นิยาย หมุนกระบีทะลวงสวรรค์THave Countless… ตอนที่ 54 : ลงทัณฑ์ในนามของตัวแทนแห่งสรวงสวรรค์!ด้…
ตอนที่ 54 : ลงทัณฑ์ในนามของตัวแทนแห่งสรวงสวรรค์!ด้วยวิชาสิบกระบี่อันทรงพลัง!
*เทพกระบี่โจวผู้ไร้พ่ายงั้นหรอ?*
สีหน้าของเยี่ยเอ้อกวานเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาได้ยินชื่อเทพกระบี่โจว
เขาเคยได้ยินมาว่า เทพกระบี่โจวเป็นผู้สังหารปีศาจระดับ 4 ที่เป็นกายเนื้อ ขององค์ชายแห่งราชวงศ์ปีศาจกู่หลานแล้วยังมีเรื่องที่เขาเอาจอมกระบี่แดน เหนือผู้องอาจมาเป็นทาสกระบี่อีกในช่วง 2 ปีมานี้ เทพกระบี่โจวมีชื่อเสียงมากกว่าเขาซะอีก
จอมยุทธทั้ง 6 คนเมื่อได้ยินแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกมีความหวังมากขึ้น
“พวกเรารอดแล้ว! เขาคือเทพกระบี่โจวล่ะ!”
“ผ่านฟากฟ้าที่กว้างใหญ่ วิหคมัง กรต่างคํารามก้องไกลเทพกระบโจวทลายรังโจรร่วมกับผู้ติดตามจอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ!… เงยหน้าขึ้นดูสิตรงนั้นมีวิหคมังกร 2 ตัวอยู่จริงๆล่ะ!”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมเขาถึง ต้านเยี่ยเอ้อกวานไว้ได้น่ะ”
“เหมือนอย่างที่ตํานานเล่าไว้เลย เขา ดูเหมือนเด็กจริง ๆ”
“เจ้าเห็นดาบในมือเขานั่นมั้ย มันคือ ดาบในตํานานของแท้เลย!”
เหล่าจอมยุทธต่างเริ่มพูดคุยกันอย่าง ดุเดือด แม้แต่คนที่บาดเจ็บสาหัสที่สุดในหมู่พวกเขายังคุกเข่าลงอย่าง ไร้เรี่ยวแรง
เยี่ยเอ้อกวานรู้สึกกลัวนามของเทพก ระบี่โจว และเพราะอาคมซ่อนปราณเขาเลยไม่สามารถมองเห็นระดับวรยุทธที่ แท้จริงของโจวฉวนจีได้
เขาบ่นพึมพําออกมา “ท่านเทพกระ บโจว พวกเราไม่มีความแค้นเคืองใด ๆต่อกันเลยนะ แล้วทําไมท่านถึงมาพรา กดาบที่เป็นสมบัติของข้าไปกันนี่ท่านตั้งใจจะมีเรื่องกับสํานักอสูรโลกันตร์จริง ๆ น่ะหรอ?”
“คืนดาบของข้ามาซะ แล้วข้าจะทํา เป็นว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น!”
นี่เขากล้วงั้นหรอ?
โจวฉวนจีเลิกคิ้วพลางรู้สึกผิดหวัง
ดูเหมือนว่าข้าจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว สินะ
“นายท่าน ฆ่าเขาเถอะขอรับ เจ้านั่นมัน เคยสังหารหมู่คนทั้งเมืองมาก่อนเพราะงั้นมันต้องกลับมาแก้แค้นท่านแน่ ถ้า ท่านคืนดาบให้มันไปล่ะก็มันจะต้องลอบกัดใส่ท่านอย่างแน่นอน!
จอมกระบี่ผู้องอาจร้องตะโกนออกมาพ ลางใช้มือกุมอกเอาไว้
เยี่ยเอ้อกวานจ้องเขม็งไปทางเขา ใน แววตานั้นเต็มไปด้วยจิตสังหารอันเหลือล้น
จู่ๆ โจวฉวนจีก็นึกอะไรออก และเริ่ม พูดพึมพํากับตัวเอง
ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ส่งดาบสีโลหิตนี่ คืนไปแน่
ชายคนนี้มันเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอ ย่างแท้จริง การฆ่าเขาจะช่วยขจัดเนื้อร้ายขนาดใหญ่ออกไปจากชาวบ้านได้?
เมื่อคิดแบบนั้น โจวฉวนจีก็เดินตรงไป ยังเยี่ยเอ้อกวานพร้อมกับดาบในมือ
“ข้าล่ะเกลียดพวกที่ชอบรังแกคนอ่อน แอซะจริง ไอพวกปีศาจร้ายที่สังหารผู้ บริสุทธ์ โชคร้ายของเจ้านะที่ดันมาเจอข้าน่ะบางที่มันคงเป็นบัญชาจากสวรรค์ล่ะมั้ง ถ้าเช่นนั้นในวันนี้ข้าจะเติมเต็มเจตจํานงของสรวงสวรรค์นั้นด้วยการฆ่าเจ้าเอง!”
โจวฉวนจิกล่าวออกมาด้วยความเที่ยงธรรมเสียงของเขาแม้จะฟังดูอ่อนโยนแต่เนื้อความภายในนั้นช่างสว่างไสวและเต็มไปด้วยบารมีอันสูงส่ง
สีหน้าของเยี่ยเอ้อกวานตึงขึ้นมาทันที และเริ่มพูดก่นด่าสาปแช่ง “ไอเด็กไร้ยางอาย! มาขโมยดาบข้าไป! แล้วยังกล้ามาพูดถึงความยุติธรรมอีก!ข้าจะบดขกระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเจ้าคอยดู”
ตู้มมมม!
เขากระทืบเท้าลงบนพื้นดิน และคลื่นเงาโลหิตก็พุ่งตรงไปยังโจวฉวนจี
โจวฉวนจีเปิดใช้งานวิชาสองกระบี่ของอาคมหมื่นกระบี่มังกรทันที
คลื่นปราณกระบี่มังกร 2 ตัวออกมาล้อ มรอบตัวของเขาโจวฉวนจีบิดตัวก่อนจะหมุนตัวและฟาดฟันตรงไปยังจอมยุทธปีศาจทันที
เยี่ยเอ้อกวานพลิกมือขวาและมีดพร้าเหล็กขนาดยักษ์ก็ปรากฎออกมาจากนั้นจอมยุทธปีศาจก็ฟันไปทางโจวฉวนจีด้วยความเกรี้ยวกราดอย่างรุนแรง
แน่นอนว่าโจวฉวนจีที่เป็นถึงจอมยุทธที่ฝึกฝนด้านกายภาพจะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งอยู่แล้วขณะที่ดาบอัสนีคํารามปะทะเข้ากับมีดพร้าเหล็กกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปตามใบดาบตรงเข้าร่างของจอมยุทธปีศาจทันทีและด้วยความตกใจเขาจึงรีบปล่อยมือออกจากมีด
ฟีดดดด
โจวฉวนจีเหวี่ยงมือซ้ายออกไปก่อนจะเฉือนเข้าไปที่เสื้อตรงอกของจอมยุทธปีศาจจนเลือดพุ่งกระจายออกมา
รูม่านตาของเยี่ยเอ้อกวานหดตัวลงทันทีเขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา
เขารีบถอยหลังกลับทันทีและถามนมา“นั่นมันดาบอะไรกัน?”
ด้วยระดับวรยุทธที่สูงของเขา เขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่ามีดาบที่มองไม่เห็นอยู่ในมือของจอมยุทธเด็กนั่น
ปราณกระบี่ที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนรู้ตัวอีกทีก็รู้สึกได้ถึงคมดาบเย็น เฉียบแล้ว
โจวฉวนจีหัวเราะออกมาอย่างเหยียด หยามก่อนจะพูดตอบ“นี่คือดาบไร้ลัก ษณ์ ดาบพิฆาตยังไงล่ะ!”
เขาเข้าประชิดตัวเยี่ยเอ้อกวานด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่พร้อมกับดาบ 2 เล่มใน มือราวกับสายลม ผสานด้วยความแข็งแกร่งของร่างกาย เขาก็ฟาดฟันลงไปยังจอมยุทธปีศาจที่คอยถอยหลัง หลบอยู่ตลอดเวลา
ภาพที่ได้เห็นนี้ทําให้เหล่าคนที่มองดูอยู่ต่างรู้สึกลุ้นระทึกและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน
จอมกระบี่ฆ้องอาจกําหมัดแน่นพลางพึมพําออกมาด้วยความตื่นเต้น “นี่แหละ นายท่านของข้าล่ะ… วิชาสองกระบี่ที่สุดแสนจะทรงพลังยังไงล่ะ!”
เขารู้ว่าโจวฉวนจียังมีวิชาสิบกระบี่อยู่อีก
ศึกนี้เขาต้องชนะแน่นอน!
ดวงตาของฮวงเหลี่ยนชิ้นเปล่งประกายแวววาวขณะที่มองไปยังโจวฉวนจี ไม่ว่านายท่านของนางจะเผชิญหน้ากับใครเขาก็ไม่เคยเสียเปรียบเลยแม้แต่ ครั้งเดียว
ในอีกด้านหนึ่ง เจียงฉือน้อยมองไปยัง น้องชายตัวน้อยของเธอด้วยความภาคภู มิใจ
และจอมยุทธอีก 6 คนต่างก็ได้แต่อ้า ปากตาค้างขณะที่มองการต่อสู้นั้น
พวกเขาเดากันว่าเทพกระบี่โจวจะแพ้ เยี่ยเอ้อกวานแต่ไม่คิดเลยว่าในภายห ลังเขาจะกลายเป็นคนเสียเปรียบแทน
กรงเล็บของเยี่ยเอ้อกวานนั้นแข็งดุจโลหะพวกมันแข็งมากพอที่จะปัดป้อง ดาบของโจวฉวนจีได้
เขากระโดดถอยหลังออกมาพลางยื่นมือซ้ายไปด้านหลังเอวอย่างรวดเร็ว
น้ําเต้าสีเลือดปรากฏขึ้นในมือของเขา จากนั้นเขาก็เปิดมันด้วยนิ้วโป้ง
เขาเหวี่ยงน้ําเต้าสีเลือดไปทางโจวฉวนจีทรายสีโลหิตจํานวนมากถูกสาดกระจายไปยังโจวฉวนจี
โจวฉวนจีกําดาบอัสนีคํารามเอาไว้แน่นก่อนจะปล่อยพลังวิญญาณเข้าไปในดาบทันใดนั้นเองอัสนีบาตถักทอกันเห มือนใยแมงมุมปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาแล้วหยุดทรายที่กําลังจะพุ่งทันที
แต่อย่างไรก็ตาม ทรายขนาดเล็กจํานวนมากก็ยังลอยมาโดนตัวเขาอยู่ดี ทรายพวกนั้นมีฤทธิ์กัดกร่อนที่รุนแรงมาก เสียจนเผาเสื้อผ้าทะลุลงไปยันผิวหนังและใบหน้าของเขาก็ท่วมไปด้วยเลือด ในทันที
อาการปวดแสบปวดร้อนนี่อาจจะทําให้เขาเสียโฉมได้ถาวรเลย
“แม่งเอ้ย! งั้นก็ได้ ข้าจะใช้พลังทั้งหมดสู้กับเจ้าเอง!”
เขารู้สึกเดือดดาลสุด ๆ ในฐานะลูกผู้ ชายแล้วสิ่งสําคัญที่สุดไม่ใช่รูปลักษณ์หน้าตาแต่เป็นทัศนคติต่างหาก
แต่ในเมื่อเขามีหน้าตาที่ดูดีขนาดนี้แล้วงั้นเขาจะไปยอมเสียมันไปง่าย ๆได้ยังไงกันล่ะ!
ดาบมังกรสีชาด, ดาบคลื่นเหมันต์, ดาบชโลมโลหิต, ดาบพยัคฆ์คําราม, ดาบผ่าวายุ,ดาบหินกลายทอง, ดาบเสียง สวรรค์ และดาบเงามายาปรากฏขึ้นด้านหลังเขาทันที ทุกเล่มต่างชี้ปลายดาบตรงไปยังเยี่ยเอ้อกวาน
อาคมหมื่นกระบี่มังกร วิชาสิบกระบี่!
ปราณกระบี่ในรูปลักษณ์ของมังกรล้อ มรอบตัวโจวฉวนจีเรือนผมสีเข้มของ เขาพริ้วไสวไปตามกระแสปราณด้วยเลือดที่ท่วมใบหน้าของเขาแบบนี้ มันทําให้เขาดูราวกับพึ่งเดินออกมาจากนรกที เดียว
การที่ต้องมาเห็นน้องชายของตัวเอง บาดเจ็บแบบนี้เจียงฉือน้อยก็กุมมือตัว เองไว้แน่นด้วยความกระวนกระวายใจเธอไม่กล้าละสายตาไปจากเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
เยี่ยเอ้อกวานมองด้วยความตกใจก่อนจะถามขึ้นมาด้วยน้ําเสียงอันสั่นเทา “นี่มันอะไรกัน…”
วีดดดดดด! วีดดดดดด! วีดดดดดด..
ดาบในตํานานทั้ง 8 เล่มต่างเคลื่อนไหวไปในวิถีที่ต่างกันและพุ่งเข้าใส่เยี่ยเอ้อกวานทันที
โจวฉวนจีเหวี่ยงดาบอีก 2 เล่มในมือพร้อมใช้วิชาดาบสะบั้นสามชีพจรและกลืนกินจอมยุทธปีศาจด้วยพลังปราณกระบี่ที่ทั้งรุนแรงและทรงพลัง
เยี่ยเอ้กวานพยายามที่จะกันตาม สัญชาตญาณแต่เขาจะไปปัดป้องดาบ จํานวนมหาศาลขนาดนี้ได้ยังไงกัน
ยิ่งกว่านั้น เขาไม่มีวัตถุวิเศษที่ดี ๆ อยู่ ในมือเลยด้วยซ้ํา
ในพริบตาเดียว เลือดก็พุ่งกระจาย ออกมาจากร่างของเขาดาบในตํานาน ทั้ง 8 เล่มทิ่มแทงทั่วร่างของเขาจนมันทําให้เขาดูราวกับเม่นที่เดียว
เลือดไหลลงไปตามใบดาบในตํา นานทั้ง 8 เล่มเส้นชีพจรทั่วร่างของเขาฉีกขาดเพราะปราณกระบี่จนขาอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงและทรุดลงต่อหน้าโจวฉวนจี
เขาตกอยู่ในความหวาดกลัวสุด ๆและกลัวว่าอวัยวะภายในจะระเบิดออกมาเขาจึงร้องขอออกมาทันที “ข้ายอมแพ้แล้ว! ข้ายอมแพ้!ดาบกระหายโลหิตนั้นเป็นมานานแล้วดังนั้นๆปลาย่าม่า
ข้าเลย…”
“พวกเราไม่มีแค้นเคืองใด ๆ ต่อกันเลย…แล้วทําไมถึงต้องหวังจบชีวิตข้า ด้วย…”
ด้วยดาบในตํานานทั้ง 8 เล่มที่ทิ่มแทงไปทั่วร่างของเขาแบบนี้ เยี่ยเอ้อกวานก็รู้สึกเจ็บสุด ๆในทุกครั้งที่พูดจนในที่สุดเขาก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป
เหล่าผู้คนที่คอยดูการต่อสู้นี้อยู่ต่างก็ส่งเสียงเชียร์ออกมาทันทีเมื่อได้เห็น
เทพกระบี่โจวจัดการเยี่ยเอ้อกวานได้ในทันทีด้วยความบ้าระห่ํา!
พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับวิชาดาบแบบนี้มาก่อน
โจวฉวนก้าวออกไปข้างหน้าเขาเงยหน้าขึ้นพลางมองลงไปยังเขา ก่อนจะพูดขึ้นมา “เจ้ารู้จักวิธีกายบริหารตามเสียงเพลงวิทยุมั้ยล่ะ?”
กายบริหารตามเสียงเพลงวิทยุเหรอ?
มันคืออะไรวะนั่น?
เยี่ยเอ้อกวานรู้สึกตกตะลึง แต่จู่ๆ เขาก็ตะโกนออกมา“ข้ารู้! ข้าจะทํา!”
ฟื้ดดดด!
เพียงแค่ตวัดเดียว โจวฉวนจีก็ตัดหัวของเขาขาดเลือดพุ่งกระจายออกมาจน ย้อมสีพื้นที่อยู่เบื้องล่าง
หัวของจอมยุทธปีศาจร่วงลงไป ก่อนจะหยุดกลิ้งลงไกลหลายหลา
โจวฉวนจีพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ในโลกใบนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครก็ตา มที่รู้วิธีกายบริหารตามเสียงเพลงวิทยุมีชีวิตอยู่หรอกนะ”
แล้วไอเจ้าลัทธิมารเวรนี่มันเสือกรู้วิธีกายบริหารตามเสียงเพลงวิทยุของอารยธรรมจีนได้ยังไงกันวะ?
ตามปกติแล้วโจวฉวนจีจะแทงร่าง ของเขาซ้ําอีกหลายรอบเผื่อว่าเขาจะแกลังว่าตาย
หลังจากนั้น เขาก็เริ่มค้นทั่วร่างของเยี่ยเอ้อกวานเพื่อหาแหวนเก็บของและกระเป๋าเก็บของ
เขาโบกมือขวาของเขา และดาบในตํานานทั้งหมดก็บินลอยมาอยู่ตรงหน้าของเขา เขาหยิบขวดน้ําและผ้าแห้ง ๆ ออกมาก่อนจะเริ่มล้างดาบของเขา
เจียงฉือน้อยและคนอื่น ๆ วิ่งออกไปพวกเขาต่างก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องบาดแผลของเขา
เจ้างูสีดําบ่นพึมพําขณะที่ถูกเจ้าหนู ทรายสามตาลากอยู่ “โอ้ไม่นะ… ไม่… กว่าข้าจะฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์ได้ ไอเด็กนี่มันก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้อีกมั้นหรอ… ข้าจะไม่มีวันเป็นอิสระได้เลยใช่ มั้ยเนี่ย…?”
MANGA DISCUSSION