หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 607 ผู้หญิงของเขา
พันเดชยิ้ม “ก็คนในครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจครับ”
เพียงแต่เวลานี้ สายตาเปรมศักดิ์กลับมองไปทางพันเดช
แม้ทั้งสองคนไม่ได้พูดเรื่องราวอะไรกันต่อหน้า แต่ทั้งสองคนก็อยู่ในตำแหน่งที่เป็นศัตรูกัน ตอนนี้พันเดชกลับจะมาช่วยเขา………
เขาหรี่ตา
“เอ่ใช่ ผมยังได้ยินมาว่า เพราะเรื่องนี้สัญญาของบริษัทเอสเคถูกยกเลิกไป จริงไหมครับ” พันเดชถาม
เพิ่งรู้ว่าการบริหารเรื่องธุรกิจของพันเดชเก่งกาจมาก การันต์ก็ไม่ได้ปิดบังเขา เขาพยักหน้า “ใช่”
“ที่จริง ผมมีข้อเสนอดีๆข้อหนึ่ง”
“อะไร”
“บริษัทเอสเคกับบริษัทแอเอสเป็นศัตรูกัน ทั้งสองบริษัทมีข้อพิพาทมากในความร่วมมือ ถ้าในเวลานี้สามารถร่วมหุ้นกับบริษัทแอเอสได้ มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีเลย”
“แต่ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น บริษัทแอเอสจะร่วมมือกับเราเหรอ” การันต์ถาม
พันเดชยกยิ้มที่มุมปาก “พอดีว่าผมกับผู้บริหารของบริษัทแอเอสมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน….”
ตั้งแต่ออกจากบ้านตระกูลสวันนีย์ ก็มืดแล้ว
จิดาภามองพันเดช หรี่ตามองอยู่ครู่หนึ่ง มองเขา “คุณพันเดช คุณกำลังช่วยธีร์อธิศ อยู่เหรอ”
“ทำไม คุณไม่ชอบเหรอ”
“ไม่ใช่ไม่ชอบ เพียงแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างชอบมาพากล” จิดาภาพูด
สำหรับเรื่องของเปรมศักดิ์ แม้เธอจะไม่ได้พูดให้ชัดเจน แต่ก็สามารถรับรู้ได้ จิดาภาลันเดชไม่ชอบฝ่ายตรงข้าม ตอนนี้พันเดชออกหน้าช่วยเปรมศักดิ์ หรือทำเพื่อเธอเหรอ
มองเธอแล้วจู่ๆพันเดชก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา พาจิดาภามาอยู่ในอ้อมกอด “เพื่อปกป้องผู้หญิงที่ผมรัก มันไม่เจ็บที่จะทำสิ่งเหล่านี้”
เมื่อได้ยิน จิดาภาก็ยิ้ม และไม่ถามอะไรต่ออีก
แต่เมื่อคิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจบอกเรื่องบางอย่างกับพันเดช
“เดช……” เธอเข้าไปในอ้อมกอดเขา
“หืม”
“ฉันมีเรื่อง เรื่องหนึ่งจะบอกคุณ” จิดาภาพูดเมื่อได้ยิน พันเดชก็เลิกคิ้ว “ตัดสินใจจะพูดแล้วเหรอจิดาภาพยักหน้า“โอเค พูดมาเถอะ”“ที่จริง……..ฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของตระกูลสวันนีย์” จิดาภาพูดรู้อยู่แล้วว่าเป็นอย่างนี้ แต่ได้ฟังจากปากของจิดาภาพูดเอง เมื่อมองหน้าจิดาภา นอกจากจะรัก ก็ไม่ต้องแสดงความรู้สึกมากมายจิดาภาขมวดคิ้ว มองเขา “คุณพันเดช ฉันไม่เห็นสีหน้าตกใจจากหน้าคุณเลย”เวลานี้ พันเดชกลับมองหน้าจิดาภา และค่อยๆลูบหน้า “หลังจากนั้นล่ะ”“ไม่มีแล้ว ฉันก็แค่อยากบอกคุณ เบื้องหลังบ้านตระกูลสวันนีย์ที่รวยพันล้าน” จิดาภาพูดพันเดชกลับเม้นริมฝีปาก จ้องมองเธอ “ในสายตาคุณ ผมสนใจในส่วนนี้ของคนเหรอ”“ไม่ว่าคุณจะเป็นคนของตระกูลตระกูลสวันนีย์พันล้านรึเปล่า หรือเป็นลูกสาวคนธรรมดา สำหรับผม คุณก็เป็นจิดาภา หนึ่งเดียว ที่ผมรัก ไม่ใช่เบื้องหลังของคุณ” พันเดชพูดทีละคำเมื่อได้ยินแบบนี้ จิดาภาก็ยิ้มที่มุมปากที่จริง เธอรู้ว่าพันเดชไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เมื่อได้ยินกับหูตัวเอง ก็รู้สึกสบายใจกว่า“ขอบคุณค่ะ”จิดาภาพูด หลังจากนั้นก็จูบพันเดชเบาๆเพียงแต่…….“คุณพันเดช คุณยังไม่ตอบคำถามฉันเลย”คำถามอะไร”“ได้ยินแบบนี้คุณน่าจะต้องตกใจ ทำไมสีหน้าคุณเหมือนไม่ประหลาดใจอะไรเลย….” เมื่อพูดจบเธอก็มองพันเดช ขมวดคิ้ว “หรือว่าคุณ………”พันเดชไม่ปฏิเสธ เขาพยักหน้า“คุณรู้ได้ยังไง คุณสืบเรื่องฉันเหรอ”พันเดชพยักหน้ายอมรับ “ครับ จิเรื่องนี้ผมต้องขอโทษคุณด้วย หลังจากที่ผมไปบ้านคุณครั้งก่อน พ่อคุณพูดอะไรกับผมมากมาย ตอนนั้นผมก็คิดว่าผิดปกติแล้ว ไม่คิดว่าผลจะเป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ” พันเดชพูดจิดาภาก็ไม่ได้โกรธ ที่จริงเขาตรวจสอบก็เป็นเรื่องปกติ“คุณไม่ต้องขอโทษฉันหรอก เมื่อก่อนฉันไม่ได้บอกคุณเอง”“แต่ ฉันจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของตระกูลสวันนีย์ แต่พวกเขาก็เหมือนพ่อแม่แท้ๆ” จิดาภาพูดพันเดชพยักหน้า “มองออก”“ไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็ขอบคุณนะ” จิดาภาพูดเธอไม่กล้าถามว่ารู้เรื่องของเปรมศักดิ์ไหม แต่เธอรู้สึกว่า แม้พันเดชรู้ก็จะไม่พูด เธอก็ไม่อยากพูดถึงด้วยเพราะเธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ธ์ระหว่างเธอต้องเปลี่ยนแปลง จึงไม่ได้พูดอีก“ถ้าขอบคุณเปลี่ยนการขอบคุณเป็นอย่างอื่น บางทีผมอาจจะขอบคุณมากกว่านี้” พันเดชพูด“เช่นอะไรเหรอ”“เช่น………” พูดพลางมือเขาก็ซุกซนไปอยู่ที่ต้นขาเธอจิดาภาตีเขา “พันเดช ที่นี่มันบนรถ”“โอเค คุณอยากให้ถึงบ้านก่อนก็ได้ ผมจะเพิ่มความเร็ว” พูดพลาง พันเดชก็มองคนที่อยู่ด้านหน้า พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “รีบขับหน่อย”ใบหน้าจิดาภาแดงจนปิดไม่มิด มองเขาด้วยแววตาโกรธ และมองออกนอกหน้าต่างพันเดชก็ยิ้ม ยื่นมือออกไปกอดเธอ……ที่จริง เมื่อเห็นข่าวลือก็เจ็บปวด ไปรยาก็รับรู้ที่จริงก็รู้เรื่องเปรมศักดิ์มาก่อนอยู่แล้ว แต่พอได้ยินข่าวลือก็เจ็บปวดอีกไม่คิดว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตแบบนี้ และมีข่าวนานติดต่อกันสามวันเธอคิดอยากจะโทรหาเปรมศักดิ์ แต่ก็ต้องอดใจไว้ตอนนี้โทรไปแล้วจะได้อะไรดวงตาที่แดงก่ำของไปรยา ในที่สุดเธอก็ได้สติกลับมา และมองตัวเอง “ไปรยา ในเมื่อคุณรับไม่ไหว งั้นก็ไม่ต้องทรมานอีกเลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”“ใช่ ไม่เกี่ยวอะไร”เธอพูดอย่างมั่นใจหลังจากนั้นก็พยายามที่จะดึงสติกลับมา และตัดสินใจไปดูแลเอลิสต์บางครั้ง การทำตัวให้ยุ่ง จะได้ไม่คิดอะไรมากหลายวันมานี้ ข่าวที่แพร่สะพัดไป เธอก็ไม่ได้โทรหาจิดาภา เธอไม่อยากให้เธอคิดว่า เธอยังไม่วางมือ และจิดาภาก็ไม่ได้โทรหาเธอ น่าจะยุ่งเรื่องของเปรมศักดิ์อยู่สุดท้ายเรื่องใหญ่อย่างนี้ ผลกระทบคงไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ยังมีบริษัทที่กว้างใหญ่ไพศาลเมื่อถึงบ้านของเอลิสต์ จิดาภาเปิดประตูตรงเข้าไปภายในห้องนอนไม่มีคน ไปรยาก็ออกมาจากข้างใน “ไปไหนแล้ว” เธอเรียกบางทีอาจเข้าห้องน้ำ ไปรยาก็ไม่ได้คิด จึงเดินไปที่ประตูห้องน้ำ ผลักประตูเข้าไปและเมื่อเปิดประตูไปรยาก็ต้องตะลึงอยู่ที่นั้นในห้อง เห็นเป็นภาพผิวสีข้าวสาลี สะโพกแคบ ส่วนเอวและหน้าท้องแบนที่ชัดเจน มันก็แค่แผลเป็นยาวในท้อง ถึงอย่างไร ก็ไม่มีผลต่อความงามของเขา เส้นที่น่าสนใจมาก หยดน้ำหยดลงมาจากข้างบน สร้างฉากอาบน้ำที่น่าสนใจ ดูแล้วมันเป็นสิ่งล่อใจที่ดีสำหรับสาวๆช่วงเวลานั้นสายตาอึ้ง ไปรยาตะลึงอยู่ตรงนั้น ขณะที่ ยังกระพริบตาด้วยความชื่นชมเอลิสต์หันกลับมา เมื่อเห็นไปรยา ก็ขมวดคิ้ว และรีบเอาผ้าเช็ดตัวมาปกปิดร่างกายเวลานี้ ไปรยาได้สติกลับมา มองใบหน้าแข็งทื่อของเอลิสต์ ในหน้าเธอก็แดงขึ้นมา “ฉัน…..ฉันไม่เห็นอะไรเลย คุณอาบต่อเถอะ”พูดพลาง ไปรยาก็รีบออกไปทันที และปิดประตูยืนอยู่นอกห้อง ใจไปรยาค่อนข้างไม่สงบเธอ เธอเห็นอะไรไป โอ้ยๆๆๆๆๆ อีกฝั่งหนึ่งก็ตะโกน คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับว่า เหมือนกับว่าเธอเห็นอะไรหมดทุกอย่างแล้ว……………