หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 51 สายตาทั้งคู่ปะทะกัน
ตอนที่ 51 สายตาทั้งคู่ปะทะกัน
อีกฝั่งหนึ่ง
เรื่องราวบางเรื่อง ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากพบเจอ เราก็จะไม่เจอ หรือว่าเราอยากจะหลบซ่อนก็จะหลบพ้นได้
สำหรับการแข่งขันออกแบบไฮไลค์ พวกเขาได้มีนิทรรศการ ที่ให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนต้องเข้าร่วมชม
ดังนั้นจิดาภาและพันเดชจำต้องไปด้วยกัน
หลังจากเกิดเรื่องวันนั้น ทั้งสองไม่ได้เผชิญหน้ากันสองต่อสองเลย และตอนนี้สถานการณ์อยู่บนรถเริ่มจะแปลกๆไป
เดิมจิดาภาคิดจะขอขับรถตัวเองไปเอง แต่ดูสีหน้าไม่พอใจของพันเดชแล้ว ก็ต้องกล้ำกลืนคำขอทั้งหมดลงไป
เพียงแค่ไม่ต้องพูดคุยกับเขา อย่างอื่นจิดาภายอมทั้งหมด
และ จิดาภาจงใจที่จะไปนั่งข้างหลัง เพื่อรักษาระยะห่างกับพันเดช
พันเดชนั่งอยู่ข้างหน้า ก็เลยต้องกลายเป็นคนขับรถไปโดยปริยาย
แต่ทว่า ทั้งหมดนี้จิดาภาไม่ได้สนใจอะไร สามารถเลี่ยงได้ เธอก็จะเลี่ยง
พันเดชขับรถไป เม้มริมฝีปาก ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้เอ่ยปากใดๆ จิดาภาที่นั่งอยู่ข้างหลัง เมื่อพันเดชไม่ได้เอ่ยปาก เธอก็ยิ่งไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน จึงนั่งเงียบๆมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ข้างหลัง และก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พันเดชเห็นเธอนิ่งเงียบ ส่งสายตามองกระจกที่สะท้อนให้เห็นข้างหลัง… ทันใดนั้นเอง จิดาภาหันกลับมา และมองตรงไปยังข้างหน้า เห็นพันเดชที่กำลังมองตนอยู่พอดี….. ในวินาทีที่สายตาทั้งคู่ปะทะกัน บรรยากาศยิ่งแปลกไปไม่เหมือนเดิม จากนั้นทั้งสองก็ละสายตาออกจากกันกลับเข้าสู่โหมดนิ่งเงียบเหมือนเดิม ไม่มีใครมองใคร ใจของจิดาภาเต้นแรง เพราะว่าเธอกลัวเหลือเกินว่าความทรงจำของพันเดชจะกลับมา และเกิดจำเธอขึ้นมาได้ แต่พันเดชไม่เหมือนกัน จ้องกันก็จ้องไปแล้ว แม้ว่าจะละออกจากกันแล้ว แต่ก็ละออกจากกันอย่างไม่สนใจ อยู่บนรถ ทั้งสองก็นิ่งเงียบกันต่อไป แบบนี้จนถึงที่หมาย ทั้งสองลงมาจากรถ แสดงบัตรเชิญ และเดินเข้างานกันไป ครั้งนี้เป็นการแสดงไข่มุกล้ำค่า จึงมีบอดี้การ์ดและหน่วยรักษาความปลอดภัยมากมาย เพราะสินค้าที่จัดแสดงทั้งหมดเป็นของจริง และก็ราคาสูงมาก ดังนั้นผู้ที่ได้รับเชิญจึงมีไม่มาก แน่นอนว่าก็มีเศรษฐีมาไม่น้อยเหมือนกัน รวมถึงคนที่มียศศักดิ์ หลังจากที่พันเดชและจิดาภาเข้างานแล้ว มีผู้คนมากมายเริ่มชมงาน “นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากครั้งแรก ชมดูให้ดีๆ อย่าให้CAขายหน้าล่ะ!” พันเดชเอ่ยขึ้น หลังจากได้ยินแบบนี้ คิ้วของจิดาภาค่อยๆขมวดเข้าหากัน ช่างเป็นคนที่ชวนให้โมโหจริงๆ แต่ใครใช้ให้เขาเป็นเจ้านายเล่า จิดาภาจึงทำได้แค่พยักหน้า เริ่มให้ชื่นชมงานออกแบบสินค้า บอกเลยว่า งานทุกชิ้นโดดเด่นนัก ดึงดูดมาก แต่ก็มีหลายชิ้น ที่รูปลักษณ์ภายนอกดูงดงาม แต่ไม่มีความหมายใดๆ จิดาภาดูไปเรื่อยๆ และไม่ได้มีชิ้นไหนที่สนใจเป็นพิเศษ จนถึงชิ้นนี้ เธอหยุดฝีเท้ายืนมองชิ้นที่อยู่ตรงหน้า เป็นงานออกแบบประเภทสร้อยคอ ดูเรียบง่าย ประดับไปด้วยเพชรสีน้ำเงิน ….ดูไปแล้วช่างงดงามเหลือเกิน พันเดชมองเห็นจิดาภาหยุดฝีเท้า ก็รู้สึกประหลาดใจ ก้าวเดินตามไปดูเช่นกัน ในขณะที่มองเห็นชิ้นงานนั้น เขาก็ชะงักไปเล็กน้อยเช่นกัน “ชอบหรอ?” พันเดชเลิกคิ้วสูงถาม “คุณไม่รู้สึกว่างานชิ้นนี้มันพิเศษ ไม่เหมือนใครเลยหรอ?” “พิเศษยังไง?” “จี้ตรงนี้ มันเหมือนดังหยดน้ำตาของคน…” จิดาภาเอ่ย ได้ฟังจิดาภาอธิบายแบบนี้ พันเดชมองตามก็รู้สึกว่าเหมือนจริงๆ โดยเฉพาะสีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกที่พิเศษมาก “นิดหน่อย!” “ฉันคิดว่า งานออกแบบชิ้นนี้ต้องมีความหมายพิเศษที่แฝงไว้แน่นอน!” จิดาภาเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ