หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 748 เป็นเลขาผม
ตอนที่ 748 เป็นเลขาผม
“ดังนั้น งานของคุณก็แค่พักอยู่ในห้องพักผ่อนของห้องทำงานผม จากนั้นก็กิน อ่านหนังสืออะไรแบบนั้น!”พันเดชพูด
จิดาภามีรอยยิ้ม มองพันเดช“ประธานพันเดช ความลำเอียงของคุณชัดเจนไปไหม?”
พันเดชกลับยกคิ้วอย่างไม่แคร์“ช่วยไม่ได้ ภรรยาผม ผมยอม!”
จิดาภามองบนใส่ จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “โอเค งั้นฉันก็จะไปอยู่กับคุณอย่างไม่เต็มใจวันหนึ่ง!
“ลำบากคุณแล้ว!”
“รู้ก็ดี!”
……
ดังนั้น พอทั้งสองเก็บเสร็จ ก็ไปบริษัท
พอถึงบริษัท ก็สามทุ่มกว่าแล้ว
พันเดชเดินข้างหน้า จิดาภาเดินตามไป ไม่เหมือนเดิมก็คือ จิดาภาไม่ได้แต่งหน้า ไม่สวมรองเท้าส้นสูง และก็ไม่ใส่ชุดทำงาน แต่แบบนี้ ก็ยังคงสง่างาม
ช่วงนี้ พวกเขาปรากฏตัวสาธารณะแบบนี้น้อยมาก เมื่อก่อน จู่ๆจิดาภาขอลา ทำให้พวกเขาเป็นที่พูดถึง คิดว่าพวกเขาจะแต่งงานกันแล้ว แต่ทันใดนั้นพันเดชก็ใกล้ชิดขนาดนั้นกับผู้หญิงคนนี้……
อย่างไรก็ตาม จิดาภาไม่อยู่บริษัท ก็ไม่ได้เป็นเป้าหมายของการนินทาน้อยไปกว่าเดิม!
ตอนนี้เห็นพวกเขาปรากฏตัวพร้อมกัน ข่าวลือต่างๆก็แพ้ภัยตัวเองไป
ในทางกลับกัน จิดาภาสวมชุดสบายๆ เดินด้วยกันแบบนี้ จนมีความรู้สึกบางอย่างว่าพันเดชปกป้องเธอไปทุกที่
ภายใต้การสนับสนุนของทุกคน ขึ้นไปข้างบน
พอเข้าไป จิดาภาก็ตะลึง ห้องทำงานที่ใหญ่โต นอกจากที่ทำงานของพันเดชแล้ว ยังมีโซฟาหนึ่งตัว ที่เป็นหนังแท้สีดำ ตอนนี้……กลับดูอบอุ่นมาก
“คุณทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!”จิดาภาถาม เดินเข้าไป ข้างบนมีหมอน และปูพรมหนึ่งชั้น นี่คือจังหวะของการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
ส่วนพันเดชมองไป “เป็นไงบ้าง?ชอบไหม?”
“แบบนี้……ดีเหรอ?”จิดาภาถาม นี่เป็นห้องทำงานเลยนะ
“มีอะไรไม่ดี คนที่นี่ ใครไม่รู้จักคุณ หรือคุณไม่รู้จักใคร!”
“……โอเค!”จิดาภาพยักหน้า
ตอนนี้ พันเดชดึงเธอเดินไป “หน้าที่วันนี้ของคุณมาแล้ว พักอยู่ที่นี่ ว่างก็อ่านหนังสือ มีให้ถ่ายรูป และก็สามารถเล่นอินเทอร์เน็ต แต่มีรังสี ก็ดูน้อยๆหน่อย!”
จิดาภาได้ฟัง มอง สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง“ได้ งานยากแบบนี้ ฉันรับ!”
พูดไป ก็นั่งลง รับรู้สีกหน่อย
มองท่าทางจิดาภา ทันใดนั้นพันเดชก็ใจสั่น เอื้อมตัวไป สองมือโอบเธอไว้“ยากขนาดนี้ ดูเหมือน ผมต้องให้รางวัลคุณถึงจะดี!”
“ก๊อกก๊อกก๊อก!”
เพิ่งโน้มตัวไป ประตูห้องก็มีเสียงเคาะ เจ๊กเข้ามาโดยไม่บอกล่วงหน้าใดๆ“เจ้านาย งานประชุมตอนสิบโมงจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ……”
มองที่โต๊ะทำงานไม่มีคน สายตามองไปข้างๆ พอมองเห็นฉากด้านใน เจ๊กกะพริบตาตะลึงอยู่ที่เดิม
พระเจ้า!ถือว่าสายฟ้าผ่าไปที่เขาจนตาย!ทำไมเป็นเขาที่ทำลาย“เรื่องดีๆ”ของเจ้านายอยู่บ่อยๆนะ!ตอนนี้เอง ได้ยินเสียงของเจ๊ก พันเดชก็หันไป หน้าหม่นลงเจ๊กไม่รู้จะทำอย่างไร กลัวจะตกงาน หยิบเอกสาร ด้วยใบหน้าขอโทษและอารมณ์เสีย วิ่งไปเล็กน้อยที่โต๊ะทำงาน“นี่……เอกสารที่ต้องประชุมครับ วางไว้ตรงนี้ก่อนนะครับ!”“พวกคุณ……ต่อเลย!”ทิ้งคำนี้ไว้ เจ๊กก็รีบออกไปยืนอยู่ด้านนอกประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อันตรายมาก!นิสัยที่เคาะประตูแล้วได้รับคำอนุญาตนี้ ทำไมเปลี่ยนไม่ได้นะ!!!ส่วนคนในห้องทำงาน พันเดชหันหน้าเซ็งๆกลับมา ส่วนจิดาภาขำเกินจริง“พวกเราต่อ………”ใครจะรู้ จิดาภากลับเอามือดันเขาออก “ประธานพันเดช เวลาทำงาน อย่าลวนลามพนักงาน!”พันเดชผิดหวัง“โอเค……งั้นผมไปทำงานต่อ เลิกงานค่อยทำต่อ……”จิดาภาขำ ส่วนพันเดชเดินไปที่เขตทำงานของเขานั่งตรงนั้น เปิดเอกสารดูจิดาภานั่งตรงนั้น มองท่าทางที่พันเดชทำงาน หล่อกระชากใจจริงๆเลยต่างบอก ผู้ชายที่ทำงานอยู่หล่อที่สุด งั้นพันเดชจะต้องเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่สุด แต่มองด้านข้าง เหมือนเป็นผลงานศิลปะชั้นเยี่ยม เธอแอบบ่นในใจ ถ้าเป็นลูกชาย อย่าโตมาเป็นมารร้ายแบบนี้เลย ……แต่แล้วยังไงล่ะ ยังต้องรออีกสิบเดือนถึงรู้ สุดท้าย จิดาภาจึงละสายตา มองหนังสือที่โต๊ะน้ำชาตรงหน้า หยิบมาอ่าน《นักล่าว่าว》หนังสือเล่มนี้ เธอได้ยินคนแนะนำมามาก ต่างบอกว่าไม่เลว แต่ไม่เคยอ่านเลย ตอนนี้มีโอกาสแล้วเริ่มเปิดหนังสืออ่านอย่างละเอียด หาที่สบายก็เอนลงไป อ่านหนังสือ คอยเงยมองพันเดช ช่วงเวลาที่เงียบสงบดีแบบนี้ จิดาภาเพลินมากตอนสิบโมง พันเดชต้องไปประชุม เดินเข้าไป มองจิดาภา “เป็นไงบ้าง เบื่อไหม?”จิดาภาส่ายหน้า“หนังสือเล่มนี้ไม่เลว มีวิสัยทัศน์มาก!”“รู้ว่าคุณน่าจะชอบ!”พันเดชมั่นใจ จิดาภาชอบเรื่องที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและมีปรัชญามาก เล่มนี้ก็ใช่พอดีจิดาภายิ้ม“ประธานพันเดชใส่ใจตลอด!”“ผมไปประชุมก่อน คุณรอผมที่นี่นะ!”จิดาภาพยักหน้าแต่เขายังไม่ไปทันที แต่เอาแต่ยืนมองจิดาภาตรงนั้น จิดาภาเห็นเขาไม่ขยับก็ถาม “ทำไมยังไม่ไปอีก?”“ไม่แสดงอะไรเหรอ?”พันเดชถามย้อนจิดาภาจึงเข้าใจความหมาย ขำ เอื้อมไปจูบลงที่หน้าเขาแต่พันเดชเพียงพอที่ไหน กลับโอบหลังเธอ จูบลงไปยาวนานลึกซึ้ง ……ผ่านไปหลายนาที พันเดชค่อยๆปล่อยเธอออก ยังคงทำใจจากไม่ได้ ชี้ไปที่หน้าผากเธอ“รอผมกลับมา!”จิดาภาพยักหน้า พันเดชจึงลุกขึ้นออกไปเจ๊ก นั่งรออยู่ด้านนอกนานแล้ว เห็นพันเดชมา สายตาแหลมคมมองไปที่เขา เขารีบทำเป็นก้มลงมองไม่เห็นอะไร เจ้านายเป็นคนขี้แค้น เห้อ ครั้งนี้เขาพุ่งเข้าไป โกรธตัวเองทำไมไม่รอให้รับคำอนุญาตก่อนแล้วค่อยเข้าไป“เจ้านาย ทุกคนรอหมดแล้วครับ!”“อือ!”พันเดชตอบอย่างเย็นชา เดินเข้าไปที่ห้องประชุม เจ๊กตามมาติดๆอยู่ข้างหลัง“เจ๊ก!”ใจเจ๊กสั่นไปหมด พระเจ้า ถามหาเขาเวลานี้ กลัวมากจริงๆ!เขากังวลจริงๆว่าตัวเองจะถูกไล่ออก……“เจ้านาย ผมอยู่นี่ครับ!”เจ๊กเข้าไปอย่างยิ้มแห้ง“ซื้อขนม วุ้นโยเกิร์ตอะไรพวกนั้นไปให้ที่ห้องทำงานผม!”“อ๋า!?”“แล้วก็สปาเกตตีจานหนึ่งด้วย!”สีหน้าเจ๊กกระตุกไป เขามั่นใจมากว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด“เจ้านายครับ ไม่ได้ทานข้าวเช้ามาเหรอ?”เจ๊กถามเสียงอ่อนแต่เพิ่งถามไป เท้าของพันเดชกลับหยุดลงทันที หันไปมองขวางใส่เขา“เอาไปให้ที่ห้องทำงานผม!”เจ๊กถูกสายตานั้นจ้องจนไม่ได้สติ ทันใดนั้นก็เข้ามาอย่างลนลาน “อ้ออ้อ ผมทราบแล้วครับ จะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”ที่แท้จะซื้อให้จิดาภา วันนี้เจ๊กรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะโง่อยู่บ้านแล้วจริงๆมองพันเดชเดินไปที่ห้องทำงาน เจ๊กรีบกำชับคนไปจัดการเห้อ วันนี้เขาออกจากบ้านมาจะต้องไม่ได้ดูปฏิทินแน่จิดาภาอ่านหนังสือที่ห้องทำงาน ประตูถูกเคาะลง จิดาภามองไปที่ประตู ตอนนี้เอง ประตูถูกผลักออกตอนนี้เอง เลขาเดินเข้ามาจิดาภามองพวกเธอ ในมือของพวกเขากลับถือของกิน“คุณจิดาภา ของพวกนี้ต่างให้คุณฆ่าเวลาค่ะ!”พูดไป ก็เอาของวางไว้ที่โต๊ะ ส่วนมากเป็นของที่เธอชอบกินแน่นอน ยังมีสปาเกตตีด้วย“นี่……”“คุณจิดาภาค่อยๆทานนะคะ!”เลขาพูด จากนั้นจึงออกไปจิดาภามองของพวกนั้น รู้ว่าเป็นพันเดชสั่งมา ทันใดนั้น ที่ไหนสักที่ในใจก็มีความประทับใจอย่างแผ่วเบาตอนเช้าเธอกินยังไม่อิ่ม และตอนนี้ก็หิวจริงๆ มองสปาเกตตีที่ดูท่าทางน่ากิน จิดาภาไม่เกรงใจ เริ่มกินรสชาติไม่เลว อร่อยมากเธอค่อยๆกิน กินช้ามาก รู้ว่าพันเดชตอนเช้าก็กินอิ่ม ดังนั้นเลยอยากรอเขากลับมากินด้วยกันแต่คิดไม่ถึง ประชุมมาชั่วโมงหนึ่งแล้ว สิบเอ็ดโมงถึงประชุมเสร็จพันเดชกลับมา จิดาภาก็เอนตัวตรงนั้นใกล้จะหลับแล้วมองสปาเกตตีบนโต๊ะยังเหลืออยู่เยอะ เขาขมวดคิ้ว เดินเข้าไปเบาๆ จะเอาผ้ามาห่มให้ แต่ตอนห่ม จิดาภาก็ขยับ ตื่นแล้วเห็นพันเดช เธอพูด“ประชุมเสร็จแล้วเหรอ?”พันเดชพยักหน้า“ทำคุณตื่นเหรอ?”จิดาภาขยับ “เปล่า ตอนนี้ท้องเลยง่วงง่าย นอนแค่แป๊บเดียวก็ดีมากแล้ว!”“ทำไมกินไม่หมด ไม่ถูกปากเหรอ?”พันเดชถามพูดถึงตรงนี้ จิดาภาก็หันไป มองบะหมี่ที่โต๊ะ แล้วกินทันที ขมวดคิ้ว “เย็นแล้ว!”“ถ้าคุณอยากกิน เดี๋ยวสั่งให้อีกจาน!”จิดาภาส่ายหน้า “ไม่ใช่ ฉันอยากเหลือไว้ให้คุณ ตอนเช้าคุณยังกินไม่อิ่มนี่!”พันเดชจึงตะลึง จิดาภาไม่เคยเป็นคนดัดจริต และก็ไม่ใช่คนที่ใส่ใจใครก่อน ตอนนี้เธอพูดแบบนี้ จู่ๆเขาก็รู้สึกพูดไม่ออก“คุณรอผมอยู่?”จิดาภาพยักหน้า“แต่ตอนนี้เย็นแล้ว ไม่อร่อยด้วย!”“เดี๋ยวก็เที่ยงแล้ว เดี๋ยวไปกินด้วยกัน!”จิดาภาพยักหน้าพันเดชยิ้ม จากนั้นมองบะหมี่ที่โต๊ะ เข้าไป กินหนึ่งคำ จากนั้นก็พยักหน้าจริงจัง “ไม่เลว!”มองเขา จิดาภาก็ยิ้ม ในใจตื้นตันอย่างพูดไม่ออกจิดาภาถึงบริษัทแล้ว เอาแต่อยู่ในห้องทำงาน ไม่ไปไหน เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงจะเที่ยง จิดาภาจึงมองพันเดช“ฉันอยากออกไปเดิน!”พันเดชพยักหน้า“ผมไปด้วย!”“ไม่ต้อง ฉันอยากไปดูที่แผนกออกแบบ!”พันเดชดูเหมือนเข้าใจความคิดของจิดาภา จึงพยักหน้า “โอเค ทำงานเสร็จผมจะไปหาคุณ!”