หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 669 เพื่อนเจ้าสาวที่สวยที่สุด
ตอนที่ 669เพื่อนเจ้าสาวที่สวยที่สุด
เขามองรูปฉัตรชัยแล้วพูดขึ้น “20 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นฉันรู้ผิดต่อเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตอนนี้ก็คงไม่…”
“พี่ฌัลล์ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว อีกอย่าง ตอนหลังเธอก็ได้อยู่กับตำรวจคนที่จับพี่ ดังนั้นพี่ไม่ต้องรู้สึกผิดต่อเธอให้มากนักหรอก!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าสายตาของพี่ฌัลล์ กำลังคิดถึงเรื่องราวในอดีต เขาเงียบลง
เป็นอย่างนี้นี่เอง
ความรู้สึกผิดภายในใจก็เริ่มหายไปเล็กน้อย
“พี่ฌัลล์นี่ก็ดึกแล้ว พี่ควรจะพักผ่อนได้แล้ว!” ปวีร์พูดขึ้น
เขาโตมากับพี่ฌัลล์ ตลอดหลายปีมานี้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่พี่ฌัลล์เชื่อใจ
พี่ฌัลล์ พยักหน้า และลุกขึ้นไปพักผ่อน
ปวีร์เห็นแผ่นหลังของเขา ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้
ต่อจากนั้นมา
พี่ฌัลล์ก็ไม่ได้เจอกับจิดาภาอีก
จนกระทั่ง…
งานแต่งงานของเปรมศักดิ์กับกชกร
เพิ่งจะกำหนดการหมั้นหมายไป ไม่คิดว่าจะจัดงานแต่งเร็วขนาดนี้ วันนี้ เป็นวันที่คึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพื่อนสนิทของทั้งสองตระกูลจะค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ ผู้ที่ดึงดูดสายตาของคนในงานอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือ คุณชายทั้งสี่แห่ง เมืองA พันเดช ลาภิศ จัสตินและปาณชัย พวกเขาทั้งสี่คน เป็นคนหนุ่มที่โดดเด่น จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงดึงดูดสายตาของคนในงาน กชกรและลาภิศ รวมถึงญาติคนอื่นๆ ทำให้งานแต่งนี้ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก กชกรอยู่ในชุดแต่งงานเปิดไหล่สีขาวสะอาด เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่สวยเด่น ชุดแต่งงานบวกกับความสวยของเธอที่มีเป็นทุนเดิม ทำให้เธอสวยสะพรั่งเป็นอย่างยิ่ง “กช เธอสวยมากเลย” จิดาภายิ้มพลางมองกชกรผ่านกระจก “จิ ฉันตื่นเต้นมากเลย!” กชกรมองตัวเองในกระจก เธอรู้สึกเขินจนแก้มของแดงระเรื่อ “ตื่นเต้นอะไรกันล่ะ วันนี้เธอสวยที่สุดเลย!” จิดาภาพูด “หลังจากวันนี้ ฉันคงต้องเรียกเธอว่าพี่สะใภ้แล้วสิ!” เมื่อพูดคำนี้ หน้าของกชกรก็ยิ่งแดงเข้าไปอีก “เธอไม่ต้องมาล้อฉันเลย!” จิดาภาหัวเราะ “ใครล้อเธอล่ะ ก็นี่มันเรื่องจริง!” พูดพลางจิดาภาก็สูดหายใจแล้วกุมมือกชกร “พี่สะใภ้ ฉันมีอะไรจะพูดกับเธอ!” เมื่อได้ยินจิดาภาเรียกตัวเองว่าพี่สะใภ้ด้วยท่าทางจริงจังแบบนั้นแล้ว กชกรรู้สึกไม่ชิน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรกลับชอบเสียอีก “มีอะไรก็พูดมาเลย” “จากนี้ไปเธอก็จะมาเป็นพี่สะใภ้ของฉันแล้ว คนในบ้านไม่ว่าจะเป็น พี่ พ่อ แม่ ทุกคนต้องพึ่งเธอแล้ว ต่อจากนี้ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรให้เธอไม่ถูกใจตรงไหน ก็ขอให้เธอเห็นอกเห็นใจพวกเขาหน่อยนะ” จิดาภาพูด เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้กชกรหัวเราะขึ้นมา “เธอวางใจเถอะ ในเมื่อฉันตัดสินใจแต่งงานกับพี่ชายของเธอ ฉันก็เตรียมตัวมาพร้อมแล้วล่ะ!” จิดาภายิ้ม “ขอบคุณนะ” พูดพลางสวมกอดกชกร กชกรยิ้ม “พอแล้วๆ เธอล่ะทำไมยังไม่แต่งสักที รอให้เธอแต่งงานกับพี่พันเดช ถึงวันนั้นเราค่อยมาคุยกันก็ยังไม่สาย” จิดาภายิ้ม ขณะนั้นก็มีเสียงเรียกดังมาจากข้างนอก “เอาล่ะ ถึงฤกษ์มงคลแล้ว!” เมื่อได้ยินดังนั้น จิดาภาจึงรีบตอบออกไป “ค่ะ รู้แล้วค่ะ จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้!” พวกเขาเลือกที่จะจัดงานแต่งงานในโบสถ์ ส่วนช่วงค่ำจะเป็นงานเลี้ยงที่โรงแรม หลังจากเดินออกไปแล้ว จิดาภาที่รับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาว เธอเดินตามหลังกชกร เดิมทีเธอไม่อยากเป็นเพื่อนเจ้าสาว แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เพราะว่ากชกรขอร้องมา เธอจึงจำเป็นต้องรับหน้าที่นี้ หน้าประตู กชกรถือดอกไม้อยู่ในมือ ชุดเจ้าสาวยาวลากพื้น เธอควงแขนพ่อของตัวเอง เดินอย่างช้าๆ เข้าไปในโบสถ์ ขณะนั้น เสียงเพลงบรรเลงก็ดังขึ้น ความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์ จิดาภาเดินตามหลังแล้วมองไปยังแผ่นหลังของพวกเขา เธอก็เกิดความคิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือครอบครัว เมื่อมาอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้แล้วมันดีและน่าประทับใจจนไม่มีอะไรมาเทียบได้ บวกกับเสียงบทเพลงที่บรรเลงอยู่ในขณะนี้ เธอที่เดินอยู่ข้างหลังพวกเขา หวังให้พี่ชายของเธอกับกชกรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เธออวยพรออกมาจากใจจริง เปรมศักดิ์ยืนอยู่เบื้องหน้า เมื่อเขาเดินเข้ามา สายตาของเขาไม่ได้มองกชกรแต่กลับมองคนที่อยู่ข้างหลังอย่างจิดาภา ถึงแม้ว่าจิดาภาจะเป็นเพียงเพื่อนเจ้าสาว แต่ท่วงท่าอันสง่างามของเธอมันสะดุดตาและโดดเด่น โชคดีที่เธอแต่งหน้าอ่อนๆ ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ไม่งั้น กชกรต้องเสียใจที่เลือกเธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวอย่างแน่นอน จนกระทั่ง กชกรและพ่อของเธอเดินไปข้างหน้า ตอนนี้เองที่ทำให้เปรมศักดิ์เบือนสายตาออก และมองกชกร พ่อของกชกรจับมือของเธอส่งให้เปรมศักดิ์ “ตั้งแต่วันนี้ ฉันขอยกลูกสาวที่มีค่าที่สุดของฉันให้กับนาย นายต้องดูแลเธอแทนฉัน ยอมรับเธอด้วย” เดิมทีใบหน้าของกชกรยังประดับด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อพ่อของเธอพูดประโยคนี้ออกมา ทำให้น้ำตารื้นขึ้นมาเต็มขอบตา “พ่อ…” กชกรสะอื้น