หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 473 คิดสงสัยในใจ(1)
ตอนที่ 473 คิดสงสัยในใจ(1)
“บอกฉันสิคะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่เกี่ยวกับคุณ” จิดาภามองหน้าพันเดชแล้วถามขึ้นมา
เมื่อได้ยินดังนั้น พันเดชก็ตกใจจนคิ้วขมวด “นี่คุณคิดว่าผมเป็นคนทำเหรอ”
จิดาภาไม่รู้ เธอแค่ภาวนาว่าขอให้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพันเดช
สายตาเธอจับจ้องไปที่พันเดช หวังว่าจะได้ยินคำตอบ
เมื่อเห็นเธอทำหน้ากระวนกระวาย พันเดชก็เลยหัวเราะขึ้นมา “ผมยอมรับว่าผมให้คนไปตามหาเขา แต่เรื่องที่เขาตาย ไม่เกี่ยวกับผมเลยแม้แต่นิดเดียว” พันเดชมองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำ
“จริงนะคะ”
พันเดชพยักหน้า
จิดาภาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจ
“ฉันเชื่อคุณค่ะ” จิดาภาพูด
จากนั้น พันเดชก็เอามือมาแตะที่หน้าผากของเธอด้วยท่าทางหวงแหน เขาอมยิ้ม “คุณออกอาการเป็นห่วงผมชัดเจนขนาดนี้ แต่คุณวางใจได้ ผมไม่ใช่พวกนักเลงอันธพาล ไม่ทำอะไรที่มันผิดกฎหมายอยู่แล้ว” พันเดชบอก
จิดาภาได้ยินแล้วก็พยักหน้าเป็นอย่างนี้ก็ดีค่ะแต่พันเดชคงยังไม่รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่มันก็เหมือนกับทำร้ายตัวเองชัดๆต้องมีวันที่เขาจะต้องชดใช้ให้กับคำพูดนี้ยุ่งวุ่นกันตั้งแต่เช้า พอทานเข้าเที่ยงเสร็จ ทั้งสองคนก็ตรงไปโรงพยาบาลต่อจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวว่าคุณย่าจะฟื้นเลย แต่พันเดชและจิดาภาก็ยังไปเยี่ยมคุณย่าทุกวัน ไปดูสักหน่อยก็ยังดีวรชิตกับตุรีย์ก็ยังไปเฝ้าคุณย่าที่โรงพยาบาลทุกวันเมื่อเขาสองคนไปถึง วรชิตก็อยู่ที่นั่น “สวัสดีครับพ่อ“ พันเดชพูด “สวัสดีค่ะคุณลุง” จิดาภาทักทาย “อ้าวว”เมื่อเห็นสองคนมาหา วรชิตก็ใจชื้นขึ้นมาเยอะช่วงวันสองวันนี้ ข้างนอกมีแต่ข่าวลือมากวนใจเยอะแยะเต็มไปหมด“คุณย่ายังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมาเลยหรอครับ” พันเดชมองคุณย่าที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้แล้วเอ่ยถามพอพูดถึงเรื่องนี้ วรชิตก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง สายตามองไปที่เตียงคนไข้ “หมอบอกว่า โอกาสที่คุณย่าจะฟื้นนับวันก็ยิ่งน้อยลง”เมื่อพันเดชได้ยินก็หันไปมองคุณย่าด้วยสีหน้าที่เศร้าหมองเมื่อนึกนึกตอนที่คุณร่าเริงแข็งแรงแล้วตอนนี้กลับมาต้องนอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงแบบนี้มันช่างเป็นความรู้สึกที่เศร้าใจยิ่งนัก “คุณย่าครับ” พันเดชนั่งอยู่ข้างเตียงมองหน้าคุณย่าพลางกุมมือเธอไว้ “ผมเชื่อว่า คุณย่าจะต้องฟื้นขึ้นมา คุณย่าไม่ยอมนอนนิ่งๆไปตลอดแบบนี้แน่ๆใช่ไหมครับ”พูดไปคุณย่าก็ไม่ทีท่าทีว่าจะกระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย พันเดชพยายามยิ้มแบบฝืดๆออกมาเขามั่นใจ และมั่นใจมาตลอดทันใดนั้นโทรศัพท์ของพันเดชก็ดังขึ้นเขาหยิบมือถือขึ้นมากดรับโดยยังไม่ทันได้ดูว่าใครโทรเข้ามา“ฮัลโหล…” “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณพันเดชใช่ไหมครับ” “ใช่ครับ” “ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองAนะครับ” คนที่อยู่ในสายพูดเมื่อได้ยินดังนั้น พันเดชก็ตกใจเล็กน้อย เหลือบหันไปมองที่จิดาภา ก่อนจะพูดว่า “ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” “พอดีว่าเรามีเรื่องจะต้องคุยกับคุณ รบกวนมาที่นี่หน่อยนะครับ”พอได้ยินดังนั้น พันเดชรู้สึกว่าคงจะต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เขาจึงพยักหน้าบอกว่า “ได้ครับ “พูดเสร็จเขาก็ว่าสายไปแล้วเขาก็ลุกขึ้นมองไปที่พวกเขา “พอดีพบมีธุระต้องไปจัดการหน่อย ให้ผมไปส่งคุณกลับบ้านไหม” พันเดชถามจิดาภาจิดาภาไม่ได้ยินที่เขาคุยโทรศัพท์เมื่อครู่นี้ เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปทำธุระของคุณเถอะ เดี๋ยวฉันจะอยู่นั่งคุยกับคุณย่าสักพัก”