หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 605 ผู้หญิงของเขา
พันเดชค่อยๆหันกลับมา มองเบล่า หรี่ตามอง “อยากได้เงิน ก็ต้องดูว่ามีค่าพอไหม”
เบลล่ามองพันเดช ก็พูดไม่ได้ว่าเธอเจอคนมาเยอะแยะ แต่ลางสังหรณ์บอกเธอตลอดว่าผู้ชายตรงหน้ายิ่งใหญ่กว่าเปรมศักดิ์สิบเท่า ไม่สิร้อยเท่า
สุดท้าย เบลล่าก็ยอม
เดิมทีการแต่งงานเข้าบ้านตระกูลสวันนีย์ หลังจากนั้นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการกินอยู่แล้ว และยังดูแลน้องชายได้ด้วย แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
เวลานี้ พันเดชก็มองเธอ “ห้าล้านก็ได้ แต่ต้องมีหนึ่งเงื่อนไข”
“เงื่อนไขอะไร” เบลล่าถาม
ดังนั้นมุมปากของพันเดชก็ยกยิ้มหัวเราะ
เมื่อได้ยินแผนของพันเดช เบลล่าก็ขมวดคิ้ว
“แค่คุณทำได้ ห้าล้านก็จะไปอยู่ในบัญชีของคุณ ห้าล้านเป็นเงินจำนวนไม่น้อย สามารถพาน้องชายไปโรงพยาบาลได้ และใช้ชีวิตได้อีก” พันเดชพูด
ไม่ยอมรับไม่ได้ ที่เขาพูดล้วนเป็นความคิดของเบลล่า
เธอพยักหน้า “ได้ ฉันตกลง”
พันเดชยิ้ม คำตอบที่ดูเหมือนจะได้รับการแก้ไข
“งั้นผมจะรอข่าวดีจากคุณ หวังว่าหลังจากเสร็จงาน คุณจะเอาเงินและออกไป ไม่มาทำเรื่องไร้สาระให้ผมรู้อีก ไม่งั้นต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นผิดก็ไม่รู้”
“คุณให้ฉันออกไปจากที่นี่เหรอ”
“คุณคิดว่ายังไงล่ะ ผมจะทนคุณได้ง่ายๆเหรอ และคนตระกูลสวันนีย์จะยอมรับคุณเหรอ นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดของคุณ
“ฉันรับปากแล้วว่าจะไม่พูด ก็คือไม่พูด แต่ทำไมต้องทำอย่างนั้น” เบลล่ามองเขาอย่างหมดหนทาง
“คุณเบลล่า ผมไม่เข้าใจความหมายของคุณ คุณจะไม่พูดอะไร” พันเดชถามเบลล่า
เบลลล่างุนงงอยู่ครู่หนึ่ง
ผลคือ พันเดชไม่ใช่คนทั่วๆไป
พันเดชมองเธอแล้วยิ้ม “คุณเบลล่า ผมจะรอข่าวดีจากคุณ” พูดพลาง พันเดชก็ไม่สนเธออีก หันตัวกลับออกไป“เจ๊ก ให้เช็คเธอไปหนึ่งล้านก่อน” “ครับ”มองผู้หญิงตรงหน้า เจ๊กก็ส่งเช็คให้ และหันตัวกลับไปเบลล่าที่ยืนอยู่ แผนของเธอถูกทำลายไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อน้องชายเธอ…………พันเดชและเจ๊กออกจากที่นี่ หลังจากออกไป ใบหน้าพันเดชก็ขรึมขึ้น “ เรื่องนี้ห้ามพูดกับใคร รวมถึงจิดาภาด้วย”เจ๊กพยักหน้า “ครับ เจ้านาย” เพียงแต่………เจ๊กมองเจ้านาย “ทำแบบนี้ จะดีจริงๆเหรอครับ”“ทำไม นายมีความเห็นเหรอ” พันเดชถามเขากลับ“ไม่ครับ ผมหมายถึง ทำแบบนี้ ถ้าคุณจิดาภารู้………..”“ก็บอกว่าไม่ให้เธอรู้ไง” พันเดชพูดเจ๊กพยักหน้าทันที “ครับ ใช่ๆๆ ผมทราบแล้ว”เวลานี้ พันเดชยกยิ้มมุมปากและหัวเราะ “ผู้หญิงของฉัน เปรมศักดิ์ ดูด้วยว่าแกมีคุณสมบัติพอไหม”เจ๊กมองเจ้านาย พยักหน้า เจ้านายก็คือเจ้านาย มันมืดพอมันแย่พอ……… ดึงดูด“ออกรถ”“ครับ” เจ๊กตอบ และรีบขับรถตามคำสั่งหนึ่งวันจิดาภาคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ ว่าจะบอกเรื่องนี้กับพันเดชดีไหมแต่ถ้าพูดออกไป ในความคิดของพันเดช จะต้องคิดมากแน่ แต่ถ้าไม่บอก….แล้วเขารู้ทีหลัง จะต้องยิ่งโกรธแน่ๆ“เป็นอะไร กำลังคิดอะไรอยู่” พันเดชมองจิดาภาแล้วถามเมื่อได้ยิน จิดาภาก็ดึงสติกลับมา “อ่อ มีอะไรเหรอ”“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลย” พันเดชพูด หลังจากนั้นก็ถาม “หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”จิดาภาคิดแล้วคิดอีก ตัดสินใจยังไม่บอกอะไรตอนนี้เธอยิ้มและส่ายหน้า “เปล่าค่ะ” หลังจากนั้น ก็ยื่นมือไปกอดพันเดชพันเดชก็ยื่นมือไปโอบไหลเธอให้เธอได้มาอยู่ในอ้อมกอด“เดช คุณเชื่อฉันไหม”“เชื่อ”“งั้นก็ดี”“ไม่มีอะไรจะพูดเหรอ”“รอให้ฉันคิดก่อนว่าจะบอกคุณยังไงดี ค่อยพูด”“ได้ ผมจะรอคุณ”“อืม”ทั้งสองคนกอดกัน มองค่ำคืนของเมืองเอ………..และไม่ได้พูดอะไร แต่บรรยากาศ กลับไม่ได้หนักแน่ กลับมีคำพูดที่พูดไม่ได้พูดได้ว่าทั้งสองคนเป็นคนยังไงก็เข้าใจดีสิ่งที่ขาดหายไปคือคำพูดรุ่งเช้าข่าวเริ่มแพร่สะพัดในเมืองเอข่าวประธานคนใหม่บริษัทธีร์อธิศฆ่าตัวตายในโรงพยาบาลเมื่อจิดาภาที่กำลังดูข่าว จิดาภาก็ตกใจแน่นอนว่าดูออกว่า คนในภาพคือใคร เบลล่าแต่…………เมื่อวานเธอไปหาเบลล่า เธอไม่ได้มีอาการอะไรที่บาดเจ็บ ทำไมกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะหรือว่า…….เธอทำอย่างนี้ก็เพื่อที่จะเข้าไปในบ้านตระกูลสวันนีย์เหรอจิดาภาขมวดคิ้ว มองหนังสือพิมพ์พ์แต่พันเดชที่อยู่อีกฝั่งกลับกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนกับว่าข่าววันนี้เขารู้นานแล้วตอนนี้ จิดาภาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ และเห็นว่าเป็นเบอร์ของจันทนี จึงรีบรับสาย“ฮัลโหล่ แม่……..”“จิ วันนี้ลูกว่างไหม ไปโรงพยาบาลสักหน่อย”จันทนีพูด“โรงพยาบาลเหรอ ทำไมคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”