หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 760 แสดงความรัก
ตอนที่ 760 แสดงความรัก
ขณะนั้นพันเดชก็ลุกขึ้นแล้ววางไม้คิว จากนั้นก็มองพวกเขาสามคน “อย่าบอกว่าฉันไม่ได้บอกพวกนายสามคนนะ ถ้าอยากให้ลูกสาวของพวกนายทั้งสามคนแต่งงานกับลูกสาวฉันก็เร่งหน่อยนะ ไม่งั้นถ้าพลาดไปแล้ว แค่อยากร้องไห้ก็ไม่มีที่ให้ร้องเอาล่ะ !” พูดจบเขาก็หยิบไวน์แดงที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาจิบ
อยากจะถามมากเลยว่า พันเดช คุณเอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหนห้ะะะ !
มีใครบอกว่าจะเอาลูกสาวมาแต่งงานกับลูกชายคุณเหรอ ? อีกอย่างคุณรู้ได้ยังไงว่าจะเป็นลูกผู้ชาย !
เขาโอ้อวดความสุขจนทำให้ทั้งสามคนส่งสายตาขวางให้เขา ส่วนพันเดชก็ทำเหมือนว่ามองไม่เห็น จากนั้นก็เดินไปยังโซฟาที่จิดาภาอยู่
ขณะนั้นจัสตินก็วางไม้คิวลงแล้วเดินไปที่โซฟา
“อืม ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้ลูกสาวฉันแต่งงานกับลูกชายนายนะ !”
จัสตินเลิกคิ้ว “รอให้นายแก้นิสัยเจ้าชู้ของนายก่อน แล้วฉันค่อยพิจารณา !”
“นี่มันกับอะไรกับลูกสาวฉัน ?”
“ดูลูกก็ต้องดูพ่อก่อน นายไม่เคยได้ยินหรือไง ?” พูดจบจัสตินก็ยักคิ้วแล้วจิบไวน์แดงหนึ่งคำ
ปาณชัยก็ยิ้มแล้วมองไปที่พันเดช “แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าเป็นลูกชาย ?”
“สัญชาตญาณไง !”
“จิ พันเดชชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว คุณอย่าไปสนใจเลยนะ !” ปาณชัยพูดขึ้นมาลอยๆ
พันเดชเอนหลังไป มือข้างหนึ่งก็กอดจิดาภาไว้ “นายอย่ามาหว่านความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ฉันก็ชอบเหมือนกันนั่นแหละ !”
“จิ คุณเชื่อไหม ?”
จิดาภาส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม……
ในตอนนี้ หลังจากที่เห็นจิดาภาส่ายหัวแล้ว พันเดชก็มองไปที่เธอ “ภรรยาครับ ผมจะบอกคุณด้วยการกระทำนะ !”
“ฉันจะรอดูนะ !”
“OK !” เมื่อเห็นทั้งสี่ตาของพวกเขาสบกันแสดงความรัก ลาภิศก็แกล้งทำเป็นไอ “พันเดช แสดงความรักอยู่ที่สาธารณะมันไม่เหมาะสมนะ อย่าปล่อยให้พวกฉันที่ไม่มีคนรักอิจฉาไปหน่อยเลย !”
เมื่อได้ยินคำพูดของลาภิศ พันเดชก็หันหัวมองไปที่เขา “นายไม่มีความรัก ? ไม่ใช่ความรักของนายล้นเอ่อไปแล้วเหรอ ?”
“อย่ามาหยามชื่อเสียงของฉันนะ !”
“นายยังมีสิ่งนี้ด้วยเหรอ ?” พันเดชถามขึ้นมาลอยๆ
ลาภิศมองออกอยู่แล้วว่าตอนนี้พันเดชภาคภูมิใจทั้งเรื่องงานและความรักทั้งสองอย่าง แล้วดีใจจนลืมตัว !
เขายิ้มขึ้น “พันเดช มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ อย่ามาว่าฉันเลย !”
“ตอนนี้ไม่สามารถเอาอดีตมาเทียบกันได้นะ ในตอนนี้ต่อให้แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกก็ดับกระหาย !” พันเดชพูดอย่างภาคภูมิใจมาก
อดีตของเขาจิดาภาก็รู้อยู่อย่างชัดเจนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กลัวอะไร
“ฉันเคยผ่านสวนดอกไม้มา แต่ไม่มีสักใบที่ติดตัวมาเลย การแต่งงานที่เป็นหลุมฝังศพนี้ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับฉัน !” ลาภิศเองก็พอใจกับการใช้ชีวิตของตัวเองมาก เพราะเขารู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถพบเจอกันได้ ดังนั้นเขายอมรับที่จะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตแม้ว่าจะแต่งงานกัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรักพันเดชมองไปที่เขา “ฉันเชื่อว่าในชีวิตนี้นายก็จะได้พบเจอกับคนที่ทำให้นายเข้าไปอยู่ในหลุมฝังศพแน่นอน !” พันเดชพูดอย่างแน่วแน่“งั้นก็ขอให้มันเป็นจริงเหมือนคำพูดดีๆ ของนายนะ !”แม้ว่าพันเดชกับลาภิศเจอกันทีไรก็มีแต่ทะเลาะกัน แต่พวกเขาต่างก็รู้ดีว่านี่ไม่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาได้โครงสร้างของผู้ชายกับผู้หญิงต่างกัน หูของผู้หญิงกำหนดความรู้สึกของเธอ ในขณะที่การกระทำของผู้ชายกำหนดความรู้สึกของเขา ดังนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชายมักจะมีเหตุผล ส่วนผู้หญิงก็จะไร้เหตุผลขณะนั้นปาณชัยก็มองไปที่พวกเขา “จะจัดงานแต่งตอนไหน ?”“เดือนหน้า ส่วนรายละเอียดต้องคุยกับคุณย่าก่อนถึงจะรู้ !”เมื่อพูดถึงสิ่งนี้จัสตินก็ยิ้มขึ้น “นึกไม่ถึงเลยนะว่าในพวกเราสี่คน คนที่แต่งงานเป็นคนแรกจะเป็นพันเดช แถมยังเป็นคนแรกที่มีลูกด้วย !”ในขณะนั้นลาภิศก็ตั้งใจพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค “การแต่งงานครั้งที่สองต้องจัดยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ?”“เป็นการแต่งงานครั้งที่สอง แต่เป็นคนที่แต่งงานคนแรก !!” พันเดชจับไหล่ของจิดาภา แล้วประกาศเผด็จการ เขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ไม่ว่าจะแต่งครั้งที่เท่าไหร่ เขาก็ให้การแต่งงานที่ไม่เหมือนใครแก่จิดาภากอดจิดาภาก็เหมือนกอดโลกไว้ทั้งใบ ท่าทางที่มีความสุขและภาคภูมิใจเป็นสิ่งที่พวกลาภิศทั้งสามคนไม่อาจเข้าใจได้ แต่พันเดชเชื่อว่า พวกเขาสามคนต้องมีสักวันในไม่เร็วก็ช้า !“งั้นเห็นได้ว่าพวกฉันต้องแสดงความยินดีกับนายแล้วล่ะ !” พูดจบทั้งสองคนก็ยกแก้วขึ้น“เกรงใจเกินไปแล้ว !” พันเดชก็ยกแก้วขึ้น ทั้งสี่คนก็ชนแล้วดื่มไปจนหมดในขณะนั้นลาภิศก็มีความคิดเลวๆ ว่าจะลงโทษที่ไม่ได้บอกเขาก่อน จากนั้นสายตาก็หันไปมองจิดาภา แล้วเทไวน์แดงไปหนึ่งแก้ว “จิ แก้วนี้ผมดื่มคารวะคุณ ยินดีด้วยนะ !”จิดาภายกไวน์แดงแล้วไม่ได้พูดอะไร ในความเป็นจริงแล้วเธอก็เข้าใจว่าทำไมลาภิศถึงทำแบบนี้……พันเดชก็มองไป เมื่อเข้าใจแล้วจ้องเขาเขม็ง “ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไป ฉันจะมาหานายนะ !”“นี่ฉันแสดงความยินดีนะ มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย !”จากนั้นเขาจึงยื่นมือของไป “แก้วนี้ผมดื่มแทนละกัน !”เมื่อเห็นเขาดื่มแทน จัสตินกับปาณชัยก็ยังจะเกรงใจอะไรอีกเล่า !“จิ ลาภิสดื่มคารวะคุณแล้ว งั้นผมก็ต้องคารวะกับคุณหนึ่งแก้ว !”พันเดชก็มองไปที่พวกเขา รู้ทันทีว่าพวกเขาคิดเรื่องเลวๆ ตามลาภิศ แน่นอนได้รับอีกแก้วหนึ่งแล้วปาณชัยที่นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ถ้าเขาจะไม่ไปคารวะสักนิดเดียวมันก็แปลกแยกไปหน่อย ! “จิ ผมก็คารวะคุณหนึ่งแก้ว ขอให้คุณมีความสุขนะ !”จิดาภาถือแก้วขึ้นมา แต่ไม่นานนัก แก้วที่อยู่ในมือก็ถูกคนหยิบไปอีก “ฉันดื่มแทนเธอ !” หลังจากดื่มไปได้สามแก้ว ก็ถือว่าพันเดชดื่มไปได้ไม่น้อยคุณชายทั้งสามคนก็มองไปที่เขา มุมปากยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม หลังจากดื่มแก้วสุดท้ายเสร็จ พันเดชก็มองไปที่พวกเขา “ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไป พวกนายจะรับผิดชอบได้เหรอ ?”“ดังนั้นก็ให้นายดื่มแทนแล้วไม่ใช่เหรอ ?”“นี่พวกนายตั้งใจสินะ !”“มองออกก็ดีแล้ว !” ทั้งสามคนพูดด้วยรอยยิ้ม นี่เป็นการลงโทษเขาพันเดชกลอกตาส่งให้พวกเขาการดื่มไวน์แดงนั้นยากที่จะเมา แต่ผลที่ตามมาค่อนข้างแรง แล้วพันเดชยังดื่มไปต่อเนื่องกันตั้งสามแก้ว แม้จะดูไม่เป็นอะไร แต่จิดาภามองออกได้ว่าเขาก็เมาไปเล็กน้อยแล้ว“ยังไงก็ตาม จิ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ !”จิดาภาพยักหน้า “พวกคุณวางใจได้เลยนะ มีคุณชายที่มีชื่อเสียงตั้งสามคน ฉันจะใช้แน่นอน !” จิดาภาพูดด้วยรอยยิ้มหลังจากผ่านช่วงเวลานี้ จิดาภาก็ได้เข้าใจพวกเขาไม่น้อย แม้ว่าแต่ละคนจะมีนิสัยที่ใบหน้าโตกว่าหัว แต่ว่าแต่ละคนก็เป็นคนธรรมดานั่นแหละ เพียงแค่มีเงินหน่อย ตัวตนและบริษัทของตระกูล ทำให้พวกเขาโดดเด่นขึ้นมาหน่อยหลังจากออกมาจากสโมสรส่วนตัวก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว เนื่องจากพันเดชช่วยดื่มเหล้าให้เธอและชีวิตน้อยๆ ของตัวเอง จิดาภาจึงเป็นคนขับรถพันเดชนั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ความจริงแล้วเขาไม่ได้ดื่มมาก แต่ถ้าหากจิดาภาจะขับ ก็ต้องปล่อยให้เธอขับ แบบนี้เขาถึงจะมองเธอได้สะดวกในรถ จิดาภาตั้งใจขับรถมาก ส่วนพันเดชก็นั่งมองจิดาภาอยู่ข้างๆ ปกติเขาจะเป็นคนขับรถแล้วจิดาภาเป็นคนนั่งแบบนี้ในตอนนี้ พันเดชจึงมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้การที่ได้ชื่นชมเธอตามอำเภอใจแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง“คุณจ้องมองฉันขนาดนี้ มันกลัวฉันจะเป็นอะไรไปเหรอ ?” จิดาภาเอ่ยปากถาม แม้ว่าจะไม่ได้หันหัวมองไปที่พันเดช แต่ก็สามารถสังเกตสายตาอันเร่าร้อนของเขาได้ขณะนั้นพันเดชก็ชะโงกไปอย่างกะทันหัน แล้วเอ่ยปากพูดอยู่ข้างๆ หูของเธอ “ผมเชื่อในความสุขุมของคุณ !”“คุณอยู่ห่างๆ ฉันหน่อย ความสุขุมของฉันยิ่งจะดีมากไปอีก !” จิดาภาพูด แต่ก็ไม่กล้าที่จะหันไปมองจริงๆเมื่อได้ยินคำพูดของจิดาภา แม้ว่าพันเดชอยากจะจูบเธอก็ต้องอดทนไว้ ถ้าเธอไม่สงบไม่ได้จะทำยังไงล่ะจากนั้นมุมปากก็ยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย แล้วพิงไปข้างหลังด้วยท่าทางที่ขี้เกียจ สายตาก็ยังคงหยุดอยู่บนจิดาภาเช่นเดิม ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าชีวิตมันช่างวิเศษเอาซะจริงๆ เมื่อหลายปีที่แล้วยังเป็นคนที่เขาเกลียดมาก ทว่าตอนนี้กลับชอบแบบไม่อาจห้ามใจได้คนคนหนึ่งที่พยายามจะขอหย่าร้างเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกำลังพยายามหลอกล่อให้แต่งงานเมื่อคิดได้มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัวแต่ก็จนปัญญา รู้สึกผิดที่คลาดกันกับเธอเมื่อหลายปีนั้น ถ้าสังเกตได้ไวหน่อยก็อาจไม่จำเป็นที่จะต้องรอนานขนาดนี้“คิดอะไรอยู่เหรอ ?” จิดาภาเอ่ยปากถามขึ้นมากะทันหันเขาจ้องมองเธออยู่เงียบๆ ข้างหลัง ยิ่งทำให้เธออึดอัดมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของเธอ พันเดชก็รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง “จิดาภา ผมสามารถคำคุณหนึ่งคำถามได้ไหม ?”เขาเอ่ยชื่อพร้อมนามสกุลออกมา ไม่รู้ว่าทำไมจิดาภาถึงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก “คำถามอะไร ?”“เมื่อหลายปีที่แล้วที่คุณแต่งงานกับผม คือไม่ได้รักผมจริงๆ เหรอ ?”จิดาภา “……” ยังไงก็นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคำถามนี้ เขาถามเรื่องนี้ขึ้นมากะทันหันได้ยังไงกันนะ“แน่นอน !”“ทำไมล่ะ ?” พันเดชสงสัย “แล้วถ้าไม่รักผม ทำไมถึงไม่หย่ากับผมล่ะ ?”“มันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ แน่นอนว่าทำเพื่อประโยชน์ของครอบครัว สัญญาไปแล้วว่าจะตกลงแต่งงานกับคุณ งั้นฉันก็เลยต้องสูญเสียไปเพื่อให้บรรลุผล !” จิดาภาพูดแต่พันเดชก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “คุณไม่รักผมจริงๆ เหรอ ?”ดูเหมือนว่าความรู้สึกโดดเด่นของพันเดชจะพองตัวอีกครั้ง !“ถ้าตอนนั้นฉันรักคุณจริงๆ ก็คงไม่แกล้งทำตัวขี้เหร่หรอกนะ แต่ควรจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะหลอกล่อคุณไม่ใช่เหรอ ?”ก็จริงนะทุกๆ ครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ พันเดชก็ยังคงรู้สึกอึดอัดมาก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องนี้ พวกเขาคงไม่ได้คลาดกันมาหลายปีขนาดนี้ถ้าจะบอกว่าพันเดชมองคนแต่หน้าตา งั้นก็ขอถามหน่อยว่าในตอนแรกจะมีใครไปชอบผู้หญิงที่ดูแก่ ! ขึ้นคาน ! ถ้าเขาไม่ได้รักใบหน้านั้น แต่อย่างน้อยใบหน้านั้นก็เป็นรูปร่างหน้าตาที่เขาเห็นเป็นสิ่งแรกเมื่อเห็นพันเดชไม่ได้พูด จิดาภาก็เอ่ยปากพูดขึ้น “ฉันโจมตีความมั่นใจของคุณไปแล้วเหรอ คุณคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องรักคุณใช่ไหม ?” จิดาภาถามพันเดชโน้มไปแล้วสูดลมหายใจเบาๆ อยู่ข้างๆ หูของเธอ “ผมต้องการให้คุณรักผมคนเดียวเท่านั้นก็เพียงพอ !”จิดาภาตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวหูเป็นบริเวณที่บอบบางที่สุดของเธอ เขาเข้ามาใกล้ๆ อย่างกะทันหัน แถมยังตั้งใจพูดอยู่ตรงนั้นอีก จิดาภาจะไม่มีการตอบสนองได้ยังไง !“นั่งดีๆ ได้แล้ว !” จิดาภาพูด จากนั้นก็เปลี่ยนเกียร์แล้วขับไปข้างหน้าทักษะการขับรถของจิดาภาก็ไม่เลว เพียงแค่ถ่อมตนเท่านั้น ไม่เหมือนกับพันเดชที่ชอบโอ้อวดรถพุ่งไปบนถนนส่วนพันเดชเห็นหูของจิดาภาแดงขึ้น ดวงตาก็มีรอยยิ้มลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก……ในไม่ช้าก็มาถึงชั้นล่างของบ้านแล้ว จิดาภาเพิ่งดับรถ กำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัยออก แต่วินาทีต่อมาก็มีแขนที่แข็งแกร่งยื่นออกมา แล้วดึงเธอกลับมา จากนั้นก็จูบไปที่ริมฝีปากของเธอทันที ……