หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 753 ตั้งชื่อให้เบบี๋
ตอนที่ 753 ตั้งชื่อให้เบบี๋
พันเดชก็เดินไปยังตำราอาหารแล้วพลิกมัน สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่อาหารชนิดหนึ่ง “อันนี้ !”
จิดาภาทำการเปรียบเทียบกัน แต่ว่าดูยังไงก็ไม่เหมือนกันเลย……
เพื่อที่จะไม่ให้บั่นทอนพันเดช จิดาภาก็จงใจยิ้มแล้วพยักหน้า “ทำครั้งแรกก็……ก็ไม่เลวนะ !”
พันเดชก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน
จากนั้นรอไปประมาณยี่สิบนาทีพวกเขาก็ได้กินข้าวกันสักที
เมื่ออาหารสามจานถูกเสิร์ฟมาบนโต๊ะ
จิดาภาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะใช้ตะเกียบคีบยังไง
มองซ้าย มองขวา ในที่สุดก็ใช้ตะเกียบคีบไป
เรื่องรสชาติก็โอเค ไม่ได้แย่ สิ่งที่พอบรรเทาคือใส่เกลือนั่นแหละ
พันเดชกินไปหนึ่งคำ แม้ว่าจะรู้สึกว่ากลืนลงไปยากหน่อย แต่ยังไงก็เป็นสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ต้องกินบ้างสักหน่อย
“เป็นไงบ้าง ?” พันเดชถามขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ
จิดาภาพยักหน้า “ยังมีส่วนที่ต้องพัฒนานะ !”
“จิดาภา ผมอุตส่าห์ทำกับข้าวให้คุณ นี่คุณไม่รู้จักพูดให้ถูกหูสักคำหรือไง ?”
“ลำบากคุณเลยน้า !” จิดาภาประจบสอพลอ
พันเดชจึงปล่อยเธอไป ทั้งสองคนกำลังกินอาหารกันไป จากนั้นจิดาภาก็นึกเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ใช่แล้ว ฉันอยากเลี้ยงข้าวเปศล !”
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้พันเดชก็ตกตะลึงเล็กน้อย “เขามาห้ามให้ผมตามหาคุณ ไม่ยกเลิกสัญญาก็ถือว่าบุญแล้ว ยังจะไปเลี้ยงข้าวเขาอีก !” สำหรับเรื่องนี้พันเดชก็ยังคงอึดอัดอยู่ในใจ
ส่วนจิดาภาก็ยิ้มขึ้น “คนที่ห้ามให้คุณมาพบฉันก็คือฉันเอง ไม่ใช่เปศลสักหน่อย !”
“คุณยังจะมาพูด !” พันเดชส่งสายตาขวางให้เธอ
“ยังไงก็ตาม เขาเคยดูแลและช่วยเหลือฉัน ฉันก็ควรจะไปขอบคุณ !” จิดาภาพูด
ในความจริง ไม่ใช่ว่าพันเดชไม่รับน้ำใจ การที่เขาช่วยเหลือและดูแลจิดาภาเขาก็ดูอยู่ในสายตา คิดอยู่ชั่วขณะแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “โอเค ผมจะจัดให้ !”
“ค่ะ งั้นก็ยกให้คุณเลยนะ !” จิดาภารับปากในทันใด
วันถัดไป
ในห้องส่วนตัว
เปศลนั่งอยู่ตรงข้าม ส่วนปวีร์ก็ยืนอยู่ข้างหลัง
เห็นใบหน้าของจิดาภาเอมอิ่มเต็มไปด้วยความสุข ก็รู้ได้ว่าร่างกายของเธอดีขึ้นมากแล้ว
“คุณเปศล ครั้งนี้คือตั้งใจจะมาขอบคุณที่คุณช่วยเหลือและดูแลในเมื่อก่อนค่ะ !” จิดาภาพูดด้วยรอยยิ้ม
ส่วนเปศลก็ยิ้ม “ตอนนี้เห็นพวกคุณสองคนคืนดีกันแล้ว ผมก็วางใจได้แล้ว !”
ขณะนั้นพันเดชก็เอ่ยปากพูดขึ้น “คุณเปศล ขอบคุณที่คุณดูแลจินะครับ เรื่องเมื่อก่อนเป็นสถานการณ์บังคับเลยทำให้ขุ่นเคือง ขออภัยด้วยนะครับ !” พูดจบ พันเดชก็ยกแก้วไปที่เขา
เปศลมองไป “เข้าใจอยู่”
ทั้งสองคนก็ดื่มเหล้าไปเล็กน้อย ขณะนั้นเปศลก็มองไปที่จิดาภา “เป็นไงบ้าง ตอนนี้ร่างกายเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เลวเลยค่ะ ช่วงนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ !”
“เห็นได้ว่าอารมณ์มันสำคัญมากนะ !” เปศลพูดด้วยรอยยิ้ม
จิดาภายิ้มขณะนั้นเปศลก็ยื่นมือออกมาก แล้วปวีร์ก็เข้าใจได้ จึงรีบยื่นของบางสิ่งออกมา“ผมได้ยินมาว่าสิ่งเหล่านี้บำรุงร่างกาย มีผลดีสำหรับการตั้งครรภ์ คุณต้องกินให้ตรงเวลานะ !”เมื่อเห็นสิ่งของเหล่านั้น จิดาภาจึงตกใจ ทุกครั้งเปศลก็มักจะเอาของมาให้ตั้งมากมายขนาดนี้ เธอก็กินแทบจะไม่หมด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รับแบบนี้อยู่ตลอดมันเกรงใจมาก“คุณเปศล คุณเคยเอาของมาให้ตั้งมากมายขนาดนี้ แถมยังช่วยเหลือฉันขนาดนี้ ฉันก็เกรงใจที่จะรับมาอีกค่ะ !” จิดาภารู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง“เป็นแค่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เอง ไม่ได้เป็นของที่มีค่าอะไรมากหรอก !”ไม่ได้เป็นของมีค่าอะไร ? พันเดชเลิกคิ้วขึ้น แล้วมองของหนึ่งอย่างที่เปศลส่งมาให้ จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “คุณเปศล แค่อันนี้ก็หมื่นกว่าๆ แล้ว ยังไม่ใช่สิ่งของที่มีค่า คุณเปศลนี่ชั่งเจียมเนื้อเจียมตัวจริงๆ เลยนะครับ !”หมื่นกว่า ?จิดาภามองไปที่สิ่งของเหล่า ยิ่งเกรงใจมากขึ้นไปอีก “คุณเปศล มันแพงเกินไป ฉันรับไว้อีกไม่ได้หรอกค่ะ !” “ของพวกนี้ผมเอาให้ผมต่างหาก ไม่ได้เอาให้คุณกินสักหน่อย คุณไม่กินก็ได้ แต่หลานผมต้องกิน !” เปศลพูดพันเดชขมวดคิ้วขึ้น “หลานอะไรกันครับ ?”เมื่อพูดถึงสิ่งนี้จิดาภาก็นึกอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน “อ้อ ตอนที่ลูกพวกเราคลอดออกมาก็จะเรียกคุณเปศลว่าคุณปู่แล้วล่ะ !”ใบหน้าของพันเดชจึงกระตุกขึ้น “ทำไมผมไม่รู้ล่ะ ?”“ตอนนั้นฉันอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณเปศล คุณจะรู้ได้ยังไง ?” จิดาภาพูดพันเดช “……”สายตามองไปที่เปศล เห็นได้ชัดว่าตาแก่นี่มันเอาเปรียบพวกเขา แต่จิดาภาก็รับปากไปแล้ว เขายังจะพูดอะไรได้ล่ะช่างมันเถอะ ยังไงก็ตามเมื่อเด็กน้อยเห็นคนก็ต้องเรียกว่าคุณปู่อยู่แล้วนี่ พันเดชก็ได้แต่ปลอบตัวเองอยู่แบบนี้ !สำหรับการกินอาหารในมื้อนี้ พันเดชไม่พอใจทุกๆ อย่าง ตราบใดที่คิดว่าลูกของตนเองจะต้องไปเรียกคนอื่นว่าคุณปู่ เขาก็จะมีความรู้สึกว่าลูกหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองถูกคนแย่งเอาไป !ไม่สิ แบบที่ไม่ใช่ของตัวเองต่างหากล่ะ !ความรู้สึกที่ต้องเอาออกมาแบ่งปันคนอื่นมันไม่ค่อยดีเลย พันเดชชอบที่จะสนุกอยู่คนเดียว !เมื่ออยู่บนรถ พันเดชคิดอยู่เสียนาน ก่อนที่จะตัดสินใจเอ่ยปากพูดขึ้น “จิดาภา พวกเราคุยกันหน่อยนะ !”จิดาภามองไปที่เขาด้วยความสงสัย “คุยอะไรเหรอ ?” “ผมรู้สึกว่าลูกของพวกเราไม่สามารถหาญาติสุ่มสี่สุ่มห้า !” พันเดชเอ่ยปากพูดอย่างจริงจังมาก เมื่อคำพูดนี้ออกมา จิดาภาจึงชะงักอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มขึ้น “ทำไมล่ะ มีญาติเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งไม่ดีหรือไง? เดี๋ยวก็จะได้มีคนรักเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งยังไงล่ะ ?”“ลูกของพวกเราไม่ต้องการสักหน่อย มีพวกเราคอยรักก็เพียงพอแล้วนี่ อีกอย่างเขายังมีคุณปู่ มีคุณย่า แล้วก็ยังมีคุณทวดแท้ๆ ไม่ขาดคน !”นี่คือความอิจฉาชัดๆ !“ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงได้กลิ่นหึงนะ !?” จิดาภาเข้าไปสูดดมข้างๆ พันเดช แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“ประสาทรับกลิ่นของคุณผิดไปแล้วน่ะสิ !”“พันเดช นี่คือคุณมีปัญหากับคุณเปศล !” จิดาภาพูดอย่างแน่วแน่เขามีปัญหาซะที่ไหนกันล่ะ เขามีปัญหามากต่างหาก !สำหรับคนที่ห้ามให้เขาพบเจอกับจิดาภา ความรู้สึกดีๆ ของเขาจะดีขึ้นได้ซะที่ไหน อีกอย่างตามสัญชาตญาณของผู้ชายแล้ว พันเดชรู้สึกว่าเปศลสนใจจิดาภามาก ไม่ได้เพียงแค่ช่วยเหลือธรรมดาๆ แบบนี้ถ้าเป็นเช่นนั้น บุญคุณก็ทดแทนไปจนพอแล้ว ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเปศลยังเต็มใจที่จะเข้าใกล้จิดาภาอยู่“เขาเป็นคนที่อันตราย ควรจะอยู่ห่างๆ เขาไว้หน่อย !”“นี่คุณไม่สามารถตัดสินได้ว่าคนคนหนึ่งเป็นคนไม่ดี เพียงเพราะเขาทำผิดแค่ครั้งเดียวนะ คุณเปศลมาจากพวกมีอิทธิพล แต่ผู้มีอิทธิพลก็มีคนดีอยู่มากนะ อีกอย่างบางทีสถานการณ์มันก็บังคับคนได้ แล้วตอนนี้คุณเปศลก็ได้กลับตัวเป็นคนดีแล้ว !” จิดาภาพูดดูตอนนี้สิ จิดาภายังพูดในสิ่งที่ดีเพื่อเปศลอีกจะปล่อยให้พวกเขาดื่มด่ำกันต่อไปอีกได้ยังไง !“ผมแค่พูดว่าเขาอันตราย ไม่ได้พูดว่าเขาไม่ดี !” พันเดชพูดจิดาภานั่งตัวตรง “แต่ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีนะ อีกอย่างไม่รู้ว่าทำไมฉันมักจะมีความรู้สึกแปลกๆ อย่างหนึ่งเมื่อเห็นเขา !”เมื่อได้ยินคำนี้ ใบหน้าของพันเดชก็มืดลง “ความรู้สึกอะไร ?”“ฉันไม่สามารถอธิบายออกมาได้ !”“หลังจากนี้ อย่าเจอกับเขาอีก !” พันเดชตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเมื่อได้ยินสิ่งนี้ จิดาภาก็ยิ้มขึ้น แล้วตบไหล่ของเขา “คิดอะไรอยู่เนี่ยคุณ ฉันแค่รู้สึกว่าการที่เขาอยู่คนเดียวมันน่าสงสารมาก อีกอย่างเขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่สามารถปกป้องคนอื่นได้ !”เมื่อฟังสิ่งนี้ ยิ่งทำให้คุณพันเดชหึงมากขึ้นไปอีก “จิดาภา ขอแก้หน่อยนะ คนที่สามารถปกป้องคุณได้บนโลกใบนี้ มีเพียงแค่สองคน !”จิดาภากะพริบตา “ใคร ?”“ผม แล้วก็ลูกชายของพวกเรา ลูกชายยังไม่คลอด ดังนั้นคนที่สามารถปกป้องคุณได้ในตอนนี้มีเพียงแค่ผม !” พันเดชประกาศอย่างเผด็จการเมื่อจิดาภาฟังแล้ว มุมปากก็ยกขึ้นยิ้มอย่างไม่รู้ตัว“เอาล่ะ ยังไงก็ตาม ฉันก็รู้สึกว่าคุณเปศลเป็นคนที่ดีมาก อย่างน้อยๆ ก็ไม่เคยทำเรื่องร้ายแรงกับฉัน !” จิดาภาพูด“แต่คุณก็ต้องสัญญากับผมไว้นะ ว่าจะพอเหมาะพอควร !”จิดาภาพยักหน้า “ค่ะ !”เมื่อเห็นเธอตอบแบบนี้พันเดชก็เลยปล่อยไปแต่เรื่องที่ลูกชายของพวกเขาจะเรียกเขาเป็นคุณปู่ ก็ยังคงทำให้คุณพันเดชอึดอัดอยู่ในใจ ตาแก่แถวนี้นี่มันเอาเปรียบเขากับจิดาภาทางอ้อมแม้ว่าจะคิดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักขณะที่ขับรถอยู่ ราวกับว่าพันเดชนึกอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน จึงมองไปที่จิดาภา “ตั้งชื่อให้ลูกชายของเราหรือยังเนี่ย ?”จิดาภาคิดอยู่ชั่วขณะแล้วส่ายหัว “ยังไม่รู้เลยว่าเป็นลูกสาวหรือลูกชาย จะตั้งได้ยังไงล่ะ ?”“งั้นก็ตั้งไว้สองชื่อเลยสิ ยังไงก็ตาม ตั้งแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ เอาไว้ให้คนต่อไปก็ได้ !” พันเดชพูดยังจะเอาไว้ให้คนต่อไปอีก……จิดาภาตบเขา “ใครจะคลอดให้คุณกันล่ะ ?”“ก็ใช่ สำหรับเรื่องนี้ผมก็จะพยายาม !”จิดาภา “…….”ใบหน้าที่แดงระเรื่อก็ส่งสายตาขวางให้เขา เขินอายจึงพูดไปว่า “คนพาล !”พันเดชเองก็ยิ้ม ขณะนั้นจิดาภาก็ต้องตาโตแล้วครุ่นคิด “ฉันต้องการคิดให้รอบคอบ !”“ฉันต้องการตั้งชื่อจริงหนึ่งและชื่อเล่นหนึ่ง !”“โอเค !” พันเดชยิ้มขึ้น ขับรถอยู่มุมปากก็ขึ้นด้วยรอยยิ้ม“ชื่อ……” จิดาภาคิด แต่ยังไงก็คิดไม่ออก“ชื่อห้าสิบล้านเป็นไง !”พันเดช “……”“ชื่อเล่น ?” จิดาภาพยักหน้าแล้วกะพริบตาแล้วมองไปที่พันเดชด้วยใบหน้าใจจดใจจ่อพันเดชขมวดคิ้วแล้วถามกลับ “คุณแน่ใจเหรอว่าลูกชายจะชอบ ?”“ทำไมจะไม่ชอบล่ะ ?” “เขาจะไม่รู้สึกว่าพ่อกับแม่เขาหน้าเงินเหรอ ?”“ก็ฉันนึกถึงอนาคตของเขาไง !” จิดาภาพูด“เรื่องอนาคตก็ปล่อยให้ผมคิดก็พอแล้ว เรื่องเงินไม่เหมาะที่จะพูดออกไป คิดสักชื่อ……ที่มันทันสมัยหน่อย !”“ห้าสิบล้านมันไม่ทันสมัยเหรอ ?”“ไม่ใช่ว่าไม่ทันสมัย แค่รู้สึกว่าเหมือนชื่อหมา……”จิดาภา “……”จิดาภาแอบเรียกอยู่ในใจสองสามครั้งก็รู้สึกแบบนั้นนิดหน่อยแต่เธอก็แค่พูดออกมาเฉยๆ “งั้นชื่อ…… คูเปอร์ !?”พันเดช “…….”คำพูดนี้จิดาภาก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่เมื่อเห็นพันเดชทำท่าทางเอือมระอา จิดาภาจึงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฉันยังไม่ได้เตรียมพร้อมสักหน่อยเลย ตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออก ถ้าไม่งั้นคุณตั้งสักอัน ?” จิดาภาถามพันเดชขับรถไปด้วย และตาก็หรี่ขึ้นเล็กน้อย สักพักก็เอ่ยปากพูดขึ้น “ตะลม !”“ตะลม ?” จิดาภาขมวดคิ้วแล้วหัวเราะ “เรียกเป็นตากลมจะเอาไงดี”“จิดาภา……” พันเดชไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงจิดาภาหัวเราะขึ้นมา“เอาล่ะ ล้อเล่นน่า ตะลม ตะลม……ก็ไม่เลว เหมือนสไตล์ของคุณไงล่ะ !”“ลูกชายของผม มันก็ต้องเหมือนผมสิ !”“งั้นฉันก็จะตั้งชื่อผู้หญิงอีกสักชื่อ !” จิดาภาพูด หัวก็อิงไปบนไหล่ของพันเดชเบาๆ “เอ่อ…… เอ็มเอ็ม เป็นไงบ้าง?” จิดาภาหันหัวไปถามอย่างกะทันหัน พร้อมกับวางคางไว้บนตัวของเขา ขนตาที่เรียวยาวก็กะพริบ“เอ็มเอ็ม……” พันเดชอ่าน พูดจบมุมปากของเขาก็ยกขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว !”จิดาภายิ้ม “งั้นก็อันนี้เลยนะ !”“OK !”หลังจากทั้งสองคนตกลงกันแล้ว ทั้งคู่ก็ยิ้มขึ้นมาจิดาภายื่นมือออกไปจับแขนของพันเดชในความเป็นจริงแล้ว กาลเวลางดงามขนาดนี้ คนที่มีความสุข แม้ว่าจะคุยแค่ชื่อก็มีความสุขตะลม เอ็มเอ็ม……ไม่รู้ว่าจะเป็นลูกชายหรือว่าลูกสาวกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน พวกเขาต่างก็ตั้งตารอ