้สึกอะไร และในตอนนี้เอง คนของตระกูลสวันนีย์ และตระกูลฐิตานันท์ก็ตามมา “พันเดช เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมจิอยู่ดีๆ ถึงเข้าโรงพยาบาลได้? ”ตอนที่คุณหญิงตามมาถึงนั้นก็มองหน้าพันเดชแล้วก็ถามอย่างเป็นกังวลมาก พันเดชไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไง ก็เลยได้แต่เงียบ การันต์กับจันทนีก็ตามมาเหมือนกัน มองที่ประตูห้องฉุกเฉิน ตอนนี้เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าประโยคที่ว่าจิดาภาปลอดภัยหรอก “พ่อ แม่ ขอโทษนะครับ……ผมไม่ได้ปกป้องจิให้ดี! ”ประโยคขอโทษนี้ เขาพูดกับคู่สามีภรรยาบริษัทธีร์อธิศ การันต์กับจันทนีได้แต่มองหน้าพันเดช สีหน้าของพวกเขาจริงจังและหนักแน่น แต่ว่าก็ไม่ได้ตำหนิอะไร “รอให้ได้ข่าวคราวจากจิก่อนแล้วค่อยว่ากัน! ” ……เรื่องนี้ แม้แต่ปวีร์ก็ได้ข่าวเหมือนกัน หลังจากที่แจ้งเปศล พวกเขาก็รีบตามมา เพียงแค่ พอเห็นว่าหน้าประตูมีคนเยอะมาก ทั้งตระกูลสวันนีย์ ตระกูลฐิตานันท์ ก็ต่างรออยู่ แล้วเขา ก็เลยได้แต่มองอยู่ด้านหลังไกลๆ ……ไม่นาน พยาบาลก็ออกมา สีหน้าร้อนรน “ท่านไหนคือญาติคะ? ” “ฉันเอง! ” “ผม! ” “ฉัน! ” พันเดชกับคู่สามีภรรยาตระกูลสวันนีย์ก็ลุกขึ้นทันทีพยาบาลมองพวกเขา แล้วก็พูดออกมาตรงๆ “ผู้ป่วยมีเลือดRH- ตอนนี้เลือดในคลังของเรามีไม่พอ ต้องการได้รับการถ่ายเลือดตอนนี้ ไม่ยังงั้นเด็กจะตกอยู่ในอันตราย! ” เพียงประโยคเดียว เหมือนกับมีดกรีดลงที่หัวใจของพันเดช การันต์กับจันทนีมองหน้ากัน แล้วก็เงียบ วรชิตก็มองหน้าพวกเขาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาว่ายังไง “พวกคุณใครมีบ้างคะ? ” พยาบาลถามออกมา ทุกอย่างเงียบสงัด…… คุณหญิงเห็นว่าพวกเขาดูร้อนรน “การันต์ คุณหญิงจันทนี พวกเธอใครมีบ้าง? หรือว่า เปรมศักดิ์ เขาใช่มั้ย? ” ภายใต้ความเงียบที่น่าอึดอัดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง “ผมเอง! ” พวกเขาหันกลับไป ก็เห็นเปศลเดินเข้ามา ปวีร์ก็ตามมาด้านหลัง ตอนที่เห็นว่าเขาอยู่ที่นี่ พันเดชก็รู้สึกแปลกใจ แล้วอีกอย่าง เขายังมีเลือดมีเลือดRH- อีก “ได้ ถ้ายังงั้นก็มาตรวจเลือดกับฉันหน่อยค่ะ! ” เปศลพยักหน้า แล้วก็เดินตามไป ระหว่างที่เดินผ่านตรงหน้าของพวกเขานั้น ได้แต่มองหน้าพันเดช ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เดินเข้าไป หลังจากเขาเดินเข้าไปแล้ว พันเดชก็โยกตัว หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วก็โทรหาเจ๊ก “ตอนนี้รีบไปหาคนที่มีเลือดRH- ในเมืองAทั้งหมดมาให้ฉัน ดูว่าใครยินดีบริจาคเลือดบ้าง ฉันจะให้เงินก้อนใหญ่……” “ฉันมีรายชื่ออยู่! ”ในตอนที่พันเดชกำลังคุยโทรศัพท์ ปวีร์ก็พูดออกมาทันที พันเดชมองหน้าเขา ทุกคนก็มึนงง “ตอนที่กำลังมานั้น ฉันโทรสั่งเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวก็คงมีคนมา! ”ปวีร์พูดนิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้มากมาย จริงๆ มันยังมีปัญหามากมาย แต่ว่าพวกเขาก็ไม่มีกระจิดกระจิตกระใจจะไปถาม แม้จะมีคำถามมากมายในใจ แต่ว่าปัจจุบันนี้ หัวใจของทุกคนต่างอยู่ที่จิดาภาเท่านั้น “ขอบคุณ! ” ปวีร์พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองไปที่ประตูห้องฉุกเฉิน ในใจรู้สึกเป็นห่วงกับเปศล…… ผ่านไปซักพัก ก็มีคนหลายคนรีบเข้ามาบริจาคเลือด หลังจากพยาบาลพาพวกเขาไปตรวจเลือด พวกเขาก็ได้แต่รออยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน หลังจากเปรมศักดิ์ได้ยินข่าวนี้ ก็รีบออกจากห้องประชุมและขับรถออกจากบริษัทมาที่โรงพยาบาลทันที ตอนที่มาถึงหน้าห้องฉุกเฉินนั้น ตอนที่เห็นคนเยอะขนาดนั้น สายตาของเขาก็มองหน้าพันเดชทันที ก้าวยาวเข้าไป แล้วก็คว้าเสื้อตรงหน้าอกของเขาไว้ “พันเดช นายปกป้องเธอยังไง? นี่คือการปกป้องของนายยังงั้นหรอ? ” พันเดชเงยหน้ามองหน้าเขาช้าๆ สายตาที่แหลมของเขาทำให้คนอื่นไม่สามารถมองข้ามได้ “ปล่อย ฉันไม่อยากจะทะเลาะกับนายที่นี่! ” เขาพูดออกมาอย่างชัดเจน เสียงไม่ดัง แต่ว่ามันก็ขรึมเหมือนกับประโยคคำสั่ง “พันเดช ถ้าเกิดว่าเรื่องอะไรขึ้นกับจิล่ะก็ ฉันไม่มีวันปล่อยนายไปแน่! ” เปรมศักดิ์พูดออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ และก็ไม่ได้สนใจว่าจะอยู่ต่อหน้าคนมากมาย พันเดชก็จับมือของเขาที่จับที่หน้าอกของตัวเองอยู่ และสะบัดออก ทั้งสองคนเกือบจะต่อสู้กัน แล้วในตอนนี้เอง เจมน่ากลับรีบพุ่งเข้ามา “เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับพันเดชเลย แต่ว่ามันเป็นเพราะฉัน……”เธอพูดออกมา ยืนอยู่ระหว่างคนสองคน เหมือนกับว่ากำลังจะปกป้องพันเดช แยกพวกเขาออกจากกัน เปรมศักดิ์มองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า สายตาหรี่ลงอย่างอันตราย หลังจากนั้นก็พูดออกมาทีละคำ ชัดเจนอย่างมากที่สุด “ไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันก็ไม่มีวันปล่อยไปแน่……” “เปรม!!!”ตอนนี้เอง การันต์มองหน้าเขาแล้วก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้น้องสาวแกยังอยู่ข้างใน แกจะใจเย็นหน่อยไม่ได้หรอ? ”