หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 694 ประธานแทนชั่วคราว
ตอนที่ 694ประธานแทนชั่วคราว
เป็นอย่างที่คิดไว้ หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เปศลก็คิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้น “สั่งคนไปจับตามองนะ ถ้ามีเบาะแสอะไรก็รีบมาแจ้งทันที !”
ปวีร์พยักหน้า “ผมรู้แล้ว ผมได้ยินว่าตอนนี้คุณชายสามของเมือง A ให้คนไปค้นหาแล้ว ตามอำนาจของพวกเขาบวกกับความแข็งแกร่งของประเทศ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานก็จะมีเบาะแส ไม่ว่าจะยังมีชีวิตหรือว่าตายไปแล้ว อย่างน้อยก็ยังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง !”
เปศลนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้ามืดครึ้ม ตราบใดที่นึกถึงท่าทีที่จิดาภาไม่สบายใจเพราะสิ่งนี้ในตอนนี้ เขาก็ทนไม่ได้จนรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย
“สั่งคนไปหาด้วย !” เปศลพูดขึ้นทันใด
ปวีร์ “ผมรู้แล้วครับ !”
“ใช่แล้ว เรื่องที่ให้นายไปตรวจสอบเป็นยังไงบ้าง ?” เปศลมองไปที่เขาแล้วถามขึ้น
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ปวีร์ก็ชะงักแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสอะไรเลยครับ……”
“ยังไงก็ตาม ต้องตรวจสอบออกมาให้ได้ !” เขาต้องการรู้ว่าทำไมจันทนีถึงมีแหวนนั่น
ทำไมตอนนี้แหวนวงนั้นอยู่ในมือของเธอ ?
ส่วนจิดาภากับฉัตรชัยก็มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันมาก……
ระหว่างนี้มันต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน
บางทีจิดาภากับฉัตรชัยอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันอะไรบางอย่าง……
ปวีร์มองไปที่เปศล อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อคำพูดมาถึงปากก็ต้องกลืนลงไป รอให้เขาตรวจสอบเจอแล้วค่อยว่ากัน ไม่เช่นนั้นจะดีใจลมๆ แล้งๆ เขาก็ไม่อยากให้เปศลผิดหวัง วันถัดไป จิดาภาก็ปรากฏอยู่ในบริษัท ข่าวที่พันเดชขาดการติดต่อบนเครื่องบินก็ถูกคนเขาฉวยโอกาส ข่าวนี้ไม่รู้ว่าถูกใครปล่อยออกไป ในตอนเช้าผู้อำนวยการนิศัพท์ก็พาคนมาเปิดการประชุมว่าจะเลือกประธานคนใหม่ พันเดชก่อตั้งบริษัท CA ด้วยตัวเอง ใช้เวลาเพียงสองปีก็นำพาบริษัทไปถึงจุดสูงสุด สมรรถนะและความสามารถของเขาทุกคนต่างก็เห็นๆ กันอยู่ ดังนั้นแม้ว่าจะมีบางคนต้องการสร้างปัญหาก็ไม่มีโอกาส อีกอย่างเขาก็มักจะเอาแต่ใจของตัวเอง ดังนั้นจึงผิดใจกับผู้ถือหุ้นจำนวนมาก ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มีคนอยากจะให้โอกาสนี้เพื่อแทนที่ตำแหน่งของเขา ในห้องประชุมขนาดใหญ่ มีคณะกรรมการประมาณยี่สิบกว่าคนนั่งอยู่ตรงนั้นที่รอดูละครในวันนี้ “เรื่องของประธานพันเดช คิดว่าทุกคนน่าจะได้ยินแล้ว แม้ว่าผมจะรู้สึกเสียใจอย่างมาก แต่ยังไงซะในบริษัทก็ต้องการใครสักคนที่จะเป็นผู้นำ ดังนั้นผมแนะนำให้เลือกตั้งประธานคนใหม่ !” ผู้อำนวยการนิศัพท์ ยืนแล้วพูดขึ้น เขาจ้องอยากได้ตำแหน่งนี้มานานมากแล้ว ได้โอกาสนี้มามันไม่ใช่ง่ายๆ เลย เขาติดต่อกับผู้เรียบร้อย รอแค่เพียงวันเลือกตั้งใหม่เท่านั้น “ผู้อำนวยการนิศัพท์ เรื่องของประธานพันเดชยังไม่แน่นอนเลย การที่ทำแบบนี้ในตอนมันเร็วเกินไปหน่อยไหม ?” ผู้อำนวยการกอบชนม์事 เขาเป็นผู้อาวุโสของบริษัท ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันกับพันเดช แม้ว่าจะอายุเยอะกว่าพันเดชไปมาก แต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์และชื่นชมความสามารถในการเป็นผู้นำของพันเดช เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้อำนวยการนิศัพท์ก็มองไปที่เขา “ผู้อำนวยการกอบชนม์事 แล้วถ้าเรื่องแน่ใจได้แล้ว ก็จำไม่ถือว่าเร็วไปแล้วใช่ไหม ?” “วันนี้ผมได้รับใบรายชื่อของผู้ที่อยู่บนเครื่องบินตั้งแต่เช้า ส่วนประธานพันเดชก็อยู่บนนั้น !” ผู้อำนวยการนิศัพท์ พูด ผู้อำนวยการกอบชนม์事นั่งอยู่ตรงนั้น มองไปที่เขาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้การที่พันเดชไม่อยู่มันก็เป็นความจริง “ผู้อำนวยการนิศัพท์ เครื่องบินขาดการที่ต่อ แล้วยังไม่มีผลสรุปออกมา คุณไม่จำเป็นต้องรีบเลือกประธานใหม่ก็ได้นี่ !” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มุมปากของผู้อำนวยการนิศัพท์ ก็ยกขึ้น “ผู้อำนวยการกอบชนม์คุณเคยเห็นเครื่องบินเกิดเรื่องแล้วยังมีชีวิตกลับมาคืนด้วยเหรอ ? ก็ไม่ใช่ว่าผมหวังให้ประธานพันเดชเกิดอะไรขึ้นหรอก เพียงแค่ตอนนี้พวกเราจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด และไม่ปล่อยให้บริษัทอื่นได้มาฉวยโอกาส !” คำพูดนี้ดูเคร่งขรึมในคุณธรรมแต่ภายนอก “ดังนั้นผมยกมือเห็นด้วยกับการเลือกประธานคนใหม่ !” คำพูดของเขาเพิ่งออกมา สายตาก็มองไปที่ผู้คนทั้งยี่สิบที่กำลังนั่งอยู่ เมื่อเห็นมือของเขายกขึ้น ผู้คนที่อยู่ข้างล่างไม่น้อยก็ยกมือขึ้นตามๆ กัน ประธานกอบชนม์ฮึมเสียงอยู่ในลำคอ ไม่ให้ราคากับเขา แล้วยังมีกรรมการสองสามคนไม่เห็นด้วย แต่ในท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่ก็ชนะ 13-7 “เห็นได้ว่าเสียงส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยที่จะเลือกตั้งใหม่ !” “บริษัทมันจะไม่มีผู้นำไม่ได้ ดังนั้นผมเห็นด้วย !” “ผมก็เห็นด้วย !” ผู้คนพูดเสริมตามๆ กัน ผู้อำนวยการกอบชนม์รู้ดีว่าคนพวกนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อำนวยการนิศัพท์เป็นการส่วนตัว แต่มียังมีบางส่วนที่ถูกผู้อำนวยการนิศัพท์ บังคับให้เห็นด้วย ยังไงก็ตามคนส่วนน้อยต้องทำตามคนส่วนมาก ส่วนผู้อำนวยการกอบชนม์ก็จนปัญญา “ถ้าทุกคนไม่มีอะไรอยากจะพูด งั้นก็เริ่มได้เลยนะ !” ผู้อำนวยการนิศัพท์พูด ผู้ข้างล่างพยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นจึงตัดสินใจลงคะแนน ในขณะเดียวกันประตูก็ถูกผลักเปิด จิดาภาก็ปรากฏตัวอยู่ที่ประตู เมื่อเห็นจิดาภา ผู้คนที่อยู่ในนั้นต่างก็ตกตะลึง เรื่องของจิดาภากับพันเดชกระจายความโกลาหลออกไป ผู้คนที่อยู่น่าจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเธอ เมื่อเห็นเธอในตอนนั้น ผู้อำนวยการนิศัพท์ จึงมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแบบหนึ่งขึ้นมา จึงขมวดคิ้วขึ้น “คุณจิดาภา ได้โปรดให้เกียรติหน่อยนะครับ ตอนนี้เป็นเวลาที่ผู้ถือหุ้นของเรากำลังประชุมกันอยู่ !” เจ๊กตามหลังจิดาภามา ทั้งสองคนเดินเข้ามา สายตามองจ้องมาไปที่ผู้อำนวยการนิศัพท์ “ถ้าเป็นการประชุมผู้ถือหุ้น ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องเข้าร่วม !” เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ผู้อำนวยการนิศัพท์ก็ตลกขึ้นมา “คุณจิดาภา แม้ว่าคุณจะเป็นคู่หมั้นของพันเดช แต่ก็ไม่ได้ถือว่าคุณจะมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นของพวกเรา อีกอย่างพวกคุณก็เป็นแค่คู่หมั้น ยังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันสักหน่อย !” มองไปที่เธอแล้วผู้อำนวยการนิศัพท์ก็พูดคำต่อคำ จิดาภาเดินเข้าไปอย่างใจเย็น ไม่ว่ายังไงเธอจะไม่ปล่อยให้สิ่งของของพันเดชถูกคนพวกนี้จ้องจะเอา สายตากวาดไปที่เขา “ผู้อำนวยการนิศัพท์ก็พูดไม่ผิดหรอก ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับพันเดชจริงๆ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมประชุม แต่ว่าถ้าฉันเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนี้ จะมีสิทธิ์ไหม ?” คำพูดนี้ออกมา สายตาของผู้อำนวยการนิศัพท์ก็มองไปที่เธออย่างประหลาดใจ “คุณก็เป็นผู้ถือหุ้น ?” จิดาภายืนมือออกไป เจ๊กก็ยื่นเอกสารชุดหนึ่งไปให้ทันที จิดาภาเดินไปแล้วทิ้งเอกสารไปบนโต๊ะ “นี่เป็นสัญญาหุ้นของฉัน ตอนนี้ฉันมีหุ้นของบริษัทนี้สิบห้าเปอร์เซ็นต์ !” เมื่อพูดถึงสิ่งนี้พวกเขาก็ตกใจขึ้นทันที โดยเฉพาะผู้อำนวยการนิศัพท์ “คุณพูดไร้สาระอะไรเนี่ย ?” “พูดไร้สาระหรือไม่ไร้สาระ อันนี้ก็พิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วล่ะ !” ผู้อำนวยการนิศัพท์ เดินไปแล้วพลิกดูเอกสารของเธอ หลังจากเห็นแล้วจึงขมวดคิ้วขึ้น ยังไงก็นึกไม่ถึงเลยว่าประธานพันเดชจะโอนหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ให้กับจิดาภาแล้ว ดังนั้นในตอนนี้ นอกเหนือจากพันเดช จิดาภาก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัทนี้ !