หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 570 สัญญาของสองสามีภรรยา (3)
ตอนที่ 570 สัญญาของสองสามีภรรยา (3)
ว่าไปแล้วตอนนั้นสถานการณ์กรมการคลังค่อนข้างตึงเครียด ทว่าทะเลสาบอีอวิ๋นกลับไม่ขุดลอกซ่อมแซมไม่ได้ ขืนมีพายุโหมกระหน่ำขึ้นมาคงแย่ ฮ่องเต้จึงบัญชาให้เหล่าขุนนางใหญ่คิดหาวิธี ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่หนิงหวาก็ควักเงินหนึ่งแสนตำลึงให้ฮ่องเต้ทันที จึงกลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคนที่เป็นเชื้อพระวงศ์ ฮ่องเต้เองก็ทำดีต่อน้องสาวตัวเองเป็นอย่างมาก จึงสัญญาว่าหลังจากจากทะเลสาบอีอวิ๋นซ่อมแซมเสร็จ จะเลือกสถานที่ริมทะเลสาบที่นางโปรดปรานที่สุดสร้างบ้านพักตากอากาศ
เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าองค์หญิงและท่านอ๋องคนอื่นๆ จำใจต้องควักเงินตัวเองออกมา ถึงจะมีทะเลสาบอีอวิ๋นที่ทิวทัศน์งดงามเช่นนี้ แต่เพราะเรื่องราวเป็นมาเช่นนี้ บ้านพักตากอากาศริมทะเลสาบอีอวิ๋นจึงกลายเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของตระกูลเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด
แน่นอน องค์หญิงใหญ่หนิงหวาไม่ได้มีบ้านพักตากอากาศเพียงหลังเดียว เงินหนึ่งแสนตำลึงแลกที่ดินพื้นใหญ่ได้หนึ่งแปลง หลังจากทะเลสาบอีอวิ๋นซ่อมแซมเสร็จ บ้านพักตากอากาศของนางก็ค่อยๆ สร้างขึ้น หลังจากสิบกว่าปีผ่านไป นางสร้างบ้านพักตากอากาศไปสี่หลัง บ้านพักตากอากาศเจียงหนานที่ให้หันหมิงชั่นเป็นสินเดิมเจ้าสาวนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
หลังจากถึงบ้านพักตากอากาศ หันหมิงชั่นก็ไม่ได้เกรงใจ จึงสั่งให้คนใช้พาสองสามีภรรยาถังเซียวอี้และสองสามีภรรยาเว่ยจางไปพักผ่อน ส่วนตนก็พาเซียวหลินไปเข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่หนิงหวา
กล่าวถึงเหยาเยี่ยนอวี่และเว่ยจางพาเซียงหรูและสาวใช้คนสนิทอื่นๆ ถือห่อผ้าเดินตามสาวใช้ในบ้านพักตากอากาศไปยังเรือนที่เรียกว่า ‘ฮ่วนเย่ว์’ สาวใช้ที่เข้าเวรอยู่ด้านในเรือนเตรียมน้ำชาร้อนๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากปรนนิบัติทั้งสองล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด กลิ่นสุราบนร่างเว่ยจางก็จางไปมาก
“เจ้าดื่มไปมากเพียงใดกันเชียว เหตุใดถึงมีกลิ่นฉุนเช่นนี้” เหยาเยี่ยนอวี่ยกมือติดกระดุมตรงคอเสื้อให้แม่ทัพเว่ย พร้อมพร่ำบ่นเสียงเบา
เว่ยจางไม่พูดอะไร แค่ก้มหน้ามองสตรีตรงหน้า ทั้งยังปั้นหน้าน้อยอกน้อยใจ เหยาเยี่ยนอวี่เงยหน้ามองสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเขา จึงอดถามยิ้มๆ ไม่ได้ “ใครไปทำอะไรให้เจ้า ถึงได้ทำสีหน้าบูดบึ้งเช่นนี้”
แม่เว่ยจางยังคงไม่พูดไม่จา เรื่องที่มีชายอื่นมองฮูหยินตนเอง เขาจะพูดออกมาได้อย่างไร อีกอย่าง ฮูหยินของเขายังไม่รู้ตัว ซ้ำยังไปเป่าขลุ่ยดึงดูดความสนใจของเจ้าหมอนั่น อีกฝ่ายถึงกับวาดภาพพู่กันพร้อมแต่งบทกวีให้นาง พอพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เกลียดชังยิ่งนัก
ไอ้คุณชายไร้ยางอายคนนั้นกลับยังเป็นน้องชายภรรยาของหันซังเกออีก เซียวหลินเองก็ปกป้องเขา!
ช่างน่าโมโหยิ่ง!
เหยาเยี่ยนอวี่มองเว่ยจางมีสีหน้าที่ยิ่งนานยิ่งแย่ ยังนึกว่าเขาไม่สบาย รีบยื่นมือไปจับชีพจรบนข้อมือเขา ก็ไม่รู้ว่าเขาไปโมโหมาจากไหน ผลักนางออกทันที
“เจ้าเป็นอะไรไป” เหยาเยี่ยนอวี่อดขมวดคิ้วถามไม่ได้
“ไม่เป็นอะไร” เว่ยจางนั่งลงด้วยสีหน้าเยือกเย็น
เหยาเยี่ยนอวี่รีบตามไปนั่งลงข้างเขา ถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่สบายตรงไหนหรือไม่ อย่างนั้นเจ้าก็พักผ่อนในเรือนเถอะ ข้าจะไปต้อนรับแขกเหรื่อแล้วจะกลับมาให้เร็วที่สุด?”
เว่ยจางได้ยินคำพูดนี้ ก็นึกถึงเฟิงเซ่าเชินคงฉวยโอกาสเสวนากับฮูหยินเขาอีก ฉะนั้นก็ยิ่งไม่สบอารมณ์กว่าเดิม แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ไม่ต้อง ข้าจะไปด้วย”
เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้วมองเขา ไม่พูดไม่จาอีก เว่ยจางถูกจ้องมองจนไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงเอนกลายลงไปพิงบนหมอน จากนั้นก็หลับตาลง
เซียงหรูยกน้ำแกงสร่างเมาเข้ามาด้านใน เห็นแม่ทัพพิงอยู่บนตั่งไม้ จึงมองเหยาเยี่ยนอวี่เพียงปราดหนึ่ง
เหยาเยี่ยนอวี่ไม่อยากทะเลาะกับเขาต่อหน้าสาวใช้ จึงลุกขึ้นรับน้ำแกงสร่างเมาแล้วนั่งข้างเว่ยจาง มองสีหน้าบึ้งตึงของเขา จึงคิดว่าไม่ควรเรียกเขา ควรปล่อยให้เขาพักผ่อนสักพัก ทว่าเซียงหรูกลับเอ่ยขึ้นก่อน “แม่ทัพเจ้าคะ ดื่มน้ำแกงสร่างเมาก่อนค่อยพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ”
เว่ยจางขมวดคิ้วผายมือ แล้วตวาดอย่างเย็นชา “ไสหัวไป”
“เพียะ!” เสียงตบดังสนั่น พร้อมกับเสียงอุทานแผ่วเบาของเหยาเยี่ยนอวี่
เซียงหรูสะดุ้งตกใจ รีบคุกเข่าลงบนพื้น “แม่ทัพได้โปรดอภัย ฮูหยินโปรดอภัย บ่าวสมควรตาย”
เว่ยจางได้ยินเสียงอุทานของเหยาเยี่ยนอวี่ก็ลืมตาขึ้นมาทันที เห็นนิ้วมือบวมแดงที่โดนน้ำแกงลวกจึงรู้สึกผิดในใจ แล้วรีบดึงมาอมในปาก
เหยาเยี่ยนอวี่สะบัดเขาออกด้วยความโกรธเคือง หันไปสั่งเซียงหรู “เจ้าออกไปเถอะ”
เซียงหรูยังอยากจะเก็บเศษกระเบื้องบนพื้น เหยาเยี่ยนอวี่กลับสั่งการอย่างเย็นชา “ออกไป”
“เจ้าค่ะ” เซียงหรูไม่กล้ามากความอีก ตั้งแต่นางติดตามฮูหยินมา ยังไม่เคยเห็นฮูหยินโกรธมากเช่นนี้มาก่อน ทว่าเวลานี้นางที่เกิดเป็นบ่าวก็ไม่กล้ามากความ ถือถาดแล้วออกไปอย่างเชื่อฟัง
เหยาเยี่ยนอวี่กำลังจะสาวเท้าเดินออกไปด้านนอก กลับถูกเว่ยจางกอดไว้
“ขอโทษ” เว่ยจางดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด พร้อมดึงนิ้วมือของนางมาดู “ฮูหยิน ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
ครั้งนี้เหยาเยี่ยนอวี่โกรธแล้วจริงๆ แค่ปั้นหน้าเย็นชาไม่พูดไม่จา จากนั้นพยายามสลัดตัวเองให้ออกจากอ้อมกอดเขาสุดชีวิต
เว่ยจางกลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพราะตนอีก จึงไม่กล้าใช้แรงมาก แค่ใช้แรงบางส่วนเพื่อรั้งนางไว้ แล้วกล่าวขอโทษไม่หยุด “ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฮูหยินอย่าโกรธเลย! ให้ข้าดูนิ้วมือของเจ้าก่อนเถอะ แผลเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บไหม”
เหยาเยี่ยนอวี่ยังคงไม่ส่งเสียงใดๆ แค่ก้มหน้าตลอดเวลา หลังจากดิ้นไปสองสามทีก็หยุดลง น้ำตากลับไหลลงไปกระทบบนมือของแม่ทัพเว่ย
เวลานี้เว่ยจางเหมือนถูกควักหัวใจไป ทั้งกอดและหอมนาง ทั้งยังขอโทษไปด้วย บอกว่าเขาขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นึกว่านางเป็นเซียงหรู หากรู้ว่าเป็นนางก็คงไม่ผลักถ้วยน้ำแกงเช่นนั้น เขายอมเสียเอกราชและเสียเกียรติภูมิของชาติมาขอโทษนาง แทบอยากให้คนเอาน้ำแกงร้อนๆ มาให้ฮูหยินสาดตัวเอง
เหยาเยี่ยนอวี่ฟังไปสักพักก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยกมือเช็ดน้ำลายของเขาที่ติดเต็มแก้ม แล้วพูดเสียงเบา “เจ้าปล่อยข้า”
“เช่นนั้นเจ้ายังจะโกรธข้าไหม” แม่ทัพเว่ยไม่เคยระมัดระวังตัวเช่นนี้มาก่อน
“เจ้าปล่อยข้าก่อน” เหยาเยี่ยนอวี่พูดด้วยความนิ่งเฉย
“ข้าจะไปเอายาทาให้เจ้า เจ้าเจ็บมือหรือไม่” แม่ทัพเว่ยไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของฮูหยิน สุดท้ายก็ปล่อยนางออก
เหยาเยี่ยนอวี่รีบลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอก นางใช้กำลังภายในและวิชาเดินเร็วที่แม่ทัพเว่ยสอนนางโดยไม่รู้ตัว
แม่ทัพเว่ยเห็นว่าฮูหยินไปถึงหน้าประตู จึงรีบวิ่งตามเพื่อขวางทางนาง ทว่ากลับสายไปหนึ่งก้าว
เหยาเยี่ยนอวี่ออกจากประตูก็ไม่ได้มองทาง แค่มุ่งไปด้านหน้าอย่างเดียว นางใช้กำลังภายในทั้งหมดที่มีเดินไวราวกับลม ทำให้เหล่าข้ารับใช้สะดุ้งตกใจ
เว่ยจางก็ตามออกไปด้วย เหตุเพราะรู้สึกกระวนกระวาย ก็ใช้กำลังภายในด้วยเช่นกัน
สองสามีภรรยาวิ่งอย่างว่องไว กลับกลายเป็นทิวทัศน์อย่างหนึ่งในเรือน
ประจวบกับถังเซียวอี้มาหาเว่ยจางพอดี เห็นทั้งสองวิ่งผ่านตรงหน้า จึงถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไรไป เอ๊ะ…ทำไมฮูหยินถึงวิ่งได้ไวเช่นนั้น เป็นบ้าอะไร”
ซูอวี้เหิงตามมาจากด้านหลัง แล้วถามด้วยคิ้วขมวด “ใครเป็นบ้า”
“ฮูหยิน…วิ่งไปเร็วเช่นนั้น แม่ทัพเว่ยยังตามไม่ทัน” ถังเซียวอี้ชี้ไปทางโน้น