หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 661 เจ้าชายขนมหวาน
ตอนที่ 661 เจ้าชายขนมหวาน
“ฉันอยากให้พ่อหนุ่มรูปหล่อคนนี้ช่วยทำให้ฉัน!”ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วชี้ไปที่เอลิสต์
พนักงานอึ้งอยู่ครู่นึง แล้วมองไปที่เอลิสต์ เอลิสต์ยิ้มหัวเราะเบาๆ“ได้ครับ!”
และแล้วก็เริ่มลงมือทำ ภายใต้คำแนะนำของพนักงาน ไม่นานมากก็ทำเสร็จ“ขอบคุณค่ะ!”หญิงสาวกล่าวขอบคุณ สองตาจ้องมองเอลิสต์อย่างลึกซึ้ง ใช้สองมือถือของไปอีกฟากนึง
“ไม่เป็นไรครับ!”เอลิสต์ยิ้มอย่างสุภาพบุรุษ
ณ ขณะนี้ ลูกค้าเริ่มเข้ามาเยอะ ล้วนแต่ยืนต่อคิวด้านหลังของหญิงสาวคนเมื่อกี้ “ฉันเอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้……”
“ได้ครับ!”
ตอนที่ผู้หญิงกำลังสั่งของ คนที่เข้าร้านยิ่งอยู่ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนไปเข้าแถวที่เอลิสต์กันหมด อีกทั้งล้วนแต่เป็นผู้หญิง จากนั้นพนักงานคนเดิมจู่ๆก็กลายเป็นผู้ช่วย
หลังจากไปรยาปรึกษาหารือกับอาจารย์สอนติ่มซำเสร็จก็เดินตามหลังเขาออกมาจากด้านใน เมื่อเห็นการต่อสู้ด้านนอก ก็อึ้งไปในทันที
เกิดอะไรขึ้น?
คนเต็มร้าน นั่งกันเต็มไม่ว่า ยังต่อแถวยาวเหยียด
เธอเปิดร้านมาตั้งนาน หลังจากวันแรกตอนที่พันเดชอยู่ที่นี่ คนเยอะขนาดนี้ นับจากวันนั้นก็ไม่เคยมีอีกเลย……
แต่ตอนนี้……
“สุดหล่อคะ ฉันจะเอาอันนี้……”
“ฉันก็จะเอาอันนี้……”
ทุกคนต่างมองมาที่เอลิสต์ ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขมาก คล้ายกับของที่พวกเขาสั่งมาก็แค่วางไว้ ไม่ได้สั่งมากิน แต่เพราะเอลิสต์นั้น……
ไปรยารู้สึกได้ทันทีว่า การมีหนุ่มหล่ออยู่ในร้าน สำคัญมากเลยทีเดียว!
ในร้านมีลูกค้าเต็มไปหมด ไปรยากำลังคิดพึมพำอยู่ เรื่องการหาสาวสวยหนุ่มหล่ออะไรทำนองนี้ ขณะนั้น เอลิสต์หันมา มองที่เธอ“มัวคิดอะไรอยู่?ยังไม่รีบมาช่วยอีก!” คำพูดของเอลิสต์ ทำให้ไปรยาตื่นตัว เธอมีสติกลับมา แล้วพยักหน้า“อ้ออ่อ!” และแล้ว เถ้าแก่ก็แปลงร่างเป็นพนักงานเสิรฟ เริ่มต้นความยุ่งเหยิงท่ามกลางผู้คนมากมาย ตอนที่ช่วยเสิรฟกาแฟ มีลูกค้ามาพูดกับไปรยาว่า“ผู้ชายในร้านของพวกคุณคนนี้ หล่อมากเลยอ่ะ!” ได้ยินอย่างนี้ ไปรยาก็ยิ้ม“จริงเหรอ?” “จริงสิ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอเขาเลย!” “อ่อ……เพิ่งมาค่ะ!”ไปรยาพูดไปยิ้มไป เพื่อรักษาลูกค้า ผิดชอบชั่วดีก็ต้องพูดไป “เขาชื่ออะไรหรอ?” “เอลิสต์!” หญิงสาวก็พยักหน้า ไปรยาไม่ลืมที่จะพูดต่อท้ายไปอีกประโยค“โสดนะคะ!” ประโยคเดียว ดึงดูดผู้คนจนตาส่องประกายแวววาว ไปรยายิ้ม แล้วก็รีบไปจัดการโต๊ะอื่นต่อ วันทั้งวัน จนถึงสี่ทุ่มถึงจะได้หยุดพัก ไปรยาฟุบอยู่ตรงนั้น เหนื่อยล้าจนไม่อยากขยับตัว แต่เอลิสต์กลับดูเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไรเลย เขาเดินเข้าไป ดูเธอ“เป็นไงบ้าง?เหนื่อยมากไหม?” ไปรยาพยักหน้า แม้แต่จะเอ่ยปากก็ขี้เกียจแล้ว “ดึกมากแล้ว กลับไป กินข้าวแล้วรีบพักผ่อน!”เอลิสต์พูด ไปรยาฟุบอยู่บนโต๊ะ พยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า“ได้!”สุดท้ายก็พยุงตัวเองขึ้นแล้วเดินไปกับเอลิสต์ เอลิสต์ขับรถ ส่วนไปรยานั่งตัวอ่อนปวกเปียกอยู่อีกด้าน ได้พักผ่อนสักหน่อย แทนที่จะเรียกว่าพักผ่อน เรียกว่าดีดลูกคิดของตัวเองจะดีกว่า เอลิสต์หันไป เห็นเธอเหนื่อยมากอย่างนี้ก็ไม่ได้พูดอะไร จนถึงบ้าน เอลิสต์ก็ไปทำกับข้าว ส่วนไปรยาก็เอนตัวนอนบนโซฟารออาหาร รอไปพลาง คิดแผนการเล็กๆของตัวเองไปพลาง เอลิสต์ทำกับข้าวเสร็จ ไปรยาก็ได้พักผ่อนบ้างแล้ว รู้สึกสดชื่นขึ้น เธอกับเอลิสต์นั่งกินข้าวด้วยกัน เห็นไปรยาเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา เอลิสต์เอ่ยปากถาม“กำลังคิดอะไรอยู่?” ได้ยินคำพูดของเอลิสต์ ไปรยาหันไป มองที่เขา คิดแผนการอยู่นานแล้ว ไม่มีใครอยู่ตรงหน้าเลยเหรอ! จะยังมีใคร มีความสามารถมากกว่า คนที่อยู่ตรงหน้าอีก? นัยน์ตาเหลือบขึ้น มองไปที่เอลิสต์ ทันใดนั้นก็ตักอาหารใส่จานให้เอลิสต์ด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง “กินเยอะๆหน่อยนะ วันนี้รบกวนเธอมากแล้ว!”เธอพูดไปยิ้มไป เห็นไปรยาตักอาหารให้เขา เอลิสต์ก็อึ้งไปพักนึง พลางพยักหน้า “อ้อ!” “วันนี้ต้องขอบคุณเธอจริงๆเลยนะ!” “ขอบคุณอะไรกัน?” “ขอบคุณเธอที่ช่วยงานที่ร้านไง ดูออกแหละ ว่าผู้หญิงพวกนั้นล้วนแต่อยากไปหาเธอ ครั้งที่แล้วตอนคนเยอะเต็มร้านขนาดนี้ ก็คือตอนที่พันเดชอยู่ วันนี้เพราะเธอเลยนะ!”ไปรยาพูด เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า คนสมัยนี้ ล้วนแต่กินเสน่ห์สีสันกันทั้งนั้น พูดเรื่องนี้ขึ้นมา สีหน้าของเอลิสต์เรียบเฉย แล้วก็กินต่อ ไปรยาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า ท่าทางการกินอาหารของเขาดูสง่างามมาก ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนพาลข้างถนน “วันนี้อาจจะบังเอิญคนเยอะพอดี!”เอลิสต์ไม่ต้องการรับความดีความชอบนี้ “บังเอิญหรือไม่บังเอิญ ฉันสามารถดูออกได้!”ไปรยาพูดอย่างมั่นใจ เอลิสต์“……” เอลิสต์เลือกที่จะเงียบ เห็นเอลิสต์ไม่พูดไม่จา ไปรยากระหมิบปาก แล้วขยับเข้าไปใกล้“นายท่อนไม้ ช่วงนี้เธอทำอะไรอยู่เหรอ?” ทันใดนั้นเสียงของไปรยาก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวล ทำให้ไม่ค่อยชินเท่าไรนัก เอลิสต์หันหน้ามองไปที่เธอ“เป็นไรไป?มีปัญหาอะไรรึเปล่า?” ไปรยาค่อยๆยิ้ม ถึงแม้รอยยิ้มนั้นแสนหวาน แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดเผยว่าเธอมีเป้าหมายบางอย่าง “บอกมาเถอะ!”เอลิสต์พูดออกไปตรงๆ ไปรยาก็ไม่อ้อมค้อมอีก อีกทั้งยังจ้องไปที่เขา แล้วยิ้มกว้าง“ฉันมีความคิดบางอย่าง!” “อะไร?” “ฉันอยากจ้างเธอ!” “ห๊ะ!?”เอลิสต์ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เธอ ไปรยาวางถ้วยและตะเกียบลง จ้องมองเขาอย่างจริงจัง“ว่ามา เธอต้องการค่าจ้างเท่าไร!?ฉันถามเธอแล้วนะ!” เอลิสต์“……”