หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 775 ความรู้สึกของเจมน่า
ตอนที่ 775 ความรู้สึกของเจมน่า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเจมน่าเปลี่ยนไปทันที เข้าสู่ประเด็นสำคัญแล้ว
“พ่อ หนูไม่อยากกลับไป!”
เมื่อหล่อนพูดออกมาเช่นนี้ บรรยากาศเงียบลงทันที Albertหันมองหล่อน “เหตุผล!”
“หนูแข็งแรงดีแล้ว อีกอย่าง หนูยังไม่อยากไปจากที่นี่!” เจมน่าพูดด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวเฉียบขาด
“เหตุผลยังฟังไม่ขึ้น!”
“คุณพ่อ หนูยังไม่อยากห่างกับแฟน!” เจมน่าตอบกลับ
Albertมองหล่อน สายตาจดจ้อง ยังไม่พูดอะไร
เจมน่าไม่คิดปิดบัง จึงพูดต่อ “หนูเพิ่งคบกับแฟน ยังไม่อยากห่างกับเขา!”
เจมน่ากำลังคิดอะไรอยู่ Albertเข้าใจดี หล่อนอยู่กับพันเดชตั้งแต่เด็ก แม้ไม่พูดอะไร แต่สายตาที่รักและเคารพเขา เขามองออกตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนนี้กลับมาบอกว่ามีแฟนแล้ว แม้ว่าAlbertจะอายุมากแล้ว แต่เขาผ่านเรื่องราวมาเยอะ เขาเข้าใจดี
“คุณพ่อ พันเดชกับจิดาภาเคยเจอแล้ว พวกเขาเป็นพยานให้หนูได้!” กลัวว่าAlbertจะไม่เชื่อ เจมน่าจึงใช้พวกเขาทั้งสองเป็นเครื่องพิสูจน์
พันเดชเงียบ จิดาภาก็เงียบเช่นกัน
Albertไม่ได้ถามอะไรพวกเขา แต่เอ่ยปากพูดขึ้น ‘เรียกเขามา”
“ตอนนี้!?”
Albertพยักหน้า
“แต่เขาเพิ่งกลับไป!”
“เป็นวัยรุ่นต้องกระตือรือร้นหน่อยถึงจะดี!” Albertกล่าว
เจมน่าเข้าใจดีว่าไม่ว่าพ่อของหล่อนต้องการอะไรต้องทำตาม เมื่อคิดว่าตัวเองจะได้อยู่ที่นี่ต่อ หล่อนรีบหยิบมือถือขึ้นมาอย่างไม่ลังเล เดินไปอีกด้านหนึ่ง เพื่อโทรหานิสนธิ์
หลังจากนั้นไม่นาน เจมน่าเดินกลับไป “พ่อ เขาอยู่ระหว่างทาง อีกไม่นานก็ถึง!
“อื้ม!” Albertพยักหน้า
หลังจากผ่านไป20นาที นิสนธิ์ก็มาถึงภายในโรงแรม
เมื่อเห็นพ่อตัวจริงของหล่อนยืนอยู่ตรงหน้าเป็นครั้งแรก นิสนธิ์รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นแต่บนจอโทรทัศน์มาโดยตลอด
และเมื่อหันไปเห็นพันเดช สีหน้าของนิสนธิ์เปลี่ยนไปทันที
“สวัสดีครับคุณลุง!” นิสนธิ์กล่าวทักทาย
Albertเพียงแต่มองหน้าเขาด้วยสายตาจดจ้อง แต่กลับไม่พูดอะไร เสมือนกับมองความคิดอ่านของเขาออก นิสนธิ์เริ่มใจคอไม่ดีกระวนกระวาย
ทันใดนั้น เจมน่ายืนขึ้นมา จูงมือนิสนธิ์ มองไปที่Albert “คุณพ่อ เขาชื่อนิสนธิ์ แฟนของหนู!”
ท่าทางเช่นนั้น ดูเหมือนจริงอยู่บ้าง
พันเดชกับจิดาภานั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง มองพวกเขาด้วยความนิ่งเฉย ไม่พูดอะไรผ่านไปสักพัก Albertจึงพูดขึ้น “นั่งสิ!” นิสนธิ์พยักหน้า “ขอบคุณครับคุณลุง!” จากนั้นนั่งลง“พวกเธอคบกันมานานเท่าไหร่แล้ว?”“เอ่อ…ห้าวันครับ!” สีหน้าของเจมน่าเริ่มเป็นกังวล “คุณพ่อ นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องระยะเวลาสักหน่อย!”“นายรู้จักหล่อนดีแค่ไหน?” Albertไม่เข้าใจเจมน่า หันไปมองนิสนธิ์พลางถามขึ้น“…ไม่มากครับ!” นิสนธิ์ตอบ “ไม่มากแล้วแค่ไหนล่ะ?”“เพียงแค่รู้ว่า สุขภาพของหล่อนไม่ค่อยดี!” “ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมยังอยากคบกับหล่อนอีก?”Albertถาม เจมน่าเริ่มไม่พอใจ “พ่อ…” Albertหันไปมอง เจมน่าหยุดพูดทันที ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อ ตอนนี้ต้องเชื่อฟังคำสั่งเท่านั้น นิสนธิ์มองพวกเขา “ผมเข้าใจดี ถ้าผมบอกว่ารักเจมน่า พวกคุณคงไม่เชื่อ แต่มันคือเรื่องจริงครับ!”“คุณนิสนธิ์ คุณรู้จักผมดีแค่ไหน?” จู่ๆAlbertถามขึ้น นิสนธิ์ตกใจชะงัก รู้สึกได้ทันทีว่าคำพูดนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้ ไม่ว่าจะตอบยังไงก็คงผิด“ตอนที่ผมรู้จักกับเจมน่า ผมไม่ทราบเรื่องคุณมาก่อนครับ!”“’งั้นก็หมายความว่า ตอนนี้รู้จักแล้ว?”นิสนธิ์ไม่ปฏิเสธ พยักหน้าลง Albertยิ้ม “ที่ฉันมาในวันนี้เพราะมารับหล่อนกลับไปโดยเฉพาะ!”เมื่อเขาพูดจบ นิสนธิ์เบี่ยงสายตาหันไปมองเจมน่า ทั้งสองมองกันและกัน ราวกับกำลังสื่อสารบางอย่างอยู่ “คุณลุง ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็ตาม แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมจริงจังกับหล่อน!” นิสนธิ์พูดขึ้น “ถึงแม้ว่าคุณจะพาเจมน่ากลับไป ผมก็จะไปหาหล่อน!”ราวกับฉากคนรักจะพรากจากกันในละคร โรแมนติคเหลือเกินจิดาภานั่งมองอย่างเงียบๆอยู่อีกด้านหนึ่งหล่อนไม่เชื่อว่านิสนธิ์จะไม่เข้าใจเจตนาของเจมน่าเจมน่าพูดขึ้นเช่นกัน “ฉันไม่มีทางจากคุณไปไหน!”มองดูทั้งสองยึดมั่นแน่วแน่เช่นนี้ Albertจึงพูดขึ้น “คุณนิสนธิ์ ฉันยังมีธุระที่ต้องคุยกับเจมน่า นายกลับไปก่อนเถอะ!” ทั้งสองหยุดนิ่งไป นิสนธิ์ลุกขึ้น โค้งคำนับอย่างสุภาพ“นิสนธิ์ ขับรถระวังด้วยนะ!”“อื้ม!” เจมน่าพูดพลาง เขย่งเท้าพลางจูบลงบนใบหน้าของเขานิสนธิ์ยิ้ม จากนั้นเดินออกไปหลังจากที่เขากลับออกไป พันเดชจูงมือจิดาภาลุกขึ้น “อาจารย์ ในเมื่อท่านมีธุระจะพูดคุยกับเจมน่า งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้มาทานข้าวกับท่านครับ!”Albertพยักหน้าลง “โอเค ส่วนของขวัญแต่งงานของพวกเธอ ฉันให้คนไปส่งให้ที่บริษัทแล้ว!”พันเดชพยักหน้า “งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับ!”จากนั้น มือของเขาเอื้อมไปโอบเอวของจิดาภา ทั้งสองเดินออกไปด้านนอก เมื่อเห็นพวกเขาออกไปแล้ว สายตาของจิดาภายังคงจดจ้องไปที่พันเดชและจิดาภา…และ ท้ายสุด หล่อนก็ทำสายตาผิดหวัง “กำลังคิดอะไรอยู่?” ทันใดนั้น Albertเอ่ยปากถามขึ้นเจมน่าตั้งสติขึ้นมาได้ หันหลังเดินกลับไป “คุณพ่อ…”“ลูกอยากพูดอะไร พ่อเข้าใจดี แต่ลูกรู้รึเปล่าว่าพ่ออยากพูดอะไร?”เจมน่ามองหน้าเขา พยักหน้าลง“ตอนนี้ เรื่องทั้งหมดดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ลูกยังไม่ตายใจอีกเหรอ?” Albertถามเจมน่าก้มหน้าก้มตา สายตาแสดงออกถึงความผิดหวัง ทำไมหล่อนจะไม่อยากตายใจให้ได้ ติดที่ว่าหล่อนทำไม่ได้ หล่อนอยากได้เขา ชีวิตหล่อนจะได้สดใสเหมือนมีเต็มไปด้วยแสงอาทิตย์แต่เมื่อคิดว่าต้องเสียเขาไป หล่อนเจ็บปวดหัวใจจนแทบจะแตกร้าวออกเป็นเสี่ยงๆ….“คุณพ่อ หนูไม่อยากกลับไป” เจมน่ากล่าว“ลูกเป็นแบบนี้ อยู่ที่อันตรายมาก!”“คุณพ่อให้โอกาสหนูอีกสักครั้งนะคะ ถ้าครั้งนี้ไม่สำเร็จ หนูจะกลับไปกับพ่อ จะอยู่กับพ่อไปตลอดชีวิต!” เจมน่าพูดต่อAlbertมองเจมน่าด้วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรเขารู้ดีว่า เรื่องบางเรื่องเขาไม่สามารถบังคับได้ แต่นิสัยของเจมน่าไม่มีทางตายใจง่ายๆแน่นอน สุดท้ายเขาจึงจำยอมพยักหน้าลง “อย่าให้พ่อต้องเป็นห่วง…”เจมน่ายิ้มออกทันที “พ่อสบายใจได้นะ ไม่มีทางให้พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน!”ระหว่างทางกลับ จิดาภานั่งอยู่ข้างคนขับ เงียบอยู่สักพักใหญ่ จากนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้น“พันเดช คุณสนิทกับAlbertไหม?”“ระดับนึงนะ ทำไมเหรอ? ทำไมถามแบบนี้ล่ะ?”“ไม่ทำไม แค่อยากรู้ว่า Albertคิดยังไงกับเรื่องนี้!” จิดาภากล่าว“เมื่อก่อน เขาเคยถามผม ว่าผมยอมคบกับเจมน่าหรือไม่ ขอเพียงแค่ผมตอบตกลง เขาก็จะยกมรดกทรัพย์สินทุกอย่างให้!” พันเดชพูดขึ้นจิดาภาตกใจตะลึง มองหน้าพันเดชสักพักจึงพูดต่อ “แล้วยังไงต่อ?”“ผมปฏิเสธไป!” เขาพูดอย่างสบายใจ จับมือหล่อนขึ้นมาจูบ “ไม่เช่นนั้นตอนนี้จะมาคบกับคุณได้ยังไงล่ะ!”“สมบัติยิ่งใหญ่ขนาดนี้คุณปฏิเสธได้เหรอ!?”“ทำให้เห็นแล้วนี่ไง ผมเป็นผู้ชายสุภาพบุรุษ คุณจิดาภา คุณต้องรักษาไว้ดีๆนะ!”“คุณไม่คิดลังเลสักนิดบ้างหรือไง!?” จิดาภาถาม พันเดชทำท่าทางครุ่นคิด พยักหน้า “คิด!”จิดาภาตัวเกร็ง มองพันเดช รอให้เขาพูดต่อ “หลังจากที่เกิดเรื่องกับเจมน่าตอนนั้น จนเกือบถึงแก่ชีวิต ตอนนั้น เราคิดว่าหล่อนคงไม่กลับมาเป็นปกติแล้ว ตอนนั้นผมเคยพูดว่าจะดูแลไปทั้งชีวิต เพราะเป็นความรับผิดชอบของผม!”“จากนั้นล่ะ?”“จากนั้นผมคิดว่าไม่ยุติธรรมกับหล่อน เจมน่าเป็นเด็กผู้หญิงนิสัยดี แม้ว่าจะดื้อบ้าง แต่หล่อนก็ควรจะหาผู้ชายที่รักหล่อนจริงๆ!” พันเดชตอบจิดาภาเงียบไปสักพัก แต่สิ่งที่น่าปลอบใจหล่อนมากที่สุดคือ พันเดชไม่ได้ลังเลเพราะรักหล่อน “ต่อมา หลังจากที่หล่อนหายดี ผมก็กลับมา และจากนั้น ผมก็เลยขอคุณแต่งงาน…เรื่องต่อจากนั้น คุณก็รู้หมดแล้ว! ” พันเดชกล่าว “Albert ก็ปล่อยเรื่องนี้เลยเหรอ?”“เขาเป็นคนที่แคร์ต่อความรู้สึก แม้ว่าเจมน่าจะก่อเรื่องวุ่นวายบ้าง แต่ก็ยังคงมีเหตุผลอยู่ เรื่องความรักไม่สามารถบังคับกันได้ เขาเข้าใจดี เขาก็ไม่อยากให้เจมน่าแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักหล่อน!”จิดาภาพยักหน้าลง จู่ๆก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างซับซ้อนเหลือเกินดังนั้นจิดาภาจึงได้บทสรุปว่า การหาแฟนสักคน ต้องหาคนที่มีภูมิหลังขาวสะอาดหน่อย ไม่ควรมีเรื่องอะไรซับซ้อนวุ่นวายเช่นนี้เมื่อเห็นจิดาภาเงียบไป พันเดชจึงจับมือหล่อนไว้แน่น เพราะกลัวว่าหล่อนจะคิดมาก “เป็นอะไรไป? หึงเหรอ?”“ฉันแค่กำลังรู้สึกเสียดายกับมรดกพันล้านที่คุณปฏิเสธไป!”จู่ๆพันเดชพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งขรึม “แต่ผมไม่รู้สึกเสียดายเลยสักนิด สำหรับผมแล้ว คุณมีค่ามหาศาลจนมิอาจประเมินค่าได้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น จิดาภาเงยหน้าขึ้น ทั้งสองมองตากัน มองเข้าไปในตาอย่างลึกซึ้ง ทันใดนั้นหล่อนรู้สึกว่า สิ่งที่แผนกออกแบบมักจะพูดอยู่เสมอเป็นคือเรื่องจริงและถูกต้องมากๆพันเดชอยากได้ผู้หญิงคนนั้น เป็นเพียงเพราะปัญหาทางสายตา ตอนนี้ เข้าใจอย่างถ่องแท้เสน่ห์ของเขา มาจากการกระทำของเขา รวมถึงสายตาของเขา สิ่งที่หล่อนรู้สึกโชคดีมากในตอนนี้ก็คือ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็รักหล่อนเหมือนที่หล่อนรักเขา…