หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 719 รักษาระยะห่าง
ตอนที่ 719 รักษาระยะห่าง
“นี่มันเป็นการปิดกั้นชีวิตเพลย์บอยของฉันจริงๆ ถ้าเกิดว่าต่อไปฉันโสด ก็เพราะเธอคนเดียว! ”
เจมน่ากลับยิ้มออกมา แล้วก็เดินเข้าไปออดอ้อนเขา “พี่ลาภิศขา ไม่ต้องพูดเรื่องที่พี่โสดหรอกค่ะ ต่อให้พี่แต่งงานไปแล้ว ผู้หญิงที่เดินตามที่ต้อยๆ จะน้อยลงหรอคะ? ”
คำพูดนี้ ลาภิศพอได้ยินแล้วกลับรู้สึกสบายใจมาก มองหน้าเธอแล้วตอบว่า “พูดมาเถอะ คุณผู้หญิงมาหาผมถึงที่นี่เพราะอะไรกันครับ!? ”
“ให้นายไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันไง! ”
“ฉันเนี่ยนะ? ” ลาภิศรู้สึกสงสัยเหมือนว่าตัวเองกำลังได้ยินผิดไป
เจมน่าพยักหน้า “ได้ยินว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดี ฉันก็เลยอยากไปกิน! ”
ลาภิศรู้สึกว่าสถานการณ์มีอะไรที่แปลกไป ก็เลยมองหน้าเธอ “แล้วทำไมไม่ให้พันเดชไปเป็นเพื่อนล่ะ? ”
“ทำไม? นายไม่อยากไปเป็นเพื่อนฉันงั้นหรอ?! ” เจมน่าถามกลับ
ลาภิศคิดอยู่ครู่นึง “ก็ได้ ยังไงวันนี้ฉันก็ไม่มีสาวๆ แล้วพี่คนนี้ก็เลยจำเป็นต้องไปกับเธอ แต่ว่า เธอต้องเลี้ยงนะ! ”
เจมน่ายิ้มออกมา “รู้แล้ว ขี้งก! ”
“ฉันแค่ให้โอกาสเธอได้แสดงการขอโทษ แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีในมาเลเซีย เรื่องแบบนี้สำหรับเธอแล้ว คงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกนะ! ”
“โอเคๆๆ รีบไปกันเถอะ! ” พอพูดจบ ทั้งสองคนก็เดินออกมา
ตอนที่กินข้าวอยู่นั้น ลาภิศก็มองออกว่า เจมน่าเหมือนจะไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไหร่
ลาภิศมองหน้าเธอ “เป็นยังไง อร่อยมั้ย? ”
เจมน่าถึงได้สติกลับมา แล้วก็มองหน้าเขาพร้อมกับรีบพยักหน้า “อืม อร่อยมาก! ”
“ทะเลาะกับเดชมางั้นหรอ? ”
“ไม่ใช่ซักหน่อย! ” เจมน่าตอบทันควัน
“แล้วทำไมอยู่ๆ วันนี้ถึงให้ฉันมากินข้าวเป็นเพื่อนได้?! ”
“การที่ฉันให้นายมากินข้าวเป็นเพื่อน รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมขนาดนั้นเลยรึไง? ” เจมน่าไม่ตอบแต่ว่าถามกลับแทน
ลาภิศยิ้มออกมา “เหมือนจะจริงด้วยแฮะ! ”
ในตอนนี้เอง เจมน่าก็มองหน้าลาภิศ “นายว่า ฉันเป็นแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ย? ไม่ควรจะให้เดชมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทุกวัน?! ” เจมน่าถามออกมา
ลาภิศคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พยักหน้า “ถ้าพูดตามหลักเหตุผลแล้ว ก็จริง! ”
พอได้ยินคำตอบของเขา เจมน่าก็รู้สึกผิดหวัง แล้วก็ก้มหน้าลง “ตอนนี้เขาก็มีเจ้าของแล้ว และอีกอย่างก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว ถ้าเธอเป็นแบบนี้ ในอนาคตอาจจะมีข่าวลือออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจ แต่ว่าก็ต้องนึกถึงความรู้สึกของจิดาภาด้วย! ” “แต่ว่า มันก็ไม่ได้มีอะไรจริงๆ นี่…” เจมน่าพูดออกมา แต่ว่าประโยคนี้ดูไม่มีแรงมากเลย ลาภิศยิ้มออกมา “เธอคิดแบบนี้ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่มีอะไรจริงๆ หรอ? ” เจมน่า,“……”สายตาของเธอมองไปตรงหน้าของลาภิศ ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะต้องพูดอะไรดี “ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเดชหย่ากับเธอไปแล้ว แต่จะแต่งงานกับเธอใหม่! ”เจมน่าพูดออกมา “หลายปีมานี้ พวกเขาแต่งงานกันเพราะเรื่องธุรกิจ แต่ว่าตอนนี้ เพราะว่าความรัก! ” ลาภิศพูดออกมา “ความรักงั้นหรอ? ” ลาภิศพยักหน้า หลังจากนั้นก็พูดต่อ “ดูออกเลยว่า พวกเขารักกันมาก จิดาภาเองก็เป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ คนหนึ่ง และฉัน ก็เคยเห็นเดชจริงจังมากขนาดนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน! ” ตอนแรกก็ไม่ได้มีอะไร แต่พอได้ยินลาภิศพูดดังนี้ เจมน่าอยู่ดีๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจ อยากกินอาหาร แต่ว่าไม่มีความอยากอาหารอีกต่อไป “นายว่า พวกเขาจะแต่งงานกันจริงๆ มั้ย? ” “แน่นอน! ” “ทำไมมั่นใจขนาดนั้น? ” “ลางสังหรณ์! ” เจมน่า,“……ลางสังหรณ์ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเรื่องจริง! ” “แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ? ” ลาภิศถามกลับ “ฉัน…”เจมน่าไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ที่จริง เธอก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน “เธอเคยเห็นเดชจริงจังขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เคยเห็นหรอว่า เขายอมละทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งน่ะ! ” ลาภิศพูดออกมา พอได้ยินดังนั้น เจมน่าก็ขมวดคิ้วแน่น “หมายความว่ายังไง? ” ดังนั้น ลาภิศก็เลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้เจมน่าฟัง พอฟังจนจบนั้น เจมน่าก็แข็งทื่อไปทั้งตัว “ฉันไม่เคยรู้เลยว่า มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้! ”เจมน่าพูด ตอนแรกเธอก็แค่คิดว่า จิดาภาก็เป็นแค่ผู้หญิงหนึ่งในชีวิตของพันเดช ที่สามารถตัดสินอนาคตเขาได้ แต่ว่าก็เป็นแค่ผู้หญิงที่เขาจะเลิกเมื่อไหร่ก็ได้เท่านั้น แต่ไม่เคยคิดเลยว่า ในระหว่างนั้นจะมีเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นแล้วเธอไม่รู้ ลาภิศมองหน้าเธอ แล้วก็ยิ้มออกมา “เธอไม่รู้ก็ถือว่าปกติ เพราะว่าเธอไม่ได้มาที่นี่หลายปีมากแล้ว! ” “แต่ว่า สิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือ เรื่องบางเรื่องก็อาจจะเปลี่ยนไปได้ตามกาลเวลา ไม่ว่าตอนแรกจะเป็นใคร แต่ว่าตอนนี้ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น เราไม่ควรคิดว่าใครจะเหมือนในอดีตตลอดไปได้หรอก! ”ลาภิศพูดออกมา เจมน่าเงยหน้ามองลาภิศ เธอฟังออกว่า คำพูดพวกนี้เขาจงใจพูดให้เธอ นี่ อดีตก็คืออดีตจริงๆ หรอ? เรื่องพวกนั้น ความทรงจำพวกนั้น จะสามารถลบมันออกไปได้มั้ยนะ? พอเห็นยาบำรุงพวกนั้น จิดาภาก็คิดเรื่องบางเรื่องออก แล้วก็นัดให้ฌัลล์ออกมา ทั้งสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน ฌัลล์สั่งนมให้จิดาภาอย่างใส่ใจ แล้วด้านหน้าตัวเองก็มีแก้วชาวางอยู่แก้วหนึ่ง “คุณฌัลล์คะ ครั้งนี้ที่ฉันนัดคุณออกมา เพื่อที่จะขอบคุณคุณ! ” จิดาภาพูด หลังจากนั้นก็ส่งกล่องหนึ่งให้เขา “ฉันรู้ว่าคุณชอบดื่มชา อันนี้ฉันให้ค่ะ! ” พอเห็นชา ฌัลล์ก็ยิ้มออกมา “ของตอบแทนงั้นหรอครับ? ” “ไม่รู้ว่ายังไง แต่ว่าคุณก็ลองดื่มดูก่อนสิคะ! ” จิดาภาพูด ฌัลล์ก็พยักหน้า แล้วก็ยื่นชาให้คนที่อยู่ด้านหลังเขา “คุณเป็นยังไงบ้าง? ได้ไปตรวจมารึยัง? หมอบอกว่า คุณต้องทำกิจกรรมให้น้อยที่สุด แล้วก็พักผ่อนให้มาก! ”ฌัลล์พูดออกมาอย่างเป็นห่วง แล้วก็นึกถึงท่าทางของจิดาภาเมื่อวันก่อน มันช่างน่าตกใจมากจริงๆ จิดาภายิ้มออกมา “หลายวันมานี้ฉันไม่ได้ไปไหนเลย แล้วก็กินอิ่มนอนอุ่น น่าจะไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะค่ะ! ” “อย่าใช้คำว่าน่าจะ ต้องใช้คำว่าแน่นอนถึงจะถูกต้อง อย่าลืมไปตรวจด้วยนะ! ” ฌัลล์พูดออกมา จิดาภาพยักหน้า โดยปกติแล้ว อายุประมาณนี้นั่งอยู่ด้วยกันเหมือนกับว่าจะไม่มีเรื่องอะไรให้คุยกันมาก แต่ว่าจิดาภากลับรู้สึกว่า ระหว่างพวกเขามีเรื่องให้คุยกันมากมาย ถึงแม้ว่าฌัลล์จะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย แต่ว่ากลับไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับทำให้รู้สึกสนิทสนมด้วยมากกว่า ตอนนี้เอง จิดาภาก็นึกอะไรออก มองหน้าฌัลล์ “คุณฌัลล์ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ? ” “ถามอะไรหรอครับ? ” “รอยสักบนแขนของคุณ มาจากอะไรหรอคะ? ” เหมือนครั้งที่แล้วเธอเคยได้ยินฌัลล์พูดอย่างคลุมเครือ แต่ว่าเธอก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ไม่คิดว่าจิดาภาจะจะถามถึงเรื่องรอยสัก ฌัลล์มองแขนของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้าปิดอยู่ แต่ว่ารอยสักนี้ก็ฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขาอยู่แล้ว ฌัลล์ยิ้มออกมา “รอยสักนี้ มันเกิดขึ้นตอนที่ผมเคยรักผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวอักษรบนนั้น ก็คือชื่อของเธอ! ” พอพูดขึ้นมา จิดาภาก็รู้สึกว่าน่าสนใจ “หลังจากนั้นล่ะคะ? ผู้หญิงคนนั้นล่ะ? ” “เธอ….” พอพูดถึงตรงนี้ ฌัลล์ก็มองหน้าจิดาภา หลังจากนั้นก็พูดออกมาว่า “หลังจากที่เธอโดนผมไล่ไป ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว! ” “คุณไม่เคยตามหาเธอเลยหรอ? ” “ตามหาแล้วยังไง ไม่ตามหาแล้วยังไง เธอก็น่าจะเกลียดผมจะตายอยู่แล้ว! ” ฌัลล์ตอบ “ความเกลียดชังทั้งหลายบนโลกใบนี้ก็มาจากความรักทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าเธอไม่รักคุณ แล้วเธอจะเกลียดคุณได้ยังไงกัน เพราะฉะนั้นตอนที่มีคนเกลียดคุณ คุณควรจะดีใจกับมัน เพราะว่าถ้าเกิดว่าคนๆนั้นไม่ได้แม้แต่เกลียดคุณด้วยซ้ำนั้น นั่นต่างหากที่น่าเศร้า มันหมายความว่า เธอไม่สนใจอะไรคุณแล้ว! ” จิดาภาพูดออกมานิ่งๆ แต่ว่าคำพูดนี้ กลับทำให้ฌัลล์อึ้งไปนาน ถึงแม้ว่าจิดาภาจะอายุยังน้อย แต่ว่าเธอเข้าใจเรื่องราวต่างๆ เยอะแยะมากมาย นี่เป็นเรื่องที่ฌัลล์ไม่เคยคิดเลย “บางทีก็อาจจะเป็นแบบนั้น แต่ว่าผมก็ไม่มีหน้าไปเจอหน้าเธออยู่ดี! ” “เพราะฉะนั้น เพื่อเธอแล้ว คุณกะจะอยู่คนเดียวยันแก่จริงๆ หรอ? ” จิดาภาถามออกมา พอพูดถึงตรงนี้ ฌัลล์ก็หัวเราะออกมา “ตอนนี้อายุผมเกินครึ่งร้อยแล้ว บางที นี่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ผมติดหนี้เธอ…” พอได้ยินคำพูดของฌัลล์ จิดาภาก็เบ้ปากเล็กน้อย “ฉันคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นน่าจะมีความสุขมาก ถึงแม้ว่าพวกคุณจะไม่ได้คบกัน แต่ว่าถ้าเกิดเธอรู้ว่าคุณทำเพื่อเธอ เธอต้องดีใจแน่ๆ! ” ฌัลล์ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ถ้าเกิดว่าเธอคิดแบบนั้นจริงๆ ก็คงจะดี…”แต่ว่าน่าเสียดาย… เขารู้ดีว่า เธอเกลียดเขามาก “แน่นอนค่ะ! ” จิดาภาพูดออกมานิ่งๆ “ขอให้เป็นแบบนั้น! ” หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เงียบ ในตอนนี้เอง ฌัลล์ก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้ มองหน้าจิดาภา “คุณจิดาภา ผมมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะตกลงมั้ย! ” “อะไรหรอคะ? ” “จนถึงตอนนั้น ผมขอตั้งชื่อเล่นให้ลูกของคุณได้มั้ย? ” จิดาภาอึ้ง ฌัลล์ก็รีบพูดต่อทันที ผมแค่รู้สึกว่ามีโชคชะตากับเด็กคนนี้ ก็เลย…” “ได้แน่นอนสิคะ ถ้าเกิดว่าคุณยอมล่ะก็ ให้เขาเรียกคุณว่าปู่ก็ไม่ใช่เรื่องที่มากไปหรอก! ” “ได้หรอครับ? ” “คุณเป็นคนช่วยชีวิตเขานะคะ จะไม่ได้ได้ยังไง! ” “ดีๆ ถ้ายังงั้นผมก็จะมีหลานแล้วน่ะสิ…”