หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 722 รู้ว่าเธอท้อง
ตอนที่ 722 รู้ว่าเธอท้อง
ในตอนนี้เอง เจมน่าก็หันหน้าไปมองหน้าลาภิศ แล้วก็จุ๊บลงที่แก้มเขาเหมือนกัน “พี่ลาภิศ ขอบคุณนะ!”
ฉากนี้ ดูผิวเผินเหมือนว่าจะไม่มีอะไร คนรอบข้างต่างพากันปรบมือ ไม่มีใครรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับพวกเขาเป็นยังไง แต่ดูแล้วเหมือนกับว่าจะสนิทกันมาก
“พวกเราถ่ายรูปด้วยกันดีมั้ย? เดช พวกเราไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันนานมากแล้วนะ!” เจมน่าหันมายิ้มให้เขาแล้วก็พูดออกมา
……
หลังจากเป่าเทียนเสร็จ จิดาภาก็แยกตัวไปหาที่เงียบๆ สงบๆอยู่ แล้วก็หยิบน้ำอุ่นมาด้วย พยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง
ผ่านไปไม่นาน เจมน่าก็เดินเข้ามา “พี่จิดาภา ทำไมพี่มาอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ? ”
พอได้ยินเสียงเจมน่า จิดาภาก็ยิ้มมุมปาก “อืม เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ ก็เลยอยากจะพักผ่อน! ”
เจมน่าเดินเข้ามา “ใช่สิ เมื่อกี้ฉันจุ๊บเดชไปทีนึง ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษเลยนะ ก็แค่อยากจะขอบคุณเฉยๆ” เจมน่าเดินเข้ามาพร้อมกับพูด
พอเห็นว่าเธอตั้งใจอธิบาย จิดาภาก็พยักหน้า “อืม เข้าใจแล้ว! ”
“คงไม่ได้คิดมากหรอกใช่มั้ย?” เจมน่าถามต่อ
“ก็เธอเป็นคนจุ๊บเดช แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนจุ๊บเธอซักหน่อย ฉันจะคิดมากได้ยังไง!” จิดาภาพูดออกมานิ่งๆ คำพูดนี้ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ว่าก็ทำให้คนอื่นเข้าใจความหมายได้อย่างดี
เจมน่ายิ้ม “ไม่ได้ถ่ายรูปตั้งนานแล้ว พวกเราไปถ่ายรูปด้วยกันเถอะ!”
“ไม่ดีกว่า พวกเธอถ่ายกันไปเถอะ ฉันอยากจะพักผ่อนอยู่ตรงนี้ต่ออีกซักหน่อย! ”
“ไปด้วยกันเถอะนะ ถ้าพี่ไม่ถ่าย เดชต้องไม่มีความสุขแน่ๆ” พอพูดจบ เธอก็ดึงแขนจิดาภา
“ไม่ต้องจริงๆนะ ฉันไม่ชอบถ่ายรูป! ”
“ไปด้วยกันเถอะ…”
ระหว่างที่ดันเธอออกนั้น น้ำในมือของจิดาภาไม่ค่อยมั่นคง เผลอไปหกใส่มือของเจมน่า
“โอ๊ย——”เจมน่าร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ตอนนี้เอง พันเดชก็เดินเข้ามาพอดี แล้วก็เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี เขามองหน้าจิดาภา แล้วก็รีบเดินเข้าไปหาเจมน่าทันที
“เป็นยังไงบ้าง? ” พันเดชถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ท่าทางเขาดูปวดใจมาก อยากจะรับความเจ็บแทนเธอ
“เจ็บมากเลย…”เจมน่าพูด ในตอนนั้นเอง มือที่บอบบางและอ่อนโยนของเธอก็แดงไปหมด
พันเดชเงยหน้าขึ้นมา มองหน้าจิดาภา เจมน่ารีบพูดต่อว่า “ผิดที่ฉันเองที่ยืนยันจะดึงพี่จิดาภาไปด้วยให้ได้ พี่จิดาภา ไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย? ” ท่าทางเป็นห่วงของเธอ สามารถดึงดูดสายตาคนอื่นได้มากเลยทีเดียว หลายคนก็มองมาตรงเหตุการณ์นี้ พันเดชเองก็มองหน้าจิดาภาเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าสายตาที่มองหน้าจิดาภา เต็มไปด้วยรอยย่น สำหรับจิดาภาแล้ว มันเป็นสายตาแห่งการตำหนิ “ฉันจะลากพี่จิดาภาให้ไปถ่ายรูปด้วย แต่ว่าเธอไม่ไป ฉันผิดเอง…” เจมน่าโทษตัวเอง พันเดชจับมือเธอไว้ “โอเค ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันพาเธอไปทายาดีกว่า!” พอพูดจบ เขาก็ดึงมือเจมน่าออกไป ในตอนนั้นเอง ไปรยาก็วิ่งเข้ามา แล้วก็เห็นพันเดชจับมือเจมน่าอยู่ ปากของเธอที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายที่ยังเคี้ยวไม่หมด แต่ว่าดวงตาเบิกโพลงมาก เห็นมือแดงๆ ของเจมน่า แต่ว่าไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น “พันเดช….” ไปรยาเคี้ยวอาหารจนหมด มองหน้าเขา “พวกเธอ…” แล้วสายตาของเธอก็หันไปมองจิดาภาที่ยืนอยู่ตรงระเบียง แล้วก็รีบวิ่งที่หยุดอยู่ตรงหน้าเธอทันที “จิ เป็นไงบ้าง?” จิดาภามองหน้าเธอ แล้วก็ส่ายหน้าออกมา ในตอนนี้เอง ไปรยาก็มองมือของจิดาภา “มือเธอเป็นยังไงบ้าง? ยังจะพูดว่าไม่เป็นอะไรอีกหรอ!? ” พอรู้ว่าไปรยาเป็นห่วงตัวเอง จิดาภาก็ค่อยๆ ยิ้มออกมา “ฉันไม่ได้เป็นไร! ” เวลาแบบนี้ จิดาภายังจะยิ้มอีก ไปรยาเป็นห่วงมากจริงๆ ภาพเหตุการณ์นี้ เป็นใครมาเห็นก็รับไม่ได้ทั้งนั้น! ผู้ชายที่ตัวเองรัก พาผู้หญิงคนอื่นไปทายา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยปากตำหนิ แต่ว่าการกระทำแบบนั้น ก็สามารถทำร้ายเธอได้มากมายแล้ว “จิ…”ไปรยามองเธอ ไม่รู้ว่าควรจะปลอบเธอยังไงดี ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดเธอเอง ที่สนใจแต่กิน ลืมสนใจเรื่องอื่นไปเลย ที่จะมาที่นี่เพื่อที่จะป้องกันยัยปีศาจตัวนั้นนี่นา! จิดาภามองหน้าไปรยา แล้วก็ยิ้มเพื่อให้เธอสบายใจ “ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ วางใจเถอะ! ” แต่ว่า ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆหรอ? จิดาภาเข้มแข็งขนาดที่จะไม่รู้สึกอะไรแล้วงั้นหรอ? เธอรู้ดีว่า เธอโกรธไม่ได้ เพราะว่าเด็กในท้อง ยิ่งห้ามโกรธ “จิ ทำไมเธอไม่บอกนายคนนั้นว่าเธอท้องล่ะ? ถ้าเกิดว่าเธอบอก เรื่องมันจะไม่เป็นแบบนี้เลย! ” ไปรยาพูดออกมาอย่างกังวล “เธอหมายความว่า ให้ฉันเอาเด็กมาเพื่อรั้งเขาไว้งั้นหรอ? ” ไปรยา “……ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น! ” จิดาภายิ้มออกมา “พอแล้ว เธอช่วยไปเอากระเป๋ามาให้ฉันหน่อย! ” มองหน้าจิดาภา ไปรยาก็เลยจำใจต้องพยักหน้า “โอเค งั้นเธอรอตรงนี้ก่อนนะ! ” ไปรยาก็หันตัวไปหยิบกระเป๋าให้จิดาภา มองไปทางรอบๆ เธอยิ่งรำคาญใจ ไม่ควรจะเห็นแก่กินเลยจริงๆ! ตอนที่เธอเอากระเป๋าจิดาภามาแล้ว ที่ระเบียงก็ไม่มีเงาของจิดาภาอีกแล้ว ไปรยานิ่ง แล้วก็วิ่งเข้าไป ก็ยังไม่เห็นใคร “จิ…” เธอมองไปรอบๆ คฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เงาของจิดาภาเลย เธอหาไปทุกที่ แต่ว่าไม่เจอเลย พอเห็นว่าคุณชายทั้งสามคนอยู่ตรงนั้น ไปรยาก็อดไม่ได้แล้วก็วิ่งเข้าไป “พวกคุณ พวกคุณเห็นจิมั้ย? ” ลาภิศ จัสตินและปาณชัยมองหน้ากัน แล้วก็ส่ายหัว “ไม่ได้ขึ้นไปพักผ่อนข้างบนแล้วหรอ?! ” ถ้าเกิดว่าขึ้นไปพักผ่อนข้างบนจริงๆ เธอก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องหลบเธอด้วยนี่ ตอนนี้เธอถึงนึกขึ้นได้ว่า ที่จิดาภาให้เธอไปหยิบกระเป๋า เพราะต้องการหนีจากเธอ ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นจริง ไปรยาก็ยิ่งเป็นห่วงขึ้นยิ่งกว่าเดิม ในตอนนี้เอง พันเดชกับเจมน่าก็ออกมาจากด้านใน “ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ นะ!” “ก็ต้องระวังไว้หน่อยสิ!”พันเดชพูดออกมานิ่งๆ พอเห็นว่าพวกเขาเดินเคียงคู่กันมาก ไปรยาก็เก็บความโกรธไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เธอหันไปมองโต๊ะน้ำดื่ม แล้วก็หยิบมาแก้วนึงพร้อมกับเดินไปตรงหน้าพันเดช แล้วก็สาดใส่ตัวเขาทันที เจมน่าอึ้งไป แล้วก็มองหน้าไปรยา “เธอทำอะไร? ” พอพูดจบ เธอก็หันหน้าไปมองพันเดช “เดช ไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย? ” การกระทำของไปรยา ดึงดูดสายตาของคนได้มากมาย ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ สายตาของคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น แม้แต่คุณชายทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลังก็ต่างอึ้งไปตามๆ กัน ผู้หญิงคนนี้ ช่างกล้าจริงๆ! พันเดชยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แชมเปญที่เลอะอยู่เต็มตัวเขา แต่ว่าไม่สามารถทำให้เขารู้สึกโกรธได้เลย สายตาที่มืดมนนั้น จ้องหน้าไปรยา ไปรยามองหน้าพวกเขา แล้วก็ยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “พันเดช ฉันเคยบอกว่านายเป็นคนเลว และมันก็ไม่ผิดจริงๆ ฉันบอกอะไรให้นะ ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิ ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไปแน่! ” เธอพูดออกมาอย่างโกรธแค้น สีหน้าของพันเดชดูอ่านยากมาก เขามองหน้าไปรยา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ก็เพราะว่า ผู้หญิงตรงหน้าเขาตอนนี้ คือเพื่อนสนิทที่สุดของจิดาภา ก่อนที่ไปรยาจะออกไปนั้น ก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วก็หันหน้ากลับไปมองหน้าพันเดช แล้วก็เหลือบมองเจมน่าด้วยหางตา “ดูเหมือนว่า ที่จิไม่ยอมบอกนาย ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่ว่าพันเดช ฉันขอบอกอะไรไว้ก่อนนะ นายจะต้องเสียใจ! ” หลังจากพูดจบ เธอก็จ้องหน้าพวกเขาเขม็ง แล้วก็วิ่งไปตามหาจิดาภาต่อ คำพูดของไปรยาหมายความว่ายังไง เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ แต่แค่รู้สึกว่า จิดาภาไปแล้ว เขารีบเดินเข้าไปหาลาภิศแล้วก็คุณชายทั้งสาม “จิดาภาล่ะ? ” “ไปแล้ว…” “ไปแล้ว? ” พันเดชขมวดคิ้ว ตอนนี้เอง ลาภิศก็มองหน้าเขา “เดช ในฐานะที่เป็นผู้ชาย พวกเราเข้าใจนาย แล้วก็เข้าใจว่านายทำแบบนั้นเพราะอะไร แต่ว่านายไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของจิดาภาเลยหรอ…? ” พันเดชมองหน้าพวกเขา แล้วก็ขมวดคิ้วจนเป็นปม สุดท้ายก็ตามออกไป “เดช…”ตอนนี้เอง เจมน่าก็เดินตามออกไปเหมือนกัน แต่พอเธอวิ่งออกไปนั้น รถของพันเดชก็แล่นออกไปแล้ว เจมน่าได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วก็มองรถที่จากไป ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ตอนนี้เอง ลาภิศก็เดินเข้ามา เอามือล้วงกระเป๋า สายตามองไปยังรถคันนั้น “เขาต้องไปตามหาเธออยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าเสียจิดาภาไป ชีวิตนี้สำหรับเขาแล้ว คงจะไม่มีความหมายอะไรแล้ว! ” คำพูดพวกนี้ จงใจพูดให้เจมน่าได้ยิน เจมน่าเงยหน้ามองหน้าลาภิศ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา…. ไปรยาเรียกเอลิสต์มา แล้วก็ขึ้นรถไป “เกิดอะไรขึ้น? ” ไปรยาไม่ค่อยจะเรียกเอลิสต์ออกมาจากร้านเท่าไหร่นัก สำหรับเธอเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการหาเงิน ครั้งนี้ก็เลยชัดเจนเลยว่า น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ ไม่ยังงั้นไม่เป็นแบบนี้หรอก “จิหายไป! ” ไปรยาพูดออกมา