นิยาย หมุนกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless L…
ตอนที่ 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่
[แก้ไขชื่อแม่ทัพ เฉียงโหวจิน เป็น เฉียโหวจิน นะคะเนื่องจากต้นฉบับแปลมาผิด]
แต่เมื่อดาบอุดรวายุแห่งโจวเกือบจะตกลงบนเวทีหิน เขาก็หมุนตัวและหันฝ่ามือตัวเองลงพื้นคลื่นสายลมพัดโหมกระหนาออกมาจากฝ่ามือของเขาปะทะกับพื้นและผลักดันตัวของเขากลับขึ้นไป
เขาใช้เท้าถีบตัวขึ้นจนสร้างเสียงระเบิดขึ้นมากลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งกระโจนขึ้นไปอีกครั้งและตรงไปยังด้านบนสุด
ในเวลาเดียวกัน เหล่าจอมยุทธที่อยู่ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 นั้นก็กาลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เหล่าผู้เข้าแข่งขันในงานประชุมกระบี่ต่อก็เข้าปะทะกันที่ละคู่ ๆ และการต่อสู้นั้นก็ทําให้งานประชุมกระบี่นี้เร่าร้อนจนถึงขั้นสุด
ประกายแสงจากดาบที่ส่องประกาย และปราณกระบี่ถูกยิงไปมาทั่วทุกหนแห่ง จนท่าให้โครงสร้างของทั้งหอคอยเหล็กส่ายไปมาอยู่เรื่อย ๆ
โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดพร้อมกับดาบอัสนีคํารามและดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือต้านทานไม่ให้ดาบอดรวายแห่งโจวขึ้นมาด้านบนได้
ดาบอดรวายุแห่งโจวพุ่งไปมาอยู่ระหว่างชั้นที่ 9 และชั้นที่ 10
พร้อมกับดาบที่อยู่ในมือขวาของเขาและแท่งเหล็กที่อยู่ในมือซ้าย เขาช่างว่องไวราวกับวานร
เขาพุ่งตัวไปมาระหว่างชั้นล่างและชั้นบนสุดของพื้นเหล็ก เพื่อที่จะได้กระโดดขึ้นจากมุมที่ต่างกัน แต่การโจมตีของเขาก็ยังถูกโจวจวนจีปัดป้องเอาไว้อยู่ดี
ท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับล้าน โจวฉวนจีนั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากที่สุด
ด้วยดาบที่อยู่ในมือทั้งสองข้างนี้ เขาดูราวกับนักแสดงเดี่ยวผู้กวัดแกว่งดาบอยู่บนเวที ท่วงท่าของเขานั้นสง่างามราวกับนกกระเรียนที่ร่ายรําพร้อมทั้งท่วงทํานองที่ดัง ก้องมาจากขลุ่ย
เทียบกับเขาแล้ว ดาบอุดรวายุแห่งโจวนั้นเสียเปรียบสุด ๆ แม้แต่ในด้านความงดงามของวิชาดาบ เขาก็ยังไม่อาจเทียบกับโจวฉวน จีได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เสี่ยหรูโหยวขมวดคิ้วขณะที่ผู้อาวุโสท่านอื่น ๆ ที่เป็นผู้คุมกฎแห่งสํานักเสี่ยต่างก็เบิกตากว้างราวกับว่าพวกเขาพึ่งเห็นผี
“จิตดาบ… นั้นมันวิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีของพวกเรางั้นหรอ?”
เสี่ยหวโหยวถามผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเขาด้วยเสียงค่อย
เป็นธรรมดาที่เขาจะประทับใจในวิชาดาบระดับทมิฬขั้นสูงสุด
แต่เขาไม่แน่ใจว่านั้นใช่วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีจริงรึเปล่า
ผู้อาวุโสพยักหน้าอย่างเหม่อลอยก่อนจะพูด “ใช่แล้ว…นั่นคือวิชาเพลงดาบขลุ่ย หยก 36 วิถี…แล้วจิตดาบนั่น…นั่นคือจิตดาบของวิชานั้นจริง ๆ…”
วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีเป็นวิชาที่เขาชอบมาก
แต่มาตอนนี้ จู่ๆก็มีคนบรรลจิตดาบวิชานั้นไปได้แล้ว
ในตอนนั้นเอง ความรู้สึกเคารพที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นค่าพูดได้ก็ท่วมท้นอยู่ภายในใจเขา
วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีเป็นวิชาดาบที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายมากมันมีทั้งหมด 36 รูปแบบ ซึ่งสามารถทําให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัวได้เลยทีเดียว
โจวฉวนจีสลับไปมาระหว่างจิตดาบกระเรียนขาวและเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีโดยที่ยังคงจิตดาบไว้ได้อยู่
เทียบกับคู่แข่งคนอื่น ๆ เขานั้นแตกต่างกว่าใคร
ไม่เพียงแต่พลังวิญญาณเท่านั้น แค่ท่วงท่าอย่างเดียว เขาก็ยังเก่งกว่ายอดกระบี่จาวฉงหลายขุมนัก
ดวงตาของเจียงจือน้อยเปล่งประกายขณะที่คอยเฝ้ามองอยู่ท่ามกลางฝูงชน และ ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ฮวงเหลี่ยนชินก็เช่นกัน
ถึงแม่โจวฉวนจีจะตัวเล็ก แต่เขาก็ดูยิ่งใหญ่มากเมื่อเริ่มใช้ดาบประลองยุทธ จนทําให้เล่าผู้ชมต่างก็ต้องอุทานออกมา
ปรมาจารย์แห่งวิถีกระ!!
นี่มันท่วงท่าระดับปรมาจารย์ชัด ๆ
ไม่จําเป็นต้องมีคําอธิบายใด ๆ ทั้งนั้น เพราะทุกอย่างมันแสดงให้เห็นในการต่อสู้หมดแล้ว
โจวฉวนจได้แสดงออกมาให้เห็นหมดแล้ว
“เทพกระบี่โจว…ช่างสมกับฉายาจริง ๆ…”
“สลับไปมาระหว่าง 2 จิตดาบได้สบาย ๆ แถมติดขัดเลยแม้แต่นิดเดียวด้วย… เขาจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวจะมองเขาเป็นคู่แข่งน่ะ ถ้ามองข้ามเรื่องระดับวรยุทธไป นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ข้าได้เห็นคนที่บรรลุในวิถีกระบี่แบบนี้น่ะ”
“เขานี่แหละปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่ของจริงล่ะ!”
“ดาบอุดรวายุแห่งโจวโครตกระจอกเลยว่ะ! ดูเทพกระบี่โจวสิ! นี่แหละความยิ่งใหญ่ของจอมกระบี่ล่ะ!”
ผู้ชมนับล้นต่างแสดงความเห็นกันอย่างตื่นเต้น เสียงของพวกเขาดังสุด ๆ แต่ก็ไม่อาจกลบเสียงดาบที่กระทบกระทั่งกันได้
เมื่อได้เห็นการฉายเดี่ยวของโจวฉวนจีแบบนี้แล้ว ยังจะมีใครกล้าพูดอีกว่าโจวฉวนจีนั้นไม่สมกับฉายาของเขาเองน่ะ?
แม้แต่แม่ทัพระดับที่ 3 ของมหาจักรวรรดิโจวอย่างเฉียโหวจินยังถึงกับถอนหายใจ
“ช่างสมเป็นเทพกระบโจวซะจริง เขาจะต้องได้เข้าตารางจัดอันดับยอดฝีมือของมหาจักรวรรดิโจวหลังจากจบงานประชุมกระบี่นี้แน่”
ไม่มีใครปฏิเสธความคิดของเขา
นั่นก็เพราะพวกเขาต่างก็ชื่นชมในตัวโจวฉวนจี
ในขณะเดียวกันชายหนุ่มในชุดสีเหลืองก็พยายามเขย่งเท้ายืนมองอยู่ท่ามกลางฝูงชน ใบหน้าของเขานั้นดูดีมากทีเดียว และดูเหมือนผู้หญิงนิดหน่อย
นั่นก็คือองค์หญิงฉวนหยา ผู้มีพรสวรรค์รวมวิถีนั้นเอง!
ก่อนหน้านี้ที่เมืองกลืนเมฆา นางโดนฉวงฮัยเฉิงจับตัวเอาไว้ ถ้าไม่ได้โจวฉวนจีช่วยเอาไว้ได้ทันเวลาล่ะก็นางคงจะโดนพวกเผ่าปีศาจจับตัวไปแล้ว
แต่นางก็ยังไม่ให้อภัยโจวฉวนที่ปล่อยให้นางร่วงลงไปแบบนั้นอยู่ดี
นางเกือบตายเพราะตกจากที่สูงแล้ว
พอนางได้ยินว่าเทพกระบี่โจวตั้งใจจะเข้าร่วมงานประชุมกระบี่ด้วย นางก็แอบหนีออกมาจากพระราชวังก่อนจะแต่งตัวเป็นผู้ชายเพื่อมาดูการต่อสู้
ก่อนหน้าที่นางจะได้เห็นโจวฉวนจีที่อยู่บนยอดสุดของหอคอย นางยังเกลียดเขาอยู่เลยแต่มาตอนนี้ นางกลับชื่นชมในตัวเขาสุด ๆ
แถมนางยังตะโกนร้องให้เขาอีกว่า “เทพกระบี่โจว! ล้มเจ้านั้นให้ได้นะ!”
เมื่อทุกคนเอาแต่สนใจและร้องเชียร์ให้กับโจวฉวนจี ดาบอดรวายุแห่งโจวก็เริ่มรู้สึกแย่สุด ๆ
เขาครามขึ้นมาในใจโว้ย! ไอหมอนี่มันใช่จิตดาบต่อเนื่องได้ยังไงกันวะเนี่ย? แถมยังเปลี่ยนจิตดาบเป็นว่าเล่นอีก…แม่งเอ้ย!
“งั้นข้าจะสู้กับเจ้าด้วยพลังทั้งมีที่มีแล้วกัน!”
ทันใดนั้นเอง ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากตัวเขา เขากระโดดขึ้นจากด้านหลังของโจวฉวน
ราวกับว่าโจวฉวนจีมีตาหลัง เขาฟันเข้าหาศัตรูด้วยดาบทั้งสองเล่มพร้อมกันท่วงท่าการเคลื่อนไว้ของเขานั้นรวดเร็วและไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ แถมยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม
ในทางกลับกัน จิตสังหารแผ่กระจายออกมาผ่านแววตาของดาบอุดรวายุแห่งโจวมือทั้งสองข้างของเขาถือดาบเอาไว้ และลมกรรโชกแรงก็ปรากฎหมุนวนออกมารอบดาบของเขาในตอนที่จะฟัน
ในคราวนี้ เขารวมเอาพลังวิญญาณทั้งหมดออกมา แม้แต่กล้ามแขนของเขาก็ยังใหญ่ขึ้น
แสงสะท้อนจากดาบที่เย็นเฉียบราวกับตะวันที่ฉายแสงกระจายไปทั่วฟากฟ้ามาก เสียจนทําให้ผู้คนต่างต้องหรี่ตาลงรวมทั้งตัวโจวฉวนจีเอง
แกร๊ง
เมื่อดาบทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน ดาบอัสนีคารามก็ปลิวลอยออกไปเพราะแรงปะทะ โจวจวนจีรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่มือของเขา จนต้องถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณ
มันเป็นฉากที่ทําให้ทุกคนต่างก็รู้สึกกังวลใจไปตาม ๆ กัน
แม้แต่เพียงฉือน้อยยังต้องเอามือมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอแทบจะกระเด้งออกมาจากปากเลยทีเดียว
ดาบอุดรวายุแห่งโจวยิ้มกว้างไม่ว่าวิชาดาบของเจ้าจะร้ายกาจสักแค่ไหน แต่พลังวิญญาณของเจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไปอยู่ดี!
ตอนโจวฉวนกําลังจะร่วงลงจากชั้นบนสุดนั้นเอง เขาก็ใช้นิ้วเท้าเกี่ยวแท่งเหล็กที่อยู่ข้างใต้หลังคาเอาไว้ ดาบมังกรสีชาดปรากฏออกมาด้านหลังของเขา ก่อนจะผลักเขากลับขึ้นไป
ผู้ชมนับล้านต่างเบิกตากว้าง
นั่นมันวิชาดาบอะไรกัน?
ดาบนั่นมีชีวิตหรอ?
โจวฉวนกลับขึ้นไปยังชั้นบนสุด ในขณะที่ดาบอดรวายุแห่งโจวก้าวเท้าข้างนึงลงไปบนพื้นของชั้นบนสุดแล้ว
ทันใดนั้น ดาบไร้ลักษณ์ก็ปรากฏขึ้นข้างโจวฉวนจี
มีเพียงเขาที่เห็นเท่านั้น
จากนั้น เขาก็ร่ายวิชาขยายวิถีกระบี่ขึ้นมาภายในใจและใช้มันกับดาบไร้ลักษณ์
ฟืบบบบ!
หน้าอกของดาบอุดรวายุแห่งโจวโดนแทงจนทะลุเลือดพุ่งกระจายออกมาจากบาดแผล
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อในสายตาพร้อมทั้งเบิกตากว้าง
เกิดอะไรขึ้น?
ร่างกายของเขาล้มลง โจวฉวนจมองเขาที่ค่อย ๆ ร่วงหล่นไกลออกไป
โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดและมองลงมายังคู่ต่อสู้ของเขา แววตาของเขาดูสงบนิ่ง ราวกับว่าเขากําลังมองเจ้าสิ่งที่ไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขาเลย
ดวงตาของดาบอดรวายุแห่งโจวเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ความโกรธาสุมอยู่ภายในใจเขา
ไม่! ข้าจะมาแพ้แบบนี้ไม่ได้
เขาครามขึ้นมาในใจ แม้เขาจะเจ็บหนักขนาดไหน แต่เขาก็เปลี่ยนพลังวิญญาณในร่างกายของเขาและเตรียมพร้อมที่จะพุ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง โจวฉวนจีก็เขวี่ยงดาบอัสนีคารามตรงมายังดาบอดรวายุแห่งโจว ดาบเล่มนั้นบินหมุนวนและพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วประสานกับสายฟ้า
ตู้มมมมม!
ดาบอัสนครามแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าฟาดที่รุนแรงเสียจนสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์
ฟ้าผ่าด้วยความเร็วแสง !
ดาบอุดรวายุแห่งโจวที่กาลังร่วงลงไปอยู่นั้น ก็ไม่อาจจะหลบได้ทันเวลา
ขณะที่ฝูงชนเฝ้ามองอยู่ สายฟ้าก็ฟาดลงมายังดาบอุดรวายุแห่งโจวและทําให้เขาร่วงลงไป และเพราะฐานของหอคอยนั้นมีความกว้างที่มาก สายฟ้าจึงฟาดลงมาโดนเสาเหล็กพอดี ซึ่งมันทําให้เหล่าคู่แข่งที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นต่างก็รู้สึกหวาดผวากันไปหมด
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า
ฟ้าผ่าลงมายังบนผืนดิน!
ดาบอดรวายุแห่งโจวกระแทกเข้ากับพื้นอย่างจังจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบนเวทีนั้น เต็มไปด้วยฝุ่นควันจนตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไง
ณ ตอนนี้ ดาบอุดรวายุแห่งโจวได้ถูกกําจัดแล้ว!
ผู้ชมนับล้านต่างตกอยู่ในความเงียบสงัด
พร้อมกับดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือ โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดของหอคอย เขาดูน่าเกรงขามสุด ๆ พร้อมทั้งชุดสีดําสนิทที่กําลังพลิ้วไหวไปตามสายลมสะกดให้เหล่า ผู้ที่อยู่ใต้สรวงสวรรค์นั้นต้องตกอยู่ในความตะลึงงัน!
MANGA DISCUSSION